จุดเริ่มต้นของเรื่องทั้งหมด
ทางด้านอีธานหลังจากลองขับรถสปอร์ตรุ่นใหม่ล่าสุดราคาเหยียบห้าสิบล้าน ชายหนุ่มได้พาฮันน่าแวะเข้าไปภายในโรงแรมหรูแห่งหนึ่ง เพื่อรับประทานมื้อกลางวัน แม้ผู้จัดการสาวจะพยายามปฏิเสธแต่ก็ไม่สามารถขัดใจ ลูกค้าวีไอพีรายใหญ่ของโชว์รูมได้
"ทำไมไม่กลับไปส่งฮันน่าก่อนค่ะ คุณอีธานทำแบบนี้หลายครั้งแล้ว ซึ่งคุณก็รู้ไม่ใช่เหรอคะ ฮันน่าไม่ชอบออกมาทานข้าวกับลูกค้าแบบนี้ ถ้าบอสรู้อาจจะไม่พอใจได้" เมื่ออยู่ภายในห้องตามลำพังกับลูกค้าหนุ่ม ฮันน่าทำใจดีสู้เสือพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจ ทั้งที่ภายในใจของเธอนั้นมันสั่นระริกราวกับลูกนกตกน้ำ เมื่อชายตรงหน้ามีอิทธิพลเกินกว่าที่เธอนั้นจะสามารถหลบหลีกได้
"ผมแค่พาคุณแวะมาทานข้าว ทำไมต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่ด้วย" ในขณะที่พูดอีธานได้ลุกขึ้นแล้วเดินอ้อมมายืนอยู่ด้านหลังของเธอ ก่อนจะก้มลงเข้าไปคร่อมหญิงสาวร่างอรชรเอาไว้ แล้วกระซิบลงไปที่ข้างใบหูของฮันน่าเบาๆ "หนึ่งล้านแลกกับการที่คุณนอนอ้าขาให้ผม" วาจานี้ช่างเชือดเฉือดจิตใจของฮั่นน่าเหลือเกินไม่เคยมีผู้ชายคนไหนใช้คำพูดให้เธอรู้สึกเจ็บปวด ราวกับโดนของมีคมทิ่มแทงลงมากลางใจ ได้มากขนาดนี้มาก่อนเลยในชีวิต
"แม้ว่าฉันจะเป็นเพียงแค่ผู้จัดการเงินเดือนไม่ได้มากมายอะไร แต่ศักดิ์ศรีของความเป็นคน ของฉันมันก็มีเท่าเทียมกับคุณ" น้ำเสียงฮันน่านุ่มนวลแผ่วเบา แต่เต็มไว้ด้วยความตั้งมั่นและเด็ดเดี่ยว พร้อมกับแฝงความรู้สึกเจ็บปวดไว้ในคราวเดียวกัน เมื่อเธอนั้นกำลังคิดว่าอีธานควรจะให้เกียรติสตรีเพศแม่มากกว่านี้
"ผมอยากจะรู้จังว่าลีลาของผู้หญิง เจ้าพยศอย่างคุณจะเด็ดแค่ไหนกัน" อีธานพูดพร้อมกับฉายแววตาเจ้าเล่ห์ออกมา ก่อนจะเดินอ้อมไปนั่งที่เดิมแล้วหยิบไวน์มารินแล้วส่งให้กับฮันน่า หญิงสาวรับมาพร้อมกับจิบเบาๆ ตามมารยาท แต่เขากลับรบเร้าให้เธอดื่มจนหมดแก้ว ในขณะที่อีธานมองมาที่หญิงสาวด้วยแววตาที่หวานหยาดเยิ้ม แต่แอบแฝงความร้ายกาจซ่อนเอาไว้อย่างน่ากลัว
"ลองชิมดูสิ อร่อยนะ" อีธานพูดพร้อมกับตักอาหารใส่จานให้ฮันน่า และนี่มันคือเป็นครั้งแรกในชีวิตของเขาก็ว่าได้ ที่ตักอาหารใส่จานให้กับ ผู้หญิงที่มาทานข้าวด้วย ส่วนมากหญิงสาวจะเป็นฝ่ายบริการเขามากกว่า แต่ฮั่นน่ามักจะเฉยชากับเขาทุกครั้งเวลาที่เธอนั้น ได้มีโอกาสมาทานข้าวกับอีธาน ไม่ต่างจากการถูกบังคับและนั่นยิ่งทำให้ชายหนุ่มรู้สึกพอใจในตัวของเธอ
"ขอบคุณค่ะ" น้ำเสียงของฮันน่าฟังดูราบเรียบราวกับว่าเธอนั้นกล่าวขอบคุณเขาไปตามมารยาท ภายในห้องที่ถูกตกแต่งเอาไว้อย่างหรูหรา แต่บรรยากาศกับไม่อำนวย เมื่อหญิงสาวที่เขาพามาไม่เล่นด้วย
เธอลงมือรับประทานอาหาร แต่สายตากลับมองไปยังนาฬิกาที่ข้อมือบ่อยครั้งครั้ง โดยไม่สนใจว่ามันจะเป็นการเสียมารยาทหรือไม่ เมื่อใจของเธอนั้นอยากออกไปให้พ้นๆ จากห้องนี้เสียที เพราะทุกครั้งเขาไม่เคยพาเธอมารับประทานอาหารภายในห้องแบบนี้ มันจึงทำให้ฮันน่ารู้สึก หวั่นใจไม่น้อย ถ้าหากอีธานจะคิดไม่ซื่อกับเธอ มันคงกลายเป็นเรื่องง่ายดายมากขึ้นเมื่ออยู่ในที่ลับตาคนแบบนี้
"คุณปิดแอร์หรือเปล่าคะทำไมร้อนจัง" ฮันน่า ถามชายหนุ่มออกมาพร้อมกับเม็ดเหงื่อที่เริ่มผุดขึ้นบนใบหน้า ความรู้สึกภายในกายของเธอมีความอยากจะปลดปล่อยกับชายตรงหน้าทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ อย่างน่าแปลกใจทั้งที่เธอนั้นไม่เคยรู้สึกกับใครแบบนี้มาก่อน
"หึ!..." เสียงตอบจากในลำคอของนิทานดังขึ้นพร้อมกับยกยิ้มแล้วฉายแววตาร้ายกาจขึ้นมา ก่อนจะค่อยๆ ลุกขึ้นแล้วเดินอ้อมมาทางด้านหลังของฮันน่าอีกครั้ง
"ร้อนมากหรือเปล่า ถอดสูทออกสิ" เสียงทุ้มกระซิบลงไปที่ข้างใบหูเขาหญิงสาว เพียงแค่เธอได้ยินน้ำเสียงของเขา ก็กระตุ้นให้อารมณ์ในกายพลุกพล่านขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก เพราะเวลานี้กายของเธอมันกำลังพยศหัวใจ และกำลังจะทำในสิ่งที่เธอนั้นพยายามที่จะหนีห่าง
"ผมถอดให้" ฮันน่านั่งนิ่งราวกับต้องมนต์สะกด เธอยอมให้อีธาน ถอดเสื้อสูทออกอย่างว่าง่าย หลังจากนั้นเขาได้โอบประคองร่างอรชรตรงไปที่เตียงนอน มือหนาของเขาได้รูดซิปที่ด้านหลังเลื่อนลงช้าๆ เธอใส่เดรสสีชมพูซึ่งเป็นชุดฟอร์มของโชว์รูม
"อย่าค่ะ" มือเรียวดันอกแกร่งของชายหนุ่มเอาไว้ แม้ว่าเธอนั้นจะพยายามควบคุมร่างกายไม่ให้เตลิดไปกับความต้องการที่มี แต่ก็รู้ดีว่าเธอคงยับยั้งชั่งใจได้เพียงแค่ไม่นาน เมื่อความต้องการที่มีนั้นเริ่มทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
"ทุกครั้งที่นอนกับผม คุณจะได้เช็คหนึ่งล้านบาท อย่าปฏิเสธไปเลยฮันน่า ผมรู้ว่าคุณก็มีความต้องการไม่ต่างจากผมในตอนนี้" ชายหนุ่มพูดออกมาในขณะที่มือของเขาอยู่ไม่เป็นสุข และในเวลานี้ชุดเดรสของเธอก็ได้หลุดออกจากอก เหลือเพียงแค่บราสีสด ที่เผยให้เห็นเนินอกขาวอวบจนน่าฟัด เรือนร่างอรชรถูกจับกดให้นอนราบกับเตียง แล้วพอีธานก็ค่อยๆ ดึงชุดเดรสของเธอออกจนพ้นเรียวขาขาว
ในเวลานี้เรือนกายของเธอมีเพียงแค่บราและชุดชั้นในตัวจิ๋ว ปิดบังร่างกายในส่วนที่หวงแหนเอาไว้เอาไว้เท่านั้น ก่อนที่ชายหนุ่มจะหันไปจัดการชุดของตัวเอง ซึ่งเขาใช้เวลาถอดมันออกอย่างช่ำชองราวกับคนชำนาญ ที่เคยผ่านสนามพิศวาสมานับไม่ถ้วน เผยเห็นซิกแพคที่อยู่ภายใต้ไรขนที่ขึ้นแซมอย่างเห็นได้ชัด จนหัวใจของฮันน่าเต้นตึกตัก อย่างไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนในชีวิต