4
“ก็เรากำลังกินข้าวกันอยู่”
“ทำยังกับไม่เคยกินกันตอนกินข้าว” เขาย้อนและสอดมือเขาไปในแพนตี้ตัวน้อย ขยุ้มเนินสาวอวบอูม ก่อนจะแทรกนิ้วกลางยาวเหยียดเข้าในร่องหยาดเยิ้ม
“อื้ม...” พริมาหลุดเสียงครางออกมาเมื่อนิ้วแกร่งของเขาเสียดสีกับร่องหยาเยิ้มของเธอ
แรงมือของเขาที่ล้วงลึกเข้ามาทำให้เธอเสียวซ่านเกินทน จนต้องหลุดเสียงครางออกมาไม่ขาดสาย
“คืนนี้จัดเต็ม ได้ไหม” เขาถามแต่ไม่ได้รอฟังคำตอบ ซอยนิ้วเข้าออกในซอกทางรักจนหยาดเยิ้ม
เธอโยกสะโพกตามนิ้วของเขาพลางขย่มเข้าหากันจนเสร็จสม ก่อนน้ำหวานจะไหลเยิ้มอาบนิ้วแกร่งท่วมท้น
เขาดึงนิ้วออกมาดูดดึงเบา ๆ กลิ่นรสของเธอช่างหอมหวานและทำให้เขารุ่มร้อนเหลือประมาณ
เขาจับเธอนั่งบนเก้าอี้ก่อนจะนั่งลงไปตรงหน้าของเธอ จับขาเพรียวสวยของเธอพาดไปกับบ่ากว้าง ก่อนจะกวาดลิ้นปาดเลียร่องหยาดเยิ้มที่ชุ่มโชกไปด้วยน้ำรักผ่านแพนตี้ตัวน้อยสีหวาน
“อื้ม... เฮียเถื่อนคะ” เธอจิกมือสอดเข้าไปในกลุ่มผมดกหนาของเขา ริมฝีปากน้อยหลุดเสียงครวญครางออกมาแทบไม่เป็นภาษา ร่างกายของเธอสั่นระริก ขาที่พาดอยู่กับบ่าสั่นระริก เขาขยำสะโพกผายของเธอ ดันให้ร่องสาวแนบชิด เพื่อดูดเลียความหยาดเยิ้มนั้นอย่างถึงใจ
เธออ้าปากร้องครางไม่ขาดปากก่อนที่จะเสร็จคาลิ้นของเขา ลิ้นสากร้อนลามเลียดูดรัดรวบกลืนจนติ่งสวาทสั่นระริก ร่างกายของเธออ่อนแรงแทบรูดลงไปกองอยู่กับพื้น รับรู้ได้ถึงร่างน้อยที่ถูกอุ้มขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะถูกกดลงไปบนตักแกร่งของเขา และความเป็นชายก็เข้ามาสอดเสียบสวมครอบเธอเอาไว้อีกครั้ง
“อื้อ... เฮียคะ สะ... เสียมากเลยค่ะ” เธอร้องบอกเขาเสียงสั่นระริก โอบกอดคอหนาของเขาเอาไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง อีกข้างจิกไปกับโต๊ะรับประทานอาหาร ก่อนที่ร่างน้อยของเธอจะโยกคลอนไปตามแรงกระแทกกระทั้นของเขา
ความหยาดเยิ้มเข้าสวมครอบร่างกายของเขา ชโลมไล้ให้ความเป็นชายสอดเสียบเข้าออกได้อย่างล้ำลึกมากยิ่งขึ้น ก่อนที่ทุกอย่างจะดำเนินไปถึงลำนำสวาทที่กำลังรอคอยอยู่เบื้องหน้า
เธอหอบหายใจระรัว เมื่อถูกอุ้มแตงพาไปยังเตียงนอนกว้าง ไม่นานเตียงใหญ่ก็ไหวสะท้านด้วยบทรักเร่าร้อนตลอดค่ำคืน
พริมาปรือตาตื่นขึ้นมาก็พบว่าตนเองนอนอยู่เพียงลำพัง เธอได้รับข้อความจากโทรศัพท์มือถือ จึงเปิดอ่าน พบว่าเป็นเงินที่โอนเข้ามาจำนวนห้าหมื่นบาทจากเถื่อน
“เฮียกลับทำไมไม่บอกพรีมล่ะคะ” เธอโทร. ไปถามเขาอย่างน้อยใจ
“เห็นนอนหลับสบายเลยไม่อยากปลุก”
“เฮียโอนเงินให้พรีมทำไมคะ”
“บอกว่าจะรับปริญญาไม่ใช่เหรอ”
“ใช่ค่ะ”
“เป็นค่าใช้จ่ายตอนรับปริญญา”
“ขอบคุณค่ะ” เขาพร้อมเปย์เสมอ พริมาถึงกับยิ้ม เธอไม่ต้องเอ่ยปากเขาก็ทราบความต้องการของเธอ
“ไม่พอก็ขอเพิ่มได้นะ”
“พอเยอะแยะไปค่ะ วันรับปริญญาของพรีม เฮียอย่าลืมมานะคะ” เธอบอกเขาอย่างตื่นเต้น อยากให้เขามาจริงๆ
“ถ้าว่างนะ” ประโยคนั้นทำให้เธอใจแป้วเล็กน้อย แต่ก็ปลอบใจตัวเองว่าเขาเองก็มีงานเยอะและค่อนข้างยุ่ง ถ้าเขาไม่ว่างก็ค่อยฉลองกันวันหลังก็ได้
ไม่ใช่เธอจะไม่รู้ว่าเถื่อนมีผู้หญิงมากมายรอบกาย เขาไม่เคยขาดแคลนผู้หญิง แค่ว่าเธอเป็นปิ่นโตเถาเดียวที่เขากินนานที่สุด แต่ลึกๆ เธอก็หวั่นใจว่าเขาจะเบื่อและตีจากในเร็ววัน ไปหาปิ่นโตเถาใหม่ที่น่ากินและอร่อยกว่า
เคยคิดเสมอว่าอยากเป็นปิ่นโตเถาเดียวให้เขากินไปตลอดชีวิต แต่คนแบบเถื่อนมีตัวเลือกมากมาย เขาคงไม่ลงเอยที่ใครง่ายๆ พอคิดเรื่องนี้ก็ทำให้พริมาหัวใจห่อเหี่ยวทุกครั้ง
พริมาได้รับไลน์จากกลุ่มเพื่อนสนิทของเธอ ก่อนที่จะอาบน้ำแต่งตัวออกไปข้างนอกเพื่อจัดการกับเรื่องรับปริญญาในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ก่อนรับจริง จะมีการซ้อมใหญ่ก่อน และหลังจากนั้นก็จะกำหนดพระราชทานปริญญาบัตร ซึ่งห่างกันไม่มากนัก
ทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดี เมื่อมาถึงวันรับปริญญาพริมาก็ชะเง้อคอมองเถื่อนแต่ก็ไร้เงาของเขา
"มองหาใครอยู่เหรอพรีม" เพื่อนๆ เอ่ยถามเมื่อเห็นว่าพริมาเอาแต่ชะเง้อคอมองหาใครอยู่ ในขณะที่เพื่อน ๆ กำลังถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนาน
“ไม่มีอะไรจ้ะ”
“สงสัยจะชะเง้อคอมองหาเฮียเถื่อนแหง ๆ จะถามอยู่ว่าวันนี้เขาไม่มาเหรอ” นาราซึ่งเป็นเพื่อนสนิทเอ่ยถาม
“เฮียบอกว่าถ้าว่างจะมา แต่เฮียงานยุ่งมาก บางทีอาจจะไม่ว่างก็ได้” คนพูดเสียงเศร้าลงไปถนัดตา
“เฮียเถื่อนนี่สาวเยอะมากเลยนะ มีข่าวกับสาว ๆ ไม่เว้นแต่ละวัน แล้วเขาจริงจังกับเธอแค่ไหนกันเหรอ” นาราเอ่ยถามตรงๆ เพราะเป็นห่วงเพื่อน ด้วยว่าคบกันมานานหลายปีแล้ว
เธอเห็นข่าวของเถื่อนออกบ่อย หัวข้อข่าวคือเจ้าของไร่หนุ่มหล่อและโสดยังไม่มีสาวมาดูแลหัวใจแต่ตอนนี้กลับไปไหนมาไหนกับลูกสาวทายาทเจ้าของไร่คนดังของจังหวัดที่กำลังคบหาดูใจกันอยู่
“พรีมก็ไม่รู้เหมือนกัน เฮียแค่คบกับพรีมนานกว่าคนอื่นก็แค่นั้นเอง” พริมาเอ่ยตอบแล้วรู้สึกเจ็บลึกในอก เธอเป็นได้แค่ไหนในหัวใจของเขา เธอเองก็ไม่รู้เหมือนกัน อาจเพราะเถื่อนให้ข่าวเสมอว่าเขาโสดและยังไม่มีเจ้าของหัวใจ ทำให้สาวน้อยสาวใหญ่อยากครอบครองเขาด้วยกันแทบทั้งนั้น
“ขอโทษนะที่ทำให้คิดมาก”
“ไม่หรอกเราชินเสียแล้ว”
“รีบเข้าหอประชุมกันเถอะ จะเริ่มพิธีแล้ว” ประโยคของนาราทำให้พริมมาจำต้องเดินตามเพื่อนเข้าไปในหอประชุม และฝากกระเป๋ากับอุปกรณ์สื่อสารทุกชนิดเอาไว้กับพี่สาวของนารา
เถื่อนที่มองหญิงสาวมาแต่ไกลล้วงมือเข้าไปในกระเป๋า เขามาทันได้เห็นเธอก่อนเข้าหอประชุม เพราะยุ่งมาหลายวัน ต้องเคลียร์งานให้เสร็จถึงจะมาหาเธอได้
ทำไมเขาจะจำไม่ได้ว่าวันนี้เป็นวันรับปริญญาของเธอ ที่หายไปหลายวันเพราะต้องการเคลียร์ทุกอย่างให้เรียบร้อย เพื่อที่จะได้มางานรับปริญญาของเธอและมีเวลาอยู่กับเธอตลอดวัน
พริมาได้รับเกียรตินิยมอันดับหนึ่งเพราะเธอตั้งใจเรียนและเรียนเก่งมาก ทำให้เธอได้รับปริญญาเป็นอันดับต้น ๆ ของคณะ และนักศึกษาคนอื่นที่จะรับปริญญาก็จะถูกเรียงชื่อตามลำดับตัวอักษรใครมีพยัญชนะตัวแรก ๆ ก็จะได้รับก่อน ใครพยัญชนะตัวท้าย ๆ ก็ได้จะรับเป็นคนสุดท้าย ยกเว้นเกียรตินิยม ไม่ว่าจะขึ้นต้นด้วยพยัญชนะตัวใดก็จะได้รับก่อนเสมอ
บัณฑิตทุกคนทยอยกันออกมาจากหอประชุมของทางมหาวิทยาลัยหลังจากรับปริญญาเรียบร้อยแล้ว
พริมาชะงักเท้าเมื่อเห็นร่างสูงโดดเด่นหล่อเหลากำลังยืนอยู่เบื้องหน้าของเธอ ในมือของเขาถือช่อดอกไม้ช่อใหญ่เอาไว้ ในขณะที่กำลังเดินมาหาเธอ
“เฮีย” เธอเรียกชื่อเขาด้วยรอยยิ้ม น้ำตาแทบรินไหล ดีใจที่เขามาจนได้
“ยินดีด้วยนะ” เขายื่นช่อดอกไม้ให้เธอ เธอรับไปถือเอาไว้ ก่อนจะกล่าวขอบคุณ
“ขอบคุณค่ะ เอ๊ะ! นี่อะไรคะ” เธอมองกุญแจรถยนต์ในช่อดอกไม้อย่างแปลกใจ ก่อนจะหยิบมันขึ้นมาดู
“ของขวัญสำหรับบัณฑิตใหม่” ประโยคของเขาทำให้เธอยิ้มกว้างหัวใจพองโตคับอก
รถยนต์คันเล็กน่ารักแต่ราคาแพงลิ่วเหมาะกับบัณฑิตเพิ่งจบใหม่วิ่งมาเทียบลงตรงหน้าของเธอ นั่นทำให้พริมาตื่นเต้นไม่น้อย เธอเคยคิดว่าจะทำงานเก็บเงินซื้อรถสักคัน แต่ไม่คิดว่าเถื่อนจะเซอร์ไพร้ส์ซื้อให้เธอแบบนี้
ลูกน้องของเถื่อนคำนับให้เจ้านายก่อนจะส่งกุญแจรถสำรองให้ รถคันเล็กแต่ราคาแพงลิ่วตรงหน้าสีสันถูกใจพริมายิ่งนักเพราะเธอชอบสีแดง ทำให้เธอต้องเดินเข้าไปลูบไล้เบา ๆ