บทที่ 2 ห้ามไม่ฟังต้องโดนดี! [2]
หลังจากปิดประตูล็อกห้องเรียบร้อยแล้ว มนสิชาก็ทิ้งร่างนอนบนเตียงพลางหายใจหอบเหนื่อย ป่านนี้ลูกน้องของพี่มนัสคงรายงานไปแล้วว่าเธออยู่ในห้องปลอดภัยหายห่วงได้ เรื่องที่จะตามพ่อแม่มาลากเธอกลับบ้านเป็นอันยุติ
เปลือกตาบางกะพริบๆ มองเพดานข้างบนใจลอย คิดไปถึงตอนที่คุยกับพ่อแม่เรื่องคณะที่อยากเรียน ความฝันของเธอหลุดลอยออกจากมือไปในวันนั้น เส้นทางนี้ที่เดินอยู่มาจากการตัดสินใจของพ่อแม่ ชีวิตของเธออีกครึ่งหนึ่งถูกพวกท่านบงการ ถึงรู้สึกน้อยใจและโกรธอยู่บ้าง สุดท้ายเธอก็ไม่ปฏิเสธว่าพวกท่านทำทุกอย่างเพื่อเธอ
ปังๆๆ
ขณะที่กำลังคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย เสียงทุบประตูหน้าห้องดึงสติของหญิงสาวให้กลับเข้าร่าง มนสิชากะพริบพร้อมขมวดคิ้วแทบเป็นปมมองไปยังต้นเสียง เป็นไปได้ไหมว่าพี่มนัสจะมาหาเธอตอนนี้เลย...ก็อาจเป็นไปได้ เธอเป็นน้องสาวคนเดียวนี่นะ พี่ชายจะเป็นห่วงก็ไม่แปลก
เธอถอนหายใจยาวเหยียดทะลึ่งตัวขึ้นนั่งแล้วลุกเดินไปเปิดประตูให้พี่ชาย ทว่าทันทีที่เห็นว่าใครอยู่หลังประตู เธอก็ทั้งตกใจทั้งฉงน ทำไมพี่น่านถึงมาอยู่ตรงนี้ได้?
น่านฟ้าเป็นพี่ชายของน้ำค้างเพื่อนสนิทเธอเอง
พลั่ก
ร่างเธอถูกผลักจนเซถอยหลัง ก่อนที่ร่างสูงใหญ่จะก้าวตามเข้ามาแล้วหันไปปิดประตูล็อกห้อง ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างแทบถลน สัญชาตญาณกู่ก้องร้องเตือนในใจ ชายหญิงอยู่ด้วยกันแค่สองคนในห้องต้องเกิดเรื่องไม่ดีแน่
คิดได้อย่างนั้น สองขาเรียวยาวก็วิ่งไปจะออกจากห้องด้วยใจระทึก มือใกล้จะเอื้อมคว้าลูกบิดประตูได้อยู่แล้วเชียว กลับถูกวงแขนแข็งแรงตวัดรัดเอวกระชากตัวกลับมา แผ่นหลังปะทะกับผนังห้องจนเจ็บร้าวหลุดเสียงครางแผ่ว มนสิชาหน้าซีดเผือดถลึงตามองผู้ชายตาฉ่ำเยิ้มแดงก่ำคล้ายคนเมา รอยยิ้มร้ายกาจกระตุกขึ้นตรงมุมปาก ใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มดูอันตรายขึ้นอีกเป็นกอง
“พะ...พี่น่าน ปล่อยมิ้นท์นะคะ!” เธอทั้งทุบตีทั้งผลักไสร่างสูงกำยำเต็มไปด้วยมัดกล้ามแน่นหนั่นให้ถอยออกห่าง แต่ยิ่งทุบยิ่งตีเขากลับยิ่งบดเบียดเข้ามาจนแทบหายใจไม่ออก สองมือถูกยึดไปกดไว้เหนือศีรษะ สะบัดยังไงก็ไม่หลุด
“ทำไมถึงแต่งตัวแบบนี้” เสียงเข้มลึกกดต่ำกระซิบอยู่ข้างหู ลมหายใจอุ่นจัดเป่ารดข้างแก้มนวลใส ลำคอขาวเนียน
มนสิชาถึงกับกลั้นหายใจรู้สึกแปลกๆ กับความใกล้ชิดสนิทสนมเกินขอบเขตนี้ เมื่อก่อนพี่น่านแทบไม่สนใจเธอเลยด้วยซ้ำ เขาทำตัวเป็นสุภาพบุรุษดีกับเธอ เพราะเธอเป็นเพื่อนกับน้ำค้างเคยพูดกันเพียงไม่กี่ประโยคเอง เธอเฝ้ามองเขามาตลอด แต่เขากลับเมินเฉยไม่เห็นเธออยู่ในสายตา แล้วทำไมตอนนี้ถึงมาเข้าใกล้เธอเล่า
“มิ้นท์จะแต่งตัวยังไงแล้วมันเกี่ยวอะไรกับพี่น่าน พี่น่านไม่ใช่พี่ชายของมิ้นท์ อย่ามาเจ้ากี้เจ้าการได้ไหมคะ” เธอตอบเสียงสะบัดหงุดหงิดใจเล็กๆ ที่ผ่านมาเขาก็ไม่สนใจไยดีเธอเลยแล้วตอนนี้จะมายุ่งอะไรด้วย
“พี่ถามดีๆ นะมิ้นท์ ตอบมาว่าทำไม อย่าให้พี่ต้องทำโทษเราที่ปากแข็งยั่วโมโหพี่”
“มิ้นท์โตแล้ว จะแต่งตัวแบบไหนก็ได้ มันเป็นสิทธิส่วนบุคคล!”
“มันโป๊เกินไป” เขาคำรามอย่างอึดอัดใจ น่านฟ้าไม่ชอบให้เธอแต่งตัวโชว์เนื้อหนังมังสามาอยู่ในสถานที่อโคจร
“คนอื่นก็แต่งตัวแบบนี้ มิ้นท์ไม่เห็นว่ามันจะโป๊ตรงไหน พี่น่านคิดมากเกินไปแล้ว”
ดวงตาเรียวรีถลึงมองด้วยความไม่พอใจ เขาถือดีอะไรมาวิพากษ์วิจารณ์การแต่งตัวของเธอ
“พี่ไม่ชอบ มันไม่ดีกับตัวมิ้นท์เอง คราวหลังห้ามใส่ชุดนี้มา ห้ามมาเที่ยวผับอีก”
“ชอบหรือไม่ชอบก็ไม่เกี่ยวกับมิ้นท์ค่ะ ปล่อย ปล่อยมือสิ พี่น่าน!”
“พี่ไม่ปล่อยจนกว่ามิ้นท์จะรับปากพี่!” เสียงตวาดแข็งกร้าวของน่านฟ้าเจืออารมณ์คุกรุ่นไม่สบอารมณ์ ใบหน้าคมคายแข็งกระด้างเย็นชาขึ้นมาฉับพลัน แม้จะกลัวจนตัวสั่นปากสั่น แต่มนสิชาก็ยังพยศตะโกนกลับไปเสียงแข็งไม่แพ้กัน
“ไม่! มิ้นท์จะแต่งตัวแบบวันนี้อีก พี่น่านไม่มีสิทธิ์มาบังคับฝืนใจมิ้นท์ให้ทำนั่นทำนี่! พี่ไม่ใช่เจ้าของชีวิตมิ้นท์!”
“มิ้นท์...” เขาคำรามเสียงต่ำน่าขนลุก ดวงตาดำสนิทวาววับดุจคมมีดที่จ่ออยู่ตรงลำคอระหง ทำเธอหวาดเสียวกลืนน้ำลายดังอึก ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องโกรธมากมายขนาดนี้ด้วย
น้องนุ่งก็ไม่ใช่ ทำไมจะต้องมาสนใจว่าเธอจะแต่งตัวแบบไหนยังไงมาเที่ยวผับ
“โอ๊ย มิ้นท์เจ็บ ข้อมือมิ้นท์จะหักคามือพี่อยู่แล้ว ปล่อยสักที!” มนสิชาน้ำตาคลอ ข้อมือที่เขากำอยู่ร้อนผ่าวเจ็บจนทนไม่ไหวแล้ว
“พี่ถือสิทธิ์อะไรมาสั่งมิ้นท์เหรอ เหอะ ต่อไปอย่าให้พี่เห็นมิ้นท์แต่งตัวยั่วผู้ชายแบบนี้อีก ไม่งั้นพี่จะฉีกออกให้หมด ให้เราโป๊เปลือยจนออกไปพบหน้าใครไม่ได้!”
คำพูดเผด็จการของน่านฟ้ายังไม่น่ากลัวเท่าการกระทำของเขา!
ฝ่ามือใหญ่กอบกุมทรวงเต้าอวบหยุ่นเคล้นคลึงขยี้ขยำเต็มแรงเหมือนอยากจะบีบให้แหลกเหลวคามือ ใบหน้าหล่อเหลาขึ้งโกรธโน้มต่ำลงมาประทับริมฝีปากจุมพิตกลีบปากเย้ายวน ขบเม้มดูดดุนอย่างจาบจ้วงกักขฬะจนมนสิชาตัวสั่นสะท้านตื่นตกใจ ดวงตาเบิกกว้างมองสบดวงตาสีนิลแดงก่ำวาวโรจน์ด้วยความสับสนงงงวย
ทำไมเขาต้องจูบเธอด้วย เพราะเธอยั่วเขาให้โกรธงั้นเหรอ ถึงต้องปราบพยศเธอด้วยวิธีนี้?