1
ณ ไร่ อันกว้างใหญ่ไพศาล ร่างสูงสง่าของเถื่อน อภิกานต์ กำลังควบม้าพันธุ์ดีสีดำสนิทมุ่งตรงมายังกลุ่มของหนุ่มหล่อที่กำลังนั่งจิบไวน์กันอย่างออกรสเพื่อชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงามตรงริมหน้าผาที่มองเห็นภูเขาสูงเสียดฟ้า และวิวทิวทัศน์อันสวยงามของสวนดอกไม้นานาพันธุ์
น้อง ๆ ของเถื่อนทุกคนกำลังรอพี่ชายคนโตเหมือนเช่นเคย ทั้งหมดเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน เพราะบิดาของแต่ละคนเป็นพี่น้องที่คลานตามกันมา ซึ่งตระกูลอภิกานต์มีลูกชายสี่คน หลังจากแต่งงานก็มีลูกชายอีกครอบครัวละคน
เถื่อนหรือเฮียเถื่อน พันพงศ์ อภิกานต์คือพี่คนโต รองจากนั้นคือปืน พันไท อภิกานต์ น้องคนที่สามคือเสือ พันหาญ อภิกานต์และสิงห์ พันแสน อภิกานต์ น้องสุดท้องของตระกูลที่อายุห่างกันเพียงแค่ปีเศษ
เถื่อนลงมาจากหลังม้าด้วยท่วงท่าสง่างาม พร้อมด้วยบรรดาน้อง ๆ ที่เอ่ยทักทายพี่ชายด้วยรอยยิ้ม
“ม้าตัวใหม่ของเฮียนี่โคตรสวยเลย” ปืนมองม้าสีดำสนิทที่เถื่อนเพิ่งได้มาครอบครองและตั้งชื่อว่าเจ้านิลอย่างสนใจ
เถื่อนเป็นพี่ใหญ่สุดของตระกูล ปีนี้อายุสามสิบเก้า ในขณะที่ปืนอายุสามสิบเจ็ด เสืออายุสามสิบห้า และน้องคนเล็กอายุสามสิบสามตามลำดับ
“เจ้าหมอกก็สวย เฮียเลือกกับมือเลยนะ” หมอกคือม้าสีขาวสวยของปืนที่เถื่อนซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดแก่น้องชายเมื่อปีที่แล้ว
“เฮียใจดีกับพวกเราเสมอ” เสือนึกถึงม้าสีน้ำตาลเข้มของตัวเองที่พี่ชายมอบให้เป็นของขวัญวันเกิดไม่ต่างจากพี่ชายคนรองแล้วเผลอยิ้มออกมา น้อง ๆ ทุกคนได้ม้าเป็นของขวัญวันเกิดเมื่อปีที่แล้วจากเฮียเถื่อน
ส่วนน้องคนเล็กอย่างสิงห์ได้ม้าสีน้ำตาลลายขาว เท้าทั้งสี่มีถุงเท้าเป็นสีขาว ด้านหลังมีสีขาว ลำตัวเป็นสีน้ำตาล เป็นม้าที่มีลวดลายแปลกตาและสง่างามมาก
ร่างสูงสง่าของเถื่อนเดินมาทรุดนั่งลงข้าง ๆ กับน้องชายทั้งสาม ในแต่ละสัปดาห์หรือแต่ละเดือน ทุกคนจะพบปะพูดคุยและสังสรรค์กันตามประสาพี่น้อง ใครมีเรื่องเดือดร้อนหรือต้องการความช่วยเหลืออะไร พี่น้องทุกคนจะเข้าช่วยเหลือในทันที
“ปีนี้พรีมก็จะเรียนจบแล้วใช่ไหมเฮีย” สิงห์เอ่ยถามพี่ชาย พริมา หรือพรีม โภควิชย์คือสาวน้อยนักศึกษาสาวที่พี่ชายของเขาผูกปิ่นโตเอาไว้ตั้งแต่ปีหนึ่ง พี่ชายของเขามีผู้หญิงเข้าหามากมาย มีให้เลือกควงไม่ซ้ำหน้า แต่พริมาเป็นผู้หญิงคนเดียวที่พี่ชายของเขาคบนานที่สุด และเลี้ยงดูกันมานานหลายปีอย่างไม่น่าเชื่อ
“ถามถึงพรีมทำไม” เถื่อนหรี่ตามองน้องชาย เขายอมรับว่าค่อนข้างหวงพริมาเอามาก ๆ อาจเพราะเธอเป็นสมบัติชิ้นโปรดของเขานั่นเอง
“ก็จะเรียนจบแล้ว เฮียจะเอายังไงต่อไปครับ” สิงห์ยังเอ่ยถามอย่างสนใจ ด้วยว่าพริมาเป็นหญิงสาวที่สวย น่ารัก เธอมีคุณสมบัติของการเป็นภรรยาที่ดี หากพี่ชายของเขาจะสละโสดกับพริมา ทุกคนก็ลงความเห็นว่าดี เพราะพริมาสามารถทนอารมณ์ร้าย ๆ ของเถื่อนได้ดี และใจเย็นเสมอเวลาเถื่อนโมโห
“จะยังไงต่อคือยังไงวะ ไม่เห็นเข้าใจ”
“เฮียคิดยังไงกับพรีมเหรอ คบกันมาตั้งนาน ผมอยากรู้เลยถามไง เฮียก็รู้ว่าผมเป็นคนตรง ๆ” น้องเล็กสุดเอ่ยถาม ถ้าเถื่อนจะทิ้งพริมาในตอนนี้ก็น่าเสียดายแย่ ผู้หญิงที่จะอยู่กับพี่ชายของเขาได้นานขนาดนี้หายากเหลือเกิน
เขายังอยากให้พี่ชายเป็นฝั่งเป็นฝามีครอบครัวที่ดี เพราะเถื่อนก็อายุมากขึ้นทุกปี
“ไม่ได้คิดอะไร ก็แค่...” เถื่อนชะงักเมื่อต้องเอ่ยคำจำกัดความที่เขามีให้แก่หญิงสาวนามว่าพริมา
“ที่นึกไม่ออกเพราะเฮียชอบพรีมหรือเปล่า” ประโยคของสิงห์น้องชายคนเล็กทำให้เถื่อนนิ่งอึ้งไป ก่อนจะปฏิเสธออกมา
“เฮียไม่เคยรักผู้หญิงคนไหน โดยเฉพาะผู้หญิงคนนั้นเป็นแค่ปิ่นโตเถาสวยที่ผูกเอาไว้กินเวลาหิวเท่านั้น” คำตอบของพี่ชายทำให้สิงห์ถอนใจเฮือกใหญ่ เขายอมรับว่าเอ็นดูพริมาเหลือล้น
ชีวิตของพริมาน่าสงสาร หล่อนมีครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์ ปากกัดตีนถีบ ทำงานไปส่งเสียตัวเองไป จนได้เจอกับเถื่อน เถื่อนจึงรับเลี้ยงดูผูกปิ่นโตและส่งเสียให้พริมาเรียนจนใกล้จะจบแล้ว
“ระวังจะมีคนคาบไปกินนะเฮีย จะมีผู้หญิงสักกี่คนที่ทนเฮียได้” ปืนเองก็เห็นด้วยกับน้องชายคนเล็ก
“เฮียไม่เคยคิดเรื่องการแต่งงานมีครอบครัว อยู่กันไปแบบนี้ไม่วุ่นวายใจดี แต่งงานกันแล้วก็เปลี่ยนสถานะจากผู้หญิงธรรมดาเป็นแม่เป็นเมีย ผู้หญิงชอบจุกจิกจู้จี้ไร้สาระ” เถื่อนยกแก้วไวน์ขึ้นมาจิบเบา ๆ เห็นครอบครัวคนรอบข้างที่มีเมียแล้วแลดูวุ่นวาย ไร้ความสุข มีแต่เรื่องทะเลาะเบาะแว้ง หึงหวงหวาดระแวง คงสถานะไว้แบบนี้เขาว่ามันดีที่สุดแล้ว อีกทั้งชีวิตครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์ของตัวเอง และเคยโดนคนรักทรยศหักหลัง นั่นทำให้เถื่อนไม่อยากผูกมัดกับผู้หญิงคนไหนอีก
“เฮียก็พูดถูก ไม่มีพันธะสบายใจ แต่ถ้าใช่ก็ควรจะรีบคว้าเอาไว้นะเฮีย ถ้ามีผู้ชายคนอื่นที่ดี ๆ มาให้พรีมเลือก แล้วเขาเกิดเลือกขึ้นมา เฮียจะทำไงเหรอ” เสือเอ่ยถามพี่ชาย ด้วยว่าหากเป็นเขา รักก็คือรัก ชอบก็คือชอบ ไม่มีทางปล่อยให้ผู้หญิงที่รักหลุดมือไปอย่างเด็ดขาด
“เขาไม่มีวันเปลี่ยนใจไปชอบคนอื่นหรอก” เถื่อนพูดอย่างมั่นใจ คนปากหนักทำเอาน้องชายทั้งสามมองสบตากัน แล้วพูดในใจว่าจะคอยดู
เถื่อนขับรถเข้าเมืองไปรับพริมาในเย็นของอีกวันหนึ่ง ร่างบอบบางในชุดนักศึกษารีบเดินมาขึ้นรถที่จอดรออยู่ เธอจำรถคันหรู ราคาแพงลิ่วของเขาได้ดี
“รอนานไหมคะเฮีย” พริมาเอ่ยถาม ก่อนจะยิ้มหวานส่งมาให้เขา
“นาน” เขาตอบสั้น ๆ ก่อนจะจิ้มที่แก้มของตัวเอง ทำให้เธอต้องมองซ้ายมองขวาเพราะกลัวใครเห็น
“ไม่มีใครเห็นหรอกน่า รถติดฟิล์มทึบขนาดนี้” สิ้นประโยคของเขาเธอก็ขยับใบหน้าเข้าไปใกล้ก่อนจะหอมแก้มเขาฟอดใหญ่
มือหนาของเถื่อนเลื่อนมาลูบไล้มือนิ่มของพริมาเบา ๆ ก่อนจะยกขึ้นมาจุมพิตแล้วใบหน้าคมเข้มหล่อเหลาก็ขยับเข้าหา ทำท่าจะจูบเธอ
“เฮียคะ อย่าค่ะ นี่มันหน้ามหาวิทยาลัยนะคะ” เธอดันปลายคางของเขาออกห่าง แต่มือหนาก็ล้วงเข้าไปในกระโปรงสั้นของเธอเพื่อสัมผัสกับกลีบกายสาว
“เฮียคะ”
“เยิ้มขนาดนี้ มีอารมณ์เหรอ” น้ำเสียงของเขาแหบพร่า ใบหน้าเต็มไปด้วยความกระหาย เขากัดปากเบา ๆ ทำเอาหัวใจของพริมาสั่นไหวอย่างรุนแรง
“คืนนี้เฮียค้างด้วยนะ”
“คอนโดของเฮียนี่คะ เฮียจะนอนหรือไม่นอนก็ได้ พรีมเป็นแค่คนอาศัยเอง” เธอชะงักเมื่อเขายื่นเอกสารมาตรงหน้า
“อะไรเหรอคะ”
“เปิดดูสิ” เถื่อนควบรถกลับคอนโดฯ อย่างเร็วรี่ เขายอมรับว่าหิวร่างน้อยแสนหวานนี้เหลือเกิน
พริมาเปิดเอกสารด้านในออกดูก่อนที่เธอจะตาโต มองซีกหน้าหล่อเหลาของคนที่กำลังตั้งใจขับรถอย่างตกตะลึง
“ของไหมของขวัญของเฮีย”
“เฮียโอนคอนโดเป็นชื่อของพรีมเหรอคะ”
“เป็นของขวัญที่ตั้งใจเรียนจนใกล้จบแล้ว” ประโยคของเขาทำให้เธอตื้นตันใจยิ่งนัก ที่เธอเรียนจบได้เพราะเถื่อน ค่าเทอมกับค่าใช้จ่ายในการเรียนทุกอย่างเขาเป็นคนออกให้ เถื่อนเป็นคนสปอร์ต พร้อมเปย์ และรวยมาก เขามีเงินมากมายที่จะทำอะไรก็ได้ ในขณะที่เธอยากจนเหลือแสน ทำงานปากกัดตีนถีบกว่าจะมีเงินเอาไว้ใช้จ่ายแต่ละบาทแต่ละสตางค์