บท
ตั้งค่า

๓ สงสารแต่ไม่รัก (๓)

เธอเริ่มลงมือรับประทานอาหารเช้า หยิบขนมปังแล้วทาแยมที่เขาชอบ วางบนจานเปล่าของเมืองหมอก น้องชายคนเล็กที่อยู่ในชุดนักศึกษาก็เอ่ยเย้าคู่รักข้าวใหม่ปลามัน

“หวานกันจัง เห็นอย่างนี้ผมอิจฉาอยากมีแฟนบ้างเลย”

“เราไม่ต้องรีบหา ยังเรียนไม่จบเลย เรียนให้จบแล้วค่อยมีก็ได้” คุณอนัญพรปรามเมืองน่านผู้รักง่ายหน่ายเร็ว

เมื่อก่อนชอบเล่นฟุตบอลเป็นชีวิตจิตใจ นึกว่าลูกจะได้เป็นนักกีฬาฟุตบอลกับเขาแต่ไม่นานก็เบื่อ หันมาชอบศิลปะเรียนวาดรูปใส่กรอบแขวนเต็มบ้าน เพียงแค่สี่ห้าเดือนก็เบื่อ ส่วนเรื่องผู้หญิงไม่ต้องพูดถึงเลย

หน้าตาหล่อเหลาคมคายสาวเข้าหาไม่เว้นวัน ข่าวควงสาวไม่ซ้ำหน้าจนแม่เริ่มเครียด เกรงลูกจะมีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์จนต้องย้ำเรื่องนี้บ่อยครั้ง

คนโตก็ไร้อารมณ์...คนเล็กก็พ่อพวงมาลัยลอยไปลอยมา

ช่วยมีความสมดุลสักหน่อยได้หรือเปล่า...

“ครับ รับทราบครับท่านแม่” บอกเสียงหนักแน่นแล้วรับประทานอาหาร

เมืองน่านเลือกเรียนคณะบริหารเพื่อมาช่วยกิจการของครอบครัว เพราะคนเป็นพี่ชายเลือกทำงานตามสายที่ร่ำเรียน ทั้งยังตั้งบริษัทเป็นของตัวเองรับเขียนโปรแกรมหรือสร้างเพจ ทั้งยังรับตัดต่อวิดีโอซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในขณะนี้

เมืองหมอกไม่ต้องการเข้าทำงานที่บริษัทของบิดา เขาอยากสร้างธุรกิจของตัวเองขึ้นมามากกว่า ตอนนี้ก็กำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ อาจจะไม่ใช่ก้าวใหญ่แต่ก็เป็นก้าวเล็กที่มั่นคง จากคุณภาพของงานและการบอกปากต่อปาก กำไรที่ได้ก็เพิ่มขึ้นทุกเดือนตามเป้าที่ตั้งไว้

“วันนี้เราพาน้องไปบริษัทด้วยสิ จะได้รู้ด้วยว่าเราทำงานอะไร แต่ละวันทำอะไรบ้าง” ร่างบางได้ยินอย่างนั้นก็หันมองเขาพลางจ้องตาไม่กระพริบ อยากไปดูเหมือนกันว่าเมืองหมอกในมาดของผู้บริหารจะเป็นอย่างไร

เธอรู้ว่าเขาทำบริษัทเกี่ยวกับไอทีแต่ก็ไม่ได้รู้รายละเอียดมากนัก หากได้ไปดูเองกับตาจะได้ทราบว่าชีวิตแต่ละวันของอีกฝ่ายเป็นอย่างไร

“ครับ” จำยอมตอบตกลง ถึงปฏิเสธไปก็ลงท้ายที่ให้พาหล่อนไปด้วยอยู่ดี

หล่อนขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เหมาะสมกับตำแหน่งภรรยาประธานบริษัท แม้ว่าตอนนี้จะมีพนักงานแค่ไม่กี่คนก็ตาม แต่เชื่อว่าในอนาคตจะต้องเพิ่มจำนวนคนตามจำนวนงานที่มากขึ้นเช่นเดียวกัน

เพิ่งเคยนั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถของเขาครั้งแรก ตอนที่ไปโรงเรียนด้วยกันมีคนขับรถให้และเขาก็นั่งข้างหล่อน แต่พอครั้งนี้ที่เมืองหมอกเป็นสารถีกลับให้ความรู้สึกแตกต่าง ขาหนาที่ยื่นไปจับพวงมาลัย ใบหน้าคมยามมองถนนข้างหน้าสลับกับกระจกมองข้าง ร่างบางทำได้เพียงแค่มองแล้วชื่นชมอยู่เงียบๆ

กระทั่งรถติดแล้วหันไปเห็นเส้นที่กั้นถนนคล้ายว่าจะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น รถตำรวจล้อมรอบบริเวณที่เกิดเหตุเอาไว้ พลันภาพที่พยายามลืมเลือนก็ชัดขึ้นมา ลำตัวหล่อนแข็งไปหมด ดวงตากลมเบิกกว้างทั้งยังหายใจติดขัด ร่างสูงเหลือบมองคนข้างกายเมื่อเห็นว่าหล่อนเงียบไม่ชวนคุย แต่อาการของชีวาพรทำให้เขาตัดสินใจตีไฟเลี้ยวแล้วจอดข้างทาง

“โซ่ เป็นอะไร”

“พ่อ แม่ ไม่ ไม่!” ถูกเขย่าตัวจนได้สติ กรีดร้องเสียงดังพลางร้องไห้ไม่หยุด มือบางพยายามไขว้คว้าความว่างเปล่า เขาเห็นอย่างนั้นก็รีบคว้าเธอมากอดทันที แผลในใจของหล่อนคงใหญ่มากและไม่รู้ว่าเลือนหายตอนไหน

อาจต้องใช้เวลาพักใหญ่กว่าเธอจะลืมเหตุการณ์ฝังใจได้...

“พี่อยู่ตรงนี้ พี่อยู่นี่แล้ว ไม่เป็นไรนะครับ ไม่เป็นไร...” น้ำเสียงอบอุ่นพร้อมกับอ้อมกอดที่คุ้นเคย ทำให้หล่อนได้สติกลับคืน รีบกอดเขาเอาไว้แล้วเรียกชื่อสามีไม่หยุด เหมือนย้ำเตือนว่าเรื่องทุกอย่างมันผ่านไปแล้ว

“พี่หมอก พี่หมอก ฮือ” ร้องไห้ปานจะขาดใจอยู่นานสองนาน เขาก็กอดหล่อนเอาไว้จนเห็นว่าหญิงสาวเริ่มดีขึ้นแล้ว จึงรีบขับรถไปยังตึกสูงที่ตนเช่าชั้นสิบสี่เอาไว้ทั้งหมดเพื่อเป็นที่ทำงานของตน และอยู่ใจกลางเมืองเดินทางสะดวก

จอดรถเรียบร้อยก็พาหล่อนขึ้นไปพักที่ห้องทำงานส่วนตัวของตน เดินผ่านพนักงานที่หันมองเป็นตาเดียวด้วยความสนใจ แม้ทุกคนจะรู้ว่าสาวสวยคนนั้นคือภรรยาเจ้านาย แต่ก็ยังไม่เคยพูดคุยทำความรู้จักจริงจัง

คราวนี้เมืองหมอกพาคนรักมาแนะนำ สร้างความตื่นเต้นให้พนักงานเป็นอย่างมาก

“ดีขึ้นหรือยัง” มองดูชีวาพรดื่มน้ำจนหมด ดวงหน้าหวานมีสีเลือดก็ค่อยเบาใจ เมื่อครู่หน้าของเธอซีดจนเขานึกกลัว

ต่อจากนี้คงต้องระวังเรื่องที่จะมากระทบกระเทือนจิตใจเธอให้ดี ดูท่าบาดแผลคราวนี้จะใหญ่พอสมควร

“ค่ะ ดีขึ้นแล้ว”

“ป่ะ พี่จะพาไปแนะนำให้รู้จักกับเพื่อนร่วมงานของพี่” พอได้ยินอย่างนั้นก็รีบจับจูงมือหนาแล้วออกไปทำความรู้จักกับคนที่อยู่ภายใต้การปกครองของร่างสูง ขนาดห้องไม่ได้ใหญ่มากแต่ก็จัดโต๊ะเป็นสัดส่วน แยกหน้าที่กันชัดเจน

ฝ่ายเขียนโปรแกรม ฝ่ายตัดต่อวิดีโอ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ฝ่ายการตลาดและปิดท้ายที่ฝ่ายบัญชี คนไม่เยอะแต่ดูอบอุ่น หล่อนยกมือไหว้อย่างนอบน้อม คาดว่าทุกคนคงอายุมากกว่าตน

ไม่น่าเชื่อเลยว่าทั้งที่เราอายุห่างกันแค่ปีเดียว แต่เมืองหมอกกลับโตกว่าหล่อนมาก เขาสามารถเป็นร่มเงาให้ผู้อื่นพักพิงได้ เพราะเหตุนี้ตนถึงชอบชายหนุ่ม จนไม่อาจตัดใจไปมองชายอื่นได้สักครั้ง

“นี่อาร์ต โจ้ แต้ง มิล แก้ม ของขวัญแล้วก็วันสุข ทุกคน...นี่ซอโซ่แฟนฉันเอง” เปลี่ยนจากคำว่าภรรยาเป็นแฟน กระดากปากเกินกว่าจะบอกออกไป อย่างไรทุกคนก็ทราบอยู่แล้วว่าเธอคือเจ้าสาวของเขา

“วันแรกก็พาเมียมาด้วยเลย อย่างว่าแหละเนอะข้าวใหม่ปลามันไม่อยากห่างกัน แต่ทำแบบนี้คนโสดมันอิจฉานะครับเจ้านาย” หนุ่มโปรแกรมเมอร์ได้แต่ร้องโอดครวญที่เจ้านายมีสาวสวยข้างกาย แต่ตนกลับไร้เงาคนเคียงคู่กัน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel