บทที่ 1 ทันกัน
“นี่คุณรุ่งไพลิน ผมสั่งให้คุณร่างจดหมายให้ผมหนึ่งฉบับตั้งแต่เมื่อวานแล้ว นี่บ่ายอีกวันแล้วนะ ไหนจดหมายผม อยู่ไหน”
ภูรีส่งเสียงดังจนคนฟังต้องรีบยกมือขึ้นปิดหูแล้วส่งเสียงร้องกรี๊ด ๆ เพื่อต้านเสียงของเขา
“อ๊าย …อ๊าย…”
“นี่คุณจะบ้ารึไง แหกปากออกมาได้ ผมหนวกหูได้ยินมั้ย”
“คุณก็จะบ้ารึไงแหกปากตะโกนออกมาได้ หูฉันไม่ใช่หูช้างนะโว้ยถึงจะรับเสียงอย่างกับลำโพงแปดหลอดของคุณได้น่ะ”
รุ่งไพลินหรือรุ่งโต้ตอบเจ้านายอย่างไม่กลัวว่าจะถูกหักเงินเดือน เจ้านายอย่างภูรีก็ไม่ยอมเช่นกัน
“แล้วคุณทำไมไม่ทำตามคำสั่งผม คุณขัดคำสั่งผม หมายความว่ายังไงไม่ทราบ”
“ไม่ทราบ”
หล่อนตอบกลับด้วยใบหน้าบึ้งตึง เขาลุกขึ้นยืนแล้วเดินอ้อมโต๊ะมายืนข้างหล่อน
“คุณเป็นเลขาฯประสาอะไรถึงขัดใจเจ้านายเสียทุกเรื่องอย่างนี้ ถ้าคุณไม่ทำตามคำสั่งผมอีกครั้งเดียวผมจะปลดคุณออกจากตำแหน่งเลขาฯ”
“คุณปลดดิฉันไม่ได้หรอกค่ะคุณภูรี เพราะฉันจะไม่ยอมออกคนเดียว ถ้าฉันออกคุณก็ต้องออกด้วย”
“นี่คุณจะบ้ารึไง คุณกำลังท้าทายผมนะคุณรุ่งไพลิน คนบ้าอะไรชื่อเช้ยเชยแถมปากจัด ทำงานก็ชุ่ย”
“จะว่าอะไรก็ว่าออกมาดัง ๆ ไม่ต้องบ่นเหมือนหมีกินผึ้งแบบนั้นหรอกคุณภูเขา ชื่อบ้าอะไรแปลว่าภูเขา”
“นี่หยุดนะ จะมากไปแล้วนะ ผมเป็นเจ้านายคุณนะแล้วชื่อผมก็ไม่ได้แปลว่าภูเขาเหมือนที่คุณว่าผม”
“อ้อ.เหรอคะงั้นแปลว่าอะไรล่ะคะเจ้านายขา”
หล่อนยื่นหน้าเข้ามาถามใกล้ ๆ แล้วแลบลิ้นใส่ก่อนจะผงะออกอย่างรวดเร็วแล้วหมุนร่างสูงหุ่นนางแบบของหล่อนก้าวฉับ ๆ ไปที่ประตูห้อง
“คุณจะไปไหน ผมยังพูดไม่จบนะคุณรุ่ง”
“ฉันปวดท้องค่ะ ขอเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ เดี๋ยวจะกลับมาโต้คารมกับคุณเจ้านายใหม่”
หล่อนเปิดประตูออกไปทันทีโดยไม่ยอมฟังคำพูดใด ๆ ของเจ้านายหนุ่มรูปหล่อพ่อรวยแม้แต่คำเดียว
“ยายบ้าเอ๊ย กวนประสาท”
เขาพูดตามหลังหล่อนด้วยความโกรธและไม่มีสมาธิทำงานเอาดื้อ ๆ ตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการในบริษัทแห่งนี้สามเดือนแรกเขาทำงานด้วยความสุขเพราะมีเลขาฯสาวสวยเอาใจเก่งแต่เพียงเพราะหล่อนเอาใจเก่งทำให้เขาหลงถูกเนื้อต้องตัวหล่อนเกือบจะเกินเลยไปไกลโดยหล่อนเองก็เต็มใจแต่เพราะแม่เลขาฯสาวสวยปากจัดชื่อรุ่งไพลินเข้ามาเห็นเขากำลังกอดจูบเลขาฯคนเก่าหล่อนฟ้องผู้อำนวยการทันทีและเลขาฯคนสวยถูกใจเขาก็ถูกย้ายไปทำงานแผนกอื่นและรุ่งไพลินเข้ามาทำหน้าที่เลขาฯแทนและตั้งแต่มีหล่อนเป็นเลขาฯเขาก็ต้องปวดหัวเกือบทุกวันตลอดสามเดือน เขาต้องทนกับวิธีการกวนประสาทของหล่อน ไม่ยอมทำตามคำสั่งเขาของหล่อนและสุดท้ายเขาก็ทะเลาะกับหล่อนเกือบทุกวัน
ครึ่งชั่วโมงต่อมารุ่งไพลินก็เปิดประตูห้องผู้จัดการเข้ามาพร้อมถ้วยกาแฟและขนมปังในจาน หล่อนเดินมาหยุดยืนหน้าโต๊ะทำงานของเขา วางถ้วยกาแฟกับจานขนมลงแล้วหันหลังกลับเดินตรงไปที่ประตูก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดประตู เสียงของเจ้านายหนุ่มก็ดังขึ้น
“คุณรุ่ง ผมขอน้ำเปล่าเย็น ๆ แก้วนึงด้วย”
“ค่ะ”
หล่อนรับคำแล้วเดินหายออกไป ครู่เดียวก็ถือแฟ้มกับแก้วน้ำเข้ามาในห้อง หล่อนวางแก้วน้ำและแฟ้ม
“จดหมายที่คุณต้องการอยู่ในแฟ้มค่ะกรุณารีบตรวจด้วยค่ะถ้าผิดจะพิมพ์ให้ใหม่ เร็ว ๆ ด้วยนะคะ”
หล่อนพูดเร็วและยืนจ้องหน้าเขานิ่ง เขาเงยหน้าจ้องตอบแล้วทำเป็นไม่ได้ยิน เอื้อมมือไปยกถ้วยกาแฟขึ้นมาจิบแล้วก็ต้องรีบวางพร้อมร้องเสียงดัง
“โห ชงกาแฟยังไงเนี่ย หวานออกจ๋อยขนาดนี้ กำลังอินเลฟรึไงคุณ ผมขอขมกว่านี้นิดหนึ่ง”
เขาเลื่อนถ้วยกาแฟออกห่างทันทีพร้อมคำสั่งเข้มที่ทำให้หล่อนหน้าบึ้ง
“รสชาตินี้คุณกินมาสี่เดือนนี่แล้วนะ ขมนิด ๆ ไม่มีหวานสักหน่อย”
“ผมบอกให้เปลี่ยนก็เปลี่ยนสิ”
“ก็ได้”
หล่อนทำตามคำสั่งด้วยท่าทีไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่ เขาแอบยิ้มที่แกล้งหล่อนได้และนาทีต่อมากาแฟรสชาติขมกว่าเดิมก็ถูกเลื่อนมาตรงหน้าเขา