บทที่ 6
มหาวิทยาลัย
เกือบสามอาทิตย์แล้วที่ตอนเย็นฉันกับเพื่อนๆ ต้องเข้ากิจกรรมรับน้องของคณะ อาทิตย์หน้ากิจกรรมพวกนี้ก็จะหมดซะที ช่วงนี้ฉันเลยได้เจอหน้านายเตชินทร์อยู่บ่อยๆ น่าแปลกใจทั้งที่เขาเป็นรุ่นพี่ปี3 แล้วทำไมต้องมาคอยตามดูกิจกรรมรับน้องของรุ่นน้องปี1ตลอด วันนี้พวกพี่เขาก็นั่งอยู่ที่โต๊ะยาวตัวเดิม พูดคุยหัวเราะเสียงดัง นานๆ ครั้งเขาจะหันหน้ามามองทางฉันและจ้องมองอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเบือนหน้าหนี เขากับพี่มิล่าไม่ได้เรียนคณะเดียวกัน ฉันมักจะเห็นเธอแวะมาหาเขาช่วงเย็นแบบนี้เสมอและบางทีก็กลับด้วยกัน พอพี่มิล่าเห็นฉันก็เดินเข้ามาทักทายพูดคุยด้วยตามปกติ
ตอนนี้ฉันก็มีเพื่อนใหม่เพิ่มขึ้นหลายคนหลังจากที่ทำกิจกรรมรับน้องแต่ที่เริ่มสนิทกันจริงๆ เพราะต้องจับกลุ่มกันทำกิจกรรมบ่อยๆ ก็มีอยู่สี่คน พีชชี่, ใยไหม, กราฟิก , ออกัส จากช่วงแรกๆ ที่ฉันมักจะไปไหนมาไหนกับพีชชี่แค่สองคน
“ลีอา.. ลีอา!เป็นอะไรอะ เหม่อเชียว” กราฟฟิคเอ่ยทักขึ้นมา พลางเอื้อมมือมาแตะไหล่บางเบาๆ
“เอ่อ..มีอะไร”
“แบบสอบถามที่รุ่นพี่ให้กรอก เรื่องเข้าค่ายอาทิตย์หน้า” เขายื่นแผ่นกระดาษส่งมาให้เธอ
“ขอบใจนะ” ลีอายิ้มบางๆ
“เข้าค่ายที่ทะเลด้วยอะ อยากไปเที่ยวอยู่พอดีเลย” พีชชี่พูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นและหันมามองหน้าลีอา
“อืม” ลีอาพยักหน้าตอบ
“ตอนเย็นไปหาอะไรกินหลังมอไหม” กราฟฟิคชำเลืองสายตามองลีอาที่ก้มหน้าก้มตากรอกข้อความลงในกระดาษ
“อืม” ลีอาพยักหน้าตอบขณะที่สายตาก็ยังมองกระดาษในมือ
“ชวนแค่ลีอาคนเดียวเหรอกราฟฟิค” ใยไหมแกล้งพูดแซว
“เอ่อ..พวกเราไปหาอะไรกินหลังมอไหม ร้านอร่อยเยอะนะ ไปไหม?” กราฟฟิคหัวเราะเขินๆ ขณะที่สายตามองดูคนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวเงยหน้าขึ้นมามองหน้าเขา
“ก็ดีเหมือนกัน ตอนนี้โคตรหิวเลย” ออกัสพูดตอบพลางส่งกระดาษที่เขียนเสร็จแล้วให้พีชชี่
เตชินทร์นั่งมองลีอาที่กำลังพูดคุยกับเพื่อนผู้ชายด้วยท่าทางสนิทสนมอยู่เงียบๆ ถึงจะเป็นเพื่อนกันมันก็เป็นผู้ชายไหม ดูท่าทางไอ้เด็กนั่นมันก็คงชอบเธออยู่ ตอนแรกที่เห็นเขาก็รู้สึกเฉยๆ แต่พอเห็นบ่อยๆ เข้ามันก็รู้สึกไม่พอใจขึ้นมาจนเขาอดรู้สึกแปลกใจตัวเองไม่ได้
‘…เหยื่อตัวนี้ผมหมายตาไว้แล้วใครหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์มาแตะต้องทั้งนั้น...’
“ปีนี้เข้าค่ายที่ระยอง? เออๆ น่าสนใจ เหมือนไปเที่ยวกันมากกว่า ใครคิดวะเนี่ย” นอร์ทเอ่ยพูดขึ้นขณะอ่านรายละเอียดกิจกรรมเข้าค่าย
“พวกรุ่นน้องปีสองมันโหวตเลือกสถานที่กัน เลือกหลายที่สุดท้ายก็ลงตัวที่ระยอง มันก็ใกล้กรุงเทพดีด้วย” พลอยใสพูดตอบ
“อยากไปแดกเหล้าริมทะเลเหมือนกันว่ะ ขับรถไปเองก็ไม่ไกลด้วย” ท้อปพูดแทรกขึ้นมา
“เชี่ย!มึงก็คิดได้แค่เนี้ย เอ่อ..ไอ้ชิน มึงจะไปป่ะ” พายุหัวเราะขำๆ ก่อนจะหันไปถามเตชินทร์อย่างไม่ใส่ใจนักเพราะคิดว่ามันคงไม่ไป
“เออ ไปดิ” เขาพูดตอบขณะสายตาคมยังจ้องมองที่ลีอาไม่วางตา
เพื่อนๆ ในกลุ่มหันมามองกันด้วยความแปลกใจกับคำตอบที่ไม่คาดคิดว่าจะได้ยินจากปากของเตชินทร์ เพราะร้อยวันพันปีกิจกรรมพวกนี้เตชินทร์แทบจะไม่สนใจด้วยซ้ำ นอร์ทมองตามสายตาของเตชินทร์ไปพอรู้ว่าสายตาของเพื่อนกำลังมองเด็กสาวนั่นอยู่ เขาก็หัวเราะในลำคอพลางส่ายศีรษะไปมาเบาๆ
มิล่าที่นั่งคุยกับปุยฝ้ายอยู่หันมามองหน้าเตชินทร์อยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหันไปมองตามสายตาของเขา พอรู้ว่าเขามองจ้องใครอยู่ เธอก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาทันที ที่เธอต้องมานั่งเฝ้าและคอยตามเขาแบบนี้เพราะเตชิทร์ไม่ค่อยให้ความสนใจเธอเหมือนเดิมจนเธออดรู้หวั่นใจไม่ได้ว่าเขากำลังมีผู้หญิงคนอื่นอีก ที่แล้วๆ มาเขาก็ควงผู้หญิงอื่นอยู่เรื่อยๆ โดยที่เธอก็ได้แต่วางท่าเฉยๆ แต่ในใจทั้งหึงทั้งโกรธจนอยากจะตบยัยพวกนั้นให้กระเจิงที่มายุ่งกับของๆ เธอ แต่ก็ทำแบบนั้นไม่ได้เพราะขืนทำเตชินทร์ได้เลิกกับเธอแน่ๆ
“เข้าค่ายเหรอ? น่าสนุกนะ มิล่าไปเที่ยวด้วยได้ไหมอะ” มือเล็กกระตุกแขนของเตชินทร์เบาๆ เพื่อให้เขาหันมาสนใจที่เธอพูด
“อืม มิล่าจะกลับเลยไหมเดี๋ยวชินไปส่ง”
“วันนี้ไปคอนโดชินได้ไหม”
“ไว้วันหลังเถอะ เดี๋ยวชินต้องไปทำรายงานกลุ่ม”
“ตะแต่...ก็ได้” มิล่าเงียบเสียงไปทันทีเมื่อนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้ไม่ได้อยู่กับเขาแค่สองคน ยังไงสถานะของเธอกับเตชินทร์ในสายตาคนอื่นก็คือพี่น้อง ถึงจะไม่ใช่พี่น้องกันจริงๆ ก็เถอะ จะแสดงออกประเจิดประเจ้อมากก็ไม่ได้
“กูกลับก่อนนะ” เตชินทร์หันไปบอกเพื่อนๆ ในกลุ่ม
“ไอ้ชิน!วันนี้ต้องไปทำรายงานกลุ่มที่คอนโดไอ้นอร์ทนะ” พายุรีบพูดบอกเพราะกลัวว่าเพื่อนจะหายจ้อยไปกับสาว
“เออ รู้แล้ว”
ลีอาชำเลืองสายตามองตามหลังเตชินทร์และมิล่าที่เดินออกไปจากโต๊ะไป ก่อนที่จะหันกลับมาสนใจกิจกรรมตรงหน้าเหมือนเดิม
รถยนต์หรูขับเข้ามาจอดในซอยเปลี่ยวแห่งหนึ่ง ฟิล์มกระจกรถที่ดำสนิททำให้คนด้านนอกมองเข้ามาแทบจะไม่เห็นว่าคนด้านในกำลังทำกิจกรรมเข้าจังหวะกันอยู่ เสียงร้องครวญครางของคนทั้งคู่ผสมกับเสียงเนื้อกระทบเนื้อที่ดังลั่นรถ
“อ๊าา ชิน สะเสียวจังเลย อื้ออ อ๊า”
“อา..มิล่า ขย่มแรงๆ ซี๊ดด แม่ง..แน่นชะมัด”
สะโพกกลมกลึงขยับขึ้นลงด้วยจังหวะหนักหน่วง ใบหน้าสวยเชิดขึ้นสูงพร้อมกับวงแขนที่โอบรอบคอหนาไว้แน่นขณะที่หน้าอกก็ถูกมือหนาบีบคลึงพร้อมกับลิ้นร้อนที่ดูดเลียอย่างหื่นกระหาย มือหนาจับล็อกเอวคอดไว้แน่นและยกสะโพกสวนกระแทกขึ้นไปรัวๆ ร่างบางถึงกับสั่นเกร็งและร้องครางออกมาความเสียงซ่าน ขณะที่เขาก็ใกล้จะแตะขอบสวรรค์เต็มที
“อ๊ะๆๆ มะไม่ไหวแล้ว อ๊าา!!”
“อ๊าาส์!!”
ร่างกายของเขาและเธอเกร็งกระตุกขณะที่ถึงจุดสุดยอดด้วยกันทั้งคู่ ท่อนเอ็นร้อนปลดปล่อยน้ำสีขาวออกมาจนเต็มถุงยาง มิล่าโน้มใบหน้าลงมาจูบเขาพร้อมกับสอดเรียวลิ้นเข้าไปตวัดดูดดันลิ้นสากและบดจูบเรียวปากหนาอย่างอ้อยอิ่งก่อนจะผละริมฝีปากออก
มิล่าขยับตัวกลับมาที่เบาะนั่งข้างคนขับ เอื้อมมือออกไปหยิบกระดาษทิชชูตรงคอนโซลหน้ารถมาเช็ดทำความสะอาดและรีบหยิบบราเซียร์ตามด้วยแพนตี้และเสื้อนักศึกษาขึ้นมาสวมใส่ สายตาหวานเยิ้มมองดูเตชินทร์ที่กำลังสวมใส่กางเกงของตัวเองจนเสร็จเรียบร้อยก่อนที่เขาจะสตาร์ทรถและรีบขับรถออกไปจากในซอยทันที
หลังจากที่เขาขับรถไปส่งมิล่าเสร็จ เตชินทร์ก็ขับรถวนกลับมาที่มหาลัยอีกครั้ง เขาจอดรถตรงด้านหน้าของคณะ สายตาคมมองดูหญิงสาวที่เพิ่งเลิกจากกิจกรรมรับน้อง เธอเดินตามเพื่อนในกลุ่มออกมาและกำลังเดินผ่านรถยนต์ของเขาที่จอดอยู่ ชายหนุ่มหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออกขณะที่สายตามองตามหลังร่างบางที่กำลังเปิดกระเป๋าสะพายและหยิบโทรศัพท์ออกมา
“ฮัลโหล เอ่อ..ใครคะ”
“ฉันเอง ห้ามวางสายนะ” เตชินทร์รีบพูดดักคอทันทีเพราะกลัวยัยตัวแสบจะกดวางสาย
“พี่ไปเอาเบอร์ฉันมาจากไหน?”
“เลิกกิจกรรมแล้วทำไมถึงไม่กลับบ้าน”
“ละแล้วมันเกี่ยวอะไรกับพี่ด้วย เลิกมายุ่งกับฉันสักทีได้ไหม!” พอพูดจบเธอก็รีบกดตัดสายทิ้งทันทีโดยที่ไม่รอให้อีกฝ่ายได้พูดอะไรต่อ
“ดะเดี๋ยว!ลีอา..”
“ยัยเด็กบ้า!!” เขาสบถออกมาเสียงดัง สายตามองตามร่างบางที่เดินพูดคุยกับไอ้เด็กนั่นด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม บอกไม่ถูกว่าทำไมตัวเองต้องรู้สึกหงุดหงิดเพียงแค่เห็นเธอให้ความสนิทสนมกับผู้ชายคนไหนเป็นพิเศษ