ตอนที่ 8. ปราบพยศ (จบ)
ธนากรเดินกลับเข้ามาในห้องพร้อมกระป๋องแป้งในมือ ตาคมเข้มมองไปที่เส้นผมที่เกาะกันเป็นเกลียว ก่อนจะเทแป้งลงไปบนนั้น แล้วขยี้เบา ๆ ให้แป้งคลุกกับเส้นผมจนขาวโผลนไปทั้งหัว ใบหน้าหล่อเหลายิ้มน้อย ๆ ก่อนจะหลุดขำ เมื่อเทแป้งใส่ฝ่ามือแล้วทาลงไปบนหน้าของหญิงสาว แล้วลูบไล้ลงไปตามผิวเนื้อ ก่อนจะชักสีหน้า เมื่อคนหลับปัดมือเขาออกพร้อมกับหันหลังหนี
“ปูอัดอย่ากวนได้ไหม อ้อมปวดหัว”
หญิงสาวพึมพำออกมาเบา ๆ เมื่อรู้สึกว่ามีอะไรมาวุ่นวายกับ เนื้อตัวของเธอ น่าจะเป็นเจ้าปูอัดแมวเปอร์เซียขนยาวที่ชอบเข้ามา นอนกับเธอ
“ก็ไม่อยากยุ่งหรอกโว้ย! เน่ามาทั้งวัน เดี๋ยวสังคังก็แดกเอาหรอก นอนเฉย ๆ คิดว่าอยากยุ่งนักเหรอ มันทุเรศนัยน์ตา”
ถึงปากจะบ่นแต่มือก็ยังไล้แป้งไปทั่ว มีหลายครั้งที่ต้องกลืนน้ำลายลงคอ เมื่อมือสากระคายสัมผัสโดนอะไรที่มันนุ่มนิ่ม ถึงแม้จะเคยเห็นเธอมาทั้งตัว และเคยทำมากกว่าลูบคลำมาแล้ว แต่ก็ยังอดตื่นเต้นไม่ได้ เพราะเขารู้ว่านอกจากผิวที่นุ่มนิ่มชวนสัมผัสแล้ว รสชาติของมันยังหวานหอมมากอีกด้วย
ธนากรแปลกใจกับการกระทำของตัวเอง ที่ดูแลและใส่ใจเธอขนาดนี้ เขาควรปล่อยให้เธอหิว ปล่อยให้นอนคัน ปล่อยให้จับไข้ จะได้ตายไปให้พ้น ๆ
ร่างสูงเดินออกมาจากห้อง เมื่อจัดการกับคนป่วยเรียบร้อย ใช้ผ้าขาวม้าพันเอว เปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนจะถือขันและอุปกรณ์อาบน้ำ เดินไปลำธารที่อยู่ด้านหลัง หมดเวลาแล้วเขาเองก็อยากอาบน้ำและพักผ่อนเช่นกัน
ตาคมเข้มมองคนที่นอนหันหลังให้อีกครั้ง ก่อนจะส่ายหัวไปมา เมื่อขยับเข้ามานอนซ้อนหลัง เป็นเพราะมีที่นอนอันเดียวหรอกนะ เขาถึงได้ลดตัวลงมานอนกับเธอ
“ใครเขาอยากนอนกับเธอ ผู้หญิงสกปรก”
พูดกับคนหลับก่อนจะหันหลังให้ เขาก็แค่ไม่มีที่นอน ถึงได้มานอนตรงนี้ ชายหนุ่มคิดในใจเมื่อกลิ่นหอม ๆ ของแป้งเด็กเริ่มก่อกวน จนเจ้าอวัยวะไร้กระดูก เริ่มตอบสนองกับกลิ่นนี้ ไม่น่ามานอนตรงนี้เลย คิดพร้อมกับหันกลับมามองแผ่นหลังบาง กลอกตาไปมาเมื่อแขนไม่รักดีสอดเข้าหาเอวบาง แล้วลากคนป่วยจนมาชิดอกกว้าง
“ดึก ๆ มันหนาว จะเสียสละกอดให้ก็แล้วกัน” พูดจบก็ฝังจมูกลงบนเส้นผมที่ขาวโผลน
“ชื่นใจ” ธนากรบอกตัวเอง เมื่อสูดกลิ่นแป้งเด็กเข้าไปจนเต็มปอด แล้วกอดคนร่างบางไว้แนบออกอยู่อย่างนั้น
ถึงแม้จะปวดหัว แต่อารดาก็ยังมีสติ รับรู้กับการกระทำของชายหนุ่มทุกอย่าง แต่ที่ไม่ขัดขืนเพราะเหนื่อยและหมดแรง แต่ที่ทำให้อารดาแกล้งนอนนิ่งแบบคนไร้สติ ก็เพราะเธออาย คงไม่ดีแน่ถ้าจะให้เขารู้ว่าเธอรู้ทุกอย่างว่าเขาทำอะไรกับร่างกายเธอบ้าง
ตากลมโตลืมขึ้นในความมืด เมื่อคนที่นอนซ้อนหลังหลับไปแล้ว หัวใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นจังหวะ สมองสับสนมึนงง มันเกิดอะไรขึ้น... เขาทำแบบนี้กับเธอทำไม มือบางแกะแขนที่พาดออกจากเอว ก่อนจะต้องตกใจเมื่อชายหนุ่มกลับกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้นกว่าเดิม
“อยู่นิ่ง ๆ ถ้าไม่อยากโดนมากกว่ากอด” เสียงแหบพร่ากระซิบ รดต้นคอขาวเนียน
“ฉันอึดอัด...”
“ก็นอนนิ่ง ๆ สิ อย่าดิ้น”
หญิงสาวตาโตเมื่อฟังเขาพูดจบ มันคนละเรื่องกันไหม เธออึดอัดที่ถูกเขากอดรัด แต่เขากลับบอกให้เธออยู่นิ่ง ๆ เนี่ยนะ
“คือ... ฉัน” อารดายังพยายามเถียง
“ถ้าพูดได้ขนาดนี้ แสดงว่าหายแล้ว” ธนากรถาม แค่กอดเขาก็แทบแน่ ยายตัวเล็กนี่ยังมาดิ้นอีก เธอจะรู้ไหมว่าไอ้สิ่งที่เขาบังคับให้มันหลับ มันตื่นขึ้นมาอีกแล้ว
“ฉันแค่... อยากให้คุณคลายแขนออกนิดหนึ่งได้ไหมคะ คุณรัดแน่น... ฉันหายใจไม่ออก”
“เรื่องมาก!”
ชายหนุ่มตะคอกกลับ ยอมคลายแขนที่รัดเอวบางออก แต่ยังไม่ขยับไปไหน เธอเหม็น เธอเน่า แล้วมากอดไว้แบบนี้ มันหมายความว่ายังไง อารดาลอบถอนหายใจก่อนจะข่มตาให้หลับ ก็ยังดีที่เขายอมคลายแขนออกให้ อาการปวดหัวบวกกับฤทธิ์ของยาที่กินเข้าไป ไม่นานคนที่ขยับตัวขยุกขยิกก็หลับสนิท ธนากรอมยิ้มแล้วหลับตามคนในอ้อมแขนไปอีกคน
เสียงที่ดังมาจากด้านนอก ปลุกคนที่นอนหลับสนิทให้ตื่นขึ้นร่างบางขยับตัวก่อนจะยกมือกุมศีรษะ เมื่ออาการปวดหัวยังหลงเหลืออยู่ ดวงตากลมโตกวาดมองไปทั่วก่อนจะถอนหายใจ ขยับตัวลุกขึ้นนั่ง แล้วก้มมองตัวเอง เธออยู่ในสภาพที่ใส่เพียงเสื้อเชิ้ตลายสก็อตตัวยาว ที่กระดุมสองเม็ดบนไม่ได้ติด เผยให้เห็นหน้าอกอวบอิ่มที่สีไปมากับ ผ้าเนื้อ หญิงสาวตกใจในตอนแรกที่รู้ว่านอกจากเสื้อเชิ้ตตัวบางแล้ว เธอก็ไม่มีผ้าชิ้นอื่นปกปิดเรือนกาย ก่อนจะถอนหายใจอีกครั้งเมื่อตระหนักได้ว่าเป็นฝีมือของใคร ภาพเหตุการณ์เลือนรางลอยกลับเข้ามาในหัว อย่างน้อย ๆ เขาก็ยังหวงเธอ
ร่างบางเดินออกมานอกห้อง เป็นจังหวะเดียวกับที่คนตัวโต ที่กำลังง่วนอยู่หน้าเตาหันกลับมาพอดี ดวงตาสองคู่สบกัน ก่อนที่ หญิงสาวจะเลื่อนสายตาลงไปอยู่ที่ระดับอกของเขา ใบหน้าสวยเห่อร้อน เมื่อมองเห็นแผงอกเปล่าเปลือยที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม ก่อนจะกลืนน้ำลายลงคอ เมื่อเห็นเหงื่อเม็ดใหญ่ไหลลงไปที่หน้าท้องแกร่ง แล้วมุดหายเข้าไปในขอบกางเกงเลที่ชายหนุ่มสวมใส่
“น้ำลายสอเลยเหรอ!”
ธนากรเอ่ยล้อเลียนเมื่อเห็นสายตาที่เธอมองเขา ชายหนุ่มรู้ตัวดี ว่าตัวเองเป็นคนหุ่นดี แต่พอมาถูกยายบ้านี่จ้องมองแบบนี้ อยู่ ๆ ก็เขินเสียอย่างนั้น ดีที่เขาเป็นคนผิวเข้ม เธอจึงมองไม่เห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของเขา ร่างสูงหันหลังกลับเมื่อใจเริ่มไม่อยู่กับตัว เพราะสายตาเขาดันไปเห็นก้อนเนื้อกลมกลึงขนาดใหญ่ที่พากันดันเสื้อเชิ้ตตัวบางออกมา
ยุบหนอ...พองหนอ... ธนากรปรามตัวเอง ก่อนจะหันไปสนใจกับปลาเค็มที่ย่างไว้บนเตา เช้านี้เขาต้มข้าวต้ม มีปลาเค็มย่างไฟหอม ๆ เป็นกับข้าวอีกอย่าง น่าจะเจริญอาหารดี
“คุณ... มีแปรงสีฟันไหมคะ”
ใบหน้าสวยสะบัดไปมาเมื่อดึงสติกลับมาอยู่กับตัว ก็แค่ผู้ชาย ผิวสีแทน มายืนโชว์กล้ามให้ดู ธรรมดาจะตาย... หล่อล่ำกว่านี้ เธอก็เคยเจอมาแล้ว อารดากลั้นใจ แล้วร้องถามหาแปรงสีฟัน เธออยาก ล้างหน้าล้างตาและอาบน้ำ เพราะเมื่อคืนก็นอนเน่ามาทั้งคืน
“มี! แต่ใช้แล้ว เอามะ”
หญิงสาวกัดปาก ก่อนจะเดินย่ำเท้าออกมาด้านนอก ไม่กวนสักวันจะได้ไหม อารดาคิดในใจ
“มีอยู่ในถุงที่กองไว้ หาเอา” ชายหนุ่มตะโกนตอบ แต่ไม่หันกลับมามอง
กลิ่นหอม ๆ ที่ลอยมาเตะจมูก ทำให้ท้องของหญิงสาวประท้วง เพราะเมื่อวานเธอได้กินข้าวต้มเพียงไม่กี่ช้อน
“อาบน้ำตรงไหนคะ มีเสื้อผ้าให้เปลี่ยนไหม แล้วสบู่กับยาสระผม อยู่ตรงไหนคะ”อารดาถามมาเป็นชุด เมื่อถือแปรงสีฟันไว้ในมือ
ธนากรกลอกตา พอหายป่วยก็เริ่มวุ่นวายเลยนะแม่คุณ ร่างสูงหันกลับมา ก่อนจะตอบคำถามหญิงสาวทีละคำถาม
“อาบน้ำที่ลำธารโน้น! ไม่มีเสื้อผ้าให้เปลี่ยน สบู่กับยาสระผมอยู่ในตะกร้านั่น”พูดจบก็ชี้มือไปทางด้านหลังกระท่อม อารดามองมือเขา แล้วกลืนน้ำลายลงคอ
“ไม่มีเสื้อผ้า แล้วฉันจะใส่อะไร!”
“ก็แก้ผ้าสิวะ แก้ผ้าอาบแล้วก็ใส่เสื้อตัวเดิม”
“จะบ้าเหรอ จะให้ฉันแก้ผ้าอาบน้ำเนี่ยนะ”
“งั้นก็อาบทั้งชุด”
“แล้วฉันจะเอาอะไรใส่”
“ก็แก้ผ้าไง มีให้เลือกสองทางนะคุณหนู แก้ผ้าอาบแล้วใส่ชุดเดิม กับลงอาบทั้งชุด แล้วก็แก้ผ้ารอเสื้อแห้ง!” ชายหนุ่มตอบแบบไม่ใส่ใจ ก่อนจะหันกลับไปทำงานในมือต่อ
อารดาตาโต จะบ้าหรือไง! จะเลือกทางไหน เธอก็ต้องแก้ผ้าอยู่ดี
“ไอ้บ้า!” พูดจบก็หอบขันน้ำกับสบู่ไปตามทางที่เขาชี้บอก
“ผู้ชายบ้า ผู้ชายเฮงซวย จะเอาฉันมาทรมานเหรอ รู้จักอารดาน้อยไป แล้วเราจะได้เห็นดีกัน” อารดาเดินไปบ่นไป เพราะผู้ชายบ้านั่น กำลังจะทำให้เธอเป็นบ้า
