แวมไพร์ ปีศาจดูดเลือดจากต่างโลก

179.0K · จบแล้ว
หมึกดำดำ
73
บท
9.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

สงครามในอาณาจักรกำลังจะเกิดขึ้น เขาที่ฟื้นเข้ามาในร่างของชายหนุ่ม บุตรแห่งลอร์ดผู้ครองแคว้นฟาร์โอฮาย เขาจะพัฒนาแคว้นเล็กๆแห่งนี้ให้สามารถเป็นแคว้นที่ยิ่งใหญ่ได้อย่างไร โปรดติดตาม

ข้ามมิติต่างโลกพระเอกเก่ง

บทนำ

  ตำนานผีดูดเลือดถูกเล่าขานมานานหลายร้อยปีและปรากฏอยู่ในตำนานหลายประเทศ และผู้ปลุกปั่นกระแสผีดูดเลือดให้กลับมาโด่งดังคือ เบราม สโตกเกอร์ นักเขียนชาวไอริชที่ได้แต่งนิยายเรื่อง แดร็กคิวล่า ขึ้นมา โดยนำข้อมูลทางประวัติศาสตร์ของเจ้าชายนักรบแห่งวาลาเซีย ประเทศโรมาเนีย นามว่า วล้าด เทเปส หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า วล้าด แดร็กคูล  ที่แปลว่ามังกรวล้าดสุดผยอง มาเขียนเป็นนิยาย จนตำนานผีดูดเลือดถูกนำไปทำเป็นบทละครและภาพยนตร์มากมายในปัจจุบัน

     แต่ความจริงแล้วข้าต่างหากละที่เป็นต้นกำเนิดแวมไพร์หรือผีดูดเลือด ข้ามีชื่อว่า เพอร์สันเป็นชาวกรีก หลังจากที่ข้าเข้าไปในถ้ำปริศนาในระหว่างไปหาของป่าและกำลังเดินทางกลับบ้าน ในถ้ำนั้นมันทั้งมืดและเหม็นชื้นหลังจากที่ข้าเดินมาไกลได้พอสมควรจึงตัดสินใจเดินกลับ จู่ ๆ ก็มีเสียงกระซิบกระซาบเข้ามาในหัวของข้า

     “เจ้าคือผู้ถูกเลือก……และคือผู้ต้องสาป” เสียงแหบแห้งพูดแพร่ว ๆ ในหัวของข้า ตอนนั้นแหละที่ข้าตื่นกลัวและรีบวิ่งหนีออกมาจากถ้ำแห่งนั้น หลังจากที่กลับไปถึงบ้านข้าได้เล่าเรื่องถ้ำปริศนาที่ปรากฏออกมาในเส้นทางเดินป่าให้ภรรยาและลูกข้าฟัง ภรรยาของข้าหาว่าข้าเมาและพูดเพ้อเจ้อ

     ในวันต่อมาข้าจึงตัดสินใจเดินทางไปที่ถ้ำนั้นอีกครั้ง แต่ปรากฏว่าปากถ้ำที่ข้าเคยเข้าไปนั้นกลายเป็นเนินผาเรียบเหมือนเช่นที่ผ่านมา มันทำให้ข้าคิดว่าในตอนกลับจากเข้าป่าข้าอาจดื่มเหล้าหนักไปและทำให้เกิดภาพหลอน แต่หลายวันผ่านไปอาหารฝีมือภรรยาที่ข้าเคยชอบตอนนี้มันกับมีรสชาติจืดชืด ข้าคิดว่าอาจเป็นอาการป่วยจนกระทั่งร่างกายข้าทรุดหนักมันมีภาพหลอนมากมายถาโถมเข้ามาในหัวดั่งคลื่นพายุ ข้าอาละวาดทุกครั้งที่เกิดภาพหลอนจึงได้บอกให้ภรรยาขังข้าไว้ในห้องเก็บของ

     จนกระทั่งวันที่ข้าต้องเจ็บปวดและทรมานที่สุดในชีวิตก็มาถึง เมื่อลูกชายวัยสิบขวบที่กำลังเติบโตและน่ารักน่าเอ็นดูเอาอาหารค่ำมาให้ เขาเดินสะดุดทำให้จานที่ใส่อาหารล่นลงพื้นเสียงดังและมือของเขาได้รับบาดเจ็บจากเศษหินบนพื้น มือเล็กของเขามีเลือดไหลซึมออกมามันปลุกสัญชาตญาณความหิวกระหายในตัวของข้า ตอนนี้ข้าเพียงต้องการดื่มเลือดและอยากสัมผัสมันเหลือเกิน ทันใดนั้นข้าก็กระโจนเข้าไปหาลูกพร้อมกับฝังเขี้ยวที่งอกออกมาเข้าไปที่ต้นคอของลูกชาย ข้านั้นยังจำเสียงกรีดร้องของเด็กคนนั้นได้เขาดิ้นไปมาก่อนที่ร่างของเขาจะค่อย ๆ ดิ้นช้าและหยุดลง ภรรยาข้าเดินมาเห็นและกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวดเมื่อพบว่าลูกของตนตัวซีดเผือกและตายลงไปแล้ว ข้าถอนเขี้ยวออกมาและกระโจนเข้าไปหาภรรยาของข้าและทำการฝังเขี้ยวลงไปที่ต้นของนาง ข้ายังจำได้ว่ารสชาติเลือดของนางหวานหอมอร่อยยิ่งนักหลังจากที่ข้าได้สติคืนมา ข้าได้แต่ร้องไห้ค่ำครวญในสิ่งที่ได้กระทำลงไปก่อนที่เพื่อนบ้านหลายคนจะเข้ามาเคาะประตูบ้านหลังจากที่ได้ยินเสียงกรีดร้อง ข้าที่กำลังเสียสติอยู่นั้นเมื่อคิดว่าชาวบ้านถ้าเข้ามาเห็นคงจับข้าและข้าคงต้องถูกเผาเป็นแน่ในข้อหาปีศาจผู้ฆ่าลูกเมียตัวเอง ข้ากลัวที่จะตายใช่ข้ากลัว ดังนั้นข้าจึงได้หนีออกมาจากบ้านที่ครั้งหนึ่งเคยอบอุ่นและข้าคือผู้ที่ทำลายมัน มันยังคงเป็นตราบาปในใจข้าไปตลอดชั่วนิรันดร์ และนี้คือจุดกำเนิดตำนานแวมไพร์ที่ไม่มีใครรู้มาก่อน

     ข้าเริ่มปรับตัวและสามารถควบคุมพลังปีศาจในตัวข้า ตลอดระยะเวลาหลายปีหลังจากที่ข้ากลายเป็นผีดูดเลือด ข้าคอยออกล่าเหยื่อในเวลาที่เหยื่ออยู่ตามลำพังหรือล่าเหยื่อที่อยู่เป็นกลุ่มเมื่อข้าหิวกระหายมาก และตำนานผีดูดเลือดก็เริ่มถูกกล่าวขานขึ้นเลื่อย ๆ แต่ไอ้เรื่องหลายเรื่อง ที่มนุษย์กล่าวว่าข้าแพ้กระเทียมหรือพวกน้ำมนตร์และไม้กางเขนรวมทั้งที่บอกว่าข้านอนอยู่ในโลงศพมันเป็นเรื่องไร้สาระสิ้นดี เวลาผ่านไปหลายศตวรรษข้าปรับตัวและการล่าตามยุคสมัย และเรื่องที่ไม่คาดฝันก็เกิดกับตัวข้าอีกครั้งและมันจะเป็นตำนานบทใหม่ของข้า

…………………………………………………………............

    ลมอ่อน ๆ ของฤดูใบไม้ผลิผลัดผ่านเข้ามาทางช่องหน้าต่าง ลมเย็นสัมผัสกับผิวกายของชายหนุ่มที่กำลังนอนเหยียดกายอยู่บนเตียงไม้แข็ง ๆ อายุของเขาราว ๆ สิบเจ็ดสิบแปดปี หน้าตาคมสันและทรงเสน่ห์ เขาลืมตาขึ้นและพยุงตัวเองให้รุกขึ้นพร้อมกับลูบผมหยักศกสีน้ำตาลทองของตัวเองเบา ๆ

    “นี่ข้ายังไม่ตายอีกรึ?” ชายหนุ่มเอามือหนาลูบคลำใบหน้าของตัวเอง “ที่นี่มันคือสถานที่แห่งใดกัน” เขาหันดูรอบ ๆ ห้องที่ทำจากไม้ มันเป็นห้องสี่เหลี่ยมแคบ ๆ

     หลังจากที่ชายหนุ่มเดินออกจากห้องและเดินผ่านห้องโถงขนาดเล็กเขาหยุดชะงักอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ ทันใดนั้นตาของเขาก็เบิกโพลงขึ้นอย่างตกใจ

     “ขะๆ……ข้าอยู่ในร่างของใครกัน?” เขาต้องตกใจอีกครั้งกับสิ่งที่เขาต้องเผชิญ มันทำให้ตัวเขายิ่งสับสนมากขึ้น ตัวเขานั้นควรจะตายหลังจากเกิดการระเบิดของโรงงานไฟฟ้าซึ่งในขณะนั้นเขากำลังเดินทางผ่านพอดี มันเป็นการตายที่งี่เง่าสำหรับเขามากเพราะฉายาผีดูดเลือดอย่างเขาที่อยู่มาหลายศตวรรษต้องมาตายเพราะเรื่องแบบนี้

     “ถ้าอย่างงั้นถ้าร่างนี้โดนแสงแดดก็คงจะไม่เป็นอะไรซินะ” เขาคิดก่อนที่จะตัดสินใจก้าวเท้าออกจะประตูบ้าน แสงแดดอ่อน ๆ ที่สาดส่องเข้ากระทบกับผิวกายเขา เขาไม่ได้รู้สึกแสบร้อนอันใดแต่มันกลับทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างมาก

    “นี่มันกี่ศตวรรษแล้วนะที่ข้าไม่ได้รับแสงแดดที่อบอุ่นแบบนี้” เขาพึมพำก่อนที่จะเดินออกไปสำรวจบริเวณรอบ ๆ บ้านไม้หลังเล็กอย่างระมัดระวัง หลบหลีกรากไม้หงิก ๆ งอ ๆ ซึ่งโผล่ขึ้นมาเต็มไปหมด ยิ่งเดินลึกเข้าไปดูเหมือนว่าต้นไม้จะยิ่งสูงครึ้มและหนาทึบขึ้นทุกที เจ้าของร่างคนก่อนคงอาศัยอยู่ในป่าลึกห่างไกลตัวเมือง เพราะเขาเดินสำรวจออกมาไกลพอสมควรยังไม่มีวี่แววว่าจะพบบ้านสักหลัง อีกอย่างเจ้าของร่างคนก่อนยังแต่งตัวเหมือนคนยุคกลางมันทำให้เขาสับสนเข้าไปอีก “ข้าอยู่ในร่างเด็กคนนี้แล้วทำไมข้ายังรู้สึกหิวเลือดอยู่นะ หรือว่าพลังของข้ายังสามารถใช้ได้ในร่างของเด็กคนนี้?” ก่อนที่เขาจะคิดอะไรจู่ ๆ ก็มีมีดเล่มหนึ่งพุ่งมาหาเขา แต่ด้วยสัญชาตญาณทำให้เขาเอี้ยวตัวหลบการโจมตีนั้นทันทำให้มีดไปปักที่ต้นไม้ข้าง ๆ แทน

    “ไอ้เผ่าพันธุ์อ่อนแออย่างเจ้าสามารถหลบการโจมตีของข้าได้งั้นรึ” ชายร่างใหญ่ที่มีหน้าตาอัปลักษณ์และมีเขี้ยวสีเหลืองที่แหลมยาวทุกซี่ร้องตะโกน หลังจากเดินออกมาจากหมู่ไม้ลึก มันมีร่างกายสีเทาซีดและถูกปลกคลุมไปด้วยชุดเกราะหนังสัตว์ ก่อนที่จะมีพวกมันสองคนเดินตามมา

     “นี่พวกแกเป็นตัวอะไรกัน ทำไมถึงได้มีรูปร่างอัปลักษณ์เช่นนี้” เขากล่าวขึ้นพร้อมกับดึงมีดออกมาจากต้นไม้และตั้งท่าเตรียมปะทะ

    เสียงของคนแรกพูดกับสองคนที่มาทีหลังด้วยภาษาที่เขาไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่ดูเหมือนคนแรกจะเป็นหัวหน้ามันชี้นิ้วมาทางเขา ก่อนที่คนหนึ่งในกลุ่มของพวกมันวิ่งมาหาเขาพร้อมกับดาบเล่มใหญ่ของมัน แต่ที่ทำให้เขาตกใจก็คือดาบของมันเหมือนจะมีพลังอะไรบางอย่างห่อหุ้มดาบไว้อยู่ เขาเหวี่ยงเท้าซ้ายออกไปด้านข้างเพื่อหมุนตัวหลบการโจมตีจากศัตรู พร้อมกับเหวี่ยงแขนข้างซ้ายที่ถือมีดอยู่เข้าไปปักที่คอหอยของมันอย่างแม่นยำ ทันทีที่มันปล่อยดาบออกจากมือ มันก็ทรุดตัวลงคุกเข่าทันทีและเอามือไปกดคอหอยที่มีเลือดพุ่งทะลักออกมา เขาจึงใช้โอกาสนี้รีบคว้าดาบของมันมาและเหวี่ยงดาบใบคมตัดเอาหัวของมันจนขาดกระเด็นออกมาในทันที

     “ไอ้ตัวไหนอยากตายอีกก็เข้ามา!!” เขากล่าวข่มขู่ พร้อมกับเอาลิ้นไปสัมผัสกับเลือดที่ติดอยู่ที่ปลายดาบเล่มใหญ่