2
มันเรื่องโกหกทั้งเพ...
วันนั้นเธอรู้ว่าเขาตัดสินใจคบกับรุ้งลดา เธอเลยอยากจะหาใครสักคนมาทดแทนความรู้สึกอกหัก
เลยโกหกไปว่าภัทรพลเป็นผู้ชายที่คบหาดูใจกันอยู่ จริงๆ ภัทรพลเป็นแค่เพื่อนของเธอ แถมยังเป็นเกย์เสียด้วยซ้ำ แต่เธออ้างว่าภัทรพลเป็นแฟนเพื่อจะกันหัวใจตัวเองจากใครบางคน
บางทีเธอคิดว่าเขารู้นะว่าเธอคิดเช่นไรกับเขา สายตาของเธอ อาการของเธอ เขาเป็นผู้ชายเขาน่าจะรู้ แต่เขาก็ทำเหมือนกับไม่รู้
“ภัทรไม่ว่างค่ะ นางอยากติวหนางสือกับอารัชต์ด้วย เลยไม่ได้ไปข้างนอกด้วยกัน”
“เห็นอาเป็นแค่คนติวหนางสือสินะ” เขาพูดเหมือนสมเพชตัวเอง
“คะ?” เธอไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่เขาพูด
สีหน้าไม่เข้าใจของเธอทำให้เขากระดกเหล้าดื่มอีก เธอรินเหล้าให้เขา เขาไม่ได้ปัดป้องหรือรำคาญแต่ยังดื่มไม่หยุด
นาราอยากห้ามปรามแต่สำนึกว่าเขาอาจจะอยากปลดปล่อยอารมณ์ เขาคงเครียดที่โดนแฟนนอกใจ เธอค่อนข้างจะเข้าใจในข้อนี้ดี
นาราประคองร่างที่เมาโงนเงนขึ้นห้องนอน เธอคงต้องจัดการเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้เขาเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า แค่อยากดูแลเขาเท่านั้น คนเมาไม่ได้สติ ไม่พร่ำเพ้อไม่อาละวาด แต่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
เธอถึงกับหอบเมื่อร่างสูงทิ้งตัวลงมาหา แต่เธอพยายามออกแรงให้ถึงที่สุดเพื่อประคองเขาเดินขึ้นบันได เธอมาบ้านหลังนี้บ่อยตั้งแต่เด็ก จึงรู้ดีว่าห้องไหนเป็นห้องนอนของเขา
นาราผ่อนลมหายใจออกจากปากแรงๆ เมื่อเธอทิ้งตัวเขาลงบนเตียง รัชต์นอนแผ่หลาบนเตียง เขาเมามากกลิ่นเหล้าหึ่งไปหมด
เธอเดินไปหาอุปกรณ์เช็ดเนื้อเช็ดตัวให้เขา ก่อนจะหาเสื้อผ้าสำหรับเปลี่ยน เป็นเสื้อยืดสบายตัวกับกางเกงบ็อกเซอร์
แค่คิดถึงกางเกงบ็อกเซอร์เธอก็หน้าแดงก่ำ เพราะต้องเช็ดตัวให้เขาหรอกนะ ไม่งั้นเธอไม่ทำอะไรแบบนี้ให้แน่ๆ
อีกทั้งจะให้เขานอนสบายเธอต้องเปลี่ยนชุดให้เขาทั้งด้านบนด้านล่าง
ไม่เป็นไรหรอก ตอนถอดค่อนหันหน้าไปทางอื่นก็ได้ สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ เพื่อเรียกกำลังใจให้กับตัวเอง ก่อนจะเริ่มเช็ดใบหน้าของเขาก่อน
เขาคราง มือใหญ่กุมมือเธอเอาไว้ เธอมองเขาด้วยสายตารักใคร่ นาราคิดว่าเธอคงได้มองเขาแบบนี้เฉพาะที่เขาเผลอ หรือไม่ก็ตอนไม่มีสติ
เวลาไม่ต้องถูกจับตามอง เธอก็สามารถมองเขาได้เต็มที่
การแอบรักใครสักคนมันช่างให้ความรู้สึกทรมาน ตื่นเต้น ซาบซ่านหัวใจและเป็นทุกข์ใจอย่างที่สุด
บางทีเธอก็มีความสุขกับการคิดว่าเขาจะมีใจด้วย ตื่นเต้นดีใจเหมือนเด็กได้ของเล่นเมื่อเขาใส่ใจ
ในบางเรื่องที่เธอพยายามหาเหตุผลสารพัดต่างๆ นาๆ ให้เขาช่วยแก้นั่นแก้นี่ หรือหาเรื่องชวนคุย ทั้งๆ ที่เธออาจจะหาคำตอบได้เองหรือหาคำตอบได้จากคนอื่น แต่เธอเลือกที่จะไม่ทำ
บางเรื่องที่เธอรู้อยู่แก่ใจ แต่ก็ยังอยากจะหาเรื่องถามเขาเพื่อให้ได้ใกล้ชิดกัน นารายิ้มเศร้า มันทั้งดีใจที่ได้ดูแลเขา และอึดอัดกับความรู้สึกสับสนของตัวเอง
“นางรักอารัชต์นะคะ” รู้ว่าเขาไม่ได้ยิน จึงใจกล้าหน้าด้านบอกเขาไปแบบนี้ เธอแกะกระดุมเสื้อของเขาออก มือสั่นน้อยๆ
เขาครางอืออา แต่ไม่ดิ้นอาละวาดเหมือนคนเมาทั่วไป ด้วยนิสัยของรัชต์ เขาเป็นคนพูดน้อยต่อยหนัก แถมยังเก็บความรู้สึกได้เก่ง เธอเลยไม่เคยเห็นเขาฟูมฟายเลยสักครั้ง
รัชต์เป็นชายที่สมชาย ไม่เหมือนผู้ชายหลายคนที่เธอเคยพบเจอมาก่อนในชีวิต เธอเคยคิดว่าผู้ชายเดี๋ยวนี้ถูกเลี้ยงมาอย่างประคบประหงมด้วยฝีมือของคนเป็นบิดามารดา โดยเฉพาะมารดา เลยดูง่องแง่ง ลูกแหง ไม่ค่อยเป็นผู้นำ มีอะไรก็มีมารดาคอยเข้าข้าง ยิ่งบางครอบครัวแต่งงานแล้ว พอพาแฟนเข้ามาอยู่ในบ้าน พอไม่ถูกกับแม่สามีนี่เรื่องใหญ่เชียว
เธอนึกถึงเพื่อนคนหนึ่ง ไม่ถูกกับแม่สามี ประโยคเด็ดของแม่สามีคือลูกชายฉัน ฉันยังไม่เคยด่าว่าอะไรสักคำ นั่นเป็นเพราะความรักลูกล้วนๆ ลูกทำผิดยังไม่ว่าอะไร
ไม่มีใครทนได้หรอกนอกจากคนเป็นแม่ที่เห็นผิดเป็นถูก ลูกรักทำอะไรก็ไม่เคยผิดไปเสียหมด
ผู้ชายที่เข้มแข็งใช่ว่าจะไม่รักครอบครัว ผู้ชายแบบนี้รักครอบครัวมีให้เห็นอยู่ ไม่ใช่จะเป็นผู้ชายที่ติดแม่ ง่องแง่ง ลูกแหงเท่านั้นที่จะรักครอบครัว