เสน่หาภรรยาเช่า

64.0K · จบแล้ว
จินต์พิชา
34
บท
12.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

หนึ่งล้านบาทกับเวลาหนึ่งเดือนจากนั้นทุกอย่างก็จบ เงื่อนไขง่ายๆ ที่ใครก็อยากจะได้รับ และมนต์มีนาก็ผู้คนโชคดีคนนั้น เธอคิดว่าทุกอย่างจบ แต่เขาก็กลับมาหาเธออีกครั้งครั้งด้วยเงินที่เยอะกว่าเดิม แต่มนต์มีนาไม่ต้องการเงินอีกแล้วเธอต้องการแค่ใจ ใจต้องแลกด้วยใจแล้วเขาจะกล้าแลกกับเธอไหม

ประธานมาเฟียฟินๆเศรษฐีโรแมนติกดราม่า21+

1 เหนื่อยก็แค่นอนพัก

“ขอบคุณแขกผู้มีเกียรติทุกท่านที่มาร่วมงานในวันนี้ ขอให้ทุกท่านเดินทางกลับบ้านโดยสวัสดิภาพแล้วเจอกันใหม่โอกาสหน้านะคะ ขอบคุณทุกท่านมากๆ ค่ะ สวัสดีค่ะ”

เสียงปรบมือดังขึ้นและค่อยๆ เงียบหายพร้อมกับไฟบนเวทีดับลง มนต์มีนาถอนหายใจและเดินลงมาด้านหลังเวทีไหล่ผึ่งผายด้วยความสง่างามยามเมื่ออยู่กลางแสงไฟลู่ลงใบหน้าสวยไร้รอยยิ้ม

“ไหวมั้ยมีน” ชาลิดาเดินมาประคองเพื่อนให้นั่งลงบนเก้าอี้

“ไม่ไหวก็ต้องไหวแหละออย” มนต์มีนายิ้มอ่อน

“ออยว่าช่วงนี้มีนรับงานหนักมากเกินไปแล้วนะ วันนี้ก็ตั้งสามงาน” หญิงสาวพูดด้วยความเป็นห่วงเพราะแต่ละงานก็ใช้พลังงานค่อนข้างเยอะและต้องยื่นนานๆ ขนาดตัวเองรับแค่งานเดียวยังเหนื่อยแทบแย่

“ขนาดมีนรับงานเยอะอย่างนี้ เงินยังไม่พอใช้หนี้เลยนะออย ตอนนี้บ้านก็กำลังจะถูกยึดแล้ว ส่วนเงินที่ไปกู้มาตอนรักษาแม่ดอกเบี้ยก็โหดเหลือเกินที่ทำทุกวันนี้แทบจะไม่ได้ส่งเงินต้นด้วยซ้ำ”

“เงินตั้งมากมายขนาดนั้นออยก็ไม่รู้จะช่วยมีนยังไงนะเหมือนกันนะเฮ้อ...” เพราะทางบ้านของชาลิดาเองก็ไม่ได้มีฐานะร่ำรวยอะไรมากนัก ทั้งสองเป็นเพื่อนสนิทกันและวันนี้มนต์มีนาก็มาทำงานพิธีกรให้กับผลิตภัณฑ์แห่งหนึ่งในห้างสรรพสินค้า โดยชาลิดาตามมาคอยดูแลเพื่อนด้วยความเป็นห่วง ก่อนหน้าที่จะมาที่นี่ทั้งสองคนก็ไปเป็นพริตตี้ให้กับผลิตภัณฑ์แห่งหนึ่งมาแล้วถึงสองงาน แม้วันหนึ่งรายได้จะได้เยอะมากเมื่อเทียบกับงานพาร์ตไทม์ทั่วไปแต่มันก็ยังไม่พอกับภาระหนี้สินที่มนต์มีนาต้องจ่าย

“พรุ่งนี้มีนว่าจะเข้าไปที่โมเดลลิงสักหน่อย เผื่อว่าพี่ปานจะมีงานอะไรเพิ่ม ออยไปด้วยกันไหม”

“ได้สิ แต่วันนี้รีบกลับไปพักผ่อนกันนะดีกว่าพรุ่งนี้เจอกันสักสิบโมงเช้าดีไหม”

“ได้ๆ งั้นแยกกันตรงนี้นะเดี๋ยวรถเมล์จะหมดเสียก่อน”

“โอเคพรุ่งนี้เจอกันนะมีน กลับไปก็รีบนอนพักล่ะ เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว”

มนต์มีนารีบเดินออกมาหน้าห้างสรรพสินค้าเพื่อขึ้นรถเมล์กลับไปยังบ้านของเธอ

บ้านของหญิงสาวอยู่ในซอยลึกเมื่อลงรถเมล์หน้าปากซอยก็ยังต้องนั่งจักรยานยนต์เข้าไปแต่ส่วนใหญ่เธอเลือกจะเดินเข้าไปเองมากกว่าเพราะอยากประหยัดให้มากที่สุด

เมื่อลงจากรถเมล์วินจักรยานยนต์รับจ้างที่รู้จักกันก็ทักทายหญิงสาวขึ้น

“กลับดึกอีกแล้วนะมีน”

“ค่ะลุงศักดิ์ แล้วลุงศักดิ์ล่ะคะ ดึกแล้วทำไมยังอยู่ที่วินอีกล่ะ”

“เมื่อกี้ลุงเพิ่งไปส่งลูกค้ามาก็เลยแวะมาเอากระติกน้ำแล้วก็จะกลับบ้านเหมือนกัน มีนขึ้นมาเลยเดี๋ยวลุงไปส่ง” ลุงสมศักดิ์ขึ้นไปนั่งบนรถเตรียมจะออก

“ไม่เป็นใครหรอกค่ะ ลุงหนูเกรงใจ”

“จะเกรงใจทำไมในเมื่อลุงก็ต้องกลับบ้าน แล้วมันก็ผ่านบ้านหนู ตอนแม่หนูยังอยู่ก็เอื้อเฟื้อทำอาหารให้ลุงกับที่บ้านลุงกินประจำ มีนขึ้นมาเลยลูกไม่ต้องเกรงใจ”

“หนูขอจ่ายค่าโดยสารได้ไหมคะ”

“ไม่ต้องหรอกจ้ะ ลุงไม่มีเงินทองมากมายช่วยหนูใช้หนี้ก็มีแต่น้ำใจเล็กๆ น้อยๆ ก็นี่แหละหนูอย่าคิดมากเลยจ้ะ”

“ขอบคุณค่ะลุงศักดิ์”

มนต์มีนาขึ้นไปนั่งคร่อมรถจักรยานยนต์จากนั้นลุงสมศักดิ์ก็พาเธอมาส่งหน้าบ้าน

“ถ้ามีอะไรให้ลุงกับป้าช่วยก็บอกนะ”

“ค่ะลุง ขอบคุณมากนะคะ มีนฝากขนมให้เจ้าตัวเล็กสองคนด้วยนะคะ” หญิงสาวหยิบขนมที่ได้มาจากการทำงานวันนี้ให้กับลุงสมศักดิ์

“แล้วหนูไม่เก็บไว้กินเองหรือมีน” ลุงสมศักดิ์มองขนมในมือที่มีอยู่หลายชิ้น รู้สึกว่าราคาของมันคงจะแพง

“ลูกค้าให้มาเยอะเลยค่ะลุงศักดิ์แบ่งไปให้น้องๆ แล้วหนูก็ยังเหลืออีกหลายชิ้นค่ะ”

“ขอบใจนะมีน”

“หนูเข้าบ้านแล้วนะคะ”

“จ้ะ ลุงไปก่อนนะ”

เมื่อลุงสมศักดิ์ไปแล้วมนต์มีนาก็เปิดประตูรั้วเข้ามายังบ้านหลังเล็กที่แต่ก่อนมันเคยเต็มไปด้วยความอบอุ่น แต่พอมารดาไม่อยู่เธอก็รู้สึกว่าบ้านหลังเล็กมันกว้างขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะมองไปมุมไหนกลิ่นอายของมารดาก็ยังมีอยู่เต็มไปหมด

ตั้งแต่จำความได้เธอก็อยู่กับมารดาที่บ้านหลังนี้มาตลอดมารดาของเธอเป็นแม่ค้าขายขนมหวานในตลาด รายได้ก็พอเลี้ยงเธอได้เพราะนอกจากจะขายขนมหวานในตลาดแล้วยังทำส่งที่ร้านอาหารเยอะใหญ่ๆ อีกด้วย

มนต์มีนามีนามีความสุขในบ้านหลังนี้มากๆ จนกระทั่งเมื่อสองปีที่แล้วมารดาตรวจพบว่าเป็นมะเร็งเต้านมระยะที่สามและการทำคีโมหลายๆ ครั้งก็ไม่เป็นผล

มารดาของเธอสุขภาพแย่ลงจนทำขนมไม่ไหว ทำให้ต้องเอาบ้านไปจำนองแต่มันก็ยังไม่พอ หญิงสาวเลยไปกู้เงินจากเจ๊เจ้าของตลาดมาอีกสามแสนบาทเพื่อรักษามารดา เธอยอมจ่ายค่ายาแพงๆ แต่มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย มารดาของเธอต่อสู้กับโรคมะเร็งปีครึ่งท่านก็จากไปโดยที่ยังไม่ทันเห็นความสำเร็จของเธอเลย

หญิงสาวเพิ่งเรียนอยู่ชั้นปีที่สามเหลืออีกเพียงแค่หนึ่งปีก็จะจบมาเป็นครูสอนวิชาภาษาอังกฤษตามที่ตั้งใจไว้ แต่มาถึงตอนนี้มนต์มีนาไม่รู้ว่าจะสานฝันนั้นเพื่อใครในเมื่อเธอเหลือแค่ตัวคนเดียวเท่านั้น เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเปิดเทอมนี้จะทำยังไงต่อกับชีวิต จะกัดฟันหาเงินเรียนต่อให้จบหรือจะหาเงินมาใช้หนี้ ยังมีเวลาปิดเทอมอีกเกือบสี่เดือนแต่หนี้มากมายขนาดนั้นมันก็ยากเหลือเกินผู้หญิงตัวเล็กๆ คนเดียวจะหาเงินมาชำระให้หมดภายในระยะเวลาสั้นๆ

เสียงถอนหายใจดังเฮือกใหญ่จากนั้นมนต์มีนาก็อาบน้ำเตรียมตัวเข้านอนพรุ่งนี้เธอจะเข้าไปโมเดลลิงที่ตนเองสังกัดอยู่เพื่อถามทางเจ้าของว่าพอจะมีงานอะไรให้เธอทำมากกว่านี้อีกไหมเพราะช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอมเธออยากทำงานให้มันเต็มที่ เพื่อหวังจะลดหนี้ลงได้บ้าง ถ้าหากมันเป็นตามที่หวังเปิดเทอมก็จะเรียนต่อให้จบ