1
Chapter 1
“อ๊ากกกกกกกกกกก!!!!!!!”
เสียงของชายหนุ่มร้องโหยหวนอย่างตกใจลั่นห้อง ยิ่งเห็นคนที่ก้าวเข้ามาคร่อมทับร่างเอาไว้ยิ่งทำให้ภครัฐแทบสติหลุด
“ม่ายยยยยยยยยยยยย!!!!!!”
ภครัฐ ลนลานหนีร่างอ้วนราวนางยักษ์พันธุรัตน์อันแสนอัปลักษณ์ ผมหยิกหัวฟู ตัวดำปี๋ ดวงตาถลน เคลื่อนไหวทีหนึ่ง ไขมันกระเพื่อมอย่างน่าเกลียดน่ากลัว ทั้งมือทั้งเท้าของชายหนุ่มตะกายอย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อให้ตัวเองรอดชีวิต ผ่านพ้นวิกฤติครั้งนี้ไปให้จงได้
เขาทนไม่ได้แม้แต่วินาทีเด็ยวที่จะมีเจ้าสาวหน้าตาอัปลักษณ์เช่นนี้ ให้เขาตายเสียดีกว่าอยู่กับเจ้าหล่อนไปทั้งปีทั้งชาติ คงไม่มีผู้ชายหน้าไหนทนความอัปยศครั้งนี้ได้ ถ้าใครรู้เข้าว่าทายาทนักธุรกิจพันล้านมีภรรยาที่หน้าตาแบบนี้ แล้วเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนกัน!!!
“อย่าเข้ามา ยัยอ้วน ยัยบ้า ยัยอัปลักษณ์ ยัยผู้หญิงหน้าตาน่าเกลียดน่ากลัว ไปให้พ้น หาผัวไม่ได้หรือไงกันถึงต้องมาบังคับเอากับฉันแบบนี้!!!”
เสียงที่ก่นด่าไม่ได้สะทกสะท้านหญิงสาวที่ฉีกยิ้มยิงฟันดำปี๋นั้นเลยสักนิด ยิ่งทำให้ภครัฐตัวสั่นด้วยความกลัว หอบหายใจฟืดฟาดรุนแรง แขนขาที่ตะเกียกตะกายจนอ่อนแรงขาหักงอพับกองกับพื้น เหงื่อโซมไปทั่วกาย ดวงตาแทบถลนออกมานอกเบ้า เมื่อแม่นางยักษ์ตัวอ้วนน่าเกลียดคุกคามเข้ามาเรื่อยๆ
“อย่าเข้ามานะ อ๊ากกกกก!!!! กลัวแล้ว อย่ามาหลอกมาหลอนกันเลย ชิ้วๆ ฉันจะยกสมบัติให้เธอครึ่งหนึ่งเลยเอาไหม แลกกับเธอเลิกยุ่งกับฉันตลอดชีวิต” เสียงดังสนั่นคับห้องก่อนที่จะผวาสุดตัว
“รัฐคะ รัฐ คุณเป็นอะไรคะ” ศรัญรัตน์เขย่าร่างชายหนุ่มรุนแรงอย่างตกใจเพื่อให้อีกฝ่ายได้สติ เหงื่อกาฬไหลชุ่มไปทั่วตัวของเขา พร้อมกับใบหน้าหวาดกลัวสุดขีดยังกะเห็นผี แต่ยังหลับตาไม่รับรู้อันใด
“อย่าเข้ามานะ ฉันกลัวแล้ว หัวเด็ดตีนขาดยังไงก็ไม่แต่ง ม่ายยย!!!…”
“รัฐคะ คุณฝันร้ายเหรอ มีสติหน่อยสิคะ” เสียงหวานๆ ที่เรียกอยู่ข้างๆ แถมด้วยมือที่เขย่าไปมาทำให้ภครัฐสะดุ้งสุดตัวตื่นจากฝันร้ายอันน่าสยดสยอง เสียงหอบเหนื่อยรุนแรง หายใจเข้าออกจนอกแกร่งกระเพื่อมไหว เหงื่อไหลโซมไปทั่วกาย ใบหน้าตื่นกลัวสุดฤทธิ์
“ซูซี่” ชายหนุ่มเรียกนางแบบสาวเสียงโหย ยังหายใจหอบรุนแรงอยู่เช่นเดิม สายตากวาดมองรอบกายอย่างระแวดระวัง
“คุณเป็นอะไรคะ” เธอเลิกคิ้วถามด้วยความสงสัย
“ผมฝันไปหรอกเหรอนี่...” ภครัฐผ่อนลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก มือใหญ่ยกขึ้นลูบใบหน้าที่อิดโรย ก่อนวางประทับบนหน้าอกแกร่งเพื่อบอกตัวเองว่าไม่ใช่เรื่องจริง หัวใจของเขาจึงค่อยๆ ผ่อนปรนจังหวะการเต้นรุนแรงเหมือนกลองศึกลงไปจนเข้าสู่ภาวะปกติ
“ฝันร้ายเหรอคะรัฐ แหม... ซูซี่ตกใจหมดเลย” ร่างนางแบบสาวหุ่นสะบึมเบียดแซะเข้ามาอย่างยั่วเย้า ซุกซบแล้วกรีดลากปลายนิ้วเรียวที่มีเล็บสีแดงเคลือบเอาไว้ไปตามร่องอกให้ชายหนุ่มหายจากอาการตกใจเร็วขึ้น แต่ภครัฐไม่มีอารมณ์สานต่อความต้องการของเจ้าหล่อนอีกต่อไป
“กี่โมงแล้วครับคนสวย” ร่างเปลือยอันอุดมไปด้วยกล้ามเนื้อเพราะรักการออกกำลังกายหันมาถามนางแบบสาวที่เขาเริ่มติดใจ หลังจากสานสัมพันธ์กันได้ไม่นาน แต่ในเวลานี้เขาเหนื่อยเกินกว่าจะร่วมรักอย่างเร่าร้อนกับเธออีกรอบรับเช้าวันใหม่ อาจเพราะฝันร้ายที่เพิ่งผ่านพ้นมาก็เป็นได้
“เกือบเก้าโมงแล้วคะรัฐ คุณไม่ได้รีบไปไหนไม่ใช่เหรอคะ”
ศรัญรัตน์รู้ดีว่าชายหนุ่มมีเวลาให้เธอได้มากพอ เพราะไม่ต้องตื่นไปทำงานตั้งแต่เช้าเหมือนใครๆ ด้วยฐานะทางบ้านที่ร่ำรวยมหาศาลอยู่ด้วย เงินทองทรัพย์สินที่ใช้ไปกี่ชาติๆ ก็ยังไม่มีวันหมดด้วยมรดกพันล้านที่อีกฝ่ายจะได้ครอบครอง แถมยังเป็นบุตรชายคนเดียวเสียด้วย ที่ผ่านๆ มาไม่ว่าเธออยากได้อะไรแค่ชี้นิ้วเขาก็ประเคนให้ไม่เคยขัด เพียงแค่เป็นคู่ควงของเขาไม่กี่อาทิตย์ที่ผ่านมาเท่านั้น
เขาสปอร์ตมาก มากกว่าผู้ชายรวยแต่เปลือกอย่างอดีตๆ ที่เธอเคยคบๆ มา...
“หา... เก้าโมงแล้วเหรอซูซี่!!!”
น้ำเสียงแตกตื่นของชายหนุ่มทำให้ศรัญรัตน์ทำหน้ากระเง้ากระงอด นี่อย่าบอกนะ... ว่าเขาต้องรีบไปไหนอีก วันนี้เธอแพลนมาแล้วว่าจะชวนเขาไปชอปปิง อยากได้กระเป๋า เสื้อผ้า รองเท้าชุดใหม่ เธอไม่ยอมจริงๆ ด้วย
“ใช่ค่ะ เมื่อคืนคุณน่ะไม่บันยะบันยังบ้าง เลยนอนตื่นสายกันแบบนี้ไงคะ ไม่รู้ล่ะ วันนี้คุณต้องพาซูซี่ไปชอปปิงโทษฐานที่ทำให้ซูซี่เหนื่อยทั้งคืน” ศรัญรัตน์สะบัดหน้าอย่างมีจริตจะก้าน เพื่อเรียกร้องความสนใจ เพราะลางสังหรณ์บอกว่าเขาจะไม่อยู่กับเธอต่อในวันนี้ สายตาเฉี่ยวมองร่างสูงที่รีบสลัดผ้าห่มลุกอย่างเร่งรีบอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์นัก
“ผมต้องไปก่อนแล้วนะซูซี่” ภครัฐรีบบอกนางแบบสาวหุ่นกระชากใจบนเตียงกว้าง เขาไม่ได้สนใจอารมณ์เง้างอนของเจ้าหล่อนแต่อย่างใด
เธอได้ยินเขาสบถอย่างหัวเสียเมื่อรีบเร่งสวมใส่เสื้อผ้า น้ำท่าไม่ได้อาบ แถมยังไม่สนใจจะง้องอนท่าทีมีแง่งอนของเธออีกต่างหาก
“แหม... รัฐน่ะ จะรีบไปไหนกันคะ ซูซี่นึกว่าคุณจะต่ออีกสัก...” เธอพูดไม่ทันจบประโยคเขาก็ขัดขึ้น
“ไว้ผมโทร.หานะครับคนสวย ผมมีธุระจริงๆ” ภครัฐดึงร่างนางแบบสาวหุ่นสะบึมเข้าไปบดจูบหนักๆ ก่อนจะหยิบธนบัตรใบละหนึ่งพันบาทปึกหนึ่งออกมายื่นให้เจ้าหล่อน
“หมายความว่ายังไงคะ ซูซี่ไม่ใช่ผู้หญิงขายตัวนะคะ” เสียงเธอแหลมชวนแสบแก้วหู แต่ลีลาเด็ดเป็นบ้า นิสัยอย่างอื่นภครัฐตัดทิ้ง ขอแค่เข้ากันได้บนเตียงก็เพียงพอแล้ว
“รับไปเถอะครับ ผมให้ เผื่อคุณอยากได้อะไร ไหนบอกว่าอยากไปชอปปิงยังไงล่ะ ผมไม่ว่างไปเป็นเพื่อนเลยให้คุณไปซื้อของที่อยากได้ตามใจชอบ” เขานำเงินจับยัดใส่มือคนท่ามาก
“ที่ซูซี่รับไม่ใช่เห็นแก่เงินนะคะ” เธอสะบัดเสียงนิดๆ แต่เก็บเงินนั้นเอาไว้ในทันที
“ใครจะหาว่าคุณเห็นแก่เงินล่ะ หึหึ! แล้วผมจะโทร.หานะครับคนสวย” เขาก้มลงหอมแก้มนวลของเธออีกครั้งก่อนจะผิวปากออกจากห้องพักหรูของนางแบบสาว ซึ่งเขาเองเป็นคนซื้อให้เจ้าหล่อนตั้งแต่เริ่มคบกันใหม่ๆ
ผู้หญิงก็แค่นั้น บอกว่าไม่ต้องการเงิน แต่รีบรับแทบจะทันที ระหว่างขับรถกลับบ้าน ภครัฐยังนึกถึงความฝันอันน่าสยดสยองของตัวเอง พูดแล้วขนลุกชะมัด ยังไงเขาไม่ยอมแต่งงานกับยัยผู้หญิงบ้านนอกบึกบึนยังกะผู้ชายอย่างยัยนั่นเด็ดขาด ไม่ว่าบิดาจะบีบบังคับขนาดไหนก็ตามที เขายังอยากใช้ชีวิตโสดให้คุ้ม เรื่องอะไรจะสร้างพันธะให้ตัวเองแบบนั้นกันเล่า
ภครัฐคิดว่าเขาไม่มีความจำเป็นที่จะแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้นสักนิด!!!
“แกโผล่หัวมาแล้วเหรอเจ้ารัฐ”
วิรัฐก้มมองนาฬิกาเรือนหรูบนข้อมือของตัวเองสลับกับมองหน้าลูกชายคนเดียวที่ไม่เอาถ่าน สภาพของลูกชายทำให้เขาไม่ต้องคาดเดามากว่ามาจากสาเหตุอันใด เสื้อผ้าที่ยับย่น กลิ่นน้ำหอมและรอยลิปสติก รวมถึงกลิ่นเหล้านั่นเป็นตัวยืนยันได้ดีว่าเมื่อคืนชายหนุ่มผ่านอะไรมาบ้าง
ภครัฐไม่ตอบในทันที เขานั่งบนโซฟาตรงกันข้ามกับบิดาด้วยท่าทีอ่อนแรง จะไม่ให้อ่อนแรงได้ยังไงก็เมื่อคืนเขาเล่นฟัดนางแบบสาวจนถุงยางอนามัยหมดกล่อง ไม่รู้กี่ยกต่อกี่ยก
ผู้หญิงอะไรเซ็กซี่เป็นบ้า ร้อนแรงชะมัดยาด พูดแล้วยังเปรี้ยวปากไม่หาย...
“คุณคะ ตารัฐเพิ่งกลับมา ให้ไปอาบน้ำอาบท่า ล้างหน้าล้างตาก่อนสิคะ แล้วค่อยคุยกัน คุณทำเสียงดุแบบนั้นลูกตกใจแย่ กว่าลูกจะกลับมาสักที พูดดีๆ กับแกหน่อยสิคะ”
กาญจนาแทบจะปรี่เข้าหาลูกชายอย่างเป็นห่วง แม้ไม่ชอบใจนักที่เห็นบุตรชายควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า แต่ด้วยความรักที่บังตา นางจึงทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น ผู้หญิงคนไหนมาเรียกร้องท่ามาก เอาเงินฟาดหัวไปซะก็สิ้นเรื่อง
“คุณกาน คุณก็รู้ว่าผมไม่ชอบคนไม่รักษาเวลา โดยเฉพาะเจ้าลูกชายตัวดีของคุณ เวลาผมจะพบตัวที เหมือนจะต้องจุดธูปเซ่นไหว้ กว่ามันจะโผล่หัวมาได้” น้ำเสียงเฉียบขาดของสามีทำให้กาญจนาไม่ชอบใจนัก