2 หางาน
“ลูกจะไปสมัครงานที่ไหนล่ะ”
“ไปเรื่อยๆ อาจเป็นร้านอาหารจานด่วนก็ได้ สตาร์เห็นหลายร้านเปิดรับสมัครเด็กไปทำงาน คงมีสักร้านที่รับ แม่ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ”
“แม่ดีใจที่สตาร์ทำงาน เมื่อวานน้าแพรวบอกกับแม่ว่า หน้าตาอย่างลูกน่าจะเป็นดารา น้าแพรวยังชมต่ออีกว่าสตาร์สวยมาก”
สีดาเอ่ยด้วยเสียงเบา ๆ ไม่กล้าพูดเต็มคำ กลัวลูกไม่พอใจเพราะรู้ว่าไม่ชอบที่จะโชว์ความสวยงามของตัวเอง ทั้งที่เป็นคนหน้าตาดี อีกทั้งยังเคยมีคนบอกให้ไปสมัครเป็นนางแบบตามโมเดลลิ่งต่างๆ แต่เธอไม่ไป กลัวโดนหลอก
“อย่าเลยค่ะแม่ สตาร์ไม่เก่งถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ”
“แม่เชื่อว่าถ้ามีโอกาส เราจะต้องทำได้ เชื่อสิ”
มารดาพูดออกไปแล้วมองด้วยสายตาละห้อย จริง ๆ แล้วต้องการให้ลูกทำงานในวงการบันเทิงเพราะรู้ว่าสามารถสร้างเงินได้เป็นจำนวนมาก ทว่าสาวน้อยแสนสวยคนนี้ไม่ต้องการเสียนี่ ชอบที่จะทำงานด้วยตัวเอง โดยไม่ใช้รูปร่างของตัวเองแปรเป็นเงิน
“อย่าเลยแม่ ยังไม่ถึงเวลา”
“เอาเถอะ แม่ขอให้สตาร์ได้งานตามที่หวังก็แล้วกันนะ”
“ขอบคุณค่ะแม่ สตาร์ไปล่ะ”
สตาร์ยกมือไหว้มารดาแล้วเดินออกไปจากปากซอย สวนกับคนรู้จัก ทักทายกันแค่เพียงโบกมือให้เท่านั้น รถมอเตอร์ไซค์รับจ้างหลายคันอาสาไปส่ง แต่เธอปฏิเสธ บอกว่าต้องการเดินมากกว่า
ทั้งที่ความจริงกลัวเป็นบุญคุณมากกว่า
และวันนี้เช่นกัน เกศราเด็กสาวใบหน้าสวย หุ่นค่อนข้างอวบแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าราคาแพง คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันเมื่อมารดาบอกว่าไม่ให้ไปเดินที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดัง
“ทำไมคะแม่ เกศถึงไปที่นั่นไม่ได้”
“เกศไปบ่อยเกินไปแล้ว อยู่ติดบ้านบ้างสิ เราน่ะโตแล้วนะ ไม่กลัวหรือไง เดี๋ยวคนเขาจะหาว่าเป็นพวกชอบเที่ยว เสียถึงแม่นะจ๊ะ”
“แคร์ที่ไหน ถ้าบังเอิญเจอพวกแมวมอง พาเกศเป็นดาราล่ะคะ ทำไง”
“แม่ไม่อยากให้เป็นหรอก เราไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน”
ซ้อแก้วไม่ปรารถนาที่จะให้ลูกสาวเป็นดารา มีความรู้สึกว่าถ้าลูกเป็นดาราจริง ๆ อาจจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง เพราะรู้นิสัยเกศราดีว่าถ้าดื่มเหล้าเข้าไปแล้วไม่มีความรับผิดชอบ ไม่ยอมกลับบ้าน เจอหนุ่มหล่อก็จะเกาะทันที
ถ้าเป็นดารา หากว่ายังคงประพฤติตัวอย่างนี้ คงมีเรื่องเสื่อมเสีย แต่เกศรากลับไม่เชื่อดึงดังที่จะเป็นดาราให้ได้
“แม่ คนเรามีเงิน แต่ต้องการชื่อเสียง แม่ไม่อยากให้ใคร ๆ รู้จักลูกของแม่หรือยังไง”
“แค่นี้ก็ดังพอแล้ว อย่าให้แม่ต้องอับอายไปมากกว่านี้เลยน่า”
“อับอายอะไรคะ แม่พูดให้เคลียร์นะ”
“เอาเถอะ ทำอะไรก็รู้อยู่กับตัวเอง แม่เหนื่อยที่จะตามเช็ดตามล้างแล้วล่ะ เรื่องเที่ยว ดื่มแล้วก็ผู้ชายเพลา ๆ บ้าง เราเป็นเด็กจะต้องอ่านหนังสือ มีหน้าที่เรียนเท่านั้น”
แม่เริ่มมีอารมณ์ พูดดังมากขึ้นทุกที ลูกสาวแบะปาก เดินดุ่ม ๆ ไปทันที เมื่อเห็นรถแท็กซี่ ก็โบกมือแล้วขึ้นโดยเร็ว จุดหมายปลายทางก็คือสยาม แหล่งแฟชั่นของวัยรุ่น เป้าหมายของเกศราก็คือได้โชว์ความงามให้ผู้คนได้เห็น
“คนที่นี่เยอะจัง เราต้องไปอยู่ตรงแถวบันได ยืนให้เด่น ๆ เลย”
เกสราคิดว่าการทำตัวเด่นจะเป็นจุดสนใจของบรรดาแมวมอง พยายามโพสท่าให้สวยกว่าใคร หวังว่าจะได้เป็นดาราให้เร็วที่สุด จนแล้วจนรอดไม่มีใครเข้ามาทักหรือให้นามบัตร เธอจำต้องเข้าไปนั่งในร้านอาหารจานด่วน
เห็นว่าที่หน้าร้านเขียนว่ารับสมัครพนักงาน เกศราได้แต่มองด้วยสายตาเชิด ๆ รู้ว่าตำแหน่งนี้ไม่ทำแน่นอน
โต๊ะด้านในสุดบุรินทร์หนุ่มใหญ่วัยสามสิบกำลังนั่งรับประทานอาหารด้วยความหิว สายตาก็ยังคงมองไปรอบ ๆ ร้าน เห็นหนุ่มสาวเดินขวักไขว่ บางคนหน้าตาดี แต่รูปร่างไม่ได้หรือไม่ผิวก็ดูไม่ดี แต่คิดว่าคงมีสักคนที่เข้าตา
ชายหนุ่มสายตาสะดุดเอยู่ที่เด็กสาวหน้าสวย รูปร่างอวบ รู้ว่าใช้ได้หากว่าจะให้เป็นดาราในละครเรื่องใหม่ แต่ก็ต้องเอาไปขัดอีกสักนิด
“อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจอะไรทั้งนั้น รอสักครู่ เผื่อว่าจะมีคนที่ดูดีกว่านี้ กินก่อนดีกว่า หิวจนไส้จะขาดอยู่แล้ว”
ชายหนุ่มจับน่องไก่ทอดรับประทานกับข้าวสวยด้วยความหิวโหย ขณะเดียวกันสตาร์เดินเข้ามา สายตาทุกคู่ต่างมองเป็นตาเดียวกัน รวมทั้งเกศราที่มองอย่างไม่ชอบใจนักเห็นคนที่สวยกว่าตัวเอง
“หน้าตาเห่ยมาก แต่งตัวปอน ๆ ไม่รู้ว่าจะมาทำไมในร้านนี้ อ๋อ คงมาสมัครงาน”
จริงอย่างที่เกศราคิด สตาร์เข้ามาในร้านนี้เพื่อสมัครงาน ยังไม่ทันที่จะเข้าไปสอบถาม บุรินทร์เงยหน้าขึ้นมา เขาสะดุดกับความสวยใส จนตะลึงราวกับต้องมนต์