ใจเต้นแรง
แม่สาวคนนี้ก็เช่นกัน เธอและกลุ่มเพื่อนไปนั่งเฝ้าเขาซ้อมบาสเก็ตบอลข้างสนาม เดินเข้ามาบอกตรง ๆ ว่าชอบ แม้เขาจะปฏิเสธไปแล้วแต่เธอก็ไม่ย่อท้อ ตามไปที่ผับที่เขาทำงานพิเศษตอนกลางคืนและบอกกับเขาตรง ๆ ว่าหากไม่ได้ใจก็ขอสนุกชั่วครั้งชั่วคราวก็ได้ น้ำแตกก็แยกย้าย ดังนั้นคืนนี้เธอจึงได้มาอยู่ในห้องนอนของเขาอย่างสมใจ
“ แหม หนูก็พูดไปอย่างนั้นแหละ ก็ตอนนั้นมันทั้งเงี่ยนทั้งเมาอยากเอาพี่อะ ก็พูดทุกอย่างเพื่อให้พี่ยอมไง แต่พี่จะไปส่งหนูหน่อยไม่ได้เหรอ ตอนที่มาก็ยังให้หนูซ้อนบิ๊กไบค์มาเลย ”
“ ฟานล้ม พี่อาจจะต้องพาไปหาหมอ พี่บอกน้องไปครั้งหนึ่งแล้ว คงไม่ต้องให้พี่พูดซ้ำนะ ใส่เสื้อผ้าซะ ” เขาบอกเสียงเครียด เธอจำต้องกระแทกส้นเท้าตึง ๆ ไปหยิบเสื้อผ้ามาสวมอย่างหงุดหงิด ปากก็บ่นพึมพำ ๆ
“ เพื่อนกันจริงหรือเปล่าไม่รู้ เพื่อนกันมันดีหรือเปล่าถึงได้ห่วงได้หวงกันออกนอกหน้า นั่นก็สงสัยจะเรียกร้องความสนใจล่ะมั้ง ได้ยินเสียงเอากันก็นึกจะทำโครมครามขึ้นมา ”
“ ฟานไม่ใช่คนแบบนั้น ออกไป ! ” ชายหนุ่มตวาด เธอสะดุ้งสุดตัวก่อนจะรีบสวมเสื้อผ้าแล้วออกจากห้องไป
แทนเดินไปที่ห้องติดกันอีกครั้งก่อนเคาะประตูแล้วร้องเรียก
“ ฟาน เปิดประตูให้เราหน่อยนะ ”
เงียบ ไม่มีเสียงตอบมาจากห้องนั้น
มันทำให้เขาร้อนใจ ก่อนจะตัดสินใจเดินไปหยิบกุญแจสำรองที่ลิ้นชักในห้องพระก่อนจะเดินกลับมาถือวิสาสะไขประตูเข้าไป
สายตากวาดมองไปทั่ว หญิงสาวไม่ได้อยู่ที่พื้น มีเพียงเก้าอี้ไม้สีขาวที่หงายหลังเท้งเต้ง กับได้ยินเสียงสายน้ำไหลซูซ่าดังออกมาจากห้องน้ำก่อนมันจะเงียบลง ประตูเปิดพร้อมร่างอวบอัดที่มีเพียงผ้าเช็ดตัวสีชมพูพันกายเดินออกมา
“ แทน เข้ามาทำไม !? ” เธอถามอยากตกใจทันทีที่เห็นแขกไม่ได้รับเชิญ มือที่ถืออะไรบางอย่างอยู่รีบขยับไปซ่อนไว้ที่ด้านหลัง
“ ก็ไม่มาเปิดนี่นา เราเลยห่วง แล้วนี่อะไร เก้าอี้ล้มขนาดนี้จะบอกไม่เจ็บได้ยังไง หัวเหอกระแทกพื้นหรือเปล่า ”
เขาพูดพลางสาวเท้าเข้ามาหา เธอส่ายศีรษะดิก
“ ก็บอกว่าไม่ได้เป็นอะไรไงแทน กลับไปหาน้องเถอะ แหม มีสาวสวยมาค้างด้วยทั้งทีก็อย่าทิ้งเธอให้เหงาอยู่คนเดียวสิ ” ฟานเย้าเพื่อน
“ เราให้กลับไปแล้ว ”
“ อ้าว ทำไมล่ะ ”
“ ก็เราได้ยินเสียงฟานล้มน่ะสิ กลัวจะเป็นอะไรไป ”
“ เปล่า ฟานไม่ได้เป็น ”
“ มานี่ ให้เราตรวจดูก่อน ” คนตัวใหญ่สาวเท้าเข้ามาหาอย่างดื้อแพ่ง หญิงสาวรีบถอยกลับเข้าไปในห้องน้ำแล้วโยนเจ้าสิ่งที่อยู่ในมือลงไปส่ง ๆ ก่อนเพราะกลัวว่าเพื่อนจะเห็น
“ ก็บอกว่าไม่ได้เป็นไร ฟานไม่ใช่เด็กอนุบาลนะแทน เจ็บไม่เจ็บทำไมจะไม่รู้ตัวเอง นี่ก็แต่งตัวไม่เรียบร้อย ” เธอบ่นอุบอิบแล้วเบี่ยงตัวหลบ เขาเลยก้มลงช้อนอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนแล้วเดินกลับมาที่เตียงซะเลย
“ เฮ้ย ทำอะไร ”
“ ก็อยากดื้อเองนี่ ไหนดูซิ ” เขาวางเธอลงบนเตียงแล้วพิจารณาไปทั่วตัวก่อนจะพบว่าเป็นความคิดที่ผิดมหันต์
ฟานผิวสีน้ำผึ้งเนียนสวย สูงเมตรเจ็ดสิบ เป็นประเภทเนื้อนมไข่ไม่ใช่ผอมบางอย่าง ผ้าเช็ดตัวนั่นมันก็สั้นและดูจะเล็กไปถนัดตาเมื่ออยู่บนร่างเธอ นมสองเต้ามันดันกันทะลักล้นขึ้นมาเหนือผ้ามันทำให้เขาใจเต้นแรงและมีปฏิกิริยาตอบรับขึ้นมาทันที
เธอที่นอนอยู่บนเตียงก็อดที่จะมองเขาไม่ได้ เพื่อนรักมีเพียงผ้าเช็ดตัวพันเอวสอบ เขาสูงเมตรแปดสิบแปด ผิวสีทองแดงเนียน กล้ามเนื้ออัดแน่นทั่วกายเป็นมัด ๆ เพราะเป็นนักกีฬาทีมบาสเก็ตบอลของมหาวิทยาลัยที่ออกกำลังและเล่นกีฬาอยู่เสมอ ใบหน้าหล่อเข้มมีไรเคราล้อมกรอบ หัวไหล่และต้นแขนมีรอยสักที่ยิ่งทำให้เจ้าตัวดูดุดันสมชายมากขึ้น และอะไรบางอย่างที่อยู่ใต้ผ้าเช็ดตัวที่มันกำลังนูนตุงขึ้นมาเป็นลิ่มลำให้เห็นชัดคล้ายจะยืนยันว่าเขาสมชายแค่ไหน
เขาทรุดนั่งลงบนเตียงแล้วยื่นมาเข้ามาช้า ๆ เธอได้สติรีบกระถดตัวหนี
“ แทน จะทำอะไรน่ะ ”
“ ที่หัวไหล่ถลอกนี่นา กระแทกกับพื้นหรือเก้าอี้หรือเปล่า เลือดซิบเลย ไม่รู้ตัวหรือไง ” เขาแตะมือลงเบา ๆ ที่ต้นแขนใกล้หัวไหล่ เธอมองตามและตอบกลับ
“ ไกลหัวใจน่า ก็แค่รอยถลอก ”
“ เดี๋ยวเราไปหยิบชุดปฐมพยาบาลมาทำแผลให้ ”
“ แต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนมาด้วยล่ะ ” เธอตะโกนไล่หลัง และเมื่อเขาเดินออกไปนอกประตูเธอก็รีบรุดไปหาเสื้อผ้ามาสวมอย่างรวดเร็ว เมื่อเขากลับมาเธอก็อยู่ในชุดเสื้อยืดตัวโคร่งกับกางเกงขาสั้นเรียบร้อย ส่วนเขาก็อยู่ในชุดกางเกงบอลตัวเดียว เสื้อไม่ยอมสวมเช่นเคย