เสี่ยเถื่อน(crazy doctor)

168.0K · จบแล้ว
Tiwa
80
บท
5.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

“คนอย่างมึงมันสมควรตาย ๆ ไปซะ อยู่ไปก็ไม่มีประโยชน์เหี้ยอะไรสักอย่าง” “...” “อยากได้กูจนตัวสั่นสินะ เฮอะ ! จำใส่สมองมึงไว้เลยนะว่ามึงจะได้แค่ตัว ส่วนหัวใจกูไม่มีวันให้มึง”

นิยายปัจจุบันแต่งงานสายฟ้าแลบหมอดราม่าแก้แค้นโรแมนติก

crazy doctor1

(WARM TALK)

“อื้ม แรงกว่านี้สิคะหมอ เค้าอยากได้แบบรุนแรงกว่านี้ อื้ม...” ผมปิดเสียงเว้าวอนของเธอด้วยจูบที่แสนอ่อนโยนของผม จากนั้นผมก็สอดท่อนเอ็นเข้าออกที่รูสวาทของเธออย่างเนิบนาบ เพราะกลัวเธอจะเจ็บ

“หมอ... อื้อ ทำไมหมอไม่...” เธอเอื้อนเสียงกระเส่าเมื่อผมนั้นถอนจูบออก

“ก็กลัวเกลเจ็บไง เค้าไม่อยากให้เกลเจ็บ” ผมลูบที่อกอวบอิ่มของเธออย่างเบามือ ด้วยความที่กลัวว่าเธอนั้นจะเจ็บ

“แต่เกลอยากให้หมอเย-โหดน้า... หมอขา หมอ อ๊ะ แบบนั้นแหละหมอ อื้อ หมอขา... เกลเสียว เกลเสียวอ่าส์” พอเธอเว้าวอนมากขึ้นผมก็อดไม่ได้ที่จะทำตามที่เธอนั้นร้องขอ เพราะสายตาของเธอมันยั่วยวนกระตุ้นอารมณ์ทางเพศของผมให้พลุ่งพล่าน

แต่ผมก็ยั้งแรงไว้ เพราะกลัวเธอจะเจ็บและตกใจ ผมอยากทะนุถนอมเธอไว้ให้ดีที่สุด

“ซี้ด... อื้ม โหดกว่านี้ก็แหกแล้วนะครับฮันนี่” ผมว่าและบีบที่เต้าของเธอแรงขึ้น

“ก็เอาให้แหกไปเลย เค้าอยาก...อ๊ะ!” เมื่อเธอร้องขอ ผมก็กระแทกแรงกว่าเดิม สอบสะโพกใส่กายเธอไม่ยั้ง

“อ๊ะ! แบบนั้นแหละหมอ แบบนั้นเลย อื้อ เค้าเสียว เค้าเสียวอ่า อื้ม จะไม่ไหวแล้ว หมอขา หมอ... อื้อ” เธอกำลังจะถึงจุดสุดยอด

“รอเค้าก่อนสิเกล เกลครับ เกลสวยที่สุดรู้ไหม ซี้ด...” ผมว่าและกระแทกใส่กายเธอแรง ๆ พร้อมกับมือที่กำหน้าอกของเธอ ผมอยากจะกำให้แหลกคามือ และกระแทกให้มันแหกไปเลย

แต่เพราะผมรักเธอถึงต้องข่มอารมณ์แบบนั้นไว้

“วอร์มรักเกลนะ รักเกลมากรู้ไหม” ผมจูบที่กลีบปากอวบอิ่มหลังจากที่หลั่งน้ำกามใส่เครื่องป้องกันในกายเธอ

“รู้สิคะ มิเกลก็รักหมอวอร์มนะคะ” เธอฉีกยิ้มสวย

“บินกี่โมงนะ เค้าลืม” ผมถามพลางลุกออกจากายของเธอ

“สองทุ่มค่ะ แล้วรีบตามเกลไปนะ” เธอให้คำตอบและลุกยืนเปลือยกายสวยต่อหน้าผม

“เค้าต้องคิดถึงเกลมากแน่ ๆ เลย” ผมสวมกอดเธอเมื่อคิดว่าเราต้องห่างกันอีกแล้ว

“ไม่งอแงสิคะ เดี๋ยววอร์มก็ตามเค้าไปแล้วไง ห่างแค่เจ็ดวันเอง” เธอหันมาฉีกยิ้มที่แสนสดใสให้ผม

“หนึ่งนาทีเค้าก็จะขาดใจแล้วครับ” ผมจูบลงที่หน้าผากของเธอ

“อ้อนยังไงเค้าก็ไม่เลื่อนไฟล์ทบินหรอกนะ” เธอพูดอย่างรู้ทัน

“ทำไมใจร้ายจังครับ”

“ไม่ได้ใจร้าย เค้าพูดจริง ๆ วอร์มเข้าใจเค้าใช่ไหม”

“เข้าใจสิ เค้าก็แค่ลองอ้อนดูก็แค่นั้น”

“เอาไว้เจอกันที่เมืองไทยนะคะ” เธอแตะจูบที่ปากผม

“ต้องเจออยู่แล้ว เกลเป็นแฟนเค้านะ”

“อาบน้ำด้วยกันไหมคะคุณหมอวอร์ม” เธอส่งสายตาเชิญชวน

“เค้าไม่เคยปฏิเสธเกลอยู่แล้ว” ผมอุ้มเธอขึ้น แล้วพาเธอมายังห้องน้ำ จากนั้นเราสองคนก็สวีทกันในห้องน้ำอีกรอบ

ตัวผมนั้นชื่อว่า ‘วอร์ม’ ผมเป็นลูกชายแท้ ๆ ของป๊าคงคา ซึ่งตอนนี้ผมอยู่อเมริกา เพราะท่านส่งผมมาเรียนที่นี่ และกำหนดกฎเกณฑ์ให้ผมนั้นเรียนหมอ

ผมไม่รู้เหตุผลหรอก แค่ท่านบอกให้เรียน ผมก็เรียนตามคำสั่ง เพราะทุกอย่างที่ท่านให้ผมนั้นมักจะเป็นเรื่องดีเสมอ แม่ของผมบอกแบบนั้น

และมันไม่มีความจำเป็นอะไรที่ผมนั้นต้องขัด เนื่องจากสมองที่ชาญฉลาดของผม การเรียนหมอจึงไม่ใช่เรื่องยากสักนิด

ส่วนบรรดาพี่ ๆ ของผมแต่ละคนนั้นต่างมีความสุขกันดี พวกเขาทุกคนกลายเป็นคนดี และมีความเป็นผู้ใหญ่สูง ต่างผมที่เป็นเด็กที่เพิ่งจะโต กว่าจะผ่านชีวิตแบบพวกพี่ ๆ คงอีกนาน

อีกทั้งตอนนี้ป๊าและพี่ ๆ ของผมวางมือจากธุรกิจมืดมานานหลายปีมาก พวกอริและคู่แข่งจึงเบาบางลง และการต่อสู้ห้ำหั่นกันจึงลดน้อย

น่าเสียดายที่ผมนั้นเกิดไม่ทันช่วงนั้น ไม่งั้นคงมีอะไรสนุก ๆ ให้ทำเยอะแยะ

ผมมีผู้หญิงที่ผมรัก เธอคนนี้ชื่อ ‘มิเกล’ เธอมาเรียนหมอที่นี่เหมือนกับผม และบังเอิญเราพักห้องใกล้กัน

ทำให้เราสองคนสานความสัมพันธ์กันอย่างง่ายดาย เนื่องจากเรารู้จักกันมาก่อนที่ผมจะมาอยู่ที่อเมริกา เพราะเธอคือลูกสาวบุญธรรมของอาหมอเพื่อนของป๊าผม

เราตกลงคบกันโดยที่คนทางบ้านไม่รู้เรื่องอะไร ผมก็แค่อยากจะเซอร์ไพรส์ตอนกลับไทยก็แค่นั้น

ผมกับมิเกลเรารักกันมากเพราะเราใกล้ชิดกันตลอด

มันไม่ใช่เวลาน้อยสำหรับผมสักนิด เพราะผมกับเธอคบกันเป็นแฟนมาสี่ปีแล้ว

เธอกลับไปหาครอบครัวบ่อย ต่างจากผมที่ขี้เกียจกลับ เพราะเบื่อการเดินทาง

เธอแทบจะเป็นลมหายใจของผมเลยก็ว่าได้ จะว่าผมเวอร์ก็ได้นะ

แต่ชีวิตที่ขาดเธอของผมนั้น ถ้ามันเกิดขึ้นจริง ๆ ผมแทบจะมองไม่เห็นแสงสว่างเลยล่ะ

เพราะทั้งชีวิตของผม มีเธอเป็นลมหายใจไปแล้ว

แต่เห็นผมไม่กลับไทยแบบนี้ ผมก็มีเพื่อนร่วมแก็งค์ที่เมืองไทยนะครับ เพราะเราติดต่อกันผ่านโซเชียล และเป็นเพื่อนที่โรงเรียนสมัยที่ผมเรียนอยู่ที่ไทยก่อนที่จะมาอยู่อเมริกา

ก็ต้องบอกว่าเพื่อนแต่ละคนของผมนั้นมีเอกลักษณ์ประจำตัว

และไม่ได้คบกันแบบมั่วซั่วแน่นอน

เพราะแต่ละตัวนั้นโคตรแสบ และคงจะหาความดียากพอสมควร

“เค้ารักวอร์มมากนะคะ รักที่สุดเลย ตลอดเวลาที่เราคบกันมาเค้ามีความสุขที่สุดรู้ไหม” มิเกลเธอเอื้อนเอ่ยขณะที่เรานั้นทานข้าวที่ห้างด้วยกันก่อนที่เธอจะไปรอขึ้นเครื่องที่สนามบิน

“เค้าก็รักเกล รักที่สุดเหมือนกัน เกลเป็นผู้หญิงคนแรกที่เค้ารัก และจะเป็นคนสุดท้ายที่เค้ารักเช่นกัน” ผมเอื้อมมือไปจับมือเธอมากุมไว้ มิเกลเธอเป็นคนสวย น่ารัก นิสัยดี ผมถึงรักเธอมาก ๆ ยังไงล่ะ

“เค้าดีใจนะที่วอร์มรักเค้า สี่ปีที่เราเป็นแฟนกัน วอร์มเป็นแฟนที่ดีที่สุดเลยรู้ไหม วอร์มไม่เคยขาดตกบกพร่องอะไรสักอย่าง ไม่เคยลืมวันพิเศษ ของขวัญมีให้เค้าตลอดเลย เค้าโชคดีจริง ๆ ที่ได้วอร์มเป็นแฟน” มิเกลเธอมองผมด้วยสายตาที่เปรี่ยมล้นด้วยความปลาบปลื้ม

“สำหรับเกลเค้าให้ได้ทุกอย่าง เค้าบอกแล้วไงว่าเค้าจริงจังกับเกล และเค้าจะดูแลเกลให้ดีที่สุด เค้ากลับไทยแล้วจะให้ป๊าไปคุยเรื่องของเรานะ เราหมั้นกันไว้ก่อน หรือเกลจะแต่งเลยก็ได้นะ เพราะเค้าอยากจะกอดเกล อยากจะได้เกลมาอยู่กับเค้าตลอด 24 ชั่วโมง” ผมวาดฝันถึงอนาคตอันใกล้ให้คนรักได้ฟัง

และมันคือความหวังที่ผมนั้นมอบให้เธอ ซึ่งผมจะทำตามที่ผมพูดอย่างแน่นอน

“ก็วอร์มเป็นแบบนี้ไงเค้าถึงไปไหนไม่ได้สักที เค้ารักวอร์มนะ แล้วเจอกันที่ไทย” เธอส่งยิ้มหวานในแบบที่เธอชอบยิ้มมาให้ผม

ผมชื่นชอบรอยยิ้มของเธอที่สุด เพราะรอยยิ้มของเธอมันทำให้ผมมีกำลังใจ

ผมชื่นใจทุกครั้งที่ได้กอดได้หอมเธอ...

(ริมผา: กลับไทยเมื่อไหร่)

(วอร์ม: อาทิตย์หน้า ไมวะ)

(สต๊อป: ถามโง่ ๆ ก็อยากเจอไงวะ)

(กีต้าร์: มึงด่าหมอได้ไงไอ้ต๊อป)

(สต๊อป: กูไม่ได้ด่า กูอุทาน)

(วอร์ม: โอ๊ยยยย พวกมึงจะเถียงอะไรกันวะ ว่างเหรอไม่ทำงานกันล่ะ)

(ริมผา: พวกกูแค่ตื่นเต้นที่มึงจะกลับไทยก็แค่นั้นไอ้หมอ)

(กีต้าร์: ใช่ ถึงไทยแล้วบอกด้วยครับ ไอ้ต๊อปปิดสนามเลี้ยงมึงเลย)

(สต๊อป: กูตลอด)

(วอร์ม: เออ ๆ ถึงแล้วเดี๋ยวบอก แต่ตอนนี้เกลขึ้นเครื่องไปแล้ว ยังไงก็ฝากพวกมึงเป็นหูเป็นตาให้กูด้วยนะ)

(ริมผา: เออออออ)

บทสนทนาทางกรุ๊ปไลน์จบลงแค่นั้น นี่คือบทความที่ผมคุยกับเพื่อนในกลุ่มของผม ผมมักฝากพวกมันดูแลมิเกลอย่างห่าง ๆ เพราะผมเป็นห่วงเธอ

ซึ่งเรื่องที่ผมคบกับมิเกลคนที่รู้ก็คือเพื่อนของผมนี่แหละ ส่วนคนในครอบครัวไม่มีใครรู้ แม้กระทั่งหลานรักที่ผมเคยสนิทด้วยอย่างไอ้เคลิ้ม ใช่ว่าตอนนี้ไม่สนิทนะครับ

แต่ผมแค่ไม่อยากเล่าให้มันฟัง เพราะหลานชายคนนี้ของผมมันค่อนข้างปากสว่างเรื่องของผมเป็นอย่างมาก

ตอนนี้ผมกำลังนอนเหงาบนที่นอนพร้อมกอดหมอนที่มีกลิ่นกายของคนรักอย่างมิเกล ที่ป่านนี้เธอคงอยู่บนเครื่องบิน

ผมอยากจะกลับพร้อมเธอ แต่ติดปัญหาเรื่องเอกสารที่ผมต้องเคลียร์และมันต้องใช้เวลา ซึ่งผมไม่อยากวุ่นวายให้ถึงหูป๊ากับมัม ผมไม่อยากตอบคำถามของพวกท่าน โดยเฉพาะมัมที่ชอบตั้งคำถามโต้ง ๆ ไม่คิดถึงคนที่ต้องตอบเช่นผม

ครืด ครืด ครืด...

นั่นไง พอบ่นหน่อยก็โทรมาเลย จะคิดถึงอะไรขนาดนั้น

“ครับมายมัม”

(คิดถึงคุณหมอของมัมที่สุดเลยค่ะ สบายดีใช่ไหม)

“สบายดีครับ มัมสบายดีใช่ไหม ฟังจากน้ำเสียงน่าจะใช่”

(ที่สุดค่ะ ยิ่งรู้ว่าคุณหมอจะกลับมาสู่อ้อมกอดมัมยิ่งกินอิ่มนอนหลับ)

“ป๊ากับพี่ ๆ ทุกคนก็สบายดีใช่ไหมครับ”

(จ้า ป๊าและพี่ ๆ ทุกคนสบายดี และรอต้อนรับคุณหมออย่างใจจดใจจ่อ)

“อีกแค่เจ็ดวันครับ แล้วไอ้แสบเป็นยังไงบ้างครับ เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยติดต่อหาผมสักเท่าไหร่”

(ตัวแสบก็ยังแสบเหมือนเดิมนั่นแหละ สงสัยติดสาวเลยลืมอาวอร์ม)

“อย่างไอ้แสบเนี่ยนะครับมีสาว”

(แหม่ะ หลานชายเราแต่ละคนมีแต่หล่อ ๆ ทั้งนั้น สาว ๆ พากันกรี๊ดเต็มไปหมด อย่าลืมสิว่าหลานรักของเราเข้ามหาลัยแล้วนะ ส่วนที่เหลือก็ร้าย ๆ กันทั้งนั้น)

“ผมคนดีสุดครับมัม ไม่เข้าใจทำไมไม่เอาอาอย่างผมเป็นตัวอย่าง”

(มัมไม่คุยกับพ่อหนุ่มหลงตัวเองแล้วนะ แค่นี้นะครับ เจอกันที่ไทย) แล้วท่านก็วางสายของผมไปทันที ท่านมักจะโทรมาถามไถ่อยู่เป็นประจำ ตามประสาแม่ที่เป็นห่วงลูกชาย

คิดถึงไอ้หลานชายที่มีนิสัยไม่ยอมคน แล้วผมก็อดขำไม่ได้สักที เพราะไอ้หลานคนนี้มันจ้องจะเอาชนะผมมาตลอดตั้งแต่รู้จักกัน ซึ่งผมก็ขี้เกียจจะพูดจะเถียง ก็เลยเลือกที่จะเดินหนีเป็นประจำ แต่ก็ไม่พ้นตามมาชวนผมถกเถียงจนผมต้องยกธงขาวให้ตลอด

กลับไปคงจะป่วนผมน่าดู