บท
ตั้งค่า

ตอน 1

ตึกใหญ่สูงห้าสิบชั้นย่านธุรกิจเลื่องชื่อ ป้ายบนตึกสูงขนาดใหญ่เด่นหราด้วยตัวอักษรโลหะสีทอง ตึกเซซาน เจ้าของคือตระกูลนักธุรกิจชื่อเสียงโด่งดังเซซานแอทตัน ทั้งมั่งคั่ง ร่ำรวย ภายในห้องทำงานโอ่อ่าตกแต่งสวยงามหรูหรา สมกับฐานะตำแหน่งผู้บริหารสูงสุด ชายหนุ่มร่างสูงเกินกว่า 189 เซนติเมตร เส้นผมสีอ่อน นัยน์ตาสีเขียวมรกต จมูกโด่งคมสัน คิ้วหนาพาดผ่านเหนือดวงตาคู่คม รูปร่างสูงใหญ่สมส่วน อยู่ในชุดสูทราคาแพงเรียบกริบสีดำ สนนราคาค่างวดนั้นอาจจะมากกว่าเงินเดือนพนักงานหลายๆ คนทั้งเดือน ใครๆ ต่างรู้ดีเสื้อผ้า เครื่องแต่งกายชายหนุ่มต้องเนี๊ยบตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า

ชายหนุ่มทอประกายสายตาไปยังร่างสูงเพรียวระหง สตรีหุ่นสะคราญสะท้านใจ ก่อเกิดเลือดลมในกายที่อุ่นตามสายพันธุ์มนุษย์ เริ่มดีกรีเร่าร้อนขึ้นตามลำดับความคิด นิสัยชอบหยิบฉวยมาเชยชม สมใจแยกย้ายก้าวขาลงจากเตียงต่างคนต่างไป เธอผู้นั้นกลับทำให้เขาร้อนรน จนอยากครอบครองเป็นเจ้าของเดี๋ยวนี้ทันใด

ในขณะที่เธอกำลังปฏิบัติงานในหน้าที่ประชาสัมพันธ์สาวสวย ด้วยความคล่องแคล่ว ท่วงท่าคล่องแคล่วสร้างแววความหวังบางอย่างให้เกิดขึ้นในห้วงคิด ท่าทีน่ารักจากร่างบางนั้น ไม่สะกดให้เขาไม่อาจละสายตาจากใบหน้าสวยนั้นได้แม้แต่วินาทีเดียว สายตาเพ่งมองผ่านกระจกบานใหญ่ ปกติไม่ค่อยได้เปิดผ้าม่าน วันๆ เขาไม่มีเวลามองใครนอกจากสาระวนอยู่กับงานบนโต๊ะมากมาย ว่างจากงานบนโต๊ะ ประชุม พบลูกค้า เวลาว่างในแต่ละวันคือนอนที่เหลือเวลาไม่กี่ชั่วโมงต่อวัน

“เจ้านายสนใจเธอหรือครับ” เลขาหนุ่มใหญ่ผู้รู้งาน รู้ใจขยับเข้ามายืนเทียบข้าง ทิ้งระยะห่างอย่างเหมาะสม

“พูดมากน่าไตร” ชายหนุ่มขยับกาย หมุนตัวเดินกลับไปยังโต๊ะทำงานตัวใหญ่กลางห้อง

“ปกติเจ้านายไม่เคยเหม่อลอยมองใคร จนตาลอยอย่างนี้นี่ครับ”

“นายจะไม่รู้ซักเรื่องจะได้ไหมไตร”

“ผมทำงานกับเจ้านายมานานแค่ไหนแล้ว เจ้านายก็น่าจะทราบดีนี่ครับ” ไตรเลขาหนุ่มใหญ่ยิ้มนิดๆ

“นั่นก็จริง ฉันแค่มองไปเรื่อยๆ แค่นี้นายคิดว่าฉันสนใจแล้วหรือไง”

“แหม….เจ้านายครับ” น้ำเสียงไตรราวกับต้องการบอกให้รู้ เขารู้ทุกอย่างที่เป็นเฮนลี่ เซซานแอทตัน หรือแม้แต่ทั้งตระกูลเลยย่อมไม่ผิด ความจริงเขาไม่รู้ขนาดนั้นหรอก เพียงแต่รู้ความเป็นมาเป็นไปปานกลางไปถึงมากเท่านั้น ไตร อติพัฒน์ทำงานกับ เซซาน ซัพพลาย จำกัด มหาชน ตั้งแต่จบปริญญาตรีหมาดๆ เรียกได้ว่าใบปริญญายังลุกเป็นไฟเลยก็ว่าได้ กระทั่งตอนนี้เขากลายเป็นหนุ่มใหญ่ไร้แฟน จากการทุ่มเทให้กับงานในตระกูลนี้จนไม่มีเวลาหาสาวมานอนแนบข้าง มั่นใจตัวเองไม่ใช่เกย์หรือพวกแอบจิต แต่เพราะรักงานมากกว่าชีวิต จึงไม่มีสาวไหนทนเขาได้

“เอาล่ะๆ ฉันยอมแพ้ก็ได้ฉันสนใจเธออย่างที่นายจะว่า” เฮนลี่ยอมจำนนต่อคนรู้ใจ ไตรสังเกตเกินไปในบางครั้ง แต่นั่นทำให้เขาเป็นเลขาที่รอบจัด รอบรู้ นั้นเขาชื่นชม แต่เรื่องนี้ไตรไม่น่าสังเกตเห็นกลับเห็น

“ผมไม่ว่าเจ้านายหรอก แต่ผมแค่ขอเพียงธาราไว้สักคนเธอเป็นเด็กดี”

“จะดีแคไหนเชียว ฉันเห็นประเภทที่บอกว่าดี พอโยนเศษเงินให้ ขี้คร้านเปลี่ยนได้ตามอัตราตัวเลขบัญชาอะไร เห็นพวกเธอคะขาตามทุกที เอาเป็นว่านายลองไปทาบทามเธอให้ฉันหน่อยถ้าเธอยอม คืนนี้นายพาเธอไปพบฉันที่คอนโด”

ว่าเสร็จเฮนลี่ เซซานแอทตัน CEO แห่งเซซาน ซัพพลาย ยื่นเซ็กให้เลขาหนุ่มใหญ่ เห็นตัวเลขถึงกับตาค้างจำนวนเลขศูนย์ค่อนข้างมาก ซื้อบ้านหลังใหม่หรือรถหรูได้สักคันออกมาขับเล่นเย็นใจได้ทันที ปกติเฮนลี่ไม่ทุ่มเทให้กับผู้หญิงคนใดมาก เหมือนครั้งนี้ เพียงเพราะคำพูดของไตรที่ว่าเธอเป็นเด็กดี เขาจึงยอมเพิ่มเลขศูนย์ต่อท้ายอีกตัวสองตัว

“เอ่อ...เจ้านายไม่รู้ว่าผมสายตาไม่ดีหรือเจ้านายเขียนเลขศูนย์ข้างหลังเกินกันแน่ครับ” ไตรตาโตอ้าปากค้าง กับตัวเลขหลักเจ็ด แถมตัวเลขข้างหน้าก็ไม่น้อย ‘สิบล้าน’ ไตรอยากจะบ้า สงสัยเจ้านายหนุ่มบ้าไปแล้ว

“นายมีหน้าที่ไปเจรจากับเธอถ้ายอม นายจะได้รางวัลพอๆ กับตัวเลขในเช็กนั่น” เขาออกคำสั่งกับเลขา มาดสุขุมนิ่งราวกับกำลังเจรจาซื้อขายสินค้าเข้ามาขายในบริษัทเท่านั้นเอง

“ครับ” เสียงรับคำจากไตรอ่อยเอื่อยไม่เต็มใจนัก ค่อนข้างหนักใจอยู่ไม่น้อย จากนั้นร่างสูงจึงหายออกจากห้องเจ้านายไปพร้อมเช็กในมือ

เพียงธารานั่งอยู่ในร้านอาหารเล็กๆ ผู้ชายที่นั่งตรงข้ามเธอคือเลขาท่านประธานบริษัท หญิงสาวรู้จักหนุ่มใหญ่ผู้นี้ดี ทั้งเคารพนับถือ แม้เธอจะไม่เคยเห็นหน้าเจ้านายใหญ่เต็มสองตา รับรู้ถึงกิตติมศักดิ์การเป็นผู้นำแถวหน้าทางด้านธุรกิจประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในธุรกิจด้านสินค้าล้ำสมัย และเครื่องใช้ไฟฟ้าครบวงจร

ปากของไตรเริ่มขยับเพื่อทำหน้าที่เจรจาได้รับมอบหมายต่อหญิงสาว เขาทำใจลำบากค่อนข้างหนักใจในงานชิ้นนี้ ไตรจำต้องทำให้ลุล่วง ภาวนาให้หญิงสาวใจแข็งกับตัวเลขในเช็กฉบับนี้

“เพียงหูไม่ค่อยดีฟังไม่ชัด เอาเป็นว่าอาไตรลองพูดใหม่อีกทีสิคะ” ใบหน้าหวานเอียงมองคนที่ตนเคารพ ค่อนข้างคาดไม่ถึงกับคำพูดที่หลุดออกจากปากชายคนนี้

“ท่านประธานต้องการให้หนูเพียงไปรับประทานอาหารกับท่านสักมื้อ นี่คือค่าตอบแทนของหนู” ไตรเลื่อนเช็กไปตรงหน้าหญิงสาว เธอสวยตรึงตราต่อผู้พบเห็น ไม่แปลกใจที่เจ้านายสนใจเธอมากเป็นพิเศษ

“อะไรกันคะ” แววตาสวยลุกโชนประหลาดใจ เธอกำลังถูกซื้อตัวอย่างเห็นได้ชัด กับค่าตอบแทนการไปกินข้าวมากจนตั้งตัวได้

“ดูเองเถอะ ถ้าเธอตกลงเย็นนี้ อาจะมารับไปพบกับท่าน” ไตรไม่อยากพูดอะไรมาก คนสวยตรงหน้าถือได้ว่าชะตาขาดสุดๆ ที่ไปเตะตาซาตานร้ายร่ายสวาทซะได้

เพียงธาราพิศมองกระดาษที่มีตัวเลขศูนย์ต่อท้ายเลขหนึ่งขาวเหยียด แม้จะตื่นเต้นแต่ความหมายคำว่าไปรับประทานอาหารกับผู้ชายที่ไม่คุ้นเคยกัน ไม่ได้เป็นอะไรกัน นอกจากเจ้านายกับพนักงานคนหนึ่ง เธอไม่ใช่พวกไร้เดียงสาไร้สมอง เห็นเงินตาโตวิ่งเข้าใส่ทั้งที่รู้ว่าจะต้องเจออะไรรออยู่ แม้บ้านไม่ร่ำรวย แต่ก็พออยู่ได้ด้วยเงินเดือนของเธอและของพี่ชาย ที่จะมอบให้มารดาทุกเดือนเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในบ้าน

“เพียงคิดว่าอาไตรคงเข้าใจอะไรผิด” พูดจบเพียงธาราก็เลื่อนเช็กกลับไปให้เลขาหนุ่มใหญ่

“หมายความว่าหนูเพียงยังไม่พอใจ”

“ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ เพียงคงไม่ไปรับประทานอาหารกับท่านประธานค่ะ เพราะบ้านเพียงมีข้าว กับอาหารฝีมือแม่ให้กิน คงไม่รับคำเชิญนี้ ขอบคุณอาไตรมากนะคะ ที่เห็นเพียงอยู่ในสายตา” หญิงสาวตอบปฏิเสธด้วยถ้อยคำสุภาพบัวไม่ให้ช้ำน้ำไม่ให้ขุ่น คนฟังเข้าใจดี ในคำพูดปฏิเสธแฝงถ้อยคำเหน็บแนมเจ็บแสบตบท้าย คิดว่ามีเงินจะซื้อได้ทุกอย่างสินะ ไม่มีทางเสียล่ะคนอย่างเพียงธาราไม่มีทางขายศักดิ์ศรีของตัวเอง ต่อให้ไม่มีกินจะไม่มีวันยอมทำสิ่งด้อยค่านี้เด็ดขาด หากพอใจชอบพอกันก็ต้องใช้หัวใจแลกไม่ใช่เงินตรา

“โล่งอก” ไตรยิ้มพร้อมยกมือทาบอก ไม่ผิดหวังที่รู้จักหญิงสาวมานาน

“ยังไงคะ” เพียงธาราเอียงหน้ามองเลขาหนุ่มใหญ่

“อาดีใจนะที่เพียงไม่ตอบรับคำเชิญจากบอส เพราะถ้าตอบรับฉันคงผิดหวังในตัวเพียงมาก”

“อ้อ ไม่ใช่อาไตรหรอกหรือคะที่แนะนำให้ท่านประธานทำแบบนี้”

“อามีหน้าที่รับใช้ท่าน ไม่ได้มีหน้าที่แนะนำเรื่องพรรค์นี้ให้กับท่าน”

“ถ้าอย่างนั้นรบกวนอาไตรกลับไปบอกท่านนะคะ เพียงขอบคุณแต่เก็บเช็คใบนี้ไปให้คนอื่นดีกว่าค่ะ”

“อาเข้าใจเสร็จธุระแล้วอาไปล่ะ”

“ค่ะ หวังว่าจะไม่มีครั้งที่สองอีกนะคะ อาไตรก็รู้จักครอบครัวของเพียงดี ควรจะเกรงใจวิญญาณคุณพ่อบ้าง”

ไตรรู้จักครอบครัวของหญิงสาวในรุ่นบิดา หนุ่มใหญ่เห็นหญิงสาวตั้งแต่เรียนมัธยม กระทั่งโตเป็นสาว เรียนจบจึงได้ชักชวนให้มาทำงานด้วยกัน เพื่อช่วยเหลือครอบครัวหญิงสาวเรื่องค่าใช้จ่าย เป็นการแบ่งเบาภาระคุณพรนิสา มารดาของหญิงสาวที่ต้องเลี้ยงสองคนเพียงคนเดียว แม้จะได้เงินข้าราชการตำรวจของร้อยตำรวจเอกภูบดินทร์ ที่ได้เสียชีวิตระหว่างปฏิบัติหน้าที่ใช้จุนเจือครอบครัวก็จริง แต่นั่นก็ไม่ค่อยจะพอกับค่าใช้จ่ายมากมายประจำวัน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel