1.บทนำ
เย็นแล้วแต่ลินจันทร์ยังไม่ได้อาบน้ำเสียที เนื้อตัวหล่อนคลุ้งไปด้วยกลิ่นน้ำปลาร้า ผมยาวสลวยยุ่งเป็นรังนกกระจอก ยามนี้รอยยิ้มเก๋ไก๋ซึ่งเคยแต้มบนดวงหน้าสวยเลยหายไป
หญิงสาวกระแทกส้นเท้าลงพื้นดินอย่างไม่กลัวเจ็บ หล่อนอยากไปให้ถึงลานซีเมนต์ที่ตั้งของเครื่องสูบน้ำบาดาลไวๆ เพราะทั้งเหม็นและเหนียวตัว ขณะที่สืบเท้าไปนั้น ลินจันทร์บ่นกระปอดกระแปดถึงงานในครัว หล่อนวิ่งวุ่นขาแทบเคล็ด เพราะต้องเป็นลูกมือยายสมหวังแม่ครัวปากกรรไกร
แรกๆ แค่หยิบของส่งให้นาง แต่ความซวยมาเยือนเอาตอนที่ต้องหาน้ำปลาร้าใส่อ่อมกบ พอเจอไหโบราณหน้าตาแปลกๆ หญิงสาวก็กล้าๆ กลัวๆ นึกรังเกียจและแขยง ไหปลาร้าหลุดมือหล่นแตก น้ำปลาร้าข้นคลั่กซึ่งกลิ่นกำลังได้ที่อาบต้นขาขาวผ่องเต็มรัก
“เอื้อยบอกก็ไม่ฟัง รออีกหน่อยก็ได้อาบน้ำบนเรือนแล้ว”หนึ่งฤทัยซึ่งเป็นเจ้าบ้านเอ่ยอย่างอ่อนอกอ่อนใจ
“อาบบนเรือนใหญ่ ตายละ ให้ต่อคิวยาวขนาดนั้นรอไม่ไหวหรอกพี่แหม่ม แล้วให้ไปแข่งกันอาบด้านล่างลูกจันทร์ก็ไม่เอาเหมือนกัน ยี้!”ลินจันทร์ทำท่าขนลุก ที่เพื่อนผู้หญิงแย่งกันเข้าไปอาบน้ำในห้องส้วม เป็นห้องแคบๆ มุงด้วยสังกะสีผุพัง แต่ละคนก็ใจดำเหลือเกินไม่ยอมมาอาบเป็นเพื่อนหล่อน นี่ดีนะที่พวกผู้ชายอาบกันที่ลานโล่งของโรงเรียน ขืนให้มาอาบที่นี่ หล่อนขอซักแห้งดีกว่า ไม่มีวันเสียละที่จะให้พวกผู้ชายเห็นตูมๆ ขนาดบิ๊กไซส์เป็นบุญตา
หนึ่งฤทัยเป็นรุ่นพี่ลินจันทร์ที่มหาวิทยาลัย ถึงจบออกมาหลายปีแล้วแต่ทั้งคู่ก็ติดต่อกันตลอด การเดินทางไกลของลินจันทร์กับเพื่อนในคณะครั้งนี้ เพื่อสร้างห้องสมุดให้แก่หมู่บ้าน ‘หนองใสดินงาม’ บ้านเกิดหนึ่งฤทัยนั่นเอง
โครงการนี้ลินจันทร์ได้ทุนจากชาวต่างชาติ หล่อนนำไปเสนอบริษัทของรหัทแฟนหนุ่ม และเขาก็ช่วยออกแบบงานให้ จนโครงการห้องสมุดอนุรักษ์วัฒธรรมท้องถิ่นเป็นรูปเป็นร่าง
“ต้องโทษพวกผู้ชาย แทนที่จะใช้มือทำงาน กลับใช้ปากแกว่งหาเสี้ยน!”ลินจันทร์แค้นใจเพื่อนในชมรมซึ่งยกโขยงมาร่วมยี่สิบชีวิต แต่ตั้งใจทำงานไม่กี่คน ที่เหลือก็เย้วๆ ตามกระแส
“ปล่อยเพื่อนๆ ให้สนุกบ้างเถอะ ทำบ้าง เล่นบ้าง แค่นี้ชาวบ้านเขาก็ปลื้มแล้ว”หนึ่งฤทัยว่าพลางกวาดตามองรอบตัวเธอแปลกใจที่เมื่อถึง
ลานน้ำบาดาล กลับไม่เห็นใคร
“เอ...ลูกจันทร์เห็นใครอยู่ตรงนี้ไหมเอื้อยเห็นหลังไวๆ นี่นา”เธอชะเง้อชะแง้หา แต่ไม่พบ
ลานเครื่องสูบน้ำตั้งอยู่ในรอบรั้วบ้านหญิงสาว บ้านใกล้เรือนเคียงละแวกนี้ต่างแวะเวียนมาใช้ไม่ขาด บ้านหนึ่งฤทัยเป็นเรือนใหญ่มีญาติพี่น้องเยอะ พ่อทินบิดาเธอรับราชการเป็นครูใหญ่ ทุกคนให้ความเคารพนับถือมาก
“ไม่มีใครก็ดี ลูกจันทร์จะได้อาบคนเดียว”ร่างแบบบางทำท่าเก้ๆ กังๆ ตรงเครื่องสูบน้ำแบบคันโยก
“ลูกจันทร์ถอยไปตรงนู้นก่อนสิ เดี๋ยวเอื้อยโยกน้ำให้อาบเองจะได้ไม่เสียเวลา งานในครัวเหลืออีกตั้งหลายอย่าง ฝีมือลูกจันทร์ทั้งนั้นที่ทำงานค้างไว้”หนึ่งฤทัยดันหลังลินจันทร์ให้เดินหน้า ครั้นเห็นหล่อนจะอาบน้ำทั้งที่สวมเสื้อยืด กางเกงขาสั้น เธอก็รีบยกมือห้ามบอกให้เปลี่ยนเป็นผ้าถุงก่อน
“...มานี่ ลูกจันทร์”หนึ่งฤทัยสวมผ้าถุงผ่านศีรษะหญิงสาว ปล้ำกันอยู่ประเดี๋ยวร่างหล่อนก็เบาหวิว พอหนึ่งฤทัยจะช่วยปลดตะขอบรา หล่อนก็ร้องว้ายอิดออดขอสวมเสื้อชั้นในไว้
“ไม่เอาหรอกพี่แหม่ม ลูกจันทร์ไม่เคยนุ่งผ้าถุงใส่ไว้อย่างนี้เซพ
กว่าเยอะ...”
“ถ้าอยากจะปลอดภัยกว่านี้ ลูกจันทร์ต้องไปอาบน้ำบนเรือนรู้ไหม”หนึ่งฤทัยกล่าวยิ้มๆ ก่อนจะถามถึงเรื่องส่วนตัวลินจันทร์ว่า “เอื้อยอยากรู้จัง...ตอนนี้ยังมีคนมาขายขนมจีบลูกจันทร์ไหม เอ...หรือว่าเตรียมตัวเป็นเจ้าสาวให้รุ่นพี่คนนั้นเสียแล้ว”
หนึ่งฤทัยรู้ว่าลินจันทร์ชอบพอกับนักศึกษาปริญญาโทซึ่งมีฐานะดีมากคนหนึ่ง เขาหล่อ รวย เข้าขั้นเพอร์เฟ็กต์เป็นหนุ่มในฝันของสาวๆ
“แหม พึ่งคบกันได้ไม่เท่าไหร่เอง ลูกจันทร์ไม่กล้าคิดไปไกลถึงขั้นนั้นหรอก”หล่อนหัวเราะคิกคัก ดวงหน้างามแดงระเรื่อ แล้วเลี่ยงอาการขวยเขินด้วยการตักน้ำจากถังสังกะสีราดตัว
“โอ๊ย นุ่งผ้าถุงอาบไม่ถนัดเล้ย ถ้าไม่กลัวคนเห็นลูกจันทร์จะแก้ผ้าอาบให้รู้แล้วรู้รอดเลย ฮิๆ”เอ่ยจบหล่อนก็นึกครึ้มใจ จู่ๆ ก็ปลดตะขอบราออก เพราะรู้สึกอึดอัดตัว
“อาบนานไปแล้วนะลูกจันทร์ เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก”หนึ่งฤทัยเอ็ดหล่อน ครั้นมองไปอีกทางก็เห็นจิ๋วสาวใช้ในบ้านวิ่งกระหืดกระหอบมา เธอขมวดคิ้วมุ่นประหวั่นใจว่าคงเกิดเรื่องในครัวเป็นแน่
“ลูกจันทร์ยังไม่สระผมเลย หัวยุ่งเป็นหัวสิงโต เดี๋ยวไปเที่ยวงานวัดอายคนอื่นแย่”ลินจันทร์รวบผมเปียกน้ำ เทแชมพูลงบนฝ่ามือขยี้ผมยาวสลวย
จากนั้นร่างอวบหนาก็มาหยุดข้างๆ หนึ่งฤทัย สาวใช้ชื่อจิ๋วเอ่ยละล่ำละลักขึ้ “ข้าวเหนียวมีกลิ่นไหม้หมดทั้งสองหวดเลยเอื้อยแหม่ม นังลูกจันทร์มันใส่น้ำเท่าเหยี่ยวมด ยายสมหวังด่าหนูหูชาเลย บอกใช้งานบ่เบิ่งคน ก็ไผ่สิไปรู้ เห็นมันทำเก่งทุกอย่าง ที่แท้ก็ ขี้โม้ ขี้คุย ถุย! อีงามแต่หนังหน้า เฮ็ดหยังก็บ่ได้เรื่อง!”จิ๋วพาดพิงลินจันทร์เพราะถูกแม่ครัวเอ็ดตะโรใส่