มันแตะตรงไหนของเธอบ้าง
เที่ยงคืนครึ่ง
ครืด...
ประตูห้องหนังสือในเรือนใหญ่ถูกเลื่อนเปิดเบา ๆ ร่างบอบบางที่สั่นเทาจากการสะอื้นไห้สะดุ้งนิด ๆ พลางเงยหน้าขึ้นมองผู้มาเยือน
คิ้วเข้มบนใบหน้าขาวมุ่นนิด ๆ ผมบนศีรษะยุ่งเหยิงแต่มันกลับไม่ได้ลดทอนความหล่อเหลาของเขาลงเลย
“ คุณเอก ” เสียงหวานเรียกชื่อเขาออกมาเบา ๆ
“ ฉันจัดการมันจนสลบคาตีน ให้คนลากแม่งออกไปแล้ว ถ้ามันยังกล้ามาแตะต้องเธออีกแม้แต่ปลายนิ้ว ฉันจะเป็นคนเชือดคอมันเอง ” เขาพูดเสียงเรียบ แต่ดวงตาคมกริบมีประกายวาวโรจน์อย่างเอาจริง
มัสยาค่อนข้างตกใจเพราะไม่เคยเห็นมุมนี้ของเขามาก่อน ปกติ เอกอนันต์ หรือคุณเอก ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนคนเดียวของบ้านผู้มีศักดิ์เป็นเจ้านายของเธออีกคนหนึ่ง จะเป็นคนเงียบขรึมจนบางครั้งคล้ายว่าเย่อหยิ่ง พูดจากันนับครั้งได้
“ คุณเท็ดดี้คงเมามากค่ะ ” เธอพูดถึงคนที่เขาพึ่งจัดการให้สลบคาตีนไป ซึ่งนั่นก็คือหนึ่งในกลุ่มเพื่อนสนิทของเขาที่เคยเห็นมาที่บ้านสามสี่ครั้ง และเคยทักทายเธอด้วยความสุภาพ ไม่ได้ถือตัวแต่อย่างใด แม้ว่าเธอจะมีฐานะเป็นเพียง เด็กในบ้าน หรือ ลูกคนรับใช้ ก็ตามที
“ คำว่าเมาไม่ได้ใช้เป็นเหตุผลหมา ๆ ที่จะเอามารองรับการรังแกคนอื่นได้นะมัสยา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นเธอด้วย ฉันไม่ยอมหรอก ” เขาว่าพลางเดินเข้ามายืนตรงหน้าโซฟาที่เธอนั่งอยู่ ก่อนที่จะทรุดตัวลงคุกเข่ากับพื้นตรงหน้าของเธอ หญิงสาวรีบขยับจะลงจากโซฟาแต่เขากดไหล่เธอเอาไว้
“ จะไปไหน ”
“ มัสนั่งตรงนี้ไม่เหมาะค่ะ ”
“ ทำไม ”
“ คุณเอกเป็นเจ้านายนี่คะ มัสเป็นแค่... ”
“ เธอก็คนเหมือนกับฉัน แม่ของเธอทำงานแลกกับเงินของแม่ฉัน เราควรเท่าเทียมกัน ”
“ ก็ได้ค่ะ ” เธอยอมจำนน แต่เมื่อเงยหน้าไปเจอสายตาคม ๆ ที่มีประกายฉ่ำพราวบางอย่างมองมาก็ต้องรีบหลบทันที
“ คุณเอกไม่ออกไปที่ปาร์ตี้แล้วเหรอคะ ”
เพราะคืนนี้เป็นปาร์ตี้เลี้ยงส่งสำหรับเขาที่จบปริญญาตรีและจะไปต่อปริญญาโทที่เมืองนอก จึงมีเพื่อนฝูงมาเมากันเต็มที่ และการเมาจนขาดสติจึงทำให้เท็ดดี้ หนึ่งในเพื่อนสนิทของเขาลวนลามมัสยาที่ช่วยเอาเครื่องดื่มออกไปเดิมด้วยการดึงไปกอด
ทันทีที่เอกอนันต์เห็นเหตุการณ์ เขาก็ซัดเท็ดดี้จนหน้าหงายตกลงไปในสระน้ำ จากนั้นเขาก็รีบพามัสยาเข้ามาอยู่ในห้องหนังสือและบอกให้เธออยู่ที่นี่ก่อนจะรีบออกไปจัดการกับเพื่อนชั่วอีกจนสาแก่ใจ
แน่นอนว่าปาร์ตี้คงดำเนินต่อไปไม่ได้แน่ ในเมื่อเจ้าภาพกระทืบแขกเสียสลบ เพื่อน ๆ ส่วนหนึ่งรีบหิ้วปีกเท็ดดี้หนีออกไปทันที เพราะไม่อย่างนั้นอาจจะต้องตายคาตีนของเอกอนันต์ก็เป็นได้ ที่เหลือก็รีบสลายตัวอย่างรวดเร็ว
“ ฉันไม่ต้องการปาร์ตี้แล้ว อยากอยู่ตรงนี้มากกว่า ”
เขาพูดพลางโน้มตัวเข้ามาใกล้จนใบหน้าห่างกันเพียงคืบ ลมหายใจอุ่นร้อนเจือกลิ่นแอลกอฮอล์จาง ๆ ลอยมาปะทะ คละเคล้าไปด้วยกลิ่นโคโลญจน์หอม ๆ ของผู้ชายจากกายเขา มันมัวเมาให้เธอหูตาพร่าแปลก ๆ
“ มันแตะตรงไหนของเธอบ้าง ” เขาถามเสียงพร่าแล้ววางสองมือเท้าบนพนักพิงของโซฟาคร่อมกายเธอเอาไว้ คล้ายว่าเธอถูกพันธนาการไม่ให้ไปไหนได้
แล้วไหนจะสายตาคมคู่นั้นอีก ที่วันนี้มันมีประกายไฟบางอย่างเต้นเร่าอยู่ในนั้น
ตลอดชีวิตที่เติบโตในบ้านนี้ตั้งแต่มัสยาจำความได้ สายตาคู่นั้นที่ไม่เคยชายมามองเธอด้วยความพิศวาสแม้แต่นิด มีเพียงเธอที่ลอบมองอยู่ห่าง ๆ ข้างเดียว หากวันนี้ดวงตานั้นกลับจับจ้องแปลก ๆ
“ คะ... คือ... ” เธออึกอัก ไม่รู้ว่าจะต้องทำเช่นไรกับสถานการณ์ตรงหน้าดี
“ มันแตะตรงนี้ของเธอหรือเปล่า ” เขาฉกริมฝีปากวูบลงบนซอกคอนวลเนียนแล้วลากลงไปที่แอ่งชีพจรก่อนดูดเบา ๆ เธอสะท้านกายเยือก ในช่องท้องเต้นตุบไปหมด
“ คุณเอก... ”
“ หรือว่าตรงนี้ ” มืออุ่นข้างหนึ่งเลื่อนมากอดที่เอวคอดเอาไว้แล้วรั้งเข้าหาแผงอกกว้าง อีกทั้งเขายังแทรกกายเข้าไปตรงกลางระหว่างขาของเธอ ทำให้ตอนนี้เดรสยาวแค่เข่าของเธอมันร่นขึ้นมาจนถึงต้นขาอวบและกำลังเลื่อนสูงขึ้นเรื่อยเมื่อเขารั้งเธอเข้าไปใกล้ จนกระทั่งสองขาอ้าออกกว้างคร่อมเอวสอบ เนินเนื้อสาวเบื้องหน้าเบียดชิดกับหน้าท้องของเขา