สมาชิกใหม่
"ดูตาหนูสิคะคุณ น่ารักน่าชังซะจริงๆ มามะขอย่าอุ้มหน่อย"
"ตาหนูชื่ออะไรตั้งชื่อหรือยังชรินทร์"
"ผมกับฤดีตั้งชื่อให้ตาหนูเรียบร้อยแล้วครับคุณพ่อ"
"ชื่ออะไรล่ะ"
"น่านฟ้าค่ะคุณพ่อ"
"น่านฟ้างั้นเหรอ....อืมมมชื่อดีมีความหมายเพราะบ้านเราทำธุรกิจสายการบินเหมาะสมแล้วกับชื่อนี้"
"ว่าไงครับน่านฟ้าของย่า"
"มีลูกเป็นของตัวเองสักทีนะแม่ฤดี พ่อชรินทร์ แม่นึกว่าชาตินี้เราจะไม่มีหลานให้แม่อุ้มซะแล้ว แต่งงานกันมาจะสิบปี"
"ค่ะคุณแม่ฤดีเองก็ดีใจมากที่ในที่สุดก็มีตาหนู"
ตอนนี้ทุกคนในบ้านกำลังดีใจและสนใจสมาชิกใหม่ของบ้านที่เพิ่งออกจากโรงพยาบาลมาถึงบ้านโดยที่ไม่รู้เลยว่ามีเด็กหญิงตัวน้อยวัยสี่ขวบกำลังแอบมองอยู่ตรงมุมหนึ่งของบ้าน เธอชะเง้อมองเด็กชายตัวน้อยที่ได้ชื่อว่าเป็นน้องชายของเธอ เธออยากจะเข้าไปดูหน้าน้องใกล้ๆ แต่....
หนึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้...
"ถ้าหลานฉันมาถึงบ้านแกไม่ต้องเสนอหน้าออกไปนะ เข้าใจที่ฉันพูดไหม"
"เข้าใจค่ะคุณย่า" เด็กหญิงตอบกลับไปด้วยความยำเกรงและหวาดกลัวคนตรงหน้า
"ฉันสั่งฉันสอนว่ายังไงว่าถ้าต่อหน้าฉันห้ามเรียกฉันว่าคุณย่าเพราะฉันมีหลานชายเพียงแค่คนเดียว จำเอาไว้นังเด็กเก็บมาเลี้ยง"
"ฮือออ ฮือออ " เด็กหญิงแอบมานั่งร้องไห้คนเดียวอยู่ในสวนหลังบ้าน เธอนั่งกอดตุ๊กตาตัวโปรดตัวเดียวที่เธอมีและเธอก็รักมันมากเพราะมันเป็นตัวแทนของพ่อกับแม่แท้ๆ ของเธอที่ท่านซื้อให้ก่อนจะนำเธอทิ้งมาไว้ที่หนเาสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเมื่อสามปีก่อน
หน้าสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า.....
ตอนนั้นเธออายุเพียงหนึ่งขวบครึ่งพ่อกับแม่พาเธอมาทิ้งไว้ตรงหน้าประตูแม่บอกว่าให้เธอเดินเข้าไปข้างในและให้เธออยู่ที่นี่ไปก่อนถ้ามีเงินแม่กับพ่อจะมารับตอนนั้นเธอจำได้ว่าเธอยืนร้องไห้อยู่ตรงนั้นท่ามกลางสายฝนที่เทกระหน่ำลงมาอย่างไม่ขาดสาย เธอร้องเรียกพ่อกับแม่แต่ท่านทั้งสองไม่ยอมหันกลับมาหาเธอจนท่านลับตาไป เธอในตอนนั้นจึงทำได้แค่เดินเข้าไปข้างในตามที่แม่บอกได้บอกไวเโดยที่เธอไม่รู้เลยว่าที่นี่คือที่ไหน
และตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาเธอก็อยู่ที่สถานกำพร้ามาตลอดรอคอยวันที่พ่อกับแม่จะมารับแต่ก็ไร้วี่แวว จนเวลาผ่านไปเป็นปีก็มีคนใจดีมาขอรับอุปการะเธอไปเป็นลูก ท่านทั้งสองบอกว่าท่านไม่มีลูกเลยอยากรับเด็กไปเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรมและเธอคือคนที่ถูกเลือก ท่านบอกว่าท่านรู้สึกถูกชะตากับเธอเป็นอย่างมาก ในตอนนั้นเธออายุเพียงสามขวบเท่านั้น แม้ว่าเธอไม่อยากไปจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งนี้ก็ตามเพราะเธอกลัวว่าพ่อกับแม่ของเธอจะมารับแล้วไม่เจอ แต่แม่ครูท่านก็บอกว่าถ้าพ่อกับแม่ของเธอมารับท่านจะไปรับเธอกลับมา เพราะเหตุนี้เธอจึงได้ย้ายออกมาจากที่นั่นมาอยู่ยังคฤหาสหลังใหญ่โตในฐานะลูกบุญธรรมของเจ้าของบ้าน นั่นก็คือคุณพ่อชรินทร์กับคุณแม่ฤดี
เธออยู่ที่นี่แม้จะไม่ลำบากเหมือนอยู่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแต่เธอก็ไม่เคยลืมว่าตัวเองเป็นใครมาจากไหนอยู่ในฐานะอะไรแม้ว่าทุกคนที่บ้านนี้จะรักและดีกับเธอ แต่จะมีเพียงคนนึงที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่าเกลียดเธอตั้งแต่วันแรกที่เธอเข้ามาในบ้านหลังนี้นั่นก็คือคุณหญิงกัลยาซึ่งลงมีศักดิ์เป็นคุณแม่ของพ่อชรินทร์พ่อบุญธรรมของเธอ ซึ่งเธอจะเรียกว่าคุณย่าก็ต่อเมื่ออยู่ต่อหน้าทุกคนเท่านั้นแต่ถ้าลับหลังคุณพ่อกับคุณแม่ คุณหญิงกัลยาจะห้ามให้เธอเรียกแบบนั้น แต่คุณหญิงกัลยาท่านไม่ได้อยู่ที่บ้านหลังนี้ นานๆ ท่านจะแวะมาสักครั้งหนึ่งเท่านั้น และทุกครั้งที่ท่านมาเธอจะต้องคอยหลบหน้าไม่ให้ท่านเจอเพราะเธอกลัวสายตาที่ท่านมองมาที่เธอ