2.เปิดตัว
ปังๆ ๆ
แขกเหรื่อที่อยู่ในงานต่างวิ่งหลบลูกกระสุนอย่างอลหม่าน เสียงร้องดังเซ็งแซ่อย่างหวาดกลัว เฮนรี่กอดร่างบอบบางแนบอกแล้วกลิ้งหลบหลังแจกันใบใหญ่ สายตาคมกวาดมองคนร้ายที่ยืนกราดยิงอย่างอุกอาจ ข้าวของภายในงานกระจัดกระจาย
ฮีโร่และบอดี้การ์ดของมาเทอร์สันต่างกรูเข้าไปยิงโต้ตอบดังสนั่น เมื่อรู้ชัดเจนว่าเป้าหมายคือเขา มือใหญ่จึงหยิบปืนออกจากเอวช่วยยิงตอบโต้ มืออีกข้างโอบกระชับมิดารินทร์แนบอกอย่างปกป้อง คมกระสุนจากปืนของชายหนุ่มเจาะเข้าหน้าผากมันคนหนึ่งล้มลง เสียงปืนดังขึ้นราวยี่สิบนาทีก็เงียบลงพร้อมกับไฟในห้องสว่างขึ้นอีกครั้ง ตำรวจนอกเครื่องแบบต่างเข้าเคลียร์พื้นที่ ฮีโร่และบอดี้การ์ดคนอื่นๆ กรูเข้าไปหาเจ้านายด้วยความเป็นห่วง ดวงตาคมเข้มกวาดมองคนร้ายที่นอนนิ่งอยู่กับพื้นด้วยลูกปืนในมือตัวเอง
“ปลอดภัยนะครับบอส”
เฮนรี่พยักหน้าแทนคำตอบ ก่อนจะก้มมองคนในอ้อมกอด มิดารินทร์มองคนร้ายแววตาคมโตหวาดหวั่น หากไออุ่นจากอ้อมแขนที่โอบกอดอยู่นั้นทำให้เธอรู้สึกอุ่นใจและปลอดภัยอย่างบอกไม่ถูก
“ตกใจใช่ไหม” เสียงทุ้มอ่อนโยนเต็มไปด้วยความห่วงใยถามขึ้น พร้อมกับมือหนากระชับเอวบางเข้ามาชิด
“นิดหน่อยค่ะ” มิดารินทร์หน้าซีด ริมฝีปากอิ่มเม้มแน่นอย่างระงับความกลัวไว้เต็มที่
เฮนรี่ยิ้มบางๆ ที่มุมปากได้รูปเมื่อเห็นคนอวดเก่ง...สมกับเป็นเอลตาโน่สายเลือดนักแข่งจริงๆ แม่คุณ
มิดารินทร์เบี่ยงตัวออกจากวงแขนเขาอย่างสุภาพ เมื่อนายตำรวจนอกเครื่องแบบคนหนึ่งเดินเข้ามาหาเขาและเธอ ลำแขนกลมกลึงยกขึ้นกอดตัวเองเพื่อทดแทนความอบอุ่นและปลอดภัยจากวงแขนแกร่ง แม้นาทีความเป็นความตายจะผ่านไปแล้ว แต่ความตื่นเต้นก็ยังไม่จางหาย ทุกครั้งที่อยู่ในเหตุการณ์นาทีชีวิตแบบนี้ ข้างกายเธอมีอิงราชน้องชายที่เธอยกให้เป็นพี่ชาย และอินทรีย์ญาติผู้น้องลูกชายของอาเบญจกุลกับอากัณหาคอยปกป้อง
“คงต้องขอเชิญคุณผู้หญิงไปให้ปากคำกับตำรวจสักครู่นะครับ”
“ทำไมต้องเป็นฉันล่ะคะ คนอยู่ในเหตุการณ์เยอะแยะ” มิดารินทร์ถามอย่างสงสัยและเธอก็ไม่มีเวลามากขนาดนั้น
“คุณเห็นหน้าคนร้ายไหมครับ”
มิดารินทร์ส่ายหน้าปฏิเสธ เฮนรี่สบตานายตำรวจหนุ่มแล้วหันไปยิ้มให้กับหญิงสาว
“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเธอหรอกเรน” เฮนรี่ขยับเข้าไปใกล้เมื่อเห็นความคลางแคลงใจบางอย่างในดวงตาคมสวย
ผู้กองเรนนายตำรวจฝีมือดีจากกองปราบสบตาคมเข้มของเจ้าพ่อยานยนต์แห่งแดนกระทิงดุ แล้วพยักหน้าขึ้นลงเมื่อเห็นสัญญาณบางอย่างส่งมา ก่อนจะขอตัวเดินไปดูความเรียบร้อยอีกครั้ง
“จะไปไหน” เฮนรี่คว้าข้อมือบางทันทีที่เธอขยับตัวจะก้าวออกไปจากห้องจัดงาน มิดารินทร์มองมือตัวเองในอุ้งมือใหญ่แล้วเงยหน้าขึ้นสบตาเขา
“กรุณาปล่อยมือด้วยค่ะ เหตุการณ์ตื่นเต้นจบลงไปแล้ว”
“แน่ใจเหรอมิดารินทร์ว่าเรื่องมันจบ คุณเห็นหน้าคนที่ยิงผม แล้วมือปืนคนนั้นมันก็หนีไปได้ คิดเหรอว่ามันจะปล่อยคุณไว้”
หญิงสาวหน้าซีดมองสามศพที่ถูกเจ้าหน้าที่นำไปขึ้นรถโรงพยาบาล เธอไม่รู้ว่าคนร้ายมีกี่คนกันแน่ แต่ที่แน่ๆ คนที่เธอเห็นไม่ใช่สามศพนั้น
“คุณอย่าลืมสิเอลตาโน่เป็นใคร” มิดารินทร์เชิดหน้าขึ้นแม้ใจจะหวาดหวั่น เพราะเธอต้องอยู่ในมาดริดอีกเกือบหนึ่งอาทิตย์ หากมีอะไรเกิดขึ้นจะทำยังไงกัน ป่านนี้พ่อกับแม่และอิงราชคงรู้เรื่องวันนี้แล้ว เธอเชื่อได้เลยว่าอีกสองวันน้องชายที่เปรียบเหมือนพี่ชายจะต้องตามมาที่นี่อย่างแน่นอน
“นั่นเมืองไทย แต่ที่นี่มีเพียงผมเท่านั้นที่จะปกป้องคุณได้”
“ปกป้องตัวเองให้รอดก่อนดีกว่านะคะ ฉันขอปกป้องลมหายใจตัวเองจะดีกว่า”
เฮนรี่มองตามแผ่นหลังบางด้วยแววตานิ่งลึก เขารู้ว่าการ์ดของเอลตาโน่ฝีมือดีขนาดไหน แต่เขาก็อดห่วงไม่ได้
…หนึ่งชีวิตของผมจะปกป้องอีกหนึ่งลมหายใจของคุณ มิดารินทร์...เฮนรี่บอกกับตัวเองในใจ
***
