บทที่ 15 สามีเก่าของเธอตาบอดเหรอ
มุกดานอนหลับอย่างสะลึมสะลือ แล้วก็ถูกคนคนหนึ่งนอนประทับอยู่บนร่างของตัวเอง เธอยังได้กลิ่นหอมมินท์อ่อนๆ จากตัวของเขาด้วย
ร่างกายร้อนเดือดนอนประทับบนร่างเธอ ริมฝีปากของชายผู้นั้น สัมผัสลงที่กลางคอของเธอ จูบนั้นเลื่อนลงมาเรื่อยๆอย่าง เร่าร้อน......
ในที่สุดมุกดาที่ถูกชลธีกระทำจนสติแจ่มข้ออย่างครบถ้วนสมบูรณ์เสีย เธออยากจะขัดขืน แต่เมื่อเธอสัมผัสโดนร่างกายที่ร้อนระอุนั้นแล้ว เธอก็นึกขึ้นมาได้ในทันทีว่าตนเองได้แต่งงานกับเขาแล้ว เขามีสิทธิ์ที่จะทำแบบนี้
“คุณเป็นสามีของฉัน แต่ทำไมคุณถึงไม่ให้ฉันเห็นรูปร่างหน้าตาของคุณเลยล่ะคะ?” มุกดาลูบสัมผัสเส้นผมของชลธี เส้นผมของเขาดีมาก ทั้งหนาทั้งดก แถมยังนุ่มมือมาก
“กลัวเธอจะตกใจ” ชลธีพูดง่ายๆ ออกมาเพียงประโยคเดียว แล้วเขาก็เริ่มทำงาน
เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองกันแน่ ทันทีที่เปิดซิง เขาก็เอาแต่หมกมุ่นหลงใหลอยู่กับรสชาติของมุกดา แม้แต่ตอนทำงาน เขายังห้ามตัวเองให้นึกถึงเรือนร่างของมุกดาไม่ได้เลย
สำหรับผู้ชายในวัยยี่สิบแปดปี ที่ยังไม่เคยได้ลิ้มรสชาติผู้หญิงมาก่อน เกรงว่าพูดออกไปคงจะไม่มีใครเชื่อแน่
เมื่อได้ยินคำพูดของชลธี มุกดาก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้
ขณะที่ทั้งสองคนกำลังทำเรื่องที่สนิทแนบเนื้อกัน แล้วอีกฝ่ายหัวเราะออกมาแบบนี้ มันทำให้ชลธีไม่ชอบใจเลย
“เธอหัวเราะอะไร? จริงจังหน่อยสิ?” เขากำลังยุ่ง แต่เธอกลับรู้สึกว่าน่าขำ
“ต่อให้คุณจะน่าเกลียดแค่ไหน ฉันก็ไม่กลัวหรอกค่ะ บางคนหน้าตาดูดี แต่กลับหัวใจมืดดำ แบบนั้นน่ากลัวกว่าคุณเยอะเลยนะคะ” มุกดานึกถึงธีรเมทขึ้นมาอย่างอดไม่ได้
ธีรเมทหน้าตาดูดีมากจริงๆ แต่เขากลับเป็นแค่ผู้ชายสารเลวที่ไม่ยอมระย่อท้อถอยคนหนึ่งเท่านั้น
หลังจากนั้นชลธีกับมุกดาก็ไม่ได้พูดคุยอะไรกันอีก อุณหภูมิภายในห้องลดลงอย่างรวดเร็ว
เมื่อได้ยินมุกดาเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับผู้ชายสารเลวของเธอคนนั้น ชลธีก็อารมณ์เสียขึ้นมา เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่าอยู่กันคนละระดับ ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้พวกเขากำลังทำอะไรกันอยู่? กำลังทำเรื่องที่ชายหญิงสนิทแนบชิดกันมากที่สุดอยู่ แต่ในใจของเธอกลับนึกถึงผู้ชายคนอื่น แบบนี้คิดว่าประธานชลธีจะยังชอบใจอยู่เหรอ?
คืนนี้ชลธีทำแค่สองรอบ จากนั้นก็เดินออกไปอย่างโกรธเคือง ตัวเขานั้นโมโหจนเหลือจะทน แต่มุกดากลับไม่รู้สึกรับรู้เลยสักนิด เธอคิดว่าสามีของตัวเองเดิมทีก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่ได้เก็บเอาไปใส่ใจ
เมื่อคิดว่าวันพรุ่งนี้ยังต้องไปสัมภาษณ์ที่บริษัทฮอนดากรุ๊ปอีก เธอก็ดีใจมากเป็นพิเศษ หลังจากชลธีออกไปได้ไม่นาน เธอก็ผล็อยหลับไปอีกครั้ง
ชลธีออกไปแล้วถึงพบว่าตัวเองลืมโทรศัพท์เอาไว้ที่ห้องของมุกดา เขาจึงกลับไปเอาโทรศัพท์ ทันทีที่เขาได้ยินเสียงลมหายใจแผ่วเบาของมุกดา เขาก็ยิ่งโกรธเข้าไปใหญ่
ผู้หญิงคนนี้ช่างใจร้ายใจดำจริงๆ ทำให้ตนโมโหจนเหลือจะทนแบบนี้แล้ว เธอยังนอนกลับฝันหวานได้ขนาดนั้นอีก ถ้าไม่ใช่เพราะคิดว่าวันพรุ่งนี้เธอต้องไปบริษัทล่ะก็ อยากจะปลุกเธอขึ้นมาทรมานอีกสักรอบจริงๆ เลย
เช้าตรู่ กลิ่นหอมหวานของดอกไม้ลอยเข้ามาในห้องของมุกดาเธอสูดหายใจเข้าลึกๆ รู้สึกว่าวันนี้ต้องเป็นวันที่สดใสมากวันหนึ่งแน่นอน
เมื่อลุกจากที่นอน เธอก็มองลงไปจากริมหน้าต่างห้อง ว้าว ที่รัก ด้านล่างตรงริมหน้าต่างห้องของตัวเองเป็นผืนแปลงดอกกุหลาบสีชมพู
เจ้าของคฤหาสน์นี้ก็คือสามีของเธอ โรแมนติกจริงๆ เลย ปลูกดอกกุหลาบมากมายขนาดนี้ แต่สีชมพูนี่จะสาวเกินไปหรือเปล่า?
สูดกลิ่นหอมหวานของดอกไม้ในอากาศเข้าไปอีกครั้ง จากนั้นมุกดาก็รีบจัดการระเบียบตัวเองอย่างรวดเร็วราวกับอยู่ในสงครามก็ไม่ปาน เธอรวบเส้นผมยาวๆ มัดไว้ด้านหลัง ทำให้ดูโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาเล็กน้อย
เปิดตู้เสื้อผ้าออก พลิกดูป้ายราคา ราคาเสื้อผ้าเหล่านั้นทำเอาคนตกใจจนพูดไม่ออก เธอจึงพยายามเลือกตัวที่ราคาถูกที่สุดมาสวม
เธอไม่อยากติดค้างสามีที่มีสัญญาแต่งงานกันเพียงแค่สองปีคนนี้มากเกินไป ติดค้างมากเกินไป เธอกลัวจะใช้คืนไม่หมด
หาชุดเดรสกระโปรงสีขาวซึ่งดูค่อนข้างเรียบง่ายสวยงามออกมาใส่ ทำให้ตัวเองดูสุภาพและสงบเสงี่ยมขึ้น
โต๊ะเครื่องแป้งเต็มไปด้วยเครื่องสำอาง แต่ที่มุกดาใช้มีเพียงแค่ไม่กี่อย่างเท่านั้น
เช็ดน้ำและทาครีมบำรุงบนใบหน้าของตัวเองเล็กน้อย มุกดาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ทาลิปสติกไปด้วยสักหน่อยดีกว่า
ลิปสติกนั้นมีกว่าหลายสิบแบบ เธอเลือกแบบที่ไม่ออกสีมากนัก และช่วยเน้นริมฝีปากอมชมพู อวบอิ่มของตัวเธอเองได้พอดี
หลังจากจัดการเสร็จเรียบร้อย เธอก็หยิบกระเป๋าเตรียมตัวออกไปข้างนอกทันที
“คุณผู้หญิงครับ อาหารเช้าเตรียมพร้อมเรียบร้อยแล้ว คุณกินเสร็จแล้วผมจะให้คนขับรถขับไปส่งที่ทำงาน จริงด้วย วันนี้ตอนเลิกงาน ผมจะไปรับคุณนะครับ คุณชายบอกว่า ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถจัดงานแต่งงานที่ดีให้คุณได้ แต่สิ่งที่ควรให้คุณก็จะให้คุณทุกอย่างครับ แหวนเพชรและเครื่องประดับจะขาดไม่ได้เด็ดขาด” นัทธ์พูดราวกับท่องจำบทมาเป็นอย่างดี
“ไม่ต้องหรอกค่ะ พวกคุณให้เงินสำหรับรักษาพยาบาลพ่อของฉันแล้ว ส่วนอื่นๆ ฉันไม่อยากติดค้างมากจนเกินไป เวลาสองปี แค่กะพริบตาก็ผ่านไปแล้วค่ะ” มุกดาปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมา
เธอปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อม แต่ภายในใจของนัทธ์กลับมีบางอย่างเปลี่ยนแปลงไป เด็กสาวคนนี้ทั้งสวย นิสัยก็ดี สามีเก่าของเธอคนนั้นตาบอดเหรอ?
ได้รู้จักกับมุกดาเพียงแค่ไม่กี่วัน ความรู้สึกดีๆ ของนัทธ์ที่มีต่อเธอก็มากเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้เขารู้สึกว่าคุณชายน้อยของเขาได้พบกับสมบัติล้ำค่าเข้าแล้ว
มุกดามาถึงที่หน้าประตูทางเข้าบริษัทฮอนดากรุ๊ปอีกครั้ง หัวใจของเธอเต้นดัง ‘ตึกตัก ตึกตัก’ ที่นี่คือสถานที่ที่เธอใฝ่ฝัน แต่ว่าต่อไปอยู่ที่นี่ยังต้องเจอกับคนใจแคบคนนั้นอีก จะทำอย่างไรดี ไม่รู้ด้วยว่าเขาเป็นหัวหน้าแผนกไหน ขออย่าได้มอบหมายให้ตนต้องไปเป็นลูกน้องของเขาเลย
ก่อนเข้าประตู มุกดายกมือไหว้ท้องฟ้า หวังว่าสวรรค์จะได้ยินเสียงในใจของเธอ
“มุก เธอมาเร็วจังเลย” จันวิภาลงมาจากรถ แล้วเธอก็เห็นหลังของใครคนหนึ่งกำลังยกมือไหว้ท้องฟ้าอย่างคนเคร่งในศาสนา ที่แท้ก็เป็นมุกดา เธอรีบวิ่งเข้าไปหาทันที
“จันทร์? เธอก็มารายงานตัววันนี้เหรอ?” ทันทีที่มุกดาเห็นว่าเพื่อนสนิทของเธอก็มาด้วยเหมือนกัน เธอก็รู้สึกว่าตัวเองมั่นใจขึ้นมากเลย
“ใช่สิ ฉันมาดูว่ามีเธอหรือเปล่า ถ้าไม่มีเธอฉันก็จะกลับเลย” สภาพปัจจัยครอบครัวของจันวิภาค่อนข้างดี ดังนั้นที่เธอออกมาทำงานก็เพื่อจะฝึกฝนหาประสบการณ์สักเล็กน้อย
“ดีจังเลย ต่อไปพวกเราก็จะเป็นเพื่อนร่วมงานกันแล้ว” ทั้งสองจูงมือกันเดินเข้าประตูบริษัทไป
เมื่อไปถึงแผนกบุคคลก็มีคนรอพวกเธออยู่ที่นั่นอยู่ก่อนแล้ว มุกดาถูกจัดให้ไปอยู่ที่กองเลขาธิการ เอกวิชาที่จันวิภาเรียนมาไม่เหมือนกัน หล่อนถูกจัดไปอยู่ที่แผนกออกแบบ
ทั้งสองคนจึงแยกกันไปรายงานตัวตามแผนกของแต่ละคน สองแผนกไม่ได้อยู่ไกลกันมากนัก อยู่ที่ชั้นเดียวกันทั้งหมด เพียงแต่ที่หนึ่งอยู่ปลายด้านนี้ อีกแผนกอยู่ปลายอีกทางด้านหนึ่ง
มุกดาผลักประตูกองเลขาธิการเปิดออก ผู้หญิงทั้งหมดที่อยู่ด้านในนั้นกวาดสายตามองมาอย่างพร้อมเพรียง
“ขออนุญาตค่ะ ผู้อำนวยการไวพบอยู่ไหมคะ?” มุกดาเอ่ยถามอย่างสุภาพ
“เธอคือคุณมุกดาที่เพิ่งเข้ามาใหม่ใช่ไหม ฉันเป็นหัวหน้าฝ่ายที่นี่” เสียงหนึ่งดังสะท้อนมาจากด้านหลังของมุกดา
มุกดาหันกลับไปมอง ผู้อำนวยการไวพบคนนี้ดูท่าทางใจดี อายุประมาณสามสิบกว่าๆ แล้ว ไม่ได้ดูสวยมาก แต่กลับดูสง่ามาก
“สวัสดีค่ะ ผู้อำนวยการไวพบ ฉันคือมุกดาที่มาใหม่ ต่อไปขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ” มุกดาโน้มตัวเคารพผู้อำนวยการไวพบหนึ่งที
“อืม โอเค ไม่เลว เธอตามฉันมาสิ ต่อไปเธอจะนั่งอยู่ตรงนี้นะ” ผู้อำนวยการไวพบบอกกับมุกดาพลางชี้ไปที่โต๊ะตัวหนึ่ง
ภายในห้องทำงานนี้ โต๊ะตัวนี้จัดวางอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ได้สะดุดตามากนัก ถ้าหัวหน้ามาก็จะมองไม่เห็นที่ตรงนี้ แต่มุกดากลับชอบมาก เพราะที่ตรงนี้ถึงแม้จะไม่สะดุดตาโดดเด่น แต่มันวางอยู่ใกล้ริมหน้าต่าง
หลังจากผู้อำนวยการไวพบพูดจบ เธอก็เอาเอกสารสำหรับการประชุมไปส่งให้กับเหล่าหัวหน้า มุกดาจัดการทำความสะอาดจัดเก็บที่นั่ง หลังจัดเก็บเรียบร้อยก็รู้สึกกระหายน้ำขึ้นมา
“ขอถามหน่อยค่ะ ห้องน้ำชาของที่นี่อยู่ที่ไหนเหรอคะ?” มุกดาถามผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างๆ เธอ
“ห้องน้ำชาอยู่ที่นี่แหละออกไปเลี้ยวซ้ายก็ถึงแล้ว ข้างในนั้นมีแก้วแบบใช้แล้วทิ้งอยู่ วันนี้เธอไม่ได้เอาอะไรมาด้วย เธอไปหยิบจากที่นั่นเลยก็ได้” คนข้างๆ บอกกับเธออย่างกระตือรือร้น
“อืม ขอบคุณนะ” มุกดาเดินตามหาห้องน้ำชาตามที่คนคนนั้นบอก
หลังจากรับน้ำจากห้องน้ำชาออกมา มุกดาก็ชนเข้ากับใครคนหนึ่ง
“มุกดา?” เสื้อของคนคนนั้นถูกมุกดาทำน้ำหกใส่จนชื้นไปหมด
มุกดากำลังจะกล่าวขอโทษบุคคลคนนี้ แต่เมื่อได้ยินเสียงของเขาคนนั้นแล้ว เธอก็แทบจะอดไม่ไหวที่จะสาดน้ำที่เหลืออยู่ใส่ตัวเขาทั้งหมด
ว่าแต่เธอนี่ดวงซวยนะ ทำงานวันแรกก็มาเจออดีตแฟนหนุ่มที่น่ารังเกียจ
ไม่ได้สิ ผู้ชายห่วยแตกที่นอกใจแบบนี้ต้องโดนสั่งสอนซะบ้าง