บท
ตั้งค่า

บทที่ 1 ห้ามไม่ฟังต้องโดนดี! [1]

45 นาทีก่อนเจอกับพี่ชายเพื่อน

มนสิชา หรือ มิ้นท์ ที่เพิ่งขึ้นสอบเข้ามหาวิทยาลัยชื่อดังของประเทศได้ถือโอกาสมาเลี้ยงฉลองย้อนหลังกับเพื่อนๆ ในคณะเดียวกัน โดยที่ไม่ได้บอกน้ำค้างเพื่อนสนิทตั้งแต่อนุบาล เพราะรู้ว่าเพื่อนรักไม่ชอบงานเลี้ยงจำพวกนี้ แถมยังดื่มไม่เป็น ส่วนเธอพอดื่มได้นิดหน่อยเลยอยากออกมาเปิดหูเปิดตาดูบ้าง

ผับนี้มีชื่อพี่ชายเธอเป็นหุ้นส่วนยังพอหลับหูหลับตาเรื่องอายุได้ อีกไม่กี่เดือนเธอก็จะอายุครบยี่สิบปีแล้ว อีกแค่สิบเดือนน่ะนะ เพราะใช้ชื่อพี่ชายเป็นใบเบิกทาง เธอถึงผ่านเข้ามาได้พร้อมกับเพื่อนสาวอีกสองคน

บรรยากาศด้านในค่อนข้างเสียงดังสนั่น เนื่องจากทุกวันซุกจะมีการแสดงไลฟ์สดบนเวทีจากนักร้องและวงดนตรีประจำผับ สาวๆ ที่ชอบดิ้นชอบเต้นก็ไปแดนซ์เมามันอยู่แถวหน้าสุด มนสิชาปลีกตัวมานั่งดื่มค็อกเทลหลบอยู่โต๊ะด้านข้าง มองเพื่อนสองคนเต้นพลิ้วไหวอวดลีลาอยู่กลางฟลอร์ ท่าทางสนุกสุดเหวี่ยงของพวกเธอพลอยทำให้คนรอบข้างคึกคัก เข้ามาวาดลวดลายแข่งเต้นทั้งสะบัดทั้งเหวี่ยงแขนกันใหญ่เชียว

เธอเรียนคณะบริหารตามที่พ่อแม่ต้องการเพื่อสืบทอดกิจการของครอบครัว แทนพี่ชายที่หันมาจับธุรกิจส่วนตัวไม่ยอมรับช่วงต่อ ภาระหนักจึงตกอยู่ที่เธอทั้งหมด ตอนนี้เธอยังพอมีโอกาสออกมาเที่ยวเล่นตามอำเภอใจได้ แต่พอเริ่มเรียนจริงจังพ่อกับแม่คงเข้มงวดกวดขัน ไม่ยอมให้เธอทำตัวเหลวไหลแบบนี้แน่ เพราะงั้นก่อนต้องกลับไปเป็นเด็กดีเชื่อฟังพ่อแม่ เธอควรรีบทำในสิ่งที่อยาก ‘ทำ’ ซะ

เธอได้มาเที่ยวผับสมใจแล้วตอนนี้

ดื่มไปสองแก้วชักเริ่มกรึ่มๆ ละ ดวงตาคมสวยฉ่ำเยิ้มหน่อยๆ ยิ่งเพิ่มเสน่ห์เย้ายวนใจ

มนสิชารู้สึกตัวร้อนวูบน่าจะเกิดจากฤทธิ์แอลกอฮอล์กำลังไหลเวียนไปทั่วร่างกาย เธอไม่ถึงกับคอแข็ง แต่ก็ไม่ใช่พวกคออ่อนดื่มแก้วสองแก้วก็คอพับฟุบกับโต๊ะ สงสัยเพราะดื่มตอนท้องว่างถึงเมาเร็วขนาดนี้

ขณะที่กำลังคิดว่าควรพอแค่นี้หรือดื่มต่อ เสียงเพลงจากสมาร์ทโฟนก็ดังขึ้นเรียกความสนใจจากหญิงสาว มนสิชาดูชื่อบนหน้าจอพลันสะดุ้งวาบในใจ ขนลุกชันไปทั้งตัว พี่ชายสุดโหดโทรมาทำไมตอนนี้เนี่ย หรือว่าการ์ดที่เฝ้าหน้าประตูเป็นคนโทรไปรายงาน

ใจเต้นตึกตักอยู่หนึ่งนาที มนสิชาถึงยอมปัดนิ้วรับสายสุดสยองด้วยใบหน้าซีดเผือด เม้มปากแน่นรอฟังคำแรกที่พี่ชายกรอกเสียงลงมาจากปลายสาย

[ก๋ากั่นใหญ่แล้วนะเรา ถึงกับกล้าหนีไปเที่ยวผับทั้งที่อายุไม่ถึง อยากให้พี่ฟ้องพ่อกับแม่ไหมฮะ?!]

“อย่านะคะ! มิ้นท์เพิ่งมาถึงยังเที่ยวได้ไม่ทันครบชั่วโมงเลยด้วยซ้ำ พี่มนัสก็จะฟ้องพ่อกับแม่ให้มาลากตัวมิ้นท์กลับบ้านแล้วเหรอ ใจร้ายที่สุด รู้ไหมว่ามิ้นท์กำลังกลุ้มใจอยู่นะ” มนสิชาตัดพ้อ น้ำเสียงฟังชัดว่ากำลังน้อยใจ

มนัสใช่ว่าไม่รู้ว่าน้องสาวกำลังกลุ้มใจเรื่องอะไร ถึงมิ้นท์จะเข้ามหาวิทยาลัยที่ใฝ่ฝันไว้ได้ แต่กลับไม่ได้ในคณะที่อยากเรียน ความผิดทั้งหมดก็มาจากเขาที่ไม่ยอมรับช่วงธุรกิจของครอบครัวต่อ เขาสนใจเปิดผับร่วมหุ้นกับเพื่อน กว้านซื้ออสังหาริมทรัพย์เก็บไว้เพื่อขายเกรงกำไร ยังมีห้องชุดตึกแถวที่ปล่อยให้คนเช่า

เขารักอิสระ ชอบเคลื่อนไหวไปมา จะให้ไปนั่งทำงานอยู่กับที่ทนหลังคดหลังแข็งหน้าเครียดในบริษัทก็ไม่ไหว ดังนั้นคนที่รับภาระหนักจากการปฏิเสธของเขาจึงเป็นน้องสาวเพียงคนเดียว ลูกคนเล็กของตระกูลเกียรติกรชัย ทั้งแรงกดดัน และแรงบีบคั้นของคนรอบข้าง มิ้นท์ต้องทนแบกรับไว้ทั้งหมด

[พี่ไม่ฟ้องก็ได้ แต่เราต้องกลับไปพักที่ห้องชั้นสอง พี่เสร็จธุระจะไปรีบกลับบ้าน]

“มิ้นท์ขอดื่มต่ออีกหน่อย อีกนี้ดเดียว แล้วจะรีบทำตามคำสั่งของพี่เลย”

มนัสมุ่นหัวคิ้วเข้าหากัน ฟังจากน้ำเสียงสดใสต่อปากต่อคำได้อยู่ก็พอเดาได้ว่ายายตัวแสบยังไม่เมา แต่ถึงยังไงเป็นผู้หญิงไปเที่ยวในผับให้ดื่มจนเมามายอาจเกิดอันตรายได้ ทางที่ดีรีบไล่ให้ไปนอนพักข้างบน เขาถึงจะวางใจ

[ให้ดื่มได้อีกแค่แก้วเดียวแล้วไปนอนพักซะ พี่จะให้ลูกน้องดูว่าเราทำตามคำสั่งไหม อีกสิบนาทีถายังไม่ไปห้องข้างบน พี่จะโทรหาพ่อให้ลากตัวเรากลับบ้าน]

“รับทราบค่ะ พี่ชายของมิ้นท์ใจดีที่สุดในโลก~ รักค่ะ จุ๊บๆ”

[อืม ดูแลตัวเองด้วย]

สายถูกตัดไปแล้ว มนสิชาถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่โล่งอกไปที ตอนนี้รีบดื่มอีกแก้วแล้ววิ่งขึ้นห้องพักดีกว่า เธอเคยมาผับนี้ตอนกลางวันแล้วครั้งหนึ่ง พอรู้อยู่ว่าห้องพี่มนัสอยู่ตรงไหน นาฬิกาเดินเร็วจะตาย สิบนาทีที่เหลือเธอรีบแหวกฝูงชนไปบอกเพื่อนสาวที่ยังแดนซ์อยู่ ก่อนจะเดินไปที่บันไดข้างก้าวขึ้นสู่ชั้นสองด้วยความรีบร้อนลนลาน

เธอไม่โง่พอจะยั่วให้พี่ชายโกรธหรอก เวลาพี่มนัสอารมณ์เสียน่ากลัวจะตาย เหมือนอสุรร้ายกลายร่างไม่มีผิด!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel