3
“ก็ช่างเขาปะไรครับ อยากจะพูดอะไรก็พูดไป”
“ป้าอยากอุ้มหลาน” ประโยคของผู้เป็นป้าทำให้ทิวเขาสำลัก เขามองท่านด้วยใบหน้าแดงก่ำ
“คุณป้าพูดว่าอะไรนะครับ”
“ป้าพูดว่าป้าอยากอุ้มหลาน”
“อุ้มหลานที่ไหนครับ”
“ลูกเราไง”
“ผมยังไม่มีเมียจะมีลูกได้ยังไงครับ”
“ก็มีสิ ป้าหาให้แล้ว”
“ผมไม่เอาหรอกครับ”
“เราเป็นหลานคนเดียว ป้าอยากมีทายาทสืบสกุลอีก เราเอาแต่ดื่มเหล้า ไม่มีลูกมีเมีย ป้าตายไปแล้วเราไม่มีทายาท จะยกทรัพย์สมบัติให้ใครกันล่ะ”
“ยกให้การกุศลไปก็ได้ครับ”
“ป้าขอแค่หลานสักคนให้ป้าได้ไหม”
“ทำไมผมต้องทำแบบนั้นด้วยครับ”
“ป้าอยู่ได้อีกไม่นาน ทำเพื่อป้าสักครั้งได้ไหมทิวเขา ป้าเองก็แก่มากแล้ว” ประโยคของผู้เป็นป้าทำให้ทิวเขานิ่งอึ้งไป
“ใครกันครับผู้หญิงที่คุณป้าจะให้มาเป็นเมียผม”
“หนูหนึ่งธิดาไง เขานิสัยดี เรียบร้อย น่ารัก เรียนก็เก่ง มีลูกกับเรา ป้าก็คิดว่าลูกจะเป็นคนดีเหมือนเขา ดีเอ็นเอที่ดีของพ่อแม่มีผลกับลูกที่จะคลอดออกมาด้วยนะ”
“เด็กนั่นยอมเหรอครับ” เขารู้จักหนึ่งธิดาเพราะมารดานำสองแม่ลูกมาชุบเลี้ยงเอาไว้หลังจากช่วยจากการโดนข่มขืนนานหลายปีแล้ว เขาเองก็ช่วยสองแม่ลูกด้วย
“ยอม เขาเป็นคนกตัญญู อยากตอบแทนบุญคุณของป้าเลยรับปาก ทิวเขาทำเพื่อป้าสักครั้งนะ”
“คุณป้ากลัวผมกินเหล้าจนตายเหรอครับ ถึงจะให้ผมมีลูกให้ได้”
“อย่าพูดแบบนี้อีกนะ เราเป็นหลานคนเดียวของป้า ถ้าเราตายไปป้าจะทำใจได้เหรอ” เสียงของธารสั่นระริก ทำเอาทิวเขารู้สึกผิดขึ้นมาในทันที
“ผมขอโทษนะครับคุณป้า ขอผมคิดดูก่อนได้ไหมครับ”
“คนไหนไม่รักเราก็ปล่อยเขาไป ป้ารักเราที่สุด เราเองก็ต้องรักตัวเราเองด้วยนะ” ธารบอกหลานชาย
“เราควรกินข้าวกินปลาบ้างนะ ป้าให้หนึ่งธิดาทำอาหารอร่อย ๆ มาให้เราด้วย เลิกดื่มเหล้าและกินข้าวกินปลาเถอะนะ ป้าจะกินเป็นเพื่อน พูดไปพูดมาเราสองคนไม่ได้กินข้าวกันมานานแล้วนะ”
หลานชายของนางเป็นคนรักใครรักจริง ทุ่มเทให้ทุกอย่าง ทั้งเงินทองข้าวของ ทั้งเวลา เทคแคร์ดูแลเอาใจใส่สารพัด แม้จะทำงานในไร่ในสวนก็ยังขับรถไปหาในเมือง ไกลแค่ไหนก็ไป แต่ท่านดูออกว่าเพียงฟ้าไม่ได้จริงใจกับหลานชายของท่าน ตอนนั้นกำลังรักกำลังหลง เตือนอะไรไม่ได้ ท่านเลยไม่ได้เตือนอะไรมาก
เพียงฟ้าคอยแต่ยุแยงตะแคงรั่ว พอบอกพอเตือนก็ยุแฟนตัวเองให้เกลียดป้าของตัวเอง แต่ดีหน่อยที่ทิวเขาไม่ได้หน้ามืดถึงขนาดนั้น
ในสายตาของธาร เพียงฟ้าคือผู้หญิงที่ท่านคิดว่าไม่มีคุณสมบัติอันใดที่จะเป็นเมีย เป็นแม่ของลูก แค่สวยอย่างเดียวมันไม่ได้ทำให้ครอบครัวมีความสุขหรือประคับประคองชีวิตคู่กันไปตลอดรอดฝั่งได้
พอหลานชายเสียใจ ท่านก็ไม่อยากพูดอะไรมาก กลัวจะยิ่งเตลิด ยิ่งเสียใจมากขึ้นไปอีก ท่านเคยคิดไปถึงว่าทิวเขาอาจจะฆ่าตัวตายเสียด้วยซ้ำ
หลานชายของนางมีแต่ให้กับให้ เพียงฟ้ามีแต่รับไม่เคยให้อะไรแม้แต่ความจริงใจ คนเราไม่ว่าจะเป็นใคร มันต้องเป็นฝ่ายให้บ้าง จะรับเพียงอย่างเดียวไปตลอดชีวิตมันเป็นไปไม่ได้
“กับข้าวมาพอดี” หนึ่งธิดายกถาดอาหารเข้ามา เธอมาพร้อมกับธาร แต่รอให้ท่านเข้าไปคุยกับทิวเขาก่อน สายตาของเขาที่ตวัดมามองเธอเหมือนไม่พอใจ เขายืนขึ้น ก่อนจะเดินไปที่โต๊ะกินข้าว แล้วสติก็ดับวูบลงไป
“ทิวเขา ทิวเขา หลานเป็นอะไรไป หนึ่งมาช่วยกันหน่อย หลานชายฉันเป็นอะไรก็ไม่รู้” ธารเรียกหนึ่งธิดาอย่างตกใจ ก่อนจะช่วยกันประคองร่างของทิวเขาขึ้นจากพื้น
“ต้องรีบพาไปหาหมอ หนึ่งไปตามคนงานบอกให้เอารถออกนะ” เพราะกระท่อมริมลำธารหลังนี้สามารถขับรถยนต์เข้ามาได้ ไม่เช่นนั้นก็ต้องไปตามคนงานมาช่วยกันแบกร่างของทิวเขาอีก
“ทิวเขาอย่าเป็นอะไรนะหลาน ผู้หญิงคนเดียวทำไมถึงเป็นไปได้ขนาดนี้กันนะ ถ้าหลานเป็นอะไรไป ป้าจะอยู่กับใคร” ธารร้องไห้ออกมา ขณะที่นั่งรถพาหลานชายไปโรงพยาบาล หนึ่งธิดาเห็นแล้วอดที่จะสงสารเสียไม่ได้
ไปถึงโรงพยาบาล กานนท์เพื่อนสนิทของทิวเขาเข้าเวรที่ห้องฉุกเฉินพอดี ธารจึงรีบเข้าไปขอร้องเพื่อนหลานชายปากคอสั่นไปหมด
“ช่วยทิวเขาด้วยนะนนท์ จู่ ๆ ก็เป็นลมล้มหมดสติไปเลย”
“คุณป้าไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ เดี๋ยวผมจะช่วยเจ้าทิวให้สุดความสามารถเลยครับ คุณป้าใจเย็น ๆ ก่อนนะครับ” กานนท์รับปากอย่างแข็งขัน ก่อนจะตามบุรุษพยาบาลเข้าไปดูอาการของกานนท์ โดยเจ้าหน้าที่กันธารกับหนึ่งธิดาออกมาก่อน
“คุณท่านอย่ากังวลไปเลยนะคะ คุณทิวเขาจะต้องไม่เป็นอะไรค่ะ”
“ก็ขอให้มันเป็นแบบนั้น ไม่รู้ทำไมถึงได้รักได้หลงผู้หญิงคนนั้นเสียเหลือเกิน หล่อนมีแต่หลอก ไม่เคยมีความจริงใจเลยสักนิด คบกับใครก็หวังผล เป็นโชคร้ายของหลานชายฉันที่ไปเจอผู้หญิงไม่ดีแบบนี้”
“คุณทิวเขาเองก็ต้องเข้มแข็งนะคะ” วันก่อนเธอได้ดูรายการทีวีที่เพียงฟ้าไปออกอากาศ พิธีกรถามว่าคบกับคนใหม่ แล้วคนเก่าไปไหนเสียล่ะ เพราะเคยมีข่าวว่าเพียงฟ้าคบกับทิวเขา หลานชายเจ้าของไร่ที่เมืองจันทร์ฯ เป็นเศรษฐีที่ดินที่แสนร่ำรวย
เพียงฟ้าก็ตอบว่าก็เงินหมด ไม่รวยจริง ใครจะไปทนอยู่ กัดก้อนเกลือกินกันล่ะ
พิธีกรยังถามจี้อีกว่า ไหนวันนั้นบอกว่าทิวเขาให้ทุกอย่าง อยากได้อะไรก็ได้ แล้วทำไมตอนนี้ถึงบอกเงินหมด
เพียงฟ้ายังมีหน้ามาบอกว่ารวยแค่เปลือกไม่รวยจริง เงินก็ไม่ใช่เงินตัวเองเป็นเงินของป้าทั้งนั้น หนึ่งธิดาฟังแล้วยังรู้สึกโกรธ แล้วทิวเขาเองล่ะ เขาได้ฟังคงจะเสียใจมาก
เรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ เธอไม่ค่อยรู้หรอก แต่รู้ว่าทิวเขาทำงานเท่าไหร่ก็ให้ธารเก็บจนหมด เวลาเขาจะใช้จ่ายอะไรเกินไปจากเงินเดือนที่ท่านให้หลานชาย ทิวเขาจึงต้องขอธารเพิ่ม เรื่องที่เพียงฟ้าบอกว่าทิวเขาไม่รวยจริงหรือเงินหมด อาจจะรู้ว่าไม่มีเงินเป็นของตัวเองยังต้องขอผู้เป็นป้า ซึ่งหล่อนทำกิริยาไม่ดีใส่ธาร คงรู้ตัวว่าหากยังคบหากับทิวเขาอยู่คงจะไม่ได้เงินทองหรือทรัพย์สินอะไรจากทิวเขาไปมากกว่านี้ เพราะตัวเองทำตัวไม่น่ารักกับญาติผู้ใหญ่ของฝ่ายชายก่อน เลยรีบตีตัวออกหากเสียก่อน อีกทั้งเธอยังมีที่หมายใหม่ เลยสลัดทิวเขาทิ้งง่าย ๆ
“ไม่เป็นอะไรแล้วนะครับ ตอนนี้ฟื้นแล้ว แต่ต้องนอนให้น้ำเกลือที่โรงพยาบาลสักหน่อยนะครับ” กานนท์ที่ออกมาจากห้องฉุกเฉินรีบแจ้งให้ธารได้รับรู้ ทำให้ธารถึงกับยิ้มออกมาอย่างโล่งใจ
“ที่เป็นลมหมดสติไปก็คงเพราะดื่มแต่เหล้า ข้าวปลาไม่แตะ ทำแต่งานไม่หยุดพักด้วย” ธารเล่าด้วยสีหน้าไม่สบายใจนัก
“ต้องพักผ่อนให้น้ำเกลือ และก็กินอาหารบำรุงกันยกใหญ่เลยครับ ทิวเขาผอมไปมาก ผมเห็นแล้วยังตกใจ” กานนท์ให้เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเข็นเตียงคนไข้ไปยังห้องพักฟื้น
“เพราะผู้หญิงคนนั้นแท้ ๆ เขาทิ้งไปไม่ไยดี ตัวเองเอาแต่มานั่งเสียใจ แล้วก็ทำร้ายตัวเอง ไม่รักตัวเองบ้างเลยหรือไง” ธารพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“ตอนทิวเขาคบกับเพียงฟ้าผมก็เคยเตือนครับ ผู้หญิงคนนี้หวังได้หวังเอา ไม่รักทิวเขาจริง ๆ หรอก ผมเองยังดูออก แต่ตอนนั้นพูดอะไรมากไม่ได้เพราะทิวเขาเขาก็รักของเขา เราก็ได้แค่เตือนอยู่ห่าง ๆ เท่านั้นครับ ยุ่งเรื่องส่วนตัวมากผมก็กลัวจะเสียเพื่อน” ใครเตือนก็ไม่ฟัง นั่นคือทิวเขาในตอนนั้น เพียงฟ้าพูดเก่ง เอาใจเก่ง ออดอ้อนให้เชื่อแต่ตัวเอง ทำให้ทิวเขาหลงมาก รักมากหลงมากพอเขาทิ้งก็เลยต้องผิดหวังหนักขนาดนี้