ตอนที่ 7 ดอกไม้ปริศนา
ในช่วง 2-3 วันมานี้ แทนคุณยังวุ่นวายอยู่กับการทำธุรกิจส่วนตัวคือแซดทูบาร์ที่ปลีกตัวทำแต่เพียงผู้เดียว ไม่มีหุ้นส่วนและไม่ให้คนในครอบครัวเข้ามายุ่ง สิงหบดีแบ่งธุรกิจกันอย่างชัดเจน แทนคุณได้บริษัทผลิตเกี่ยวกับการผลิตไวน์ส่งออกนอก สุดเขตต์รับช่วงต่อดูแลกาสิโนจากสินธุและเปิดบริษัทเล็กๆ เกี่ยวกับเฟรนไชส์อาหารเมื่อเพียงฟ้ามีพรสวรรค์ด้านนี้เลยส่งเมียไปเรียนเพิ่มเติมและลงมือทำมันอย่างจริงจัง
แซดทูบาร์เริ่มเป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวยามค่ำคืนเป็นอย่างมาก ทั้งการโปรโมตและจับมือกับแบรนด์แอลกอฮอล์ต่างๆ นำสินค้าเข้ามาจำหน่ายในร้าน ทำให้บอกต่อปากต่อปากและในแต่ละวันรองรับนักดื่มแทบไม่พอ ในที่สุดแทนคุณตัดสินใจขยับขยายกิจการเพิ่มเติมโดยการเพิ่มโซนส่วนไพรเวทสำหรับคนที่ต้องการเป็นความสูงตัวขั้นสุดแต่ยังมีความปลอดภัยหนาแน่น
“ถืออะไรมา” เอ่ยปากถามลูกน้องคนสนิท แดนถือช่อดอกไม้ช่อโตเข้ามาในบ้านด้วยท่าทีงุนงงพอๆ กับแทนคุณ
“ดอกไม้ครับเฮีย”
“กูรู้ว่าดอกไม้ มึงจะเอาไปให้ใคร” แดนยังเป็นหนุ่มโสด ครั้นจะซื้อให้ผู้หญิงก็คงเป็นไปไม่ได้
“เปล่าซื้อครับ มีคนเอามาส่ง”
“ใครเอามาส่ง” ความสงสัยเพิ่มมากขึ้น ในเมื่อไอ้แดนไม่ได้ซื้อไปจีบผู้หญิงแล้วใครกล้าส่งดอกไม้มาถึงที่นี่ ก่อนจะดึงดอกไม้ช่อใหญ่เข้ามาสำรวจหมุนดูพลิกซ้ายขวาและเจอการ์ดสีขาวใบเล็กหนึ่งใบ
.
ไม่รู้ว่าชอบดอกไม้ประเภทไหน แต่ก็ตั้งใจส่งมาให้นะครับ ดอกยิปโซ มันมีความหมายว่ารักแรกพบ หวังว่าจะได้เจอกันอีกครั้งนะครับน้องหมวย
.
“รักแรกพบ” ทวนคำที่บรรจงด้วยลายนิ้วมือเขียนในการ์ด แทนคุณแสยะยิ้มอยากรู้จริงๆ ไอ้หน้าไหนกล้าส่งดอกไม้มาจีบน้องสาว
"รักส้นตีนอะไรของมึง" สบถคำหยาบแหบลำคอคล้ายบ่นคนเดียว
"อะไรนะครับเฮีย"
“เอาไปทิ้ง” ยื่นให้แดนจัดการทิ้งขยะ
“ปักแจกันไหมครับ เสียดาย” เสนอความเห็น ดอกยิปโซดอกเป็นปุยสีขาวอยู่ในแจกันมองแล้วท่าจะสบายตาดี แทนคุณเหลือกตามองคนสนิทเป็นการแสดงความไม่พอใจ
“กูสั่งให้ทิ้ง”
“ครับ ทิ้งก็ทิ้ง” รับช่อดอกไม้คืนอย่างง่ายดาย แต่จู่ๆ มันก็ถูกดึงออกไปอีกครั้งจากบุคคลที่สาม
“สวยดีออก จะทิ้งทำไม" หมวยมาในจังหวะที่สองคนกำลังคุยกัน ด้วยความเป็นผู้หญิงเห็นของสวยๆ งามๆ ก็มักอยากได้
"....."
"ใครให้มาเหรอพี่แดน” พลางยกช่อดอกไม้ดมหากลิ่นหอมๆ
“เฮียสั่งให้ทิ้ง”
“เสียดายของ ผู้หญิงให้มาเหรอ”
ยังไม่รู้ตัวว่ามีคนส่งช่อดอกไม้มาให้ ดวงตาสีนิลยังยืนมองน้องสาวที่เพ่งดอกไม้ไม่ละสายตา หวังว่าจะไม่ตาดีเห็นการ์ดที่เพิ่งจับยัดลงจนจม
“…..” เห็นแล้ว ยัยหมวยเห็นแล้วและกำลังตั้งใจอ่านตัวหนังสือบนกระดาษสีขาวใบเล็ก จากสีหน้าปกติก็พลันเปลี่ยนตึงขึ้นพร้อมกวาดสายตามองแทนคุณอย่างจะเอาเรื่อง
“!!” คนอายุแก่กว่าล่อกแล่กสายตาไม่กล้าสบมองดวงตาสีน้ำตาลอ่อน ในขณะนี้เธอกำลังไม่พอใจแทนคุณที่ถือวิสาสะทิ้งของของเธอโดยไม่ได้รับอนุญาต
“ชอบว่าคนอื่นไม่มารยาท แต่เฮียทำเอง”
“ก็ไม่รู้ว่าใครส่งมา ทิ้งๆ ไปสิ” เฉไฉคำพูดเพื่อให้ตัวเองดูผิดน้อยลง แต่ก็ฟังไม่ขึ้นเอาสะเลย
“มีคนส่งมาให้หมวย ก็ต้องเก็บไว้ให้หมวย มีสิทธิ์อะไรมาทิ้งของคนอื่น”
หมวยขึ้นเสียงใส่คนตัวโต ตอนนี้แทนคุณคอหดอย่างไม่เคยเป็น ปกติคนที่ต้องทำตัวหงอคือหมวยมากกว่าแต่ทว่าวันนี้เปลี่ยนเป็นเขาเอง
“ก็แค่ดอกไม้ อยากได้ก็ซื้อใหม่”
“เฮียก็พูดเป็นอยู่คำเดียว ก็แค่ ก็แค่ ก็แค่”
เดินเชิดผ่านคนตัวโตขึ้นห้องนอน ไม่ชอบกับการที่แทนคุณชอบคำคำนี้ มันดูเหมือนอะไรก็ไม่สำคัญไปสะทุกอย่าง ทันทีก้าวเท้าถึงห้องก็วางดอกไม้เจ้าปัญหาบนเตียงโดยไม่สนใจว่าใครส่งมาให้สักนิด
“เมื่อไหร่เฮียจะเลิกพูดคำนี้สักที” ทิ้งตัวลงนอนเตียงนิ่ม ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนมองขึ้นไปยังเพดานลายสวยและประดับไปด้วยโคมไฟหรู
อดีต
เด็กสาวในชุดนักเรียนมัธยมปลายยืนรอผู้ปกครองมารับในช่วงเลิกเรียน ผ่านไปเกือบ 30 นาทีก็ยังไม่มีวี่แววใครมารับ เพื่อนสนิทและไม่สนิทที่ยืนรอด้วยกันต่างทยอยกลับกันหมด ครั้นจะยกมือถือโทรตามก็ดันแบตเตอรี่หมดเอาเสียดื้อๆ มีเพียงนาฬิกาข้อมือที่วนเข็มในเวลา 17.45 นาที
“ทำไมยังไม่มา” ขยับแว่นตาหนาเตอะให้เข้าทีแล้วสอดส่องไปยังด้านหน้าเพื่อมองหาผู้ปกครอง ทว่าก็ไร้วี่แววจนเพื่อนในรั้วโรงเรียนเดียวกันกลับกันหมด
“หนู หนู” เสียงภารโรงรอเข้าเวรช่วงเย็นทักขึ้นในขณะที่ยืนกอดกระเป๋าสีดำข้างรั้วพร้อมดวงตาที่คลอหน่วยคล้ายคนจะร้องไห้ หมวยไม่เคยรอนานขนาดนี้เป็นครั้งแรกที่ยืนขาแข็ง แม้จะสามารถเดินย้อนกลับไปนั่งที่ม้าหินด้านในได้ก็เลือกที่จะยืนอยู่ตรงนั้น เธอกลัวคนมารับจะมองไม่เห็นอีกทั้งยังไม่สามารถติดต่อกันผ่านมือถือได้
“…..” หันมองเสียงเรียกอย่างช้าๆ แล้วยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย เป็นการตอบกลับผู้ใหญ่ที่ทักขึ้นมาก่อน
“รอใคร ทำไมยังไม่กลับ”
“รอพี่ชายค่ะ” ตอบกลับด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา เมื่อพี่ชายที่เธอว่ายังไม่โผล่หัวมาจนตอนนี้เริ่มโพล้เพล้เข้าไปทุกที
“เข้ามานั่งตรงนี้ก่อน” เรียกเด็กสาวให้รอตรงเก้าอี้พลาสติกสีแดงตรงประตูทางเข้า หมวยเดินเข้าไปอย่างว่าง่ายและลากเก้าอี้ออกมานั่งด้านหน้าประตูเพื่อให้ผู้ปกครองมองเห็น ยังคงนั่งรอต่อไปเรื่อยๆ ทั้งเหนื่อยจากการทำกิจกรรมทั้งความหิวทำเอาเด็กสาวเผลอหลับและเอนหัวซบรั้วประตูเหล็ก
“หมวย หมวย”
เสียงเรียกทำให้ลืมตาตื่น มือเล็กถอดแว่นสายตาออกแล้วขยี้ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนลืมขึ้นอย่างเชื่องช้าและปรับโฟกัส คนตรงหน้าคือแทนคุณ พี่ชายที่บอกลุงภารโรงว่ารอเขามารับและยกแขนซ้ายที่สวมนาฬิกาหน้าปัดเรือนเล็ก ขณะนี้มันคือเวลาหนึ่งทุ่มห้าสิบห้า แทบอยากร้องไห้แทนคุณปล่อยให้รอหลายชั่วโมง ปกติพี่ชายที่เคารพรักไม่ใช่คนแบบนี้ไม่เคยทิ้งน้องไว้นานๆ
"เฮียไปไหนมา" เสียงสั่นเครือถามแทนคุณ กับการถูกปล่อยให้รอนานๆ หมวยไม่ชอบเลยมันเหมือนการถูกทิ้ง
"รอนานไหม" ยกมือลูกศีรษะคนตัวเล็กที่แสดงออกสีหน้าถึงความน้อยใจอย่างชัดเจน
"....." หมวยก้มหน้าไม่ตอบและปล่อยให้น้ำตาใสไหลหยดลงกระโปรงนักเรียนสีกรม พลันมือหนาคว้าข้อมือเล็กให้หมวยเดินตามขึ้นรถโดยไม่รู้ตัวเอาเสียเลยว่าทำน้องร้องไห้
ในขณะที่รถแล่นบนท้องถนนก็อยู่ในความเงียบ ไม่มีการสนทนาต่อของคนสองคน มีเพียงเสียงแอร์ที่เป่าขึ้นพอได้ยินเล็กน้อย จากนั้นเสียงสะอื้นก็ดังขึ้น