5
Chapter 5
ภครัฐเข้ามาอาบน้ำชำระร่างกาย แต่ใจของเขากลับกระหวัดไปถึงหญิงสาวที่เจอที่ผับเมื่อคืน
“บ้าเอ๊ย! จะไปคิดถึงหล่อนทำไมกัน” ชายหนุ่มสบถ สลัดความคิดนั้นทิ้งไป
ภครัฐขับรถยนต์คันหรูแล่นออกมาจากคอนโดฯ ของเพื่อนรักอย่างกันต์ในเวลาเกือบเที่ยง สายตาเหลือบไปเห็นหญิงสาวที่เขาเจอในผับเมื่อคืน ทำไมเขาจะจำเธอไม่ได้ เขาจำเธอได้ติดตาเชียวละ หน้าตา รูปร่าง บุคลิก ทุกอย่างที่หลอมรวมเป็นเธอ เขาจำได้ขึ้นใจ
ชายหนุ่มรีบเบรกรถเกือบจะทันที ก่อนจะเลี้ยวเข้าจอดข้างทาง เขามองเธออยู่ครู่หนึ่ง เจ้าหล่อนกำลังจะขึ้นรถยนต์ขับออกไป ดูแวบแรกก็รู้ว่าหญิงสาวมีฐานะพอสมควรเพราะรถที่ขับออกไปเป็นรถนำเข้าราคาแสนแพง
“รวยใช่เล่นนี่หว่า ขับรถตามไปดีกว่า” ด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่าเธอจะไปที่ไหนต่อ เขาจึงขับรถตามเธอไป โดยไม่ให้เธอรู้ตัว
“รวย แต่ทำไมรสนิยมแย่จัง กินก๋วยเตี๋ยวร้านข้างทางนี่นะ”
ภครัฐเบ้ปาก ส่ายหน้าไปมา แต่ก็เปิดประตูรถตามลงไปด้วย เขาอยากรู้จักเจ้าหล่อนนี่นา เมื่อคืนโดนบิดแขนเข้าให้เพราะเมาหรอกนะ ยังไงผู้หญิงก็สู้แรงผู้ชายไม่ได้อยู่วันยังค่ำ เขาคิดเช่นนั้น เมื่อคืนเขาออมแรงให้ต่างหาก เนื่องจากไม่อยากรังแกเพศที่อ่อนแอกว่า
“ในร้านไม่มีที่นั่งเลย” มุกอันดาสอดส่องสายตามองหาที่นั่งเพราะคนเยอะจัด “เอ๊ะ! คุณมานั่งโต๊ะของฉันทำไม”
มุกอันดาหย่อนตัวนั่งลงแล้วจ้องคนที่เดินมานั่งตรงข้ามกับเธอ อะไรจะบังเอิญขนาดนี้
“ที่นั่งในร้านไม่มีเลยนี่คุณ” ภครัฐตีเนียน มุกอันดานิ่งอึ้งไปหลังจากกวาดสายตาไปมองรอบๆ
“หมี่เหลืองลวกแห้งที่นึงค่ะ” หญิงสาวสั่งพนักงานที่มาจดรายการอาหาร
ภครัฐอ้ำอึ้งเมื่อเขาเองไม่รู้จะสั่งอะไรดี เขาเคยกินอาหารข้างทางแบบนี้ซะที่ไหนกัน ก่อนจะตอบกลับไปเมื่อคิดอะไรขึ้นมาได้
“เอาแบบเธอคนนี้แล้วกัน”
ภครัฐชี้ไปที่หญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงกันข้าม มุกอันดาค้อนให้ผู้ชายตรงหน้า
“ขับรถก็ตั้งแพง ทำไมมากินอาหารข้างทาง ไปกินอาหารในร้านหรูๆ กับผมดีกว่า” ชายหนุ่มเอ่ยชวน
“ทำไมฉันต้องไปกับคุณด้วยคะ” เธอหันมามองสบตาแล้วเอ่ยถาม
“คุณนี่เป็นผู้หญิงแปลกนะ ผู้ชายชวนก็แสดงว่าเขาสนใจคุณ ทำไมต้องถามว่า ทำไมๆ ๆ ๆ ด้วย” เขาเริ่มหงุดหงิด
“คุณสนใจฉัน แต่ฉันไม่สนใจคุณ ชัดไหมคะ”
หน้าแหกหมอไม่รับเย็บ ภครัฐเพิ่งเข้าใจคำว่าหน้าแตกก็วันนี้เอง
“นี่คุณ” เขารู้สึกเสียหน้าจนแทบนั่งไม่ติด
มุกอันดาไม่สน หันไปพยักหน้าให้พนักงานที่วางชามบะหมี่ลงตรงหน้า ก่อนจะหันไปหยิบตะเกียบและเครื่องปรุงมาวางใกล้ๆ เพื่อจะได้หยิบถนัด
“รสนิยมคุณนี่...” พูดยังไม่ทันจบประโยคหญิงสาวก็สวนขึ้นมาเสียก่อน
“คุณอย่ามองคนแค่ภายนอกสิคะ ฉันน่ะมาจากบ้านนอกคอกนา รถคันนั้นก็ยืมเพื่อนมาขับ ไม่ใช่ของฉันหรอกค่ะ ไม่เชื่อคุณไปเช็กดูป้ายทะเบียนสิคะว่าชื่อเจ้าของรถเป็นใคร” มุกอันดาท้า เธอรู้ว่าคนแบบเขาคงไม่ไปเช็กอะไรจริงๆ หรอก ออกจะเป็นคนพยายามน้อยอยู่มากโข
ภครัฐได้แต่อ้าปากค้างเมื่อเห็นหญิงสาวพูดออกมาแบบนั้น หญิงสาวกินเอาแต่กินเอาด้วยความหิว ส่วนชายหนุ่มไม่กล้าแม้แต่จะแตะของตรงหน้า เพราะคิดว่ามันไม่ค่อยสะอาด ทานเสร็จแล้ว มุกอันดาจึงจ่ายเงินแล้วลุกเดินออกไปโดยไม่สนใจชายหนุ่มอีก
“นี่กินหรือว่ายัดกันนี่” ภครัฐมองหญิงสาวกินอย่างเอร็ดอร่อย เธอเป็นคนที่กินอาหารเร็วมากๆ มากจนเขาได้แต่นั่งอ้าปากค้าง
ภครัฐรีบจ่ายเงินแล้วลุกตาม เธอไม่ได้เดินไปขึ้นรถในทันทีแต่แวะซื้อไข่ปิ้ง ถั่วต้ม มันต้ม เผือกต้มที่แม่ค้าหาบแร่มาขาย ใบหน้าของชายหนุ่มเหยเกเมื่อเห็นเจ้าหล่อนซื้อของกินข้างถนนคลุกดินคลุกฝุ่นแบบนี้
“นี่คุณกินของข้างถนนแบบนี้ด้วยเหรอ”
มุกอันดาแสดงสีหน้าเบื่อหน่ายแต่ไม่ได้โต้ตอบใดๆ กับชายหนุ่มที่ยังตามเธอมาอย่างน่ารำคาญที่สุด
“ฉันจะกินอะไรมันก็เรื่องของฉัน คุณเห็นไหมว่าพวกเขาต้องดิ้นรนเลี้ยงชีวิตของตัวเอง คนอย่างคุณเคยเข้าใจคนอื่นหรือเปล่าล่ะ”
เป็นอีกครั้งที่ภครัฐอึ้งไป เขามองหญิงสาวตรงหน้าที่กำลังยิ้มแย้มให้พ่อค้าแม่ค้าที่แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าเก่าๆ แล้วนึกเวทนา เขาไม่เคยสนใจคนพวกนี้มาก่อน
“ป้าแถมให้แม่หนูนะ ช่วยซื้อตั้งหลายอย่าง” แม่ค้ายิ้มกว้างให้มุกอันดา ก่อนหยิบถั่วอีกครึ่งกำมือใส่ลงในถุงส่งให้หญิงสาว
“ขอบคุณค่ะป้า” มุกอันดารับเงินทอนแล้วเดินจากไป
“นี่คุณ ถ้าสงสารเขาจริง ไปเอาเงินทอนเขาทำไม” ภครัฐคิดว่าถ้าเป็นตนเองจะไม่รับเงินทอนเพียงไม่กี่สิบบาทพวกนั้น
“พวกเขาไม่ใช่ขอทานนะคะ พวกเขาทำงานด้วยความสุจริต ฉันไม่จำเป็นต้องให้เงินเขา เพราะเท่าที่ช่วยซื้อก็เท่ากับเป็นการช่วยอุดหนุนให้เขามีรายได้เลี้ยงปากท้อง”
ภครัฐเงียบไปอีกรอบ ประโยคง่ายๆ แต่ทำไมถึงทำให้เขาพูดไม่ออกได้นะ ผู้หญิงคนนี้ช่างน่าทึ่งชะมัดยาด
“คุณจะไปไหน” ภครัฐรีบถามเมื่อเห็นหญิงสาวเดินไปเปิดประตูรถยนต์คันหรู
“กลับบ้านสิคะ”
“ผมอยากรู้จักกับคุณ ตามไปได้ไหม”
“ตามไปทำไมคะ แค่นี้เราก็รู้จักกันแล้ว” คำถามง่ายๆ แต่ตอบยากอีกเช่นเคย
“ข้อหนึ่งที่คุณอยากตามฉันไปคือเพราะคุณเป็นพวกว่างงานไม่มีงานทำ สอง คุณไม่รู้จะไปที่ไหนเพื่อที่จะทำตัวให้เกิดประโยชน์ในทุกๆ วินาทีของชีวิต” เธอให้เขาเลือกสองข้อแต่ไม่รอฟัง กลับเข้าไปนั่งในรถ ภครัฐรับจับบานประตูเอาไว้
“คุณมีอะไรอีกคะ”
“ผมอยากได้เบอร์โทร.ของคุณ” ภครัฐดึงประตูด้วยแรงที่มากกว่า มองสบตาเธอนิ่ง
“ฉันไม่มีเหตุผลที่จะให้เบอร์โทร.แก่คุณค่ะ และเราคงไม่เจอกันอีก” มุกอันดาผลักชายหนุ่มให้พ้นทาง ก่อนจะรีบปิดประตูและล็อกรถโดยเร็ว
“โอ๊ย!!! นี่คุณ ผู้หญิงบ้าอะไรเล่นตัวชะมัด” ภครัฐสบถอย่างหัวเสียมองตามท้ายรถยนต์ของเจ้าหล่อนไปด้วยความหงุดหงิด
มุกอันดาเหลือบมองกระจกข้างเห็นชายหนุ่มยืนหน้าหงิกอยู่ข้างหลังก็แอบย่นจมูกเล็กน้อย
“ผู้ชายอะไรไร้สาระชะมัด” แล้วมุ่งหน้าขับรถกลับไปยังคอนโดฯ ของเพื่อนรัก
“เป็นไงจ๊ะ ออกไปกินก๋วยเตี๋ยวร้านประจำมา”
ฉัตรวดีเอ่ยถามเพื่อนรักที่ทรุดตัวนั่งลงอย่างอ่อนแรง
“อร่อยน่ะสิ เสียดายแกไม่ได้ไปด้วย” มุกอันดาโปรยยิ้มให้เพื่อน
“โทษที พอดีฉันติดธุระ ไม่อย่างนั้นก็จะไปโซ้ยกับแกนั่นแหละ”
“แกรู้ไหม ฉันเจอใคร”
“แกเจอใครมุก” ฉัตรวดีถามอย่างสนใจ
“อีตาภครัฐ”
“หา!!! แกเจอเขาอีกแล้วเหรอ บุพเพสันนิวาสหรือเปล่า” เอ่ยแซวด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์
“บ้าน่าแก บุพเพอาละวาดน่ะสิ หมอนี่เหยียดคนชะมัด แถมยังสำอางมากๆ ด้วย” มุกอันดาส่ายหน้าไปมาเมื่อเอ่ยถึงว่าที่เจ้าบ่าวที่บิดาหาให้
“ยังไงล่ะ” ฉัตรวดีละมือจากข้าวของในถุงที่ซื้อติดมือกลับมาแล้วเดินมานั่งตรงข้ามกับเพื่อน
“ก็ทำท่ารังเกียจอาหารข้างทาง แถมยังทำท่ามาขอเบอร์อีก ทอดสะพานเสริมใยเหล็กฉันก็ไม่สน ชิส์! ทำยังกะตัวเองหล่อตายละ” มุกอันดาพูดแล้วย่นจมูก
“จริงอ่ะ แต่แปลกนะ หมอนี่ไม่รู้จักแกที่เป็นคู่หมั้นคู่หมาย”
“แกไม่ได้ยินหรือไง เมื่อคืนที่ผับน่ะ หมอนี่รังเกียจฉันจะตายไป คงเห็นว่าอยู่ต่างจังหวัดบ้านนอกคอกนา เหม็นกลิ่นน้ำเค็ม คาวปลา แถมยังว่าพ่อกับฉันเป็นพวกเศรษฐีขี้อวดอีกด้วย น่าต่อยปากให้แตกชะมัดยาด”
“ตาไม่ถึงน่ะสิ แกน่ะ รวยก็รวย การศึกษาก็สูง แถมยังสวยเลิศซะขนาดนี้ บ้านแกก็ไม่ได้บ้านนอกคอนานะโว้ย มีรีสอร์ตหรูๆ ตั้งมากมาย แถมโรงงานอาหารทะเลของแกอีก ปีนึงกำไรตั้งเท่าไหร่ ผู้ชายคนไหนไม่เอาแกทำเมียก็โง่แล้ว”
“แต่เขาอาจไม่คิดแบบแกไง ไม่งั้นไม่พูดออกมาแบบนี้หรอก ถ้าเขาใส่ใจก็คงรู้จักฉันไปแล้ว”
“แสดงว่าแกใส่ใจสิถึงได้รู้จักเขา”
“ก็พ่อบอกเขาเป็นลูกหนี้ มันก็ต้องใส่ใจสิ เวลาไปทวงหนี้ จะได้ถูกคนยังไงเล่า”