ตอนที่ 4 น้องสาวมาช่วยงาน
“เฮียธีร์ จะไปทำงานแล้วเหรอคะ”
เดินยังไม่ห่างประตูห้องได้ถึงสามก้าว เสียงเล็ก ๆ ของคนที่อยู่ร่วมคอนโดก็ดังขึ้น ธีร์ธวัชถอนหายใจออกมาเล็กน้อย ก่อนจะค่อย ๆ หันตัวไปทางเสียงเรียก
“ก็ใช่น่ะสิ มีอะไร”
เอ่ยถามพร้อมสายตาที่มองสำรวจสายขิมจนทั่วทั้งตัว วันนี้ดูเหมือนเธอจะแต่งตัวแปลกกว่าทุกวัน สายเดี๋ยวสีขาวมุกรัดรูป เข้าคู่กับกระโปรงยีนส์สั้น ถึงมันจะสั้นมากแต่ก็ดูไม่โป๊
“แต่งตัวจะไปไหน”
“ขิมก็จะไปช่วยงานเฮียธีร์ที่ร้านไงคะ”
คำตอบของยัยตัวแสบทำให้นัยน์ตาคมเบิกกว้าง ไล่สายตามองหน้าเธอสลับกับชุดที่ใส่ไปมา
“เดี๋ยว...ไปช่วยงานทำไมแต่งตัวแบบนี้”
“ไม่สวยเหรอคะ ขิมคิดว่าที่บาร์ของเฮียธีร์น่าจะมีแต่คนสวย ๆ ไปเที่ยว ก็เลยแต่งตัวให้เข้ากับบรรยากาศน่ะค่ะ”
“ไปเปลี่ยนเดี๋ยวนี้”
เสียงเข้ม ๆ พูดลอดไรฟันเอ่ยคำสั่งออกมา ไม่ใช่ว่าเธอใส่ไม่สวย แต่มันอันตรายเกินไป ไม่ใช่อันตรายกับใครที่ไหน อันตรายกับความรู้สึกของเขาเองนี่แหละ
“ไม่ค่ะ ขิมจะใส่ชุดนี้” คนตัวเล็กยังยืนยันคำตอบ “ทำไมคะ ขิมไม่สวยเหรอ”
สองเท้าเดินเข้ามาหาเขาช้า ๆ จนมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าก่อนที่จะช้อนสายตาคมสวยขึ้นมอง “ว่าไงคะ ขิมไม่สวยเหรอ”
ธีร์ธวัชรีบเบนหน้าหนีเพราะไม่อยากสบดวงตาคู่นั้น แพขนตาหนาที่รับกับดวงตาคมโต มันกำลังสะกดจิตเขาอยู่
“อยากใส่ก็ใส่ ถ้าเจอไอ้พวกหื่น ๆ ลวนลามฉันไม่ช่วยนะบอกก่อน” เขาพูดขู่
“ก็ถ้าเฮียธีร์จะทนมองคนอื่นลวนลามขิมได้ ก็แล้วแต่เฮียเลยค่ะ”
ริมฝีปากบางสวยที่แต่งแต้มลิปสติกเอาไว้คลี่ยิ้มเพียงนิด แต่มันกลับกำลังทำให้หัวใจของเขาสั่นไหว ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เธอเปลี่ยนไปขนาดนี้ แทบไม่เหลือเค้าเด็กน้อยที่วิ่งตามก้นเขาเมื่อสมัยสิบปีก่อนเลย
‘สวย’ ทันทีที่คำนี้ผุดขึ้นมาในหัว ใบหน้าหล่อเหลาก็ต้องรีบส่ายไปมาแรง ๆ เพื่อขจัดมันออก เธอเป็นน้อง ท่องไว้ว่าสายขิมคือน้องสาว
แต่เป็นแค่น้องบุญธรรมนี่หว่า...
“เฮียธีร์”
“...”
“เฮียธีร์”
เมื่อเรียกถึงสองรอบแล้วแต่ผู้ชายตัวสูงยังยืนนิ่ง ไม่ตอบ ไม่หือ ไม่อือ สองเท้าเลยขยับเข้าใกล้เขาอีกอีกนิดพร้อมกับยกมือเล็กขึ้นโบกไปมาตรงหน้าของอีกฝ่าย
“ทำอะไรของเธอ” เมื่อได้สติธีร์ธวัชก็รีบเอ่ยถาม
“ก็ขิมเห็นเฮียยืนเหม่ออยู่ ก็เลยเช็กดูว่ายังสบายดี”
“ฉันไม่ได้ป่วย”
“แต่ขิมว่าคล้าย ๆ นะคะ”
ยัยตัวเล็กต่อปากต่อคำไม่หยุด ทำให้เขาถอนหายใจออกมาหนัก ๆ ก่อนที่เดินเลยเธอไปยังหน้าประตู
“จะไปก็รีบตามมา”
ห้ามไปก็เท่านั้น เพราะยังไงนี่ก็เป็นหนึ่งในคำสั่งของแม่เขาอยู่แล้ว ก็คือการให้สายขิมไปช่วยงานที่ร้าน แต่ก็ดีเหมือนกัน บางทีถ้าเธอเห็นเขานัวเนียกับผู้หญิงคนอื่น ไม่แน่อาจจะรับไม่ไหวร้องไห้ขี้มูกโป่งกลับใต้ไปเลยก็ได้
‘ฉลาดฉิบหาย’ ได้แต่ชมตัวเองในใจ
รถยนต์แล่นด้วยความเร็วขับไปยังยูนิคอร์นบาร์ ภายในมีผู้หญิงตัวเล็กเต้นโยกย้ายไปตามจังหวะเสียงเพลงที่เปิดดังลั่น จนผู้เป็นเจ้าของต้องยกมือขึ้นมานวดขมับคลายความปวดหัว
“เบาเสียงลงหน่อยไม่ได้หรือไง”
“ทำไมอะ เฮียไม่ชอบเหรอ”
“หนวกหู”
“ทีอยู่ในร้านเสียงดังจะตายยังทนได้”
ไม่รู้เป็นรอบที่เท่าไหร่ตั้งแต่ยัยดื้อนั่งรถมาด้วยแล้วต่อปากต่อคำกับเขา จะพูดอะไรมากก็ไม่ได้เพราะมีคุณหญิงแม่คอยให้ท้ายอยู่ แต่สายตาก็เหลือบไปเห็นบางอย่างพอดิบพอดี
หรือเป็นเพราะขยับตัวมากไป เลยทำให้คอเสื้อตัวจิ๋วที่เธอสวมอยู่มันเลื่อนต่ำลงมาก จนเผยให้เห็นสองเต้าอวบใหญ่ที่โชว์อยู่เกินครึ่งเต้า
อึก! เสียงน้ำลายถูกกลืนลงคอไปอย่างยากลำบาก แล้วพยายามควบคุมจิตใจไปมองถนนแทน แต่ไม่ได้ผล!
“ขิม ดึงเสื้อขึ้น” จนสุดท้ายธีร์ธวัชก็ทนไม่ไหวต้องเอ่ยบอกเด็กดื้อออกไป เพราะกลัวว่าตัวเองจะตบะแตกเข้าจริง ๆ
คนตัวเล็กหันหน้ามาทางเฮียธีร์ของเธอแล้วก้มมองเสื้อตัวเอง ก็พบว่าคอเสื้อมันร่นลงไปจนเห็นถึงไหนต่อไหน แต่แทนที่จะดึงขึ้นปิดตามคำสั่ง สายขิมกลับขยับตัวเข้ามาใกล้ จนหน้าอกอวบ ๆ แทบจะชิดกับแขนล่ำ
“ดึงขึ้นทำไมคะ เฮียธีร์ไม่ชอบเหรอ ทีกับผู้หญิงคนอื่นขิมเห็นเฮียชอบเวลาพวกนั้นแต่งตัวยั่ว ๆ แบบนี้”
เดี๋ยวนะ! ยัยเด็กดื้อนี่แปลกไปหรือเปล่า ทำไมทำท่าทางเหมือนกำลังยั่วเขาอยู่แบบนี้ล่ะ
“ดึงขึ้น หรือเธอจะให้ฉันดึงขึ้นให้”
“ถ้าเฮียธีร์กล้า ก็เอาสิคะ”
รถยนต์คันใหญ่เลี้ยวเข้าจอดข้างทางแทบจะทันทีเมื่อสายขิมพูดจบประโยค เมื่อรถจอดสนิท คนตัวโตก็ปลดเข็มขัดนิรภัยออก แล้วเบี่ยงตัวไปทางที่เด็กดื้อนั่งอยู่
“เธอกำลังท้าฉันอยู่นะสายขิม”
“ขิมเปล่าท้าเฮียนะ แค่บอกเฉย ๆ”
ทั้งน้ำเสียงและสีหน้า ไม่รู้ว่าเธอตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ แต่อาการแบบนี้เหมือนกำลังยั่วเขาอยู่อย่างไรอย่างนั้น บางทีอาจจะเป็นแผนการที่คุณหญิงแม่ของเขาวางเอาไว้
หึ! ไม่สำเร็จหรอก แต่ว่า...หรือมันจะสำเร็จ?
“แน่ใจเหรอว่าจะใช้วิธีนี้”
เสียงทุ้มเอ่ยถาม พร้อมกับใช้นิ้วมือดึงคอเสื้อที่เปิดกว้างให้ขึ้นมาปิดส่วนที่โชว์อยู่ สายตาคมจับจ้องไปยังใบหน้าสวยที่แต่งแต้มเครื่องสำอางเอาไว้ จะว่าไปเธอก็สวยใช่เล่น ก่อนที่จะหลุบสายตามองยังหน้าอกที่มือของเขายังจับคอเสื้อ
“อืม...ใหญ่ดีเหมือนกันนะ”
“พะ พอแล้วเฮีย”
ท้าเขาไปแบบนั้น พอเอาเข้าจริงหัวใจดวงน้อยกลับเต้นระส่ำแทบคุมไม่ได้ เฮียธีร์ที่ทำเมินเฉยกับเธอตลอด พอเป็นแบบนี้รู้สึกใจคอไม่ดีเอาเสียเลย
“นี่เสื้อ ใส่คลุมเอาไว้”
ธีร์ธวัชหยิบเสื้อคลุมที่แขวนอยู่ด้านหลังรถยื่นไปให้ ตัวเขาเองก็ไม่อยากจะตบะแตกตอนนี้เหมือนกัน ยังไม่อยากมีเมีย และยังไม่อยากแต่งงาน
มือเล็กรับเสื้อที่อีกฝ่ายยื่นมาให้แล้วสวมอย่างว่าง่าย แล้วเบนใบหน้าหันไปมองนอกหน้าต่างรถเพื่อไม่ให้เขาเห็นว่าตอนนี้ หน้าของเธอคงแดงเถือกจนทั่วแล้ว
ลมหายใจถูกพ่นออกมาเบา ๆ เพื่อขจัดความประหม่าจากสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ แววตาแบบนั้นที่เธอไม่เคยได้เห็นมันเลย ราวกับว่าเขากำลังเล้าโลมเธออยู่ แต่ว่า...ถ้าอยากได้เขา เราก็ต้องใจกล้าสิ!
ความเงียบเข้าปกคลุมในรถ แม้แต่เพลงที่เธอเปิดเต้นก็กดปิดแล้ว สายขิมยอมนั่งนิ่ง ๆ เป็นเด็กดีจนรถของเขาเลี้ยวมาจอดยังหน้าร้าน
“ไม่ได้มานาน ร้านเฮียคนเยอะเหมือนเดิมเลยนะ”
เสียงใสเอ่ยพูดเมื่อเดินเข้ามาในร้านพร้อมกับใช้สายตากวาดมองรอบ ๆ บาร์ของเขา และส่วนมากเท่าที่เห็นตอนนี้ ลูกค้าจะเป็นผู้หญิงทั้งนั้น แต่ยังเดินไม่ถึงไหนก็มีผู้หญิงคนหนึ่งวิ่งเข้ามาเกาะแขนของเฮียธีร์เอาไว้
“เสี่ยขา...ไหนบอกจะโทรหากิ๊บซี่ยังไงล่ะคะ เสี่ยหายไปหลายวัน กิ๊บซี่คิดถึงรู้หรือเปล่า”
‘อ๋อ...นี่เองสินะ น้องกิ๊บซี่’ สายขิมได้แต่คิดในพร้อมกับยืนกอดอกมองผู้หญิงตรงหน้ากำลังออดอ้อนออเซาะว่าที่สามีของเธออยู่
แขนเรียวตวัดคล้องแขนคนตัวโตอัตโนมัติ พร้อมกับเบียดตัวเข้าชิดใกล้ ทำให้เห็นไปเลยว่าผู้ชายคนนี้ของฉัน!
“คนนี้ใครคะเสี่ย”
“อ๋อ...น้องสาวน่ะ มาช่วยงาน”
สายขิมหน้ายู่ลงทันทีเมื่ออีกฝ่ายแนะนำสถานะเธอไปแบบนั้น ได้เลยเฮียธีร์ เจอไม้เด็ดแน่!
“ถ้าอย่างนั้นเฮียรีบขึ้นข้างบนดีกว่านะคะ จะได้ทำงาน มัวแต่เสียเวลากับเรื่องไร้สาระ เดี๋ยวจะเสียงานเสียการ”
เธอย้ำคำว่าไร้สาระอย่างชัดถ้อยชัดคำ จนทำให้กิ๊บซี่แทบจะถลึงตาใส่ แต่คนอย่างสายขิมจะแคร์เหรอ เธอถูกคุณแม่ของเขาเทรนด์มาอย่างดีแล้ว
ธีร์ธวัชไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธ แต่ก็เลือกที่จะเดินตามแรงดึงของน้องสาวต่างพ่อแม่ขึ้นมาข้างบนห้องทำงาน ไม่ใช่ว่าเขาอยากจะเชื่อฟัง แต่ว่ามีเอกสารหลายอย่างที่ต้องจัดการให้เรียบร้อยพอดี
///////////////////////////////////////////////////////
