5. ไม่ต้องมายุ่งเรื่องของพี่
“นี่พี่ไหมให้พี่ภามเขามาเหรอคะ” ชลธิชาหันมาถามพี่สาวของเธอด้วยสายตาจดจ้อง เพราะเธอคิดว่าพี่สาวของเธอจะเลิกยุ่งกับภัคพลตามที่เธอขอแล้ว แต่ทำไมภัคพลยังมาหาพี่สาวของเธออยู่
“ไม่ใช่นะธิชา พี่ไม่ได้ให้ภามเขามาหาพี่ ธิชาอย่าพึ่งเข้าใจพี่ผิดนะ พี่ไม่รู้ว่าภามเขาจะมาจริงๆเมื่อกี้พี่แชทคุยกับเขา เขาก็ไม่ได้บอกพี่เลยด้วยซ้ำว่าเขาจะมาหาน่ะ ธิชาอยู่กับพี่ที่นี่ แล้วพี่จะบอกให้เขามาหาพี่ทำไมล่ะ ในเมื่อธิชาไม่ได้อยากให้พี่ยุ่งกับเขาอีกน่ะ” แพรไหมรีบอธิบายกับน้องสาวไปอย่างไม่อยากให้น้องสาวเข้าใจผิด
“นี่ขนาดธิชาบอกไม่ให้พี่ไหมยุ่งกับพี่ภามอีก แต่พี่ไหมก็ยังไปแชทคุยกับเขาเนี่ยนะคะ ที่ธิชาเตือนพี่ไหมไป พี่ไหมไม่ฟังเลยใช่ไหมคะ…” ชลธิชาพูดต่อว่าพี่สาวของเธอออกไปอย่างอดไม่ได้
“ไหมเขาไม่ได้บอกให้พี่มาหรอกธิชา อย่าไปต่อว่าอะไรไหมเขาเลย คนที่ธิชาควรจะต่อว่าคือพี่มากกว่า พี่เห็นไหมเขาบอกว่าคุณคีรินเขาออกไปประชุมน่ะ พี่ก็เลยแอบมาเยี่ยมไหมกับลูก…” ภัคพลที่รู้ว่าชลธิชารู้ความจริงแล้วเขาก็เอ่ยพูดบอกไปแบบไม่ปิดบัง เพราะเรื่องนี้เขาตัดสินใจมาหาแพรไหมเอง ดังนั้นถ้าชลธิชาจะว่าก็ควรจะว่าเขาไม่ใช่แพรไหม
“นี่ภามนี่ก็หน้าด้านเหมือนกันนะคะ เป็นชู้เมียกับเขาแล้วยังไมพอ ยังจะยัดเหยียดลูกตัวเองให้เป็นลูกของคนอื่นอีก สิ่งที่พี่ทำกับคุณคีรินน่ะ มันโคตรเลวเลยรู้ตัวบ้างไหมคะ…” ชลธิชาพูดต่อว่าภัคพลออกไปอย่างอดไม่ได้ ก่อนจะมองเขาแบบจดจ้องอย่างเอาเรื่อง
“ธิชา อย่าก้าวร้าวกับภามเขาแบบนั้นนะ ยังไงถามเขาก็อายุมากกว่าเรา เราก็ควรจะให้เกียรติเขาบ้าง…” แพรไหมพูดเอ็ดน้องสาวเธอที่พูดจาแบบนั้นออกมา เพราะมันก็เหมือนด่าเธอเช่นกัน
“หึ..คนแบบนี้มีอะไรให้ธิชาให้เกียรติด้วยเหรอคะพี่ไหม เป็นชู้กับเมียชาวบ้าน แล้วยังยัดเหยียกลูกชู้ให้เขาอีก ไหนจะเรื่องการประมูลที่เขาให้พี่ไหมช่วยอีก ผู้ชายแบบนี้น่ะเหรอคะที่พี่ไหมรัก…ธิชาให้เกียรติแล้วก็เคารพผู้ชายแบบนี้ไม่ลงหรอกค่ะ…” ชลธิชาพูดออกไปแบบไม่สนไม่แคร์อะไรทั้งนั้นเพราะเธอเคยเตือนพี่สาวเธอก่อนหน้านี้แล้ว ในเมื่อยังแอบลักลอบคุยกันอยู่ เธอก็ด่าไม่เว้นเหมือนกันทั้งภัคพลและพี่สาวของเธอน่ะ
“ธิชา! ทำไมเราต้องพูดจาแรงๆแบบนี้ด้วยห้ะ ที่เราด่าเขาปาวๆน่ะก็เหมือนเราด่าพี่ด้วยเหมือนกัน…ไม่ให้เกียรติเขาก็ควรจะให้เกียรติพี่สาวของตัวเองนะธิชา ถ้ายังเห็นพี่เป็นพี่สาวก็ขอโทษภามเขาซะ” แพรไหมพูดต่อว่าน้องสาวออกไปอย่างจริงจัง เพราะชลธิชานั้นพูดจาแรงเกินไปแล้ว
“ไม่เป็นไหรไหมผมไม่ถือ ผมทำไม่ดีจริงๆ ก็สมควรที่ธิชาเขาจะไม่เคารพผมแล้วล่ะ… คุณอย่าไปว่าอะไรธิชาเลย…” ภัคพลที่โดนชลธิชาต่อว่าอย่างนั้นก็ก้มหน้าลงอย่างข่มขื่น เพราะเขาก็ไม่ได้อยากให้ทุกอย่างมันเป็นแบบนี้เลย เขาจึงได้แต่กำหมัดแน่นอย่างเก็บอารมณ์ขุ่นหมองของเขาเอาไว้ แล้วเขาก็เอ่ยพูดออกไปอย่างใจเย็น
“ไม่ต้องมาทำตัวเป็นคนดีหรอกค่ะ ธิชาไม่ได้รู้สึกซาบซึ้งเลยสักนิด แล้วธิชาก็จะไม่ขอโทษด้วยเพราะคำพูดที่ธิชาพูดไปน่ะ มันก็สมควรกับคนอย่างพี่ภามแล้วล่ะค่ะ” ชลธิชาพูดออกไปแล้วเธอก็มองหน้าภัคพลอย่างไม่ชอบขี้หน้าสุดๆ
“ธิชา ถ้าเรายังไม่หยุดอีกก็กลับไปซะ” แพรไหมไล่น้องสาวของเธออย่างอดไม่ได้ เพราะชลธิชาชักจะเหิมเกริมขึ้นทุกทีแล้ว
“คนที่พี่ควรจะไล่คือพี่ภามไม่ใช่ธิชา…ถ้าพี่ไหมรักเขาขนาดนั้นก็ไปอยู่กับเขาเลยสิคะ พี่จะมากล้ำกลืนฝืนทนอยู่กับพี่คีรินเขาทำไมคะ หรือว่าพี่เป็นนางวันทองคะ เลือกใครไม่ได้ก็เลยเก็บเอาไว้ทั้งสองคน…” ชลธิชาหันมาพูดกับพี่สาวของเธอแบบประชดออกไป เพราะพี่สาวของเธอจะได้รู้ตัวว่าตัวเองทำอะไรอยู่
“ธิชา! อย่ามาพูดกับพี่แบบนี้นะ…เรานี่ชักจะก้าวร้าวใหญ่แล้วนะ” แพรไหมมองหน้าน้องสาวอย่างไม่พอใจก่อนจะต่อว่าออกไป เพราะสิ่งที่น้องสาวพูดมันแทงใจดำเธอมาก
“หึ..ธิชาก็แค่ก้าวร้าว แต่ธิชาก็รู้จักผิดชอบชั่วดีค่ะพี่ไหม…ธิชาพูดแบบนี้ก็เพราะธิชารักพี่ไหมนะคะ ธิชาไม่อยากให้พี่ไหมทำผิดไปมากกว่านี้แล้ว พี่ไหมต้องเลิกติดต่อกับพี่ภามค่ะ ไม่อย่างนั้นธิชาจะเป็นคนบอกความจริงกับพี่คีรินเองค่ะ…เพราะธิชาสงสารเขาที่ต้องมาถูกพี่ไหมกับพี่ภามสวมเขาให้แบบนี้” ชลธิชาพูดบอกไปแล้วมองหน้าพี่สาวของเธอแบบจดจ้อง
“พี่ไม่คิดเลยนะว่าธิชาจะเห็นคนอื่นสำคัญกว่าพี่สาวของตัวเอง ถ้าธิชาอยากจะทำลายชีวิตพี่นักก็เอาเลย ไปบอกคีรินเขาตอนนี้เลย…” แพรไหมเห็นสายตาของน้องสาวที่มองเธอด้วยความผิดหวังอย่างนั้นเธอก็เสียใจที่น้องสาวของเธอนั้นพูดออกมาแบบนั้น เธอจึงไล่น้องสาวให้ไปบอกความจริงกับคีรินไปเลย
“เพราะธิชาเห็นพี่เป็นคนสำคัญของธิชาไงคะ ธิชาถึงได้พูดตรงๆให้พี่ได้สติว่าตอนนี้พี่กำลังทำอะไรอยู่…ความลับมันไม่มีในโลกนะคะพี่ไหม สักวันคุณคีรินเขาก็ต้องรู้หากพี่ไหมยังติดต่อกับพี่ภามเขาอยู่…ธิชาแนะนำพี่ไหมได้สองทางค่ะ หนึ่งคือหย่ากับพี่คีรินแล้วไปอยู่กับพี่ภามเขาซะ สองคือเลิกยุ่งกับพี่ภามแล้วใช้ชีวิตครอบครัวกับพี่คีรินต่อไป แล้วธิชาจะไม่เอ่ยพูดเรื่องนี้ขึ้นมาอีก…” ชลธิชาพูดอธิบายออกไปเพราะเธอรักพี่สาวของเธอ เธอถึงได้เตือนพี่สาวตรงๆแบบนี้
“พอเถอะธิชาอย่ากดดันอะไรไหมเขาอีกเลย ทุกอย่างมันเป็นเพราะพี่เอง พี่จะออกไปจากชีวิตของไหมกับลูก พี่จะไม่ทำให้ไหมกับลูกต้องเดือดร้อนเพราะพี่…” ภัคพลพูดบอกไปอย่างตัดใจ เพราะมันก็จริงอย่างที่ชลธิชาพูดว่าถ้าเขายังติดต่อกับแพรไหมอยู่ สักวันคีรินก็ต้องรู้เรื่องนี้แน่ และมันก็จะทำให้แพรไหมและเขาตกอยู่ในที่นั่งลำบาก ดังนั้นเขาต้องสร้างตัวให้มั่นคงกว่านี้ เขาถึงจะสามารถดูแลแพรไหมและลูกได้
“ภาม….คุณไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นเลยค่ะ…ไหมไม่ได้อยากให้คุณไปจากไหม…” แพรไหมมองหน้าเขาแล้วพูดชื่อเขาออกไปด้วยแววตาเศร้าๆ เพราะเธอไม่อยากให้เขาทำแบบนี้
“พี่ไหม!...” ชลธิชาได้ยินพี่สาวพูดออกมาแบบนั้นก็เรียกชื่อพี่สาวอย่างเสียงดัง เพราะภัคพลยอมจะไปแล้ว แล้วพี่สาวของเธอยังจะเรียกร้องไม่ให้เขาไปอีก
“หยุดกดดันพี่กับภามได้แล้วธิชา แล้วก็หยุดยุ่งเรื่องชีวิตของพี่ซะ พี่จะทำอะไร จะผิดแค่ไหนมันก็เรื่องของพี่ ธิชาไม่ต้องเข้ามายุ่ง…” แพรไหมพูดบอกไปเสียงเข้ม เพราะเธอจะไม่ยอมให้น้องสาวมาพรากภัคพลไปจากเธอแน่ๆ
“งั้นธิชาก็จะไม่ยุ่งเรื่องของพี่ไหมอีกต่อไปค่ะ…ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาก็อย่ามาให้ธิชาแล้วก็คุณพ่อคุณแม่ช่วยก็แล้วกันค่ะ…” ชลธิชาได้ยินพี่สาวพูดแบบนั้นก็มองอย่างผิดหวังกับสิ่งที่พี่สาวพูดออกมาจริงๆ เธอจึงพูดตอบไปแบบเสียใจที่พี่สาวของเธอพูดแบบนี้
“ไหม…ผมไม่อยากให้คุณต้องมาทะเลาะกับธิชาเขาแบบนี้เลยนะ…ธิชา พี่ขอโทษนะ…” ภัคพลพูดกับแพรไหมไปแล้วเขาก็หันมาพูดกับชลธิชาอย่างขอโทษ เพราะเขาไม่ได้อยากเป็นต้นเหตุให้เธอทะเลาะกับแพรไหมเลย
“ไม่ต้องมาขอโทษหรอกค่ะถ้าพี่พวกพี่ไม่ได้คิดจะสำนึกผิด…หลีกไปค่ะ ธิชาจะกลับ…” ชลธิชาพูดบอกไปแล้วมองหน้าของภัคพลอย่างไม่ชอบใจ ก่อนจะหยิบกระเป๋าของเธอแล้วจะออกไปแต่ภัคพลนั้นยืนขวางทางอยู่
“แกร๊ก! มีเรื่องอะไรกันธิชา…ทำไมถึงเอะอะเสียงดังด้วย…” เสียงประตูเปิดออกพร้อมกับเสียงของคีรินที่เปล่งพูดออกมาอย่างดุดัน แล้วเขาก็เดินเข้ามาในห้องพร้อมกับจำได้แม่เลยว่าผู้ชายคนนี้คือภัคพล คนที่ประมูลงานปาดหน้าเขาไปเมื่อเดือนก่อน
ชลธิชาก็มองคีรินเดินเขามาด้วยสายตาอึ้งๆ เพราะเธอไม่คิดว่าเขาจะมาได้จังหวะขนาดนี้ก็ไหนพี่สาวของเธอบอกว่าเขาไปประชุมไง แล้วนี่เขามาตอนนี้ทำไมกัน ชลธิชาคิดในใจไปก็ไม่รู้จะตอบคีรินยังไงเลย
ส่วนภัคพลก็มองสบตากับคีรินอย่างจดจ้องพร้อมกับคิดในหัวว่าเขาจะตอบคำถามของคีรินยังไง ก่อนจะกลืนน้ำลายลงคออย่างเกรงๆเลยทีเดียว
ส่วนแพรไหมที่เห็นสามีของเธอเดินเข้ามาก็ตกใจไม่น้อยเลย เพราะเธอคิดว่าเขาไปประชุมแล้ว เธอไม่คิดว่าเขาจะกลับมาในสถานการณ์แบบนี้ คีรินจะต้องสงสัยแน่ๆว่าภัคพลมาทำไม แพรไหมจึงรีบเอ่ยถามเขาไปอย่างตัดความสงสัยของเขา
“คุณ คุณไปประชุมเซ็นสัญญาไม่ใช่เหรอคะคุณคีริน แล้วนี่คุณกลับมาทำไมคะ…” แพรไหมเอ่ยถามเขาไปอย่างต้องการเบี่ยงเบนความสนใจของเขา
“ผมลืมโทรศัพท์กับเอกสารสัญญาน่ะก็เลยต้องกลับมาเอาด้วยตัวเอง แล้วเมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น ผมได้ยินเสียงธิชาพูดซะเสียงดังเลย แล้วคุณภัคพลมาทำอะไรที่นี่ไม่ทราบ…” คีรินเดินเข้าไปหาแพรไหมแล้วเขาก็หันไปหาชลธิชาและภัคพลอย่างอยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านี้
ชลธิชาก็ได้แต่นิ่งไม่พูดอะไรเพราะเธอไม่รู้จะตอบคีรินยังไง เขายิ่งเป็นคนฉลาดอยู่ด้วยถ้าเธอหาข้ออ้างไม่เนียนเขาก็จะจับได้น่ะสิ ส่วนภัคพลเองก็พยายามจะหาข้ออ้างอยู่เช่นกัน แต่เขาก็ไม่รู้จะเอาอะไรมาอ้างให้คนอย่างคีรินเชื่อ
“อ่อ…คุณภามเขามากับธิชาน่ะค่ะ…เขาเห็นว่าฉันพึ่งคลอดลูกก็เลยมาเยี่ยมค่ะ…” แพรไหมพูดบอกไปอย่างหาทางออกได้แล้ว เพราะบอกไปมากับน้องสาวของเธอคีรินจะต้องไม่สงสัยอะไรแน่ๆ
ชลธิชาได้ยินแบบนั้นก็หันไปมองหน้าพี่สาวของเธอทันทีที่มายัดเหยียดให้ภัคพลมากับเธอแบบนี้ ฉลาดจริงๆเลยเธอยังคิดไม่ได้เลยนะเนี่ย ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคีรินถึงจับไม่ได้ว่าพี่สาวของเธอมีชู้ ก็เพราพี่สาวของเธอแถเก่งแบบนี้นี่เอง
“คุณภาม…นี่ผมพึ่งรู้นะว่าคุณรู้จักกับเขาถึงขั้นเรียกชื่อเล่นกันได้เลย…” คีรินเห็นภรรยาของเขาเรียกภัคพลว่าภามก็เอ่ยถามออกไปแล้วมองไปที่ภรรยาของเขาและทางภัคพลและชลธิชาสลับกันอย่างครุ่นคิดเลยทีเดียวว่าสรุปแล้วมันเป็นยังไงกันแน่
“อ่อ ฉันก็ไม่ได้สนิทอะไรขนาดนั้นหรอกค่ะ พอดีคุณภามเขาตามจีบธิชาอยู่น่ะค่ะ เขาก็เลยให้ฉันเรียกชื่อเล่นของเขาน่ะค่ะ…เพราะเขากับฉันก็อายุเท่ากันพอดีน่ะค่ะ…” แพรไหมพูดบอกไปแล้วก็ยิ้มให้เขาไป เพราะพูดไปขนาดนี้เขาจับโกหกไม่ได้แน่
“คะ…” ธิชาที่ยืนคิดอยู่ก็ร้องออกมาอย่างตกใจที่พี่สาวของเธอพูดออกมาแบบนั้น จนแพรไหมนั้นหันมามองหน้าเธอแล้วทำหน้าขอร้องออกมา เลยทำให้ชลธิชานั้นถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจเลยทีเดียว
“อ่อ ใช่ครับ…ผมกำลังจีบน้องธิชาเขาอยู่ครับ…พอดีผมเห็นว่าน้องธิชาเขาจะมาเยี่ยมพี่สาวก็เลยขอตามมาด้วยน่ะครับ…อ่อ…เราเคยเจอกันที่งานประมูลแล้วแต่ไม่ได้แนะนำตัวกันเลยนะครับ ผมภัคพลครับ คุณคีรินจะเรียกว่าภามก็ได้ครับ…ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ…” ภัคพลรีบพูดเสริมไปทันที ก่อนจะยื่นมือไปทำความรู้จักกับคีรินอย่างมีมารยาท
ชลธิชาก็มองภัคพลที่ยืนอยู่ข้างๆเธอตอนนี้ด้วยสีหน้ามองบนเลยทันที เพราะทันทีที่พี่สาวเธอพูดจบเขาก็รีบเสริมต่อเป็นปี่เป็นขลุ่ยเลย แต่ไม่มีใครเอ่ยถามเธอเลยว่าเธอนั้น
“อืม…ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณภาม…ขอบคุณที่มาเยี่ยมภรรยาของผมด้วยนะครับ…” คีรินเอามือไปจับมือกับเขาอย่างทำความรู้จักไปตามมารยาท ก่อนจะมองชายตรงหน้าสลับกับชลธิชาไปแบบพิจารณา เพราะถึงขั้นมามาเจอคนในครอบครัวแล้วแบบนี้ ชลธิชาก็คงจะชอบหมอนี่แล้วล่ะ
“อ่อครับ…ยินดีครับ” ภัคพลพูดตอบไปแล้วก็ยิ้มอ่อนให้คีรินไป แล้วเขาก็รู้โล่งใจขึ้นมาทันที เพราะคีรินไม่ได้สงสัยอะไร จากนั้นเขาก็ถอนมือออกมาแล้วยืนข้างๆชลธิชาเงียบๆ
“ธิชา…คนนี้เข้าตาล่ะสิถึงได้พามาให้พวกพี่รู้จักน่ะ เรานี่นะ ทำเป็นบอกว่าขอใช้ชีวิตโสด ยังไม่ทันไรก็มีหนุ่มตามติดซะแล้ว…สงสัยว่าพี่คงจะได้ยินข่าวดีว่าเราจะมีแฟนเร็วๆนี้แล้วล่ะมั้งเนี่ย…” คีรินพูดแซวชลธิชาไปด้วยรอยยิ้ม
“คงไม่หรอกค่ะ เพราะคุณภามเขาไม่ใช่สเปคธิชา…” ชลธิชาพูดตอบไปแบบตรงๆ เพราะแค่ให้โกหกเธอก็ยังไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวอะไรกับผู้ชายแบบนี้เลย ทำให้ภัคพลนั้นทำหน้ายิ้มแห้งๆออกมาเลยทีเดียว
“ธิชา…พูดล้อเล่นอะไรน่ะหึ ดูหน้าคุณภามเขาสิ อย่าไปแกล้งเขาเลย เดี๋ยวเขาก็คิดว่าเราคิดจริงจังหรอก..” แพรไหมพูดแก้ต่างเสริมไป ก่อนจะมองชลธิชาที่ไม่ได้พูดเออออไปกับเธอเลยอย่างแอบโมโหในใจ
“ค่ะพี่ไหม…งั้นธิชาขอตัวกลับก่อนนะคะ พอดีธิชามีธุระน่ะค่ะคงอยู่เฝ้าไม่ได้ สวัสดีค่ะ…” ชลธิชาพูดบอกไปแล้วก็ยกมือไหว้คีรินแล้วเธอก็เดินออกไปแบบไม่สนใจใครเลย
“อ่อ ถ้าน้องธิชากลับแล้ว งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ…หายไวๆนะครับคุณไหม..” ภัคพลเห็นชลธิชาเดินออกไปแบบนั้น เขาก็คิดว่าเขาก็ควรจะออกไปด้วย เขาจึงเอ่ยพูดกับคีรินและแพรไหมไป ก่อนจะอวยพรให้แพรไหมนั้นหายไวด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน
“ขอบคุณค่ะคุณภาม…” แพรไหมพูดตอบไปด้วยรอยยิ้มให้เขา แล้วจากนั้นภัคพลก็เดินตามชลธิชาออกไปจากห้องทันที
ซึ่งทุกอย่างก็ล้วนอยู่ในสายตาของคีรินทั้งหมด เพราะเขารู้สึกเหมือนกับว่าชลธิชานั้นไม่ได้สนใจอะไรนายภัคพลนี่เลยสักนิดเดียว
“ผมว่ามันดูแปลกๆนะคุณ” คีรินพูดออกไปเมื่อประตูห้องปิดลงแล้วเหลือแค่เขาและแพรไหมอยู่
“หึ…? ปะ…แปลกยังไงเหรอคะ ไหมว่าก็ไม่เห็นมีอะไรแปลกเลยนิคะ” แพรไหมหันไปมองทางคีรินแล้วเอ่ยถามเขาด้วยสีหน้าลุ้นๆ ว่าเขาคิดว่ามันแปลกอะไร
“ผมรู้สึกเหมือนกับว่าธิชาไม่ได้สนใจอะไรนายคนนี้เลยนะคุณ…แล้วธิชาเขาจะพาผู้ชายคนนี้มาที่นี่ทำไมกัน..แล้วไหนจะเมื่อกี้ที่ธิชาเสียงดังอีก สรุปมันเกิดอะไรขึ้นกันไหม…” คีรินพูดออกไปเพราะเขารู้สึกแบบนั้นจริงๆ
“อ่อ เมื่อกี้ที่ธิชาเสียงดังก็เพราะงอนคุณภามเขานั่นแหละค่ะ ไม่งั้นจะพูดจาประชดประชันจนคุณภามเขาต้องตามไปง้อแบบนั้นเหรอคะ…ไหมว่าคุณไม่ต้องสนใจเรื่องธิชากับคุณภามเขาหรอกค่ะ คุณกลับมาเอาโทรศัพท์กับเอกสารไม่ใช่เหรอคะ รีบเอาไปแล้วก็รีบไปเถอะค่ะ มามัวคุยกันตรงนี้เดี๋ยวคุณก็ไปไม่ทันหรอกค่ะ” แพรไหมพูดบอกไปก็รีบบอกให้เขาไปทำงานทันที เพราะไม่อย่างนั้นเธอคงต้องตอบคำถามเขาไม่หยุดแน่ๆ จะอยากรู้เรื่องของยัยธิชาอะไรนักหนา
“อืม…ผมลืมไปเลย…งั้นผมไปก่อนนะ แล้วเดี๋ยวผมจะให้พยาบาลพิเศษเขามาอยู่เป็นเพื่อนคุณจนกว่าผมจะกลับมา…จุ๊บ…รอผมนะ…” คีรินพูดบอกไปแบบเป็นห่วงเธอ ก่อนจะเข้าไปจุ๊บที่หน้าผากของเธออย่างรักใคร่
“ค่ะ แล้วเจอกันนะคะ” แพรไหมพูดตอบเขาไปก็ยิ้มให้เขาอย่างสดใส เพราะเขาจะไปแล้วมันทำให้เธอนั้นรู้สึกโล่งอกขึ้นมาทันทีเลย จากนั้นคีรินก็เอามือขยี้ผมเธอแบบเอ็นดูแล้วเขาก็เดินออกไปจากห้องพักของภรรยาของเขาทันที
ด้านชลธิชาที่เดินมาที่ลานจอดรถด้วยท่าทางหงุดหงิดใจนั้นก็บ่นมาตลอดทางกับเรื่องที่พี่สาวเอาเธอไปอ้างว่าภัคพลมาตามจีบแบบนั้นอย่างไม่ชอบใจ เพราะมันไม่ใช่เรื่องที่จะดึงเธอเข้าไปเกี่ยวแบบนั้นเลย
“น้องธิชาเดี๋ยวก่อน…อย่าพึ่งไป…” ภัคพลวิ่งตามเธอมาที่รถแล้วเขาก็ทำท่าทางหอบๆแล้วมาหยุดที่หน้าของชลธิชาไป
“มีอะไรอีกคะพี่ภาม…แค่นี้ยังไม่พอใจกันอีกเหรอคะ…” ชลธิชาหันไปหาภัคพลแล้วเธอก็มองแบบไม่ชอบเขาอย่างชัดเจน
“พี่อยากจะมาขอโทษที่เมื่อกี้พี่กับไหมใช้ธิชาเป็นข้ออ้างแบบนั้น พี่ขอโทษจริงๆนะธิชา…พี่เองก็ไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนั้น แต่เมื่อกี้สถานการณ์มันบีบบังคับจริงๆ…แต่ยังไงพี่ก็ขอบคุณที่ธิชานะที่ได้บอกความจริงกับคุณคีรินเขาไป…” ภัคพลพูดออกไปแล้วเขาก็พยักหน้าลงอย่างขอโทษเธอด้วยใจจริงๆ
“ที่ธิชาไม่พูดก็เพราะพี่ไหมคือพี่สาวคนเดียวของธิชา ธิชาไม่อยากเห็นชีวิตของพี่สาวตัวเองต้องพังเพียงเพราะคำพูดของธิชา ดังนั้นธิชาขอนะคะพี่ภาม พี่เลิกยุ่งกับพี่ไหมเขาซะ อย่าเป็นชู้กับเมียคนอื่นเขาแบบนี้เลยค่ะ…เพราะถ้าต่อไปพี่คีรินเขาสงสัยอะไร ธิชาคงจะช่วยพวกพี่ไม่ได้แล้วนะคะ” ชลธิชาพูดบอกไป เพราะเธอไม่อยากจะเจอสถานการณ์ฉุกเฉินแบบเมื่อกี้อีก
“อืม….พี่รู้ธิชา…พี่จะพยายามห่างกับไหมเขาให้ได้…” ภัคพลพูดบอกไปแล้วก็ก้มหน้าลงแบบเศร้าๆ เพราะเขารักแพรไหม และการที่จะให้เขาเลิกติดต่อกับเธอมันก็เหมือนทำร้ายหัวใจของตัวเอง
“ไม่ใช่แค่พยายามค่ะ แต่พี่ต้องทำให้ได้…อ่อ อีกเรื่องนะคะที่ธิชาอยากจะบอกพี่…ถ้าพี่รักพี่ไหมเขาจริงๆก็อย่าใช้เขาเป็นเครื่องมือในการเอาข้อมูลการประมูลของพี่คีรินเขามาให้ตัวเองเลยนะคะ แบบนี้มันไม่ใช่ลูกผู้ชายสักนิด หยุดเป็นเห็บเป็นเหาในชีวิตของพี่ไหมเขาได้แล้วค่ะ…ขอตัวนะคะ…” ชลธิชาพูดต่อว่าเขาออกไปด้วยสีหน้าจริงจัง พร้อมกับด่าเขาไปในตอนท้ายแล้วเธอก็เปิดประตูรถของเธอแล้วเข้าไปนั่งแล้วเธอก็ปิดประตูรถใส่เขาอย่างแรง ก่อนจะสตาร์ทรถแล้วขับออกไปอย่างรวดเร็ว
ภัคพลที่ถูกชลธิชาด่าแบบไม่ไว้หน้าอย่างนั้นก็ยืนกำหมัดแน่น เพราะเขาเองก็ไม่ได้อยากจะให้แพรไหมทำแบบนั้นเลย แต่บริษัทของเขากำลังแย่ เขาจำเป็นต้องได้งานหลายๆตัวเพื่อฟื้นฟูธุรกิจของเขา และถ้าเขาทำสำเร็จเขาก็จะสามารถดูแลเธอและลูกได้
ด้านคีรินที่เดินออกมาจะขึ้นรถนั้นก็ยืนมองชลธิชาพูดคุยกับภัคพลเหมือนคนที่กำลังมีปัญหากัน จนกระทั่งชลธิชาขับรถออกไปแล้วภัคพลก็มองตามเธอด้วยสีหน้าเศร้าๆแบบนั้นแล้ว เขาก็คิดว่าทั้งสองคงจะงอนกันแบบที่แพรไหมบอกก่อนหน้านี้จริงๆ แต่เขาก็ไม่อยากจะไปยุ่งวุ่นวายด้วย ก็ปล่อยให้มันเป็นเรื่องของคนสองคนไปก็แล้วกัน…