ตอนที่ 11 แล้วผมไม่เจ็บหรือไง NC 20+
ตอนที่ 11 แล้วผมไม่เจ็บหรือไง
อริสาวิ่งกลับมาที่ห้องพักของตนเอง ก่อนทิ้งกายลงบนเตียงกว้าง เธอนอนคว่ำหน้าร้องไห้สะอึกสะอื้นจนตัวโยน ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาไม่ขาดสาย เหมือนต้องการให้มันช่วยชะล้างความเจ็บปวดให้หายออกไปจากใจเสียที
“ปัถย์ คุณทำไมทำแบบนี้กับริสา คุณคงเกลียดริสามากเลยสินะ”
เธอรู้ว่าเขาเกลียดและโกรธแค้นที่เธอทิ้งเขาไปอย่างโหดร้ายที่สุด แต่ใช่ว่าเธอเองจะมีทางเลือกมากมายนัก และใช่ว่าที่เธอทำแบบนั้น เธอจะไม่เจ็บปวด เธอเหมือนต้องเฉือนหัวใจตัวเองทิ้งทั้งดวง มันก็เจ็บปวดแสนสาหัสไม่ต่างจากเขานักหรอก แถมตอนนี้ เขาก็มีชีวิตที่ดี มีคนรักใหม่ที่กำลังจะสร้างครอบครัวกันอีก ส่วนเธอ ความรู้สึกที่เคยมีต่อเขา มันไม่เคยลบเลือนไปได้เลย อย่าว่าแต่มีคนใหม่ แค่มูฟออนออกจากความรู้สึกและช่วงเวลาที่เคยมีร่วมกัน ยังทำไม่ได้เลย
ติ๊ง ติ๊ง ติ๊ง เสียงแจ้งเตือนในแอพลิเคชันไลน์ดังขึ้นรัวๆ จนเธอที่กำลังนอนร้องไห้ ต้องยื่นมือไปหยิบโทรศัพท์มาเปิดดู
“คืนนี้ มารับชิ้นส่วนของคุณที่ทิ้งเอาไว้ที่ห้องของผมด้วย”
“ถ้าไม่มา ผมจะบอกเรื่องของเรากับผัวใหม่ของคุณ”
“ผมไม่ได้แค่ขู่”
เธอกดเข้าไปอ่าน แต่ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป เพราะไม่รู้ว่าควรตอบอะไรไปดี ที่จะทำให้เขาไม่โกรธเกลียดเธอมากไปกว่านี้ แต่ถ้าถามว่าเธอจะไปหาเขาตามที่เขาสั่งไหม ขอตอบเลยว่า ไม่ เพราะแค่ขนาดเมื่อครู่ในห้องทำงาน ที่หน้าห้องมีทั้งเลขานุการและผู้ช่วยคนสนิทนั่งทำงานอยู่ เขายังเอาความโกรธแค้นมาระบายที่เธอขนาดนั้น ถ้าเธอยังขืนเดินเข้าไปหาเขาในห้องส่วนตัวอีก เธอคงได้กลับออกมาเพียงซาก
เขาโยนโทรศัพท์ทิ้งบนที่นอน เมื่อเห็นว่าเธอเปิดอ่าน แต่ไม่ยอมตอบอะไรเขากลับมาเลย เขารู้ได้ทันทีว่าเธอไม่มีทางมาหาเขาแน่ เขารู้จักนิสัยของเธอดี ทางเดียวที่จะเจอเธอก็คือ เขาต้องไปขอคีย์การ์ดห้องเธอมาเปิดเข้าไปหาเธอเอง แต่จะทำแบบนั้นได้อย่างไร เขาเป็นถึงผู้บริหารสูงสุด จะให้ไปขอคีย์การ์ดห้องผู้บริหารอีกคน พนักงานคงเอาไปเม้ากันให้สนุกปาก
แต่จะให้เลขาของเขาไปทำหน้าที่นี้ให้ เธอก็คงสงสัยใคร่รู้เรื่องราวระหว่างเขากับอริสาแน่ แล้วความสัมพันธ์ของเขากับอริสาก็จะไม่เป็นความลับอีกต่อไป
“โถ่เว้ย ริสา อย่าคิดว่าผมจะปล่อยให้คุณใช้ชีวิตอย่างมีความสุขนะ ตลอด 4 ปีที่ผมทุกข์ทรมานเพราะคุณ ผมจะเอาคืนอย่างสาสมแน่ คอยดู”
มือใหญ่เสยผมแรงๆหลายครั้ง เขาเดินวนไปวนมาในห้องอย่างหงุดหงิด ทั้งสบถคำหยาบคายหลายคำ ในที่สุดก็ไม่มีอะไรดีขึ้น จึงต้องยอมแพ้ เดินเข้าห้องน้ำไปชำระล้างร่างกายให้สดชื่น เผื่อจะหายจากอาการหงุดหงิดที่ก็ไม่รู้ว่ามีสาเหตุมาจากอะไรเหมือนกัน แต่ที่แน่ๆ เป็นเพราะเธอคนนั้น ผู้หญิงเจ้ามารยาที่พังหัวใจเขาไม่มีชิ้นดี
ร่างใหญ่เดินออกมาจากห้องน้ำหลังชำระล้างร่างกายเสร็จแล้ว แต่ก็ยังไม่หายหงุดหงิดเสียที จึงเลือกที่จะใช้วิธีระบายอารมณ์เหมือนเดิม เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจะติดต่อหาสาวไซด์ไลน์แจ่มๆ สักคน เอามากระแทกแรงๆ ระบายความหงุดหงิด แต่แล้วก็เหลือบไปเห็นกางเกงชั้นในตัวจิ๋วสีหวานของเธอที่เขาวางไว้บนเตียงก็ต้องหยุดชะงักมือที่เตรียมจะกดโทรออก
“โถ่เว้ย ริสา ออกไปจากหัวผม นังแม่มด”
เขาสบถเสียงดังลั่น ก่อนปาโทรศัพท์ลงบนเตียงอีกครั้ง แล้วเอื้อมคว้ากางเกงชั้นในตัวนั้น เดินเข้าห้องน้ำไป
“ไม่ยอมมาเอาคืนใช่ไหม จะทิ้งไว้ที่นี่ใช่ไหม ดี คอยดูนะ คราวหน้าคุณต้องได้มาใช้มันที่ห้องนี้แน่”
มือใหญ่กระแทกกระทั้นขยี้ซักกางเกงชั้นในตัวจิ๋วของเธอที่อ่างล้างหน้า เกิดมาก็ไม่เคยต้องทำอะไรแบบนี้ให้ใคร เลิกก็เลิกกันไปแล้ว ยังต้องมาซักกางเกงชั้นในให้อีก มันจะเกินไปหน่อยแล้วนะอริสา คอยดูเถอะ วันหนึ่งเขาจะเก็บค่าซักกางเกงในตัวนี้ ให้เธอต้องจ่ายจนหมดตัวเลย
เช้าที่สดใส แต่ไม่ค่อยสดชื่นเท่าไหร่นักสำหรับท่านประธานหนุ่มรูปหล่อ เพราะกว่าที่เมื่อคืนจะสงบจิตสงบใจไม่ให้ฟุ้งซ่านและหงุดหงิดได้ ก็ปาเข้าไปเกือบจะสว่างแล้ว เพราะนังแม่มดใจร้ายอริสาคนเดียว ทำให้เขาไม่ได้ปลดปล่อยกับสาวๆ แถมยังหงุดหงิดเสียจนนอนไม่หลับ ความผิดของเธอมันหลายกระทงแล้ว เห็นทีเขาต้องเริ่มลงทัณฑ์เธอจริงๆจังๆ เสียแล้ว
โทษฐานแรกที่ใหญ่ที่สุดของเธอที่ต้องได้รับการชำระแค้น คือเธอหลอกให้เขารักและใช้ความรักของเขา ทำลายหัวใจและชีวิตของเขาไม่มีชิ้นดี วันนี้เธอกลับมาอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว เขาจะไม่มีวันปล่อยให้เธอได้มีความสุขอีกเลย ไม่ว่าจะกับใครทั้งนั้น เขาจะตามจองล้างจองผลาญเธอ เอาให้ต้องอยู่คนเดียวไปจนแก่ตาย ไม่มีใครมารับช่วงต่อจากเขาเลย คอยดูสิ
“คุณมีอะไรหรือเปล่าคะ ถึงให้เลขาโทรตามฉันมาพบ”
อริสา เอ่ยถามตรงประเด็นทันทีที่เข้ามาในห้องทำงานของเขา ใจจริงเธอยังหวั่นเกรงไม่หาย จากเหตุการณ์เมื่อวานที่เขาจะทำมิดีมิร้ายเธอ จึงไม่อยากจะเข้ามาหาเขาตามลำพังในห้องทำงานนัก เลยอยากรีบคุยธุระที่เขาต้องการให้เสร็จ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องอยู่ตามลำพังกับเขาอีก
“ถ้าไม่มีอะไร ผมเรียกให้คุณมาหาไม่ได้หรอ”
คิ้วเข้มยกขึ้นข้างหนึ่ง ดวงตาคมกริบมองมายังเธออย่างกวนประสาทเต็มที เขาถือว่าเขาเป็นเจ้าของโรงแรมคนใหม่ เป็นเจ้านายเธอกลายๆใช่ไหม ถึงได้เล่นสงครามประสาทกับเธอแบบนี้
“ฉันมีงานต้องทำค่ะ คงไม่ว่างให้คุณเรียกมาเพื่อทำเรื่องไร้สาระ”
“อะไรที่คุณว่าเป็นเรื่องไร้สาระล่ะริสา เรื่องเรียกดูข้อมูลผลประกอบการที่ผ่านมา หรือเรื่องที่ผมกับคุณทำอะไรกัน”
“เราไม่ได้ทำอะไรกันทั้งนั้น กรุณาพูดจาให้เกียรติฉันด้วยค่ะ”
“หึ ผู้หญิงอย่างคุณมีเกียรติด้วยเหรอ”
ริมฝีปากหยักได้รูปเหยียดยิ้มอย่างเย้ยหยัน ร่างงามกำมือแน่นระงับอารมณ์โกรธอย่างเต็มที่ ใช่ เขาพูดถูก ผู้หญิงอย่างเธอมันไม่มีศักดิ์ศรี เธอมันยอมขายตัวเพื่อพยุงโรงแรมนี้ไว้ ถ้าไม่มีลูกของเขาเกิดขึ้นมาในท้องเธอก่อน ป่านนี้โรงแรมแห่งนี้ก็ไม่ตกไปถึงมือเขาหรือใครแน่นอน
“ค่ะ ฉันอาจไม่เหลือเกียรติอะไรให้คุณยกย่อง คุณคงเกลียดฉันมาก ฉะนั้น ถ้าไม่จำเป็น เราอย่ามาข้องแวะวุ่นวายกันเลยค่ะ ติดต่อกันแค่เรื่องงานก็พอ”
อริสาหมุนตัวเตรียมเดินกลับห้องของตนเอง เธอรู้ว่าเธอผิด เธอทำเขาเสียใจ แต่เธอเองก็เสียใจแทบตายเหมือนกัน ใจที่บอบช้ำของเธอ จะให้มาโดนเขาดูถูกเหยียดหยาม พูดจาทิ่มแทง แสดงสายตาและท่าทีรังเกียจบ่อยๆ เธอก็รับไม่ไหวเหมือนกัน สู้ต่างคนต่างอยู่ เจอกันเฉพาะเวลาประชุมสำคัญๆก็พอ
“เดี๋ยว อริสา ผมยังไม่ได้พูดธุระของผมเลย”
เธอหยุดชะงัก ก่อนหันกลับมาหาเขาอีกครั้ง ถ้าคราวนี้ไม่พูดกับเธอเรื่องงาน เธอจะไปจริงๆ ต่อให้เขาเป็นเจ้านายก็เถอะ ยังไงก็ไม่มีสิทธิ์มารังแกความรู้สึกกันขนาดนี้
“พูดธุระของคุณมาเถอะค่ะ ฉันต้องรีบกลับไปทำงาน”
“ได้ วันนี้คุณต้องพาผมเดินดูโรงแรมให้ทั่ว ผมต้องการเข้าไปดูห้องพักทุกรูปแบบที่เรามี ของจริง ไม่ใช่ดูจากรูปภาพ”
“เลขาของคุณก็มี ทำไมไม่ให้เธอพาเดินดูละคะ ฉันก็มีงานของฉันนะ”
“คุณลืมหรือเปล่า ว่าเลขาของผม ก็เพิ่งตามผมมาจากบริษัทเก่า เขาก็รู้อะไรไม่มากไปกว่าผมหรอก หรือข้อมูลเกี่ยวกับห้องพัก เรื่องง่ายๆแค่นี้ เจ้าของโรงแรมคนเดิมก็ไม่รู้”
หญิงสาวลอบถอนหายใจ เธอพยายามข่มกลั้นอารมณ์เต็มที่ จะไม่ยอมดิ้นไปตามเกมปั่นประสาทของเขา
“ฉันทราบค่ะ เอาเป็นว่า ฉันกับเลขาจะพาคุณเดินชมเอง”
“แค่คุณ คนเดียว”
ดวงตาคมกริบวาววาบขึ้น ก่อนจ้องมองเธอด้วยสายตาเย็นชาเหมือนเดิม ซึ่งแน่นอนว่าเธอไม่ทันได้สังเกตเห็น
“ฉันไม่สะดวกค่ะ”
“ผมสั่ง”
หนุ่มสาวจ้องมองสบประสานสายตากันนิ่งนานอย่างไม่มีใครยอมใคร จนในที่สุด หญิงสาวที่เป็นรองเขาหลายเรื่อง และไม่ได้มีอำนาจอยู่ในมือมากมายเท่าเขา ก็ต้องยอมจำนน
“ค่ะ”
“หึ ก็แค่นั้น”
เขาแค่นหัวเราะหยันเธอด้วยความสมใจ ที่เกมนี้และต่อๆไป เขาต้องเป็นผู้ชนะแต่เพียงผู้เดียว
อริสาพาท่านประธานผู้บ้าอำนาจ เดินเข้าออกห้องพักแต่ละแบบที่โรงแรมมี เริ่มจากห้องราคาต่ำสุด ไล่ไปเรื่อยๆ จนตอนนี้ ก็ล่วงเลยเวลาเลิกงานมาร่วมสองชั่วโมงแล้ว ทั้งคู่จึงมาหยุดยืนอยู่ในห้องที่หรูหราและราคาแพงที่สุดของโรงแรมนี้
เขาเดินสำรวจความหรูหราสวยงามของห้องอย่างพึงพอใจ ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินเข้าไปในห้องนอนกว้าง โดยที่เธอไม่ได้ระแคะระคายถึงภัยร้ายที่กำลังเข้ามากล้ำกรายเธอเลยสักนิด
“อืม สวย ดูดี หรูหรา แต่ผมว่าข้างในมันสกปรกไปหน่อยนะ ไม่ต่างจากคุณเท่าไหร่เลย”
“นี่คุณ เมื่อไหร่จะเลิกพูดจาถากถางฉันเสียที เรื่องมันก็นานหลายปีมาแล้วนะ ตอนนั้นเราก็ยังเด็ก อาจตัดสินใจอะไรผิดพลาดไปบ้าง แต่ตอนนี้ฉันก็เห็นคุณมีความสุขดี กำลังจะหมั้นจะแต่งงานมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ เรื่องเก่าๆในอดีต คุณยังมัวมาผูกใจเจ็บอีกหรอ หรือว่าที่เป็นแบบนี้ เพราะคุณยังลืมฉันไม่ได้”
เธอตอกกลับเขา ก่อนเชิดหน้าขึ้นอย่างถือดี เรื่องอะไรจะปล่อยให้เขามากระทำกับเธอฝ่ายเดียว เรื่องที่มันเกิดขึ้น เธอก็เจ็บปวดเจียนตายเหมือนกัน ก่อนหน้านี้เธอยอมเพราะรู้สึกผิดจริงๆที่ทำร้ายเขา อยากจะให้เขาหายโกรธและยกโทษให้ แต่ตอนนี้เขาก็มีชีวิตที่ดีมากแล้ว ยังจะมาผูกใจเจ็บอะไรเธออีก เธอต่างหาก ที่มีชีวิตวนเวียนอยู่กับเรื่องเดิมๆ ไม่ได้ก้าวหน้าไปไหนสักที
“ใช่ ผมลืมคุณไม่ได้ ไม่มีวันลืมเลยแหละ อริสา”
ดวงตาวาวโรจน์แดงก่ำ เสียงทุ้มกดต่ำช่างเยือกเย็นจนเธอขนลุกเกรียว ร่างใหญ่ย่างสามขุมเข้าหาเธอที่กำลังเดินถอยหลังไปเรื่อยๆ จนหยุดลงเพราะขาเธอชนเข้ากับเตียงนอนแล้ว
อริสาเบี่ยงตัวเพื่อที่จะหนีออกไปจากตรงนี้ แต่มีหรือที่คนตัวโตที่แสนจะโกรธแค้นชิงชังจะยอมปล่อยเธอไปง่ายๆ เขาเอื้อมมือตะครุบคว้าตัวเธอได้ก็จับเธอโยนลงมากลางเตียงอย่างแรง จนเธอจุกจนตัวงอ ไม่สามารถลุกหนีเขาไปได้
ร่างใหญ่ตามมาคร่อมทับร่างเธอเอาไว้ ใช้แขนสองข้างกักตัวเธอจนหมดหนทางดิ้นหนี ใบหน้าสวยหวานตื่นตระหนกจนไร้สีเลือด ในตอนนี้เขาดูเหมือนสัตว์ป่ากระหายเลือดก็ไม่ปาน ใบหน้าดุดันถมึงทึง ดวงตาแดงก่ำอำมหิต จนร่างงามสั่นสะท้านไปหมด
“ปล่อยนะ คุณจะทำอะไร”
เขาเหยียดยิ้มมุมปาก ยิ้มที่ดูอย่างไรก็ไม่ใช่ยิ้ม มือใหญ่ข้างหนึ่งกดบ่าบอบบางของเธอเอาไว้ เธอพยายามลุกหนี มือน้อยของเธอยื่นมาดันอกแกร่งของเขาก่อนออกแรงผลักให้เขาลุกออกไปจากการคร่อมกายทาบทับเธอ แต่ก็ไม่เป็นผล ร่างใหญ่ไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย แถมยังออกแรงกดลงมาที่บ่าของเธอจนเจ็บไปหมด
“โอ๊ย ปล่อยนะ คุณปัถย์ ลุกออกไปจากตัวฉันเดี๋ยวนี้”
ปรมัตถ์ไม่สนใจเสียงร้องประท้วงใดๆ ตอนนี้มือข้างหนึ่งของเขารวบเอามือทั้งสองข้างของเธอไปล็อกเอาไว้เหนือศีรษะ ก่อนที่มืออีกข้างจะไล่ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตตัวสวยของเธอออกทีละเม็ด
“อ๊ายยย ไอ้บ้า ปล่อยนะ อย่าถอด ไม่นะ”
หญิงสาวดิ้นรนกรีดร้อง แต่มีหรือที่เขาจะฟัง มือใหญ่ยังคงไล่ปลดกระดุมเสื้อของเธอจนหมดทั้งแถบ
ทันทีที่สาบเสื้อถูกเขาจับแยกออกจากกัน หน้าอกใหญ่โตขาวโพลนที่เบียดกันจนชิดภายใต้บราเซียสีดำลายลูกไม้ ก็ปรากฏแก่สายตาเขา ชายหนุ่มกลืนน้ำลายอึกใหญ่กับความสวยงามเย้ายวนตรงหน้า
ยังสวยเหมือนเดิม เขายังจำรายละเอียดทุกอย่างในร่างกายของเธอได้ดี จำไม่มีวันลืม ถึงยังเจ็บแค้นและปล่อยวางไปจากเธอไม่ได้เสียทีแบบนี้นี่ไง
ไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลง มือใหญ่ดึงบราเซียตัวสวยขึ้นไว้เหนือเนินอก ก่อนก้มหน้าลงสูดกลิ่นกายหอมกรุ่นที่คุ้นเคย ลิ้นร้อนตวัดไล้รัวแรงที่ปลายยอดสีหวานจนมันแข็งเป็นไตสู้ลิ้นเขา ปากร้ายดูดดึงยอดอกเธออย่างหิวกระหายสลับกับลิ้นร้ายที่ตวัดเลียจนทั่วทั้งสองข้าง
“อ๊ายยย หยุดนะ คุณปัถย์ อย่าทำ อื้อ”
อริสาพยายามดิ้นหนี แต่ก็ไม่สามารถสู้แรงเขาได้เลย อีกทั้งร่างกายท่อนล่างของเธอยังถูกเขานั่งทับไว้อีก
เมื่อเขาดูดกลืนความหวานจากหน้าอกเธอจนพอใจแล้ว มือสองข้างของเขาก็ปล่อยเธอให้เป็นอิสระ เขาลุกออกจากการนั่งทับเธอ แล้วจับรูดกระโปรงทรงสอบของเธอขึ้นไปกองไว้ที่เอวคอด ก่อนจับขาทั้งสองข้างของเธอแยกออกจากกว้าง แล้วแทรกตัวเข้าไปอยู่กลางร่างของเธอทันทีอย่างรวดเร็ว
หญิงสาวยันตัวลุกขึ้นแล้วทุบตีบนกายแกร่งไม่ยั้ง แต่สุดท้ายก็โดนเขาผลักอย่างแรงจนหงายหลังนอนลงไปบนที่นอนอีกครั้ง
“ว้ายย ออกไปจากตัวฉัน คุณปัถย์ ปล่อย”
เขาตามาทาบทับลงบนตัวเธอ กักขังไม่ให้เธอได้ดิ้นหนีอีก มือใหญ่ข้างหนึ่งเคล้นคลึงอกอวบของเธออย่างแรงจนหญิงสาวเบ้หน้าอย่างเจ็บปวด
“โอ้ยยย หยุด อย่าทำฉัน คุณทำแบบนี้กับฉันไม่ได้นะ”
“รู้หรอ ว่าผมจะทำอะไร”
ชายหนุ่มก้มลงประกบปากอุ่นของเขาลงบนปากนุ่มนิ่มสีสดของเธอ เขาขบเม้มบดคลึงอย่างไม่เบานัก ก่อนบังคับสอดแทรกเรียวลิ้นเข้าไปกวาดต้อนความหวาน พร้อมทั้งดูดดึงลิ้นเล็กของเธอจนเจ็บแสบไปหมด
“อื้อ อื้อ “
คนตัวบางใต้ร่างพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะทำให้ตัวเองได้รับอิสระ แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่เป็นผลเลย
มืออีกข้างของเขาเลื่อนลงไปตะปบลงบนเนินเนื้ออวบอูมของเธอ เขาส่งนิ้วเข้ากรีดไล้ไปตามรอยแยกของกลีบสาว ก็สัมผัสได้ถึงความฉ่ำชื้นของเธอที่ซึมออกมาจนเปียกชั้นใน
เขาอมยิ้มมุมปากอย่างชอบใจ ก่อนปล่อยปากของเธอให้เป็นอิสระ แล้วลากไล้กึ่งปากกึ่งจมูกไปซุกไซ้ซอกคอหอมจนทั่ว
“อ๊ะ อย่า อย่าทำ อื้อ”
แคว่ก ชายหนุ่มกระชากกางเกงชั้นในผ้าลูกไม้สีดำตัวบางของเธอจนขาดกระจุย เขาไม่มีเวลามาถอดแล้ว เพราะน้ำหวานของเธอที่ฉ่ำเยิ้มจนซึมออกมานั้น เป็นตัวเร่งให้เขาต้องการปลดปล่อยจนสั่นไปหมดทั้งตัว
“อื้มมม ริสา”
ซอกคอที่หอมหวาน หน้าอกที่เต่งตึงนุ่มเด้งสู้มือ ไหนจะกลีบกุหลาบฉ่ำเยิ้มที่นิ้วร้ายของเขากำลังกรีดไล้ลูบคลึงนั้นอีก มันทำให้เขาแทบหลุดการควบคุม ตัวตนใหญ่โตภายใต้กางเกงเนื้อดีดีดดิ้นเรียกร้องขอการปลดปล่อย และเขาก็ตามใจมันทันที
แกนกายใหญ่โตที่เพิ่งถูกงัดออกมา จดจ่ออยู่ที่ปากทางรักฉ่ำน้ำของเธอ เขาขยับสะโพกให้ปลายหัวทู่มนกระแทกกับปากถ้ำเพื่อเล้าโลมเธออีกทาง
ถึงแม้ว่าเธอจะมีอารมณ์ร่วมกับเขามากเพียงใด จิตสำนึกของเธอก็ส่งเสียงตะโกนก้องให้เธอปฏิเสธเขาและหาทางหนีรอดจากสถานการณ์คับขันนี้ให้ได้ ร่างงามยังคงพยายามดิ้นหนีเขาตลอดเวลา
“ปล่อยฉันนะ ไอ้บ้า หยุดเดี๋ยวนี้ อ๊ะ อื้อ”
“แน่ใจหรอว่าจะให้ผมหยุด ร่างกายเน่าๆของคุณมันตอบสนองผมขนาดนี้ เยิ้มไปหมดแล้ว ที่รัก คุณนี่มันร่านจริงๆนะ ริสา”
“ฉันรังเกียจคุณ อย่ามายุ่งกับฉัน ออกไป”
“รังเกียจหรอ ผมเป็นผัวคุณนะ”
ความโกรธเกรี้ยวทำให้เขาหลุดคำที่อยู่ในใจออกมา
“ไม่ใช่ คุณไม่ใช่ผัวฉัน ปล่อยฉันไปเดี๋ยวนี้ ฉันเกลียดคุณ ”
ใบหน้าดุดันก้มลงดูดดึงยอดอกของเธออย่างแรงจนเกิดรอยแดงเป็นจ้ำหลายจุด มืออีกข้างก็บีบขยำสุดแรงจนร่างงามสะดุ้งเฮือกพร้อมกรีดร้องด้วยความเจ็บ ใบหน้างามมีน้ำตาไหลมาอาบแก้ม เธอเจ็บปวดจนต้องร้องไห้สะอึกสะอื้นจนตัวโยน เขาน่ากลัวเหลือเกิน ความโกรธแค้นมันทำให้เขากลายเป็นซาตานไปแล้ว
“โอ๊ยยย เจ็บ ฮือ ฉันเจ็บ หยุด โอ๊ยยยยย ฮือ ฮือ”
“แล้วผมไม่เจ็บหรือไงวะ ริสา ห๊ะ ที่คุณทำ ผมไม่เจ็บหรือไง”
เขาเงยหน้าขึ้นจากหน้าอกของเธอ พร้อมตะโกนก้อง ดวงตาแดงก่ำมีน้ำตาเอ่อคลอ ร่างใหญ่สั่นเทิ้มกำหมัดแน่น ก่อนชกลงบนที่นอนใกล้กับใบหน้าของเธอหลายครั้ง
“โถ่โว๊ยยยยยยยยยยย“
หญิงสาวนอนนิ่งสะอื้นจนตัวโยน เธอปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาไม่ขาดสาย ไม่มีคำพูดและเสียงร้องใดๆออกมาจากปากงามอีกเลย
“โถ่เว้ย”
ร่างใหญ่ลุกขึ้นจากการทาบทับเธอ เขาจัดระเบียบร่างกายตัวเองแบบลวกๆ แล้วยกมือขึ้นเสยผมแรงๆระบายอารมณ์หลายครั้ง ปรายตามามองเธอที่ยังคงนอนสะอื้นอยู่อย่างนั้น ก่อนเดินออกจากห้องไปไม่หันกลับมาสนใจไยดีเธออีกเลย
“ฮือๆๆๆๆ ปัถย์ ทำไมคุณใจร้ายกับริสาแบบนี้ คุณเกลียดริสามากเลยหรอ ฮือๆๆๆ”
เธอนอนร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่บนเตียงนั้นอยู่เป็นนาน ก่อนจะตัดใจลุกขึ้นมาจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่ ไม่ลืมที่จะก้มเก็บกางเกงชั้นในตัวน้อยที่เขาฉีกทึ้งมันจนขาดไม่มีชิ้นดี แล้วค่อยๆเดินกลับห้องของเธอไปอย่างไร้เรี่ยวแรง