ตอนที่ 1 คืนเจอหน้า
คืนเจอหน้า
ไร่ธีรเมธ(ไร่ชา)?
“ไอ้กร!” เสียงเข้มเอ่ยถามลูกน้องคนสนิทขึ้นมา เมื่อเปิดประตูออกมาจากบ้านที่เขาอาศัยอยู่
บ้านสองหลังที่อยู่ในเขตบริเวณไร่นี้ เป็นบ้านทรงสไตล์โมเดิร์นสองชั้น ที่ทันสมัย ตั้งอยู่กลางไร่ชาของเขาเอง มีขนาดใหญ่ปานกลางไม่ใหญ่มากสักเท่าไหร่ ซึ่งสร้างคู่กันมากับหลังที่อยู่หน้าทางเข้าไร่ และหลังนั้นเขาไว้สำหรับรองรับแขก และญาติพี่น้องที่เดินทางมาหา
ส่วนหลังนี้ที่อยู่กลางไร่ จะมีเพียงเจ้าของไร่เท่านั้นที่อาศัยอยู่เพียงลำพังตามสไตล์หนุ่มโสด จะไม่มีบุคคลใดได้ย่างก้าวเข้ามา นอกเสียจากเพื่อนสนิท ที่คบกับมาและทำไร่ด้วยกัน แต่ก็นาน ๆ ที ที่จะมาเยี่ยมเยือนกัน
ถัดออกไป จะเป็นบ้านพักของคนงาน และพนักงานในไร่ มีสำนักที่อยู่ติดกันเยื่องออกไปอีกทางไม่ไกลกันมาก และโรงอาหารเพื่ออำนวยความสะดวกแก่คนในไร่อีกด้วย
“ครับคุณธีร์” เสียงทุ้มขานรับขณะกำลังรดน้ำต้นไม้อยู่ที่หน้าบ้านของเจ้านายหนุ่ม
นิกร ชายหนุ่มวัยสามสิบปี ซึ่งเป็นลูกน้องคนสนิทของเจ้าของไร่แห่งนี้ รับตำแหน่งเป็นเลขาฯ หัวหน้าคนงาน และสามารถทำงานทุกอย่างแทนเจ้านายได้เป็นอย่างดี
“เมื่อเช้า ใครเป็นคนขับกระบะเข้าเมือง” เจ้าของบ้านถามขึ้นมาทันที เมื่อรถกระบะที่จอดอยู่โรงจอดรถตอนนี้ไม่ได้อยู่แล้ว
“ไอ้วิทย์ครับ คุณธีร์ถามทำไมหรือครับ หรือว่าต้องการอะไรเพิ่ม” นิกรเอ่ยตอบเพียงสั้น ๆ
“เปล่าไม่มีอะไรหรอก ไปทำงานของแกเถอะ” เขารีบเดินกลับเข้าไปด้านในทันที เมื่อรู้คำตอบ
ธีรเมธ ภัทราตระกูล หรือ ธีร์ ชายหนุ่มเจ้าของไร่ชา ในวัยเพียง 32 ปี เป็นลูกชายของ ธารา และ รดา มีพี่น้องร่วมกัน 2 คน เขาเป็นพี่ชายคนโต มีน้องสาวคือ ธีรดา ซึ่งอายุห่างตั้งกัน 5 ปี และน้องสาวก็มีครอบครัวไปแล้ว ปัจจุบันครอบครัวของเขาอาศัยอยู่ที่กรุงเทพมหานครกันทั้งหมด
บิดามารดามีธุรกิจส่วนตัวเป็นของตัวเอง มีกิจการห้างสรรพสินค้ามากมายหลากหลายสาขาในเมืองหลวง และต่างจังหวัด และหนึ่งในนั้น ก็มีที่นี่รวมอยู่ด้วย
ชีวิตที่แสนอิสระ เพราะไม่มีใครมาคอยบงการชีวิตของเขา และทำอะไรก็ได้โดยที่ทางครอบครัวไม่รู้ เพราะเขาที่เป็นผู้ชายไม่มีอะไรเสียหายอยู่แล้ว
“ตัวแสบ! โดนยับขนาดนั้นยังมีแรงลุกหนีไปได้อีก” เสียงทุ้มพ่นออกมาทันที เมื่อเข้ามาในบ้าน
ย้อนกลับไปเหตุการณ์เมื่อคืน
ขณะที่เขากลับออกมาจากไร่ของ อคิราห์ ซึ่งเป็นเจ้าของไร่องุ่น เขากับเพื่อนอีกคนตั้งใจจะไปเซอร์ไพรส์และสังสรรค์ค้างแรมกันที่นั่น แต่กลับถูกอคิราห์เซอร์ไพรส์กลับแบบไม่ทันได้ตั้งตัว
ซึ่งอคิราห์คือเพื่อนที่มีครอบครัวเป็นคนแรกในกลุ่ม คงจะคือตัวจริงอย่างแท้แน่นอน ไม่เช่นนั้นคนอย่างอคิราห์ไม่มีทาง พามาอยู่ที่ไร่ด้วยเป็นเด็ดขาด
พวกเขาทั้งสาม จะไม่พาหญิงอื่นใดเข้ามาในเขตพื้นที่ของตนเป็นอันขาด นอกเสียจากคนในครอบครัว และหญิงคนรัก ซึ่งคนรักของพวกเขาก็ยังไม่มี เพราะยังครองโสดกันมาจนอายุปาเข้าไปเลขสามแล้ว
เขาและเพื่อน ซึ่งก็คือ เธียรวัฒน์ เจ้าของไร่ส้มจึงพากันเดินทางกลับออกมาจากไร่ของเพื่อนตั้งแต่หัวค่ำ แต่เขาไม่ได้มุ่งหน้ากลับไร่ของเขาเองเลย เขากำลังคิดที่จะหาสิ่งล่อตาล่อใจ ก็ในเมื่อนาน ๆ ที ที่เขาจะมีเวลาว่างได้ออกมาเพียงลำพัง โดยไม่มีคนสนิทตามมา เขาคงไม่กลับไร่ไปโดยที่ยังไม่ได้หาความสุขแน่
รถยนต์ราคาแพงจอดที่หน้าร้านสะดวกซื้อบนถนนเส้นใหญ่ใจกลางเมือง เขาแวะซื้อของใช้ส่วนตัว เมื่อพบว่าภายในรถไม่มีเหลือเลยแม้สักชิ้น คืนนี้เขาตั้งใจจะไปเที่ยวสถานบันเทิง เผื่อว่าจะมีเหยื่อที่ถูกตาต้องใจสักคน มาให้เขาได้ขย้ำบ้าง เพราะห่างหายจากการมีเซ็กส์มานานแล้ว
“ฮือออ...”
เสียงคร่ำครวญของใครคนหนึ่งดังเข้ามาในโสตประสาท เมื่อเท้ายาวกำลังจะเดินมาขึ้นรถ สายตากวาดมองไปรอบ ๆ กลับไม่พบสิ่งผิดปกติใด ๆ ก่อนที่จะเปิดประตูรถออก
“ทำบ้าอะไรของเธอ!” เสียงตวาดออกมาทันที เมื่อเขากำลังจะเข้าไปนั่งในตำแหน่งประจำคนขับ แต่กลับมีหญิงสาวรายหนึ่งปรากฏตัวยืนขวางรถเขาไว้
หญิงสาวใบหน้าจิ้มลิ้มวัยประมาณราว ๆ ยี่สิบ จากสายตาที่เขามองสำรวจว่าไม่ผิดแน่ โฉมงามแต่งตัวธรรมดาด้วยเสื้อยืดสีขาวสะอาดตา กับกางเกงยีนส์สีเข้มรัดรูป ใบหน้าไร้เครื่องสำอางแต่งเติม ดูเป็นธรรมชาติ
“หนูขอติดรถไปด้วยได้ไหมคะ” เสียงเล็กของหญิงสาวเอ่ยขึ้น พร้อมกับยกมือขึ้นเหนืออกไหว้วอนขอเขาอย่างใจจริง
“ฉันมีธุระต้องไปที่อื่นต่อ คงไม่มีเวลาไปส่งเธอหรอก” เสียงเข้มตวาดตอบออกไป เมื่อจ้องหน้ากลับไป
“นะคะ ถ้าคุณไม่ให้หนูไปด้วย ถ้าอย่างนั้น...ฮืออออ...ไอ้ผัวไม่รักดี พี่จะหนีไปหาเมียน้อยอีกใช่ไหม ฮืออออ...” เธอหากได้สนใจคำพูดของเขา กลับทำในสิ่งที่เขาคาดไม่ถึง เมื่อเธอกำลังตระโกนร้องลั่นออกมา
“หยุด! หยุด! รีบมารถขึ้น!” เสียงเข้มรีบเอ่ยห้าม แล้วบอกเธอมาขึ้นรถทันที เพราะเกรงว่าคนที่เห็นเหตุการณ์จะเข้าใจผิดเอา
หญิงสาวยิ้มแป้นรีบปาดน้ำตาออกแบบลวก ๆ แล้ววิ่งขึ้นมาเปิดประตู ขึ้นไปนั่งบนรถของเขาด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้มผุดขึ้นมา ด้วยความดีใจ
“จะให้ไปส่งที่ไหน” เขาถามเธอขึ้นมาทันที ก่อนที่จะเคลื่อนรถออกไปจากตรงนี้
“XXX Club คะ” เธอเอ่ยตอบเพียงแค่ประโยคสั้น ๆ
“พอดีเลยฉันก็กำลังไปที่นั่นพอดี” เขาขานรับเธอ และมุ่งหน้าไปยังจุดหมายทันที เมื่อรู้ว่าจุดหมายปลายทางของเธอคือที่เดียวกัน
“ทำไมพวกผู้ชายถึงชอบไปที่แบบนี้กันนัก ที่นั่นมันมีอะไรดี” เธอย่นคิ้วบ่นออกมาอย่างไม่เข้าใจ
คิ้วเข้มขมวดคิดวิตก และคอยชำเลืองมองคนที่นั่งมาด้วยเป็นครั้งคราว แต่ไม่ยอมเอ่ยอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว
เป็นไปตามที่เขาคิดเอาไว้ เธอน่าจะอายุราว ๆ ยี่สิบ ไม่เช่นนั้นเธอคงไม่ไปในสถานที่แบบนั้นหรอก เมื่อภายในรถเกิดความเงียบ ไม่มีการสนทนาใด ๆ จากคนทั้งสอง
“เธอชื่ออะไร”
“คุณชื่ออะไร”
ทั้งสองปริปากขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียงกัน โดยไม่ได้นัดหมาย เขาได้แต่ขบคิดอยู่ภายในใจ ที่เธอถามเขา นี่เธอไม่รู้จักเขาจริง ๆ เหรอ เขาแปลกใจที่เธอถามชื่อเขา เพราะคนในพื้นที่นี้ ไม่มีใครไม่รู้จัก แต่กลับเธอคนนี้ช่างไม่รู้อะไรเอาเสียเลย แถมยังกล้าขึ้นรถมากับเขาที่เป็นผู้ชายทั้งแท่ง แบบไม่เกรงกลัวอะไรเอาเสียเลย
“หนูชื่อชะเอมคะ แล้วคุณละคะ” เธอเป็นฝ่ายเอ่ยบอกเขาก่อน พร้อมกับใบหน้าที่มีรอยยิ้มหวานผุดขึ้นมา
ทำเอาหัวใจแกร่งของเขากระตุกวูบขึ้นมา จนแทบจะขับรถต่อไม่ได้ ซึ่งอาการนี้ก็ไม่เคยเกิดขึ้นมานานแล้วตั้งแต่เพื่อนสมัยเรียนหายออกไปจากชีวิตเขา แล้วแบบนี้มันคืออะไร เขาป่วยเหรอ หรือว่าเขาจะตกหลุมรักเธอคนนี้เข้าแล้ว ธีรเมธได้แต่ก้นถามตัวเองอยู่ภายในใจ
"ให้ตายสิ จะมาใจแตกตอนอายุสามสิบกว่าไม่ได้นะไอ้ธีร์"
“นี่เธอไม่รู้จักฉันจริง ๆ หรือ” เขาถามเธอกลับไปด้วยความแปลกใจที่เธอไม่รู้จักเขา เพราะพวกหญิงสาวใหญ่ในเมืองนี้ ต่างเข้าหาเขา และรู้จักทั้งนั้น
“ถ้ารู้ หนูคงไม่ถามหรอกคะ” เธอสวนขึ้นมาทันที เพราะเธอไม่รู้จักเขาจริง ๆ ผิดหรือ
“ธีรเมธ เรียกธีร์เฉย ๆ ก็ได้” เสียงทุ้มเอ่ยตอบ พร้อมกับขับรถต่อไปเรื่อย ๆ
เขาก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันทำไมถึงบอกเธอไปหมดแบบนั้น เพราะปกติ จะไม่มีใครเรียกเขาธีร์ นอกเสียจากครอบครัว และคนสนิท แต่เขากลับลั่นวาจาบอกเธอไปเสียทุกอย่างสะงั้น