ตอนที่ 4 ตัดใจ
ตอนที่ 4 ตัดใจ
หญิงสาวกลับมาที่บ้านก็เอาแต่ขลุกตัวอยู่ในห้องนอนของตัวเอง เธอร้องไห้แทบใจแตกสลายกับคำพูดที่แสนไร้เยื่อใยของมังกร พี่ชายแสนดีที่เธอแอบรัก นับวันมังกรก็เริ่มเปลี่ยนไปไม่ใจดีเหมือนแต่ก่อน ไม่สนใจไยดีอะไรเธอเลยที่ผ่านมาเขาคงรำคาญเธอมาก คงไม่อยากเห็นหน้าเธออีกแล้ว
“ฮึกฮือ คนใจร้าย คอยดูนะต่อไปผิงจะไม่สนใจเฮียอีก” เธอพูดออกมาด้วยน้ำตาของความน้อยใจ ถึงแม้มันจะไม่ง่ายที่จะลืมอีกฝ่ายแต่เธอจะพยายามในเมื่อเขาไม่ต้องการความรักของเธอ เธอก็จะพยายามตัดใจจากเขาให้ได้
หลายวันผ่านไป
ผิงผิงเอาแต่เก็บตัวอยู่ในห้อง ในช่วงนี้เธอไม่ต้องไปโรงเรียนจึงทำให้อยู่แต่บ้าน รอถึงวันมอบตัวที่มหาวิทยาลัย พอนึกถึงเรื่องที่เธอต้องไปเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกับชายหนุ่มคนตัวเล็กก็ถอนหายใจออกมา ก่อนหน้านั้นเธอใฝ่ฝันที่จะเข้ามหาวิทยาลัยแห่งนี้เพราะต้องการที่อยากจะเรียนที่เดียวกับคนที่เธอแอบรัก แต่ในตอนนี้เธอกลับไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นแล้วเพราะอีกฝ่ายนอกจะไม่รับความรักของเธอเขายังผลักไสเธออีกด้วย แต่พอมาคิดอีกใจหนึ่ง มหาวิทยาลัยกว้างใหญ่ขนาดนี้บางทีเธอคงไม่ได้เจอผู้ชายใจร้ายคนนั้นบ่อยนักหรอก
“ผิง ลงมากินข้าวได้แล้วลูก” เสียงหญิงวัยกลางคนเรียกบุตรสาวให้ลงมาทานข้าว เธอรับรู้ถึงความผิดปกติของคนเป็นลูกแล้วก็รู้ดีด้วยว่าที่เป็นแบบนี้มันเพราะอะไร เธอรู้สึกสงสารแต่ก็นั่นแหละมันคือสิ่งที่คนเราต้องพบเจอทุกเรื่องมันไม่มีหรอกที่จะสมหวังไปทั้งหมด เธอก็หวังว่าความผิดหวังในครั้งนี้จะสอนให้ลูกเธอมีภูมิคุ้มกันมากขึ้น
“เฮ้อ แม่รู้นะว่าลูกเสียใจแต่แม่เห็นลูกเป็นแบบนี้แม่ก็ไม่สบายใจ” บัวพริ้งพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใยลูกสาวหลังจากที่คนเป็นลูกลงมาจากห้องเพื่อมาทานข้าวเย็น
คนตัวเล็กได้ยินคำพูดมารดาก็เม้มริมฝีปากเข้าหากัน เธอรู้ว่าในตอนนี้ครอบครัวของเธอเป็นห่วงมากแค่ไหน เธอเองก็พยายามที่จะตัดใจและทำใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่มันก็ไม่ง่ายเลยสักนิดเพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอเอาแต่วิ่งตามมังกรรักแต่ผู้ชายคนนี้ มันจึงไม่ง่ายที่เธอจะทำใจไม่ให้รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“ฮึก ผิงเสียใจค่ะแม่ เฮียมังกรไม่คิดที่จะรักผิงเลย ไล่ผิงอย่างกับหมูกับหมาอีกด้วย” ผิงผิงร้องไห้ออกมา ยิ่งถึงคำไล่ของอีกคนหญิงสาวก็ยิ่งน้อยใจ
“เฮ้อ ผิงของแม่ยังอายุแค่นี้ ในอนาคตต้องพบเจอผู้คนอีกมากมาย ไม่ต้องร้องไห้ แม่อยากเห็นผิงผิงที่สดใสคนเดิมของแม่” นางบัวพริ้งดึงลูกสาวเข้ามากอดพร้อมกับลูบหลังอย่างปลอบใจ
อีกด้านในเวลาเดียวกัน
วันนี้เป็นวันเสาร์ในตอนแรกชายหนุ่มคิดว่าคงไม่กลับมานอนบ้านแต่ไม่รู้อะไรเหมือนกันทำให้เขาตัดสินใจขับรถกลับมานอนบ้านในคืนนี้ นับตั้งแต่วันนั้นวันที่เขาไล่คนตัวเล็กไป ผิงผิงก็ไม่ได้โทรมาหาหรือทักข้อความมาตอแยเหมือนที่เคยทำเลย เมื่อก่อนถึงแม้คนตัวเล็กจะทักมาแต่ทว่าชายหนุ่มไม่เคยคิดตอบหรืออ่านข้อความ แต่พอเห็นหญิงสาวเงียบหายไปเลยเขาจึงรู้สึกแปลก ๆ ขึ้นมา
“อ้าวลูกทำไมถึงมาค่ำนักล่ะ?” เจ๊เกียงถามบุตรชายเมื่อรถเก๋งของลูกชายเลี้ยวเข้ามาจอดที่บ้าน ปกติแล้วถ้าลูกชายของเธอจะกลับมานอนบ้านก็มักจะมาช่วงเย็นของวันศุกร์ไม่ก็เช้าของวันเสาร์ไม่ใช่ตอนเย็นของวันเสาร์แบบนี้
“คิดถึงแม่ไงครับ เลยอยากกลับมากินข้าวด้วย” คำพูดของผู้เป็นลูกทำให้หญิงวัยกลางคนมองอย่างไม่เชื่อ เธอเลี้ยงมากับมือมีหรือที่จะมองไม่ออก
“ให้มันจริงเถอะ ไม่ใช่คิดถึงใครแถวนี้”
“ไม่มีหรอกครับ ผมคิดถึงแม่แค่คนเดียวคนอื่นไม่เคยอยู่ในหัว”
“จ้า แม่จะเชื่อก็แล้วกันแต่ต่อไปลูกก็คงไม่ต้องทำหน้าเบื่อแบบนี้หรอก”
“ทำไมครับแม่” คำพูดคำมารดาทำให้ชายหนุ่มเอ่ยถามออกไป
“อ้าว ก็ตั้งแต่เหตุการณ์ในวันนั้นหนูผิงก็ไม่เคยมาที่นี่อีกเลย เอาแต่เก็บตัวอยู่ที่บ้าน เฮ้อ เป็นแบบนี้ลูกคงพอใจแล้วใช่ไหม”
“ก็ดีครับ ไม่รำคาญหูดี” มังกรพูดตอบออกไปด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง เป็นแบบนี้เขาควรจะรู้สึกดีใจไม่ใช่เหรอแต่ทำไมในส่วนลึกของหัวใจของชายหนุ่มมันถึงได้รู้สึกหนักขึ้นขนาดนี้
“เอาเถอะในเมื่อลูกไม่ได้รักไม่ได้ชอบเป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว งั้นก็เข้าบ้านเถอะกินข้าวกัน” ชายหนุ่มพยักหน้าตอบกลับมารดาไป ก่อนที่เขาจะพยายามสะบัดความรู้สึกบางอย่างออกจากหัว มังกรบอกตัวเองว่าเป็นแบบนี้ก็คงดีแล้ว ในเมื่อเขาไม่ได้รักไม่ได้ชอบอะไรผู้หญิงคนนั้นก็ดีแล้วที่ทุกอย่างจะเป็นแบบนี้
หลังจากที่ทานข้าวเสร็จ ร่างสูงโปร่งของมังกรก็เดินขึ้นบันไดมายังห้องนอนของตนเอง เขาทิ้งกายลงนอนบนเตียงกว้างพร้อมกับยกมือขึ้นมาก่ายหน้าผาก ขบคิดเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในตอนนี้ ก่อนที่เสียงถอนหายใจของชายหนุ่มจะดังเฮือกออกมา
“จะหงุดหงิดทำห่าอะไรวะ แบบนี้ก็ดีแล้วไม่ใช่รึไง” ชายหนุ่มบ่นพึมพำออกมา ก่อนจะพยายามลืมใบหน้าน่ารำคาญของใครอีกคน เขาไม่จำเป็นต้องแคร์หรือต้องสนใจเลยก็แค่เด็กใจแตกวิ่งตามผู้ชายไปเรื่อย แบบนี้ก็ดีแล้ว ต่อไปเขาจะได้ไม่รู้สึกเบื่อหน่ายกับสิ่งที่ผู้หญิงคนนี้ทำ
ณ บ้านของผิงผิง
หญิงสาวขลุกตัวอยู่ในห้องหลังจากที่ทานข้าวเสร็จ หญิงสาวเขี่ยโทรศัพท์ไปมา จ้องมองรูปของมังกรที่อยู่บนโซเชียลที่เธอมักจะเข้ามาส่องมาคอมเมนต์จีบอีกฝ่าย แต่หลายวันที่ผ่านมาเธอแทบไม่ทักไปหาไม่คอมเมนต์รูปของอีกฝ่ายเลย แต่ก็ยังอดไม่ได้ที่ในวันนี้จะเข้ามาส่องว่าตลอดเวลาหลายวันที่ผ่านมาชายหนุ่มเป็นยังไงบ้าง ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มังกรยังเป็นหนุ่มฮอตไม่น้อย เวลาเขาลงรูปก็มักจะมีสาว ๆ มาคอมเมนต์กรี๊ดกร๊าด
Paremai_11 วิวสวยจัง
Dragon09@Paremai_11 มองแค่วิวจริงดิ คนในรูปไม่น่ามองเหรอครับคุณ?
Paremai_11@Gragon09 ไม่มองหรอกเห็นทุกวันแล้วเบื่อ
Tee_45 เห็นคนจีบกันแล้วเบื่อว่ะ
คอมเมนต์ในโพสต์ล่าสุดที่มังกรลงรูปตัวเองมันทำให้ผิงผิงที่เห็นอย่างนั้นก็ยิ่งเจ็บปวดหัวใจมากขึ้นกว่าเดิม น้ำตาของคนตัวเล็กไหลออกมาอีกครั้ง ทั้ง ๆ ที่บอกตัวเองว่าให้เข้มแข็งแต่มันก็ทำไม่ได้จริง ๆ แผลของเธอยังสดนักยังไม่อาจทำใจได้จริง ๆ หลายปีที่เธอเฝ้ารักเฝ้าทำทุกอย่างให้คนอย่างมังกรเปิดใจให้กับเธอ แต่ทุกอย่างที่เธอทำมันกลับว่างเปล่าและไร้ค่าในสายตาของเขา มันช่างน่าสมเพชจริง ๆ
Ping_Ping
สุดท้ายเจ้าชายก็ได้เคียงคู่กับเจ้าหญิงแต่ทำไมจุดจบในนิทานเรื่องนี้มันถึงแสนเศร้าสำหรับเราขนาดนี้กัน อ๋อ ลืมไปเราไม่ใช่เจ้าหญิงนี่เอง
หญิงสาวโพสต์สเตตัสแล้วคว่ำโทรศัพท์ลงบนเตียง ก่อนจะแนบหน้าลงกับหมอนสะอื้นไห้ออกมาไม่หยุดหย่อน หัวใจของเธอมันเจ็บปวดเหลือเกิน ในวันนี้เธอจะร้องไห้ให้พอ หลังจากนี้เธอจะเป็นผิงผิงคนใหม่ที่เข้มแข็งกว่านี้
“ฮึกฮือ นี่หรือรักแรกมันเป็นแบบนี้ใช่ไหม อื้อ”
มังกรที่กำลังอมยิ้มกับการพูดคุยกับผู้หญิงอีกคนในแชต ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นโพสต์ของน้องข้างบ้านเด้งขึ้นมา เขาอ่านก่อนจะรู้สึกหนักอึ้งในหัวใจ นานหลายวันแล้วที่คนตัวเล็กไม่ได้โพสต์อะไรจนกระทั่งวันนี้ เขารู้สึกผิดที่ทำให้ผู้หญิงคนนี้รู้สึกแย่แต่ความรักไม่ใช่ความสงสาร เขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับเธอมากไปกว่าคำว่าน้องสาวข้างบ้าน การที่ทุกอย่างเป็นแบบนี้มันก็คงดีที่สุดแล้วเพราะงั้นชายหนุ่มเลือกที่จะไม่สนใจไม่แม้แต่จะคอมเมนต์หรือกดถูกใจโพสต์นี้เลยสักนิด
วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วในตอนนี้มหาวิทยาลัยถึงวันเปิดภาคเรียนใหม่สำหรับเด็กปีหนึ่ง ผิงผิงได้มาอยู่หอแถวมหาวิทยาลัย หลังจากที่ขนของอะไรเสร็จคนตัวเล็กก็เดินสำรวจคอนโดฯ ระดับกลางอย่างพอใจ ค่าเช่าไม่ได้แพงอะไรมากถึงไม่ได้หรูหราแต่ก็คือว่าดีในระดับหนึ่ง พอมาเรียนที่นี่เธอก็ต้องมาอยู่ที่หอเพราะระยะทางระหว่างบ้านกับมหาวิทยาลัยมันห่างกันอยู่หลายกิโลเมตรจะให้เธอเดินทางไปมาในแต่ละวันก็คงไม่ไหว ผลสรุปเธอก็ได้มาอยู่ที่นี่ มหาวิทยาลัยของเธอเป็นมหาวิทยาลัยเอกชนมีหอในแต่ก็เต็มหมดแล้ว อีกอย่างหญิงสาวไม่อยากอยู่ร่วมกับคนอื่นเพราะอยู่หอในต้องอยู่แชร์ห้องกับคนอื่น ไม่ใช่ว่าเธอโลกส่วนตัวสูงแต่ในบางครั้งการที่อยู่ร่วมกับคนอื่นมันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ผิงผิงเลยตัดสินใจมาเช่าห้องอยู่ที่นี่
“พรุ่งนี้ก็ต้องไปมหาวิทยาลัยแล้วตื่นเต้นจัง” คนตัวเล็กพูดกับตัวเองก่อนจะมองชุดนักศึกษาที่รีดแขวนอยู่อย่างภูมิใจ มหาวิทยาลัยนี้เป็นเอกชนก็จริงแต่อย่าคิดว่าจะเข้าง่ายต่อให้มีเงินแต่สอบไม่ผ่านเกณฑ์ก็ไม่ได้เรียนที่นี่หรอก ส่วนเธอฐานะที่บ้านก็ไม่ถึงกับร่ำรวยอะไรมากมายแต่ก็ไม่ได้ยากจนพ่อแม่ของเธอมีปัญญาส่งเธอเรียนอยู่แต่กว่าจะสอบเข้าที่นี่ได้มันก็ทำให้หญิงสาวต้องอดหลับอดนอนอ่านหนังสือหนักอยู่เหมือนกัน ในตอนแรกเธอก็คิดว่าทำไม่ได้หรอกแต่พอมีเป้าหมายว่าต้องเข้ามหาวิทยาลัยแห่งนี้ให้ได้เพราะอยากจะเรียนที่เดียวกับคนที่เธอชอบนั่นจึงทำให้หญิงสาวมีแรงฮึดสู้จนสอบผ่าน
“หวังว่าโลกคงไม่กลมขนาดนั้นหรอกนะ”
เช้าของวันใหม่
ผิงผิงในชุดนักศึกษายืนส่องกระจกเงาบานใหญ่หมุนไปหมุนมาดูความเรียบร้อยของตนเอง ในวันนี้หญิงสาวถักเปียเดียวจนถึงปลายผม ดึงให้ดูหลวม ๆ เหมือนมีอะไร ก่อนจะหยิบลิปสติกขึ้นมาทาปากให้ดูมีสีสันขึ้นมาเล็กน้อย คนตัวเล็กไม่ได้แต่งหน้าจัดอะไรมากมายเธอก็เป็นผู้หญิงทั่วไปที่รักสวยรักมาก พอเห็นว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้วหญิงสาวก็คว้ากระเป๋าสะพายข้างก่อนจะเดินออกไปจากห้องพัก เรียกวินมอเตอร์ไซค์ไปยังมหาวิทยาลัย
พอเห็นว่ามีนักศึกษามากมายมันก็ทำให้ผิงผิงตื่นเต้นไม่น้อย กลิ่นอายการเริ่มต้นใหม่มันเกิดขึ้นแล้ว คอยดูเถอะพอเธอเรียนมหาวิทยาลัยเธอจะลืมผู้ชายใจร้ายอย่างไอ้เฮียมังกรบ้านั้นได้แน่นอน ไม่รักก็ไม่รัก ต่อไปนี้เธอก็จะไม่รักเหมือนกัน หญิงสาวตั้งใจแน่วแน่ก่อนจะเดินไปยังจุดรวมของนักศึกษาใหม่ตามที่รุ่นพี่สาขาแจ้งเอาไว้ในกลุ่ม