บทนำ
“ตามตัวให้เจอ!”
“ใครเจอ! ฉันอนุญาตให้ยิงมันทิ้งได้เลย”
เสียงฟ้าผ่าดังกระหน่ำพร้อมกับลมพายุที่พัดอย่างรุนแรงจนต้นไม้โยกเยกตามแรงลม หนุ่มใต้ลูกครึ่งเชื้อสายอิตาลี มุ่งตรงไปยังบ้านเป้าหมายในเวลาเกือบสามทุ่ม
วันนี้เขาต้องลากตัวคนที่บังอาจขโมยหอยไข่มุกจากฟาร์มตุลธรมาเด็ดหัวให้ได้ ไม่ว่าคนผู้นั้นจะเป็นใครก็ตาม จะเคยมีบุญคุณหรือไม่ เขาไม่สน!
“ไอ้ชัย มันไม่อยู่ในบ้านแล้วครับนายหัว”
ตุลธรฟังสิ่งที่ลูกน้องคนสนิทเอ่ย จึงก้าวเท้าเข้าไปในตัวบ้านด้วยตัวเอง ทุกซอกทุกมุมของบ้านเงียบสนิท ดูก็รู้ว่าเจ้าของบ้านได้หนีไปทั้งนานแล้ว เพราะเขาชะล่าใจคิดไม่ถึงว่าคนใกล้ตัวจะทำกันได้ลงคอกว่าจะมาถึงที่นี่ก็ทำเอาคนร้ายหนีไปไกลเสียแล้ว
“บ้าฉิบ!”
เขาหัวเสียเป็นอย่างมาก มูลค่าที่ขโมยไปราคาเสียหายสูงราวห้าล้านบาท แต่ที่สำคัญชัยวัฒน์ยังจะขโมยจิวเวลรี่ไข่มุกที่จะต้องส่งให้คู่ค้าเก่าแก่ในเวลาไม่กี่วันนี้แล้ว
นี่น่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้เขาหัวเสียเป็นที่สุดในเวลานี้
“ไปลากตัวมันมาให้ได้ ใครสามารถเอาตัวมันมาได้ กูมีรางวัลให้อย่างงาม”
“รับทราบครับนายหัว”
ลูกน้องทยอยเดินออกจากตัวบ้านเพื่อหาเบาะแสที่กบดานของชัยวัฒน์
“ป่านนี้ผมว่าไอ้ชัยมันน่าจะออกจากพื้นที่ไปแล้ว” เปรมณัชลูกน้องคนสนิทเอ่ยแสดงความคิดเห็นกับเจ้านายทันที
“มันหนีได้ไม่ไกลหรอก”
เขาเชื่ออย่างนั้น ผีพนันอย่างชัยวัฒน์ที่นับวันยิ่งถลำลึกจนเข้าเส้นเลือดแบบนั้น ถ้ารอดจากน้ำมือของเขาก็คงไม่พ้นน้ำมือพวกมาเฟียบ่อนคาสิโนอยู่ดี
“อือ! เปียกหมดเลย”
“เสียงใคร!?” ตุลธรหันขวับไปหน้าประตูบ้านเมื่อได้ยินเสียงหวาน ๆ แว่วเข้ามาในหู
ไม่ใช่ลูกเมียของชัยวัฒน์แน่นอนเพราะชัยวัฒน์คือหนุ่มโสดที่ครองตัวโดดเดี่ยวมาจนถึงอายุ 40 ปี แล้วเสียงนั้นคือเสียงของใคร
“อาชัยขา ทำไมอาชัยไม่ปิดประตูบ้านคะ ฝนตกหนักขนาดนี้...” ทว่าหญิงสาวร่างบางเอ่ยถามเจ้าของบ้านไม่ทันจบประโยคก็ต้องชะงักเมื่อสบสายตากับผู้ชายแปลกหน้าที่ยืนอยู่กลางบ้านคุณอาของเธอ
ตุลธร เปรมณัช มองหญิงสาวตรงหน้า ใบหน้าจิ้มลิ้มอ่อนหวาน เหมาะกับริมฝีปากเรียวเล็ก จมูกโด่งรับกับดวงตาคู่สวย เธอมีรูปร่างสูงไม่เกินร้อยหกสิบเซนติเมตร ผิวขาวละเอียดเนียนวับ ชวนให้น่าสัมผัส
แต่ทว่า...ทำไมคุ้นหน้าผู้หญิงคนนี้จัง
“เอ่อ พวกคุณเป็นใครคะ ทำไมมาอยู่ในบ้านอาชัยได้หรือเป็นเพื่อนอาชัยเหรอคะ”
“เธอเป็นใคร”
หญิงสาวนิ่วหน้าเมื่อโดนถามกลับทั้งที่เธอถามเขาก่อน “คุณยังไม่ตอบฉันเลย ตอบมาก่อนค่ะ”
“เธอเป็นใคร!” ชายหนุ่มย้ำคำเดิม
“เอ๊ะ! นี่คุณ ฟังไม่รู้เรื่องรึไง ตอบมาก่อนค่ะ ไม่งั้นฉันก็ไม่ตอบเหมือนกัน”
“ชื่อพรพระพายหรือเปล่า” จู่ ๆ เปรมณัชก็เอ่ยขึ้น ท่ามกลางศึกสงครามผ่านสายตาคู่คมกับแววตาคู่หวาน ที่สบตากันอย่างไม่ยอมแพ้
“คุณรู้จักชื่อฉันด้วยเหรอคะ” คนตัวเล็กชี้นิ้วหาตัวเองแล้วเอ่ยถามชายหนุ่มอีกคนที่น่าจะรุ่นราวคราวเดียวกันกับคนที่ส่งสายตาดุดันใส่เธอ
ตุลธรมองสำรวจใบหน้าหวานนั่นอีกครั้งทันทีที่ได้ยินชื่อจากปากลูกน้อง
หน้าตาก็คล้าย แถมชื่อยังเหมือนกันอีก
“ชื่อพรพระพายเหรอ” ตุลธรนึกบางอย่างอย่างถี่ถ้วนจึงถามย้ำให้ชัดเจนกว่าเดิม
“ค่ะ ฉันชื่อพรพระพาย แล้วพวกคุณล่ะเป็นใครทำไมมาอยู่ในบ้านอาชัยได้ แล้วนี่อาชัยไปไหนคะ ทำไมไม่ออกมาต้อนรับแขก”
“เอาคำตอบไหนก่อนดีล่ะ” ร่างสูงใหญ่ย้อนถาม
“เอาทุกคำตอบค่ะ”
ตุลธรพยักหน้ารับรู้ แววตาไล่มองร่างบางอย่างเจ้าเล่ห์ งานนี้ดูเหมือนเขาจะได้ดอกเบี้ยก่อนจะได้สิ่งที่โดนขโมยไปแล้วล่ะมั้ง
“ฉันชื่อตุลธร”
“ผมชื่อเปรมณัชครับ”
ดวงตาคมเหลือบมองลูกน้องข้าง ๆ ที่ถือวิสาสะเอ่ยแนะนำพร้อมเขา ก่อนจะหันมาสนใจหญิงสาวตรงหน้าต่อ
“ฉันเป็นเจ้านายของอาเธอ”
พรพระพายเบิกตากว้างเพราะดูเหมือนว่าการพบหน้ากับเจ้านายของคุณอาของเธอจะเปิดฤทธิ์ไม่ดีเท่าไรนัก
“และกำลังจะเป็นเจ้าหนี้ของอาเธอ”
คราวนี้คิ้วเล็กขมวดเข้าหากันเป็นปม เจ้าหนี้งั้นเหรอ
“แต่คนที่ต้องอยู่ใช้หนี้ฉันน่าจะเป็นเธอนะ...พรพระพาย!”