3
Chapter 3
แม่เองก็ต้องขนเครื่องเพชรไปขาย เพื่อพยุงค่าใช้จ่ายในบ้านนานหลายเดือนแล้ว และคนรับใช้ที่แม่โกหกว่ากลับไปเยี่ยมบ้าน แท้ที่จริงเราให้เงินทุนเขาไปตั้งตัว เพราะแบกภาระที่จะจ้างเอาไว้ไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว”
น้ำคำของมารดาทำให้ภครัฐพิงหลังไปกับพนักโซฟาอย่างสิ้นไร้เรี่ยวแรง
“รถเรามีตั้งหลายคัน ถ้าเป็นหนี้จริง ทำไมยังอยู่” ภครัฐถามเสียงแหบโหย
“รถพวกนี้ทางเจ้าหนี้ก็คือลุงมนชัยของแกไม่ให้ขาย เพราะเขาจะยึดเอาไว้เป็นทรัพย์สมบัติของเขา รวมเป็นดอกเบี้ย” วิรัฐตอบลูกชายเสียงอ่อนล้า
ภครัฐแทบช็อก… บ้านเขาจะกลายเป็นบุคคลล้มละลาย ติดหนี้สินมหาศาลอย่างนั้นเหรอ ทุกอย่างจะถูกยึด บริษัทจะตกเป็นของคนอื่น เป็นไปไม่ได้ มันต้องไม่เกิดขึ้นสิ!!!
ปัง ปัง ปัง...
เสียงปืนสามนัดดังติดกัน พร้อมกับวิถีกระสุนจากปลายกระบอกปืนของหญิงสาวที่ขี่ม้าอย่างสง่างามทำให้เด็กทั้งสองปรบมือเสียงดังอย่างชื่นชม
เรียกได้ว่าหญิงสาวยิงแม่นเหมือนจับวาง กระสุนเจาะเข้าที่เป้าตรงหน้าอย่างแม่นยำ เป็นหนึ่งไม่มีสอง และว่องไวเพียงเสี้ยววินาที
ร่างระหงของ มุกอันดา กฤษขจรเดช เหวี่ยงขาลงจากหลังม้าอย่างสวยงาม มองเป้าที่ถูกยิงจนพรุนเหมือนจับวางอย่างพึงพอใจ
“พี่มุกดื่มน้ำก่อน ฝีมือพี่สุดยอดไปเลย”
มรรคพยักหน้าให้มัดไหม เด็กสาวรีบยกน้ำเย็นๆ มาเสิร์ฟให้มุกอันดา ก่อนที่ชายหนุ่มจะยกหัวแม่โป้งให้พี่สาวบุญธรรม เขาเป็นเด็กที่ถูกเก็บมาเลี้ยง ส่วนมัดไหมก็เป็นเด็กที่ถูกเก็บมาเลี้ยงเช่นกัน เรียกง่ายๆ ว่าเป็นเด็กในอุปการะ แต่มนชัยบิดาของมุกอันดาก็รักเหมือนลูกหลาน ทำให้เด็กทั้งสองเป็นที่เคารพของคนงานที่รู้กันว่าอยู่ในฐานะอะไร
“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก นานๆ ซ้อมที งานยุ่งชะมัด” มุกอันดาตอบด้วยรอยยิ้มพราวแล้วรับผ้าผืนสะอาดจากมัดไหมมาเช็ดหน้าและลำคอเบาๆ
ลูกสาวคนสวยของนายเกาะใหญ่มองน้องๆ ทั้งสองด้วยความเอ็นดู มรรคกับมัดไหมเป็นเด็กกำพร้าที่บิดานำมาชุบเลี้ยงเอาไว้ มุกอันดารักเด็กทั้งสองเหมือนน้อง เหมือนเพื่อน เหมือนญาติสนิท มีเรื่องอะไรก็เล่าสู่กันฟังอย่างไม่ปิดบัง ถือว่าเป็นคนในครอบครัวที่เธอไว้ใจรองจากบิดาผู้ให้กำเนิด
“พี่มุกจะซ้อมมวยต่อเหรอคะ” มัดไหมเอ่ยถามหลังจากรับผ้าซับเหงื่อมาถือเอาไว้ ดวงตาเป็นประกายสดใสชื่นชมคนตรงหน้าอย่างเปิดเผย รักและศรัทธา แทบจะบูชาเลยก็ว่าได้
“ใช่” มุกอันดายักคิ้วให้เด็กสาวตรงหน้า ก่อนจะเดินไปทรุดนั่งเพื่อรอลูกน้องมาซ้อมมวยไทยกับเธอเหมือนเช่นทุกครั้ง
มุกอันดาเป็นทายาทเพียงคนเดียวของนายหัวมนชัย เจ้าของเกาะอันดาที่ร่ำรวยมหาศาลเพราะธุรกิจฟาร์มมุก ธุรกิจรีสอร์ต โรงแรม ธุรกิจท่องเที่ยวและอีกมากมาย รวมถึงโรงงานผลิตอาหารทะเลแช่แข็ง หญิงสาวจบการศึกษาในระดับปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศสาขาวิชาการโรงแรมและการท่องเที่ยว เกียรตินิยมเหรียญทองอันดับหนึ่ง และปริญญาโทบริหารธุรกิจจากมหาวิทยาลัยชื่อดังในต่างประเทศ
“เมื่อกี้เห็นพี่มุกซ้อมยิงปืนอยู่เลยไม่อยากขัด พ่อบอกว่ามีเรื่องสำคัญจะคุยกับพี่” มรรคเอ่ยบอกพี่สาวเมื่อได้จังหวะ
มรรคเรียกมนชัยว่าพ่อเพราะท่านต้องการให้เรียกแบบนั้น แต่มรรคและมัดไหมก็ยังใช้นามสกุลเดิมที่ติดตัวมา
“เรื่องสำคัญเหรอ” มุกอันดาขมวดคิ้วเรียวเข้มของตัวเองขึ้นอย่างครุ่นคิด ผมสลวยประดุจดั่งแพรไหมชั้นดีถูกมัดรวบเป็นหางม้าอยู่ทางด้านหลังปลิวไปตามสายลมที่พัดมากระทบเป็นระยะๆ เพราะที่นี่เป็นชายทะเล อากาศจึงเย็นสบายมีลมพัดอยู่เสมอๆ
“มรรคว่าน่าจะเป็นเรื่องแต่งงาน” มรรคคาดเดาจากน้ำเสียง สีหน้าและแววตาของผู้มีพระคุณ มนชัยดูจริงจังกับเรื่องแต่งงานเป็นอันมาก เขาและมัดไหมรับรู้เรื่องนี้มาโดยตลอด เพราะในครอบครัวไม่มีความลับต่อกัน
“จริงเหรอ พ่อจะพูดเรื่องนี้อีกแล้วเหรอ” ริมฝีปากอิ่มสีกุหลาบงดงามบิดขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์เมื่อรู้ว่าบิดาจะพูดเรื่องอะไร
“พ่อทำท่าทีจริงจังมากเลยนะคะพี่มุก” มัดไหมพยักหน้าให้พี่สาว ก่อนหันไปมองสบตากับมรรค มรรคกุมมือน้องน้อยเอาไว้แทบจะตลอดเวลา จนมุกอันดาหรือใครๆ เห็นจนชินตา และรู้ดีว่ามรรคหวงและห่วงมัดไหมเหมือนไข่ในหิน
“ไม่เห็นจะสนเลย ยังไงพี่รับมือได้สบายอยู่แล้ว เดี๋ยวเราสองคนคอยดู พ่อขู่มากๆ หนีไปอยู่บ้านพักท้ายเกาะซะเลย”
มุกอันดากอดอกอย่างใช้ความคิด แม้เรือนร่างหญิงสาวจะบอบบางแต่สัดส่วนอัดแน่นไปด้วยความเป็นสาวที่สมบูรณ์แบบ ทั้งหน้าอกอวบใหญ่ เอวคอด สะโพกผาย ผม คิ้ว ขนตาดำสนิททำให้ใบหน้าคมขำ ผิวขาวเนียนที่ได้รับมาจากมารดาทำให้เธอดูผุดผ่อง แต่เพราะทำงานกลางแจ้งเป็นประจำ ดวงตาคมขำสวยซึ้งตามชาติพันธุ์ของสาวใต้
ใครได้เห็นมุกอันดาจะต้องเหลียวหลังตาค้าง เธอเป็นผู้หญิงที่จัดว่าสวย สวยมากแทบไม่มีที่ติ ไม่ใช่สวยธรรมดาแต่สวยคมหวานซึ้ง แววตาสดใสบ่งบอกถึงความฉลาดเฉลียว เป็นผู้นำและเข้มแข็งเฉกเช่นบิดา
มุกอันดาเองก็พูดไปแบบนั้น จริงๆ แล้วบิดาไม่ใช่คนชอบบังคับจิตใจใคร ออกจะเป็นคนที่เข้าใจคนอื่นและแฟร์ๆ เสียมากกว่า
“แต่คราวนี้พ่อมีข้อเสนอมาให้ลูก” น้ำเสียงที่ตอบออกมาไม่ใช่เสียงของใคร แต่เป็นเสียงของบิดาที่ยืนสง่างามมองมาอย่างรู้ทัน
“พ่อ” สามเสียงอุทานพร้อมกัน มุกอันดาแอบหน้าหงิกใส่บิดาเล็กน้อย ข้อเสนอของบิดาคราวนี้คงทำให้เธอต้องคิดหนัก เพราะท่านฉลาดเฉลียว เธอเองต้องเรียนรู้จากท่านหลายๆ อย่าง ถือว่าได้รับการถ่ายทอดมาจากท่านตั้งแต่เล็กจนโต เธอยังห่างชั้นจากท่านมากนัก
มนชัยยิ้มให้บุตรสาวและเด็กในอุปการะทั้งสอง เขารู้ว่ามุกอันดาเป็นมีปฏิภาณไหวพริบ ฉลาดเฉลียว เอาตัวรอดเก่ง และที่สำคัญ รู้เท่าทันคนรอบข้าง ดังนั้นเขาคิดจะทำอะไร ก็ต้องวางแผนแนบเนียน ไม่งั้นโดนบุตรสาวรู้ทันและกลับลำเอาได้ทุกคราไป
ร่างสูงสง่าของนายหัวเมืองใต้เดินนำเข้าบ้านไปก่อนเพื่อให้รู้ว่าทั้งสามจะต้องเดินตามมาให้ไว เพื่อพูดเรื่องสำคัญที่บุตรสาวจะต้องไม่ปฏิเสธอย่างแน่นอน...
กันต์นั่งมองเพื่อนรักอย่างภครัฐกรอกเหล้าเข้าปากเหมือนน้ำเปล่าแล้วต้องส่ายหัวไปมา
“ไอ้รัฐแกจะเมาตายแล้วนะโว้ย” กันต์ดึงแก้วเหล้าในมือเพื่อนออกอย่างเป็นห่วง
“แกอย่ามายุ่งน่า ฉันจะดื่มให้ตายไปเลย” ภครัฐแย่งแก้วเหล้ากลับคืนมา แต่กันต์ก็ยังตามมาดึงคืนไปวางไว้อีกด้าน
“พอเถอะ แทนที่แกจะหาทางแก้ปัญหา แกมัวแต่กรอกเหล้าเข้าปากแบบนี้ มันจะได้อะไรขึ้นมา” กันต์เอ่ยเตือนสติเพื่อน
“ฉันไม่เมา”
“เออ ฉันรู้ว่าแกคอแข็ง แต่ถ้าแกยังกรอกเหล้าอยู่แบบนี้ เดี๋ยวแกก็เมา” กันต์ส่ายหน้าไปมา ตอนนี้ภครัฐยังไม่เมาได้ที่ต่างหาก แค่มึนๆ แต่เล่นกรอกเข้าปากเป็นขวดๆ ไม่เมาก็ให้มันรู้ไป
“แกถามว่าฉันจะแก้ปัญหายังไงเหรอ ง่ายๆ ก็แค่แต่งงานกับยัยบ้านนอกนั่น”
“แกจะแต่งงานเลยมานั่งเมาอยู่แบบนี้ นี่ถ้าบอกว่าเป็นนิยายน้ำเน่าฉันเชื่อเลยว่ะ แกต้องสละตัวเองเพื่อหนี้สิน” กันต์แทบไม่เชื่อในสิ่งที่เพื่อนเล่าให้ฟัง
“ใช่ ฉันไม่อยากแต่งกับยัยนั่นสักหน่อยนะโว้ย” ภครัฐเหยียดปากอย่างน่าชัง
“แล้วเด็กสาวบ้านนอกที่แกเล่าชื่ออะไรวะ”
“ไม่รู้เหมือนกัน”
“อ้าว” กันต์เกาะหัวไปมา พ่อลูกคู่นี้คุยกันยังไง
“ไม่เคยถาม พอพ่อฉันเอ่ย ฉันก็ขัดและเดินหนีทันที”
“รังเกียจเขาขนาดนั้นเลยเหรอวะ”
“ใช่ รังเกียจยัยนั่นสุดๆ ไปเลย อยากจะยกฐานะตัวเองเพื่อมาแต่งงานกับฉัน”
“เฮ้ย! แกพูดเหมือนเด็กนั่นจนแล้วแกรวย เลยยกฐานะ แต่ที่แกเล่า แกแต่งงานใช้หนี้นะโว้ย”
“หมายถึงฐานะทางสังคมไง คงรวยจริงเหมือนพ่อว่า แต่รวยแบบบ้านนอกคอกนา เหมือนพวกเศรษฐีมีเงินแล้วชอบอวดอะไรเทือกนั้น”
“แกดูถูกเขามากไปหรือเปล่า เดี๋ยวนี้คนรวยๆ ต่างจังหวัดเขาก็ดูดีนะโว้ย อาจไม่ใช่อย่างที่แกคิดก็ได้”
“ฉันคิดว่าฉันคิดถูก ไม่งั้นยัยนั่นกับพ่อ จะอยากได้ฉันเป็นเขยจนตัวสั่นหรือไง” ภครัฐเหยียดปากอีกครั้ง ก่อนจะคว้าเหล้ามากรอกเข้าปาก