ผู้ชายหน้าเข้ม
“ อะไรนะ ?! แล้วพวกนั้นมารู้จักไหมได้ยังไง งานอะไรที่จะให้ไหมไปทำ ไหมไม่เอาด้วยหรอก พี่เคก่อปัญหาเองก็แก้ไขเอง อย่าเอาไหมเข้าไปเกี่ยว นี่จะเอาไหมไปเป็นตัวประกันหนี้ล่ะสิ ไหมมีแม่ที่ต้องคอยดูแลนะพี่ ”
“ โธ่ไหม ไม่ใช่อย่างนั้น เสี่ยเขาเป็นนักธุรกิจ มีธุรกิจตั้งหลายอย่างเกี่ยวข้องกับต่างประเทศก็มี เขาก็แค่อยากได้เลขาส่วนตัวไปช่วยดูแลน่ะ พี่ก็เลยเล่าให้ฟังว่าไหมน่ะเก่งภาษา พึ่งเรียนจบ กำลังหางานทำอยู่ ”
“ แต่ไหมพึ่งได้งานที่เดอะปริ๊นเซสโฮเทลไงคะ เงินเดือนช่วงทดลองงานสตาร์ทสองหมื่นแล้ว หลังผ่านโปรขึ้นให้อีก โบนัสต่างหาก ”
“ แต่เสี่ยเขาให้ห้าหมื่นนะไหม ” คำบอกเล่านั้นทำให้เธอหูผึ่งทันที
“ อะไรนะ ? ”
“ เสี่ยเขาจะให้เงินเดือนไหมเดือนละห้าหมื่น ฟรีที่พักและอาหาร ”
“ บริษัทอะไรคะ ”
“ พี่ก็บอกแล้วว่าเสี่ยเขาทำหลายอย่าง บอกไม่ถูกหรอก ถึงได้บอกว่าต้องไปเจอหน้า ไปคุยกับเสี่ยเขาไง ”
“ ฟรีที่พัก หมายถึงว่าไหมจะต้องไปอยู่ที่อื่นเหรอ แล้วใครจะดูแลแม่ให้ไหมล่ะคะ แม่ยิ่งออด ๆ แอด ๆ ”
“ พี่บอกปัญหานี้ให้เสี่ยเขาฟังแล้ว เขาบอกว่าถ้าไหมตกลง เขาจะเอาแม่ไหมไปรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนที่ดีที่สุด และออกค่าใช้จ่ายให้ทุกอย่าง และออกมาพักฟื้นที่ศูนย์ดูแลผู้ป่วยที่ดีที่สุดเช่นเดียวกัน จนกว่าจะหายดี ”
มันฟังดูดีเกินกว่าที่จะเป็นไปได้ แต่ถ้าหากเป็นไปได้มันจะดีมาก เพราะลำพังตัวเธอเองก็ยังไม่มีรายได้ แม่ที่มีอาชีพขายข้าวราดแกงเลี้ยงเธอมาตลอดก็ใช่จะมีเงินเก็บมากนัก เพราะส่งเสียเธอให้เรียน กว่าเธอจะทำงานได้รับเงินเดือนพอที่จะพาแม่ไปรักษาก็คงใช้เวลาอีกนาน
เธอถึงตัดสินใจไปคุยกับ เสี่ย ที่พี่เคว่า
“ แล้วพี่เคจะได้อะไร ”
“ เสี่ยบอกว่าจะพักหนี้ให้ ในระหว่างนี้พี่ก็ว่าจะใช้เงินเดือนผ่อนจ่ายไปเรื่อย ๆ และตอนนี้กำลังบอกขายที่ที่สุพรรณอยู่น่ะไหม ถ้าขายได้ก็จะได้สองล้านเลย ”
“ แต่นั่นมันที่มรดกของทางบ้านพี่เลยไม่ใช่เหรอ ”
“ ก็ใช่ แต่จะทำไงได้ล่ะไหม ”
“ เอาจริง ๆ นะ พี่เคก็แค่ขอเจรจาผัดผ่อนหนี้แบบนี้ไปไม่ได้เหรอ ทำไมต้องให้ไหมเข้าไปทำงานเป็นตัวประกันด้วยล่ะ ดูน่ากลัวยังไงไม่รู้ ”
“ จริง ๆ แล้วเสี่ยเขาไม่ใช่คนใจไม้ไส้ระกำอะไรหรอก แต่เขาก็ประมาทไม่ได้ประสานักธุรกิจล่ะมั้ง เขารู้ว่าพี่รักไหม ถ้ามีตัวไหมไปอยู่กับเขาแล้วพี่คงไม่กล้าเบี้ยวหนี้แน่ ๆ ไหมก็รู้นี่ว่าพี่รักไหมจริง ๆ ตลอดเวลาที่รู้จักกันมายังพิสูจน์ไม่ได้อีกหรือไง ไหมไม่เชื่อใจพี่เหรอ ”
นั่นคือเหตุผลที่เธอได้รับฟังจากชายคนรัก และทำให้วันนี้ต้องยอมมาเจอกันเพื่อคุยรายละเอียดที่ห้องวีไอพีในร้านอาหารแห่งนี้
“ เชิญครับ เสี่ยรออยู่ด้านในแล้ว ” ชายร่างสูงใหญ่ในชุดดำหนึ่งในสองเปิดประตูให้ทันทีที่ทั้งคู่เดินมาถึง ม่านไหมสูดลมหายใจเข้าปอดข่มความตื่นเต้นที่จะได้พบ เสี่ย ที่ว่า
ปกติแล้วเธอเป็นคนมั่นใจตนเองพอควร แต่ครั้งนี้มันตะครั่นตะครอบอกไม่ถูก คงเพราะเธอไม่รู้จักอีกฝ่ายว่าเป็นใคร ข้อมูลเบื้องต้นที่รู้มาคือเขาเป็นเจ้าพ่อเงินกู้นอกระบบรายใหญ่ที่พี่เคไปกู้ยืมมา
ประตูเปิดออก ลมเย็นฉ่ำของแอร์คอนดิชันเนอร์ลอยมาปะทะ ที่โต๊ะอาหารตัวใหญ่มีใครคนหนึ่งนั่งอยู่ตรงนั้นแล้วขนาบข้างด้วยบอดี้การ์ดสองคนด้านหลัง
สายตาของม่านไหมตวัดไปมองที่ใบหน้าของเขาทันที ก่อนหัวใจจะเต้นถี่ขึ้นมาทันควัน
ผู้ชายหน้าเข้มที่เดินชนเธอวันนั้นที่ร้านอาหาร !
“ สวัสดีครับ ” เขาลุกขึ้นยืนอวดความสูงใหญ่เหนือชายทั่วไป ยิ่งทำให้แน่ใจว่าใช่เขาแน่ ๆ
“ สวัสดีครับเสี่ย ไหม นี่เสี่ยปรเมธนะ เสี่ยครับ นี่ม่านไหม นะครับ ที่เล่าให้ฟัง ” พี่เคแนะนำทั้งคู่ให้รู้จักกันพลางสะกิดที่แผ่นหลังเมื่อหญิงคนรักเอาแต่ยืนเงอะๆ งะๆ เธอจึงได้สติแล้วยกมือขึ้นไหว้อีกฝ่ายแล้วทักทายทันที
“ สะ... สวัสดีค่ะเสี่ย ”
“ ครับ ยินดีที่ได้รู้จัก คุณม่านไหม เชิญนั่งครับ ” เขายิ้มแล้วผายมืออย่างสุภาพให้เธอนั่งฝั่งตรงข้าม ก่อนตัวเองจะนั่งลงแล้วจ้องมองข้ามโต๊ะมาที่เธอ