บทที่ 3 เจ้าแม่กวนอิม
น้ำเสียงของอาจ้านช่างไพเราะนัก ไม่ว่าเซียนน้อยผู้นี้จะทำสิ่งใดล้วนดึงดูดให้จิ้งจอกน้อยวนเวียนอยู่รอบกายเขาเป็นเพื่อนและครอบครัวเพียงคนเดียวของนาง
เจ้าก้อนเมฆกับอาจ้านมักนอนด้วยกันทุกวันในฤดูหนาวที่หนาวเหน็บอาจ้านชอบที่จะซุกไซร้หาความอบอุ่นจากขนอันอ่อนนุ่มของนาง เพราะนางเป็นสัตว์เวทจึงมีร่างกายที่หอมกรุ่นนุ่มนิ่ม สุนัขจิ้งจอกน้อยมีความสุขจนลืมความตั้งใจที่จะบำเพ็ญเพียรเพื่อกลายร่างเป็นเซียนไปเสียสิ้นนางจะอยู่กับอาจ้านไปตลอดชีวิต
จนกระทั่งวันหนึ่งอาจ้านบอกกับนางว่าจะพานางไปยังสถานที่แห่งหนึ่งวันนั้นอาจ้านเซียนน้อยมีใบหน้าเต็มไปด้วยรอยน้ำตา เขากอดนางแนบอกไว้ตลอดเวลา จิ้งจอกน้อยสงสัยแต่ไม่อาจเอ่ยถามได้ว่าเขาร้องไห้ด้วยเหตุใด ได้แต่ซุกตัวปลอบโยนเขาในอ้อมกอด
"ท่านแม่ข้าต้องไปจริงๆ หรือข้าไม่อยากจากก้อนเมฆน้อยไป" เขาเอ่ยขณะพานางขี่เมฆมากับมารดาผู้งดงาม
"เจ้ารักก้อนเมฆน้อยไม่ใช่หรือสิ่งที่เจ้าทำได้คือปล่อยให้นางบำเพ็ญเพียรเมื่อนางกลายร่างเป็นเซียนแม่สัญญาว่าจะให้เจ้ามารับนางกลับมาอยู่ข้างกายเจ้าอีกครั้ง"
จิ้งจอกน้อยไม่เข้าใจที่สองเซียนแม่ลูกสนทนากัน ได้แต่ส่ายหางทั้งเก้าไปมา มองดูน่ารักน่าเอ็นดูยิ่งทำให้อาจ้านของนางร้องไห้หนักขึ้น
พวกเขาพานางมายังสถานที่แห่งหนึ่งรายรอบไปด้วยน้ำทะเลใสแจ๋ว ท้องฟ้าสะอาดตา น้ำทะเลไร้เกลียวคลื่น เป็นครั้งแรกที่จิ้งจอกน้อยเห็นทะเลจึงอดตื่นเต้นกระดิกหางไปมาไม่ได้กระทั่งพวกเขาพานางดำดิ่งลงทะเลสู่ท้องทะเลเบื้องลึก
น่าแปลกใจที่นางสามารถหายใจได้ปกติและตัวนั้นก็ไม่เปียกน้ำแม้แต่น้อย จวบจนกระทั่งมาถึงสถานที่งดงามแห่งหนึ่งที่จิ้งจอกน้อยไม่รู้ว่าลึกสักเท่าใด สถานที่แห่งนี้ดูเงียบสงบและงดงามยิ่ง
เซียนผู้เป็นมารดาของอาจ้านหายเข้าไปในตำหนักชั่วครู่ปล่อยนางกับอาจ้านไว้ด้านนอก มีคนนำขนมมาให้ จิ้งจอกน้อยกินแล้วชอบใจนักนางกระดิกหางไปมาด้วยความซุกซนอยากจะกระโจนลงไปวิ่งเล่นแต่ก็แปลกใจที่อาจ้านยังคงน้ำตาคลอร้องไห้พร้อมลูบหางของนางอย่างรักใคร่อยู่เงียบๆ โดยไม่เอ่ยสิ่งใดออกมา
หรืออาจ้านจะคิดถึงมารดาจากกันชั่วครู่เดียว บางทีนางคงไม่เข้าใจทั้งหมดที่อาจ้านคิดนางจึงเศร้าใจยอมนั่งบนตักเขาให้เขากอดแต่โดยดีไม่ซุกซนแล้ว
อาจ้านยังนั่งกอดเจ้าก้อนเมฆน้อยร้องไห้อย่างสงบอยู่ด้านนอกอย่างน่าสงสาร ไม่นานนักมารดาของอาจ้านออกมาจากตำหนัก ด้านหลังของท่านน้ามีสตรีผู้งดงามท่าทางอ่อนโยนสูงส่งผู้หนึ่งเดินตามมาด้วย
สตรีผู้นั้นเอ่ยกับอาจ้านเบาๆ คำหนึ่ง อาจ้านทำความเคารพแล้วปาดน้ำตาทิ้งไปหลายทีแต่น้ำตานั้นดูเหมือนไม่อาจจะหยุดไหลได้ เป็นครั้งแรกที่จิ้งจอกน้อยเห็นอาจ้านร้องไห้เช่นนี้ ใจของนางรู้สึกแปลกประหลาดคล้ายจะรับรู้ถึงเรื่องราวร้ายแรงที่กำลังเกิดขึ้นกับตน
อาจ้านมอบจิ้งจอกน้อยในอ้อมกอดให้สตรีผู้นั้น อาจ้านลูบร่างนางตลอดไปจนถึงหางทั้งก้าวอย่างอ่อนโยน จิ้งจอกน้อยมองอย่างสงสัยแต่ยังกระดิกหางให้เขา
"รักษาตัวให้ดีแล้วข้าจะมารับเจ้า"
กล่าวจบอาจ้านก็ถูกมารดาจับมืออ่อนโยน ท่านน้าปลอบโยนอาจ้านแล้วดึงเขาไปกอดเบาๆ ก่อนที่นางจะหันมากล่าวบางสิ่งกับเจ้าจิ้งจอกน้อย
"เจ้าก้อนเมฆข้าต้องพาอาจ้านไปสถานที่แห่งหนึ่งสถานที่แห่งนั้นพลังมารรุนแรงนักหากเจ้าติดตามไปเจ้าคงไม่อาจมีชีวิตรอดดังนั้นตั้งใจบำเพ็ญเพียรให้ตบะแก่กล้าพอจะรับมือไอมารได้หลังจากนั้นข้าให้สัญญาต่อเจ้าว่าจะให้อาจ้านกลับมารับเจ้าไปอยู่ด้วยเข้าใจหรือไม่" ท่านน้ายกมือขึ้นแล้วลูบหลังสุนัขจิ้งจอกน้อยอย่างอ่อนโยน
จิ้งจอกน้อยยังมึนงงทุกสิ่งกะทันหันโดยที่นางไม่รู้ตัวนางจึงได้แต่นิ่งอึ้งไร้เสียงเห่าหอนอันใด กำลังจะเกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่ เหตุใดท่านน้าจึงเอ่ยเช่นนี้ อาจ้านและท่านน้าจะไปที่ใดหรือ
อาจ้านปาดน้ำตาโอบกอดนางอบอุ่น
"ข้าจะกลับมารับเจ้ารอข้านะ"
เขากระซิบแผ่วเบาปนสะอื้นขยับกายออกห่าง พร้อมทั้งโบกมือให้นางก่อนจะค่อยๆ ลอยขึ้นไปเบื้องบนช้าๆ กับท่านน้าจนหายลับไปภายใต้อาการตกตะลึงของเจ้าจิ้งจอกน้อย
ไม่จริงใช่หรือไม่เป็นเรื่องล้อเล่นใช่หรือไม่ นางเห่าออกมาเสียงดัง
จิ้งจอกน้อยเพิ่งได้สติรับรู้ว่าตนเองว่ากำลังถูกทิ้ง นางกระโดดออกจากอ้อมกอดของสตรีผู้นั้นวิ่งตามอาจ้านราวกับสุนัขบ้าแต่นางไม่สามารถหลุดพ้นจากตำหนักแห่งนี้ได้ มีเวทกั้นระหว่างนางและท้องทะเลออกจากกัน จิ้งจอกน้อยร่ำไห้จนน้ำตาเป็นสายเลือด ในใจยังหวังไม่ให้เขาทิ้งนางไปเห่าจนไร้สิ้นเสียงสร้างความเวทนาให้เกิดขึ้นต่อเหล่าเซียนในตำหนักทักษิณ
"เจ้าจิ้งจอกน้อยหากเจ้าอยากอยู่กับเขาอีกครั้งจงบำเพ็ญเพียรจนกลายร่างเป็นเซียนเจ้าตั้งใจเช่นนั้นตั้งแต่แรกไม่ใช่หรือ"
สตรีผู้งดงามเปี่ยมเมตตาเอ่ยขึ้นพร้อมอุ้มร่างเล็กสีขาวสะอาดของจิ้งจอกน้อยขึ้นมาไว้ในอ้อมกอดดังเดิม
สตรีผู้งดงามพานางกลับเข้ามายังตำหนัก จิ้งจอกน้อยได้ยินเซียนรับใช้ในตำแหน่งแห่งนี้ขานนามของสตรีผู้นี้ว่า
"เจ้าแม่กวนอิม"