ตอนที่ 4.2
ตอนที่ 4.2
20.00 น.
รมิตาเปลี่ยนหน้าที่ไปเป็น waitress ชั้น rooftop เฉกเช่นเคย คืนนี้แขกไม่มากนัก คงเป็นเพราะไม่ใช่วันหยุดเสาร์อาทิตย์ แต่ก็ดีแล้วที่เธอจะได้ไม่ต้องเหนื่อยมาก
ในฟลอร์ส่วนใหญ่มีแต่เช้าต่างชาติ ที่ยังนั่งกันอยู่ประมาณ 4-5 โต๊ะได้ พอดีกับรมิตาและเพื่อนในตำแหน่งเดียวกัน ก็ประจวบเหมาะกับการดูแลคนละโต๊ะพอดี
ชานนท์ผู้จัดการในแผนกเข้ามากระซิบบอกรมิตาเบาๆ เรื่องที่มีเจ้าของโรงแรมเรียกเธอไปพบอีกครั้ง เขาคงกลัวว่าเธอจะเอาเรื่องคืนนั้นไปเรียกร้องสิทธิ์อะไรหรือไม่ ถึงได้เรียกให้เธอไปพบปล่อยขนาดนี้
แต่แล้วอย่างไรล่ะ ....ถ้ายิ่งเขาคิดแบบนั้น งั้นคืนนี้เธอก็จะไม่ไป
"ตอนนี้ตาติดลูกค้าอยู่นะคะคุณชานนท์ ขอโทษที่ตาต้องวานให้คุณไปบอกคุณปราณภพ ว่าตาคงไม่ว่าง หรือถ้าเค้ายังรอได้ ก็บอกไปว่าหลังเลิกงานตอนเที่ยงคืนค่ะ"
"รมิตา ผมไม่รู้หรอกนะว่าทำไมเค้าถึงเรียกคุณไปพบ หรือคุณมีปัญหาส่วนตัวอะไรกับเค้าหรือเปล่า แต่ผมอยากจะบอกให้คุณรู้เอาไว้ ว่าคุณปราณภพเขาไม่เหมือนใคร"
ชานนท์อยากเตือนลูกน้องสาวคนสวย เขาไม่อาจรับรู้เรื่องระหว่างสองคนนี้ได้ทั้งหมด ทว่าในฐานะที่เขาทำงานที่ แกรนด์ เดอ บัว มาหลายปี ปราณภพไม่ใช่คนจับต้องได้ และเขาไม่ใช่คนที่จะยอมลดตัวมาเล่นกับใคร
หน้าตาและอีโก้ รวมทั้งภาพลักษณ์ของเขาต้องมาก่อนเสมอ
ชานนท์เห็นมานักต่อนักแล้ว ที่สาวๆ พนักงานหลายคนในแกรนด์ เดอ บัว อบเอาตัวถวายใส่พาน ประเคนให้เขาเอาถึงบนเตียง พอได้เขาแล้วพวกหล่อนก็ชอบทำตัวอวดเบ่ง ทำตัวเหมือนนางพญา ทั้งๆ ที่แต่คำว่าชู้ ปราณภพยังไม่ให้เป็นเลยด้วยซ้ำ สุดท้ายพอเจอของหนักเข้าให้ ก็ต้องยอมถอย
ไม่ใช่แค่ปราณภพที่ไม่เอา แต่เจ้าที่ของเขาก็แรงพอควรเลยแหละ
....แพรพลอย ปราบผู้หญิงที่เข้าหาปราณภพได้อยู่หมัดทุกคน ส่วนปราณภพเองก็ยินดีหลีกทางให้แฟนสาวได้กำจัดพวกหล่อน
ใครๆ ก็รู้ว่าปราณภพรักแพรพลอยมาก ยิ่งเห็นว่าแฟนสาวหึงโหด เขาก็ยิ่งชอบใจไปกันใหญ่
ชานนท์อยากเตือนรมิตาด้วยความหวังดี เห็นแก่พนักงานมาใหม่อย่างเธอ หากเป็นอย่างที่เขาคิดเอาไว้จริงๆ เด็กสาวบ้านนอกที่หวังจะใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ก็คงจะลำบาก
"ขอบคุณที่เตือนนะคะ แต่ตาเอง... ก็ไม่เหมือนใครเช่นกันค่ะ"
ชานนท์มองสายตาอันแน่วแน่คู่นั้น มันทำให้เขาอึดอัดใจไม่น้อยเลยทีเดียว หากรมิตาเลือกทางเดินเช่นนี้แล้วเขาจะทำอะไรได้ นอกเสียจากรอดูวันที่เธอหอบข้าวของออกจาก แกรนด์ เดอ บัว
"ขอตัวก่อนะคะ ลูกค้าเรียกแล้ว" ว่าจบหญิงสาวก็เดินไปหาลูกค้าเลย ทิ้งให้คนหวังดีอย่างชานนท์ได้แต่ถอนหายใจตามหลัง
00.10 น.
เป็นเวลาเลิกงานของรมิตาเช่นเคย โชคดีหน่อยที่วันนี้ได้กลับเร็ว เพราะลูกค้ารีบเช็คบิลออกจากร้านเร็ว
รมิตากระชับกระเป๋าสะพายข้างให้เข้ากับไหล่เล็ก เตรียมพร้อมเดินทางกลับหอพักซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตัวโรงแรม ประมาณ 400 เมตร
ขณะที่เธอกำลังจะก้าวเท้าเดินข้ามเลนส์ไปยังฟุตบาทอีกฝั่งหนึ่ง ก็ดันมีรถซีดานสุดหรูสีดำวิ่งแล่นเข้ามาบีบแตรใส่ ก่อนที่รถคันนั้นจะค่อยๆ ชะลอความเร็วลงกระทั่งจอดสนิท
"ขึ้นมา" เป็นปราณภพ ชายหนุ่มเจ้าของแกรนด์ เดอ บัว เอง ที่ขับรถคันนี้
เขากดกระจกรถลงเห็นเพียงครึ่งหน้า พร้อมกับออกคำสั่งให้อีกคนที่ยืนอยู่ริมฟุตบาทขึ้นมาในรถ
รมิตาแสร้งทำเป็นถอนหายใจใส่พร้อมทั้งกรอกตาไปมา แต่กระนั้นก็ทำท่าทีลังเล ก่อนจะยอมขึ้นรถมา
รถซีดานสุดหรูยังไม่มีท่าทีว่าจะออกเคลื่อนตัวไปยังถนนตรงหน้า เพราะจุดประสงค์ของคนขับคือการเจรจาบางอย่างกับคนที่เพิ่งเข้ามานั่งข้างๆ ตอนนี้
"เห็นว่าคุณให้คนมาเรียกตาเหรอคะ?"
"ก็รู้นี่ ...แล้วทำไมไม่มา?" เขาไม่ชอบใจมาก และไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน มีผู้หญิงมากมายที่อยากนอนกับเขา เพียงแค่เรียกหาพวกหล่อนก็พร้อมจะมาโดยไม่อิดออดสักคำ
แต่เธอคนนี้กลับไม่ใช่แบบนั้น หนำซ้ำยังเล่นตัวจนทำให้เขาหงุดหงิดมากเลยทีเดียว
"ที่ตามา คงเพราะอยากจะให้ตาเก็บเรื่องคืนนั้นระหว่างเราใช่ไหมคะ? ...หึ ไม่ต้องห่วงเลยค่ะ ตาไม่ใช่ผู้หญิงอย่างที่ผ่านๆ มาของคุณ"
ไม่รู้ว่าเธอคนนี้ไปเอาความมั่นใจมาจากไหนถึงพูดมาออกได้ เธอทำหน้าเชิ่ดใส่เขาราวกับอ่านใจของเขาออก แต่หารู้ไม่ว่าเธอคิดผิด....
เขาไม่ได้ต้องการอย่างที่เธอว่ามาเลย แม้แต่นิด
"ดูคุณจะมั่นใจจังเลยนะ"
รมิตายกยิ้มขึ้นมุมปาก ขณะที่นั่งกอดอกฟังคนข้างๆ ชื่นชมตัวเอง ก่อนจะได้หุบยิ้มลง ในสินาทีต่อมา
"แต่ผิดแล้ว ...ผมไม่ได้ต้องการแบบนั้น"