ความแค้น
“แม่มากับกิ่งแค่สองคนเหรอคะ แล้วพ่อละ พ่อไปไหน” หญิงสาวเอ่ยถามออกไป พลางมองซ้ายแลขวา แต่กลับไม่พบแม้แต่เงาของบิดา เขาเกลียดลูกสาวขี้คุกคนนี้ให้แล้วใช่ไหม ถึงไม่มารอรับกลับบ้านพร้อมหน้าพร้อมตากัน
“เดี๋ยวแม่จะพาไปพบพ่อ แม่โทรเรียกแท็กซี่ไว้แล้ว เขาจอดรออยู่ด้านนอก เรารีบไปกันเถอะ” แก้วกานดายอมเดินตามมารดาและน้องสาวไปขึ้นรถอย่างว่าง่าย สายตาของเธอมองออกไปชมวิวข้างทางด้วยหัวใจที่ดูมีชีวิตชีวาอีกครั้ง
หญิงสาวอยากถามข่าวคราวของคนรัก แต่ก็ไม่กล้าเอื้อนเอ่ยออกไป เพราะเหมันต์ไม่ติดต่อ หรือมาเยี่ยมเธอร่วมปีแล้ว ส่งจดหมายไปเขาก็ไม่ตอบกลับ เธอได้แต่รอวันที่จะได้รับอิสรภาพ เพื่อไปถามไถ่เขาด้วยตัวเอง เขาหายไปไหนในช่วงเวลาที่เธอต้องการกำลังใจ หรือมีใครอีกคนซ่อนเอาไว้ เพื่อแทนที่เธอ
เมื่อรถแท็กซี่ขับขับมาในบริเวณวัดแห่งหนึ่ง แก้วกานดาพยายามคิดบวก บิดาของเธอคงบวชเป็นพระ มารดาถึงได้พามาวัดแบบนี้ แต่เมื่อเดินตามนางกนกและกิ่งฉัตรไปเรื่อยๆ ยิ่งทำให้หัวใจของเธอเต้นระรัว ความหวาดกลัวกำลังก่อตัวขึ้น ใครเล่าจะรู้ว่าวันที่เธอได้รับอิสรภาพ กลับไม่ไดเจอแม้แต่เงาของผู้เป็นบิดา เมื่อเขานั้นได้ลาลับจากไปอย่างไม่มีวันกลับ เมื่อหลายปีก่อนด้วยสาเหตุที่เธอนั้นต้องจุกในอก
“กราบพ่อสิแก้วกานดา” น้ำตาของหญิงสาวไหลออกมาเป็นทางราวกับสั่งได้ เธอทรุดเข่าลงกับพื้นด้วยหัวใจห่อเหี่ยว ถ้าเธอทำงานที่โรงพยาบาลบิดาคงไม่ต้องเสียชีวิตลงอย่างกะทันหันแบบนี้
“เพราะแก้ว พ่อเลยด่วนจากไปแบบนี้ แก้วขอโทษ แก้วขอโทษนะคะพ่อ” หญิงสาวร้องไห้ฟูมฟายปิ่มจะขาดใจตายเสียให้ได้ เธอโทษตัวเองถึงสาเหตุการเสียชีวิตของบิดา เพราะแก้วกานดาเชื่อว่าสิ่งที่กระทบจิตใจ ของผู้ป่วยภาวะโรคหัวใจ คงไม่พ้นคำตัดสิน ที่เธอถูกพิพากษาให้รับโทษทัณฑ์ ทั้งที่ตัวเองไม่ได้เป็นผู้กระทำ
“พี่แก้ว พ่อไปสบายแล้วนะ พี่หยุดร้องก่อนได้ไหม กิ่งทนไม่ไหวจะร้องตามอยู่แล้วเนี่ย” ในที่สุดสามคนแม่ลูก ก็ได้นั่งกอดคอกันร้องไห้อยู่หน้าเจดีย์ ซึ่งเป็นที่บรรจุอัฐิเสาหลักของครอบครัว ภาพอันน่าเวทนา กลับทำให้สายตาคมของผู้ชายหนึ่งคน แสยะยิ้มร้ายออกมา ราวกับว่าเขานั้นกำลังสะใจ เวลาที่เห็นแก้วกานดาและคนที่เธอรักร่ำไห้ มันคือสิ่งที่ลูคัสปรารถนา
“ถ้าแก้วอยู่พ่อก็คงไม่ด่วนจากไปไวแบบนี้ แก้วไม่ดีเองค่ะ เมื่อรักบังตา เห็นผิดเป็นถูก ยอมเอาชีวิตลิสรภาพที่มีเข้าแลก แต่สุดท้ายเหมันต์ก็หายไป ทำไมแก้วถึงโง่ขนาดนี้คะแม่” เธอโผตัวเข้าไปซบหญิงวัยกลางคนเอาไว้ พลางหลั่งน้ำตาออกมาราวกับสายน้ำไหล
“แก้วไม่ใช่คนโง่ แต่เพราะว่าเขาเคยช่วยเหลือครอบครัวของเราเอาไว้ ครั้งหนึ่งที่พ่อรอดมาได้ ก็เพราะคุณเหมันต์ ถือเสียว่าบุญคุณครั้งนั้นทดแทนกันไปหมดแล้ว เริ่มต้นชีวิตใหม่นะแก้ว ยังไงหนูก็ยังคงเป็นลูกสาวคนโตของแม่เสมอ”
ถ้อยคำปลอบโยนของกนก สร้างความตื้นตันใจให้กับหญิงสาวขึ้นมาอย่างท่วมท้น อย่างน้อยในความโชคร้ายเธอก็ยังหลงเหลือความโชคดีอยู่บ้าง ที่ได้ผู้หญิงอย่างกนกมาเป็นแม่เลี้ยง เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานางดูแลเธอกับบิดา ประหนึ่งมารดามารดาผู้ให้กำเนิดแก้วกานดา ถึงแม้ว่าจะมีกิ่งฉัตรเข้ามาเติมเต็ม กนกก็ไม่เคยละทิ้งให้ลูกติดอย่างเธอรู้สึกโหยหาอ้อมกอดของมารดา