บท
ตั้งค่า

บทที่ 3 บททดสอบ

"เจ้าจะรู้ผลก็ต่อเมื่อผ่านการทดสอบทั้งสามแล้วเท่านั้น"

คำตอบของผู้คุมฝึก ทำให้ดาวเหนืออยากย้อนเวลากลับไป ในตอนที่เขาตอบรับการทดสอบเข้าเป็นยมทูตฝึกหัดเสียเหลือเกิน และเขาจะไม่เลือกคำตอบที่ทำให้ตัวเองต้องมาตกอยู่ในสภาพนี้เด็ดขาด

"อีกแล้วเหรอเนี่ย..." ดาวเหนือพึมพำ เมื่อผู้คุมฝึกพาเขาออกจากห้องมืดๆ แคบๆ อับๆ ที่มีเพียงแค่โซฟาหนังเล็กๆ สำหรับคนคนเดียว เข้ามาภายห้องมืดๆ แคบๆ อับๆ ที่มีเพียงแค่โซฟาหนังเล็กๆ สำหรับคนคนเดียวอีกห้อง

"ผมต้องดูเคสฆาตกรรมแบบไหนอีกครับเนี่ย?"

มีเพียงความเงียบที่ดังตอบคำถามจากความสงสัยของดาวเหนือ ก่อนที่ประตูห้องจะปิดสนิทลงพร้อมการจากไปของผู้คุมฝึก ทิ้งไว้เพียงความมืดที่รายล้อม ทว่าไม่นาน... เสียงแปลกปลอมก็ดังขึ้น

"ผมยังไม่อยากตาย ผมยังมีครอบครัวที่ต้องดูแล แม่ของผมป่วยหนัก พ่อก็แก่มากแล้ว เมื่อเดือนก่อนน้องชายของผมก็มาพิการไปอีกคน ได้โปรดเถอะครับ ให้ผมได้อยู่จัดการเรื่องทุกอย่างอีกหน่อยเถอะนะครับ"

น้ำเสียงชวนสงสารดังขึ้น เป็นเวลาเดียวกับที่มือสั่นๆ ของใครบางคนเอื้อมมาจับข้อเท้าของดาวเหนือ ทำเอาเขาสะดุ้งเฮือก

"ผม... ขะ... ขอร้องเถอะครับ"

ใบหน้าขะมุกขะมอมของชายคนนั้นเต็มไปด้วยน้ำมูกและน้ำตาแห้งกรัง เสื้อผ้าของเขาขาดวิ่น เนื้อตัวเปรอะเปื้อนคราบเลือด ศีรษะแตกเป็นแผลเปิดจากการประสบอุบัติเหตุ ดูเหมือนคนคนนี้จะถึงฆาตแล้ว เพียงแต่เขายังพยายามร้องขอต่อรองเวลาของการมีชีวิตให้ยืดออกไปอีก

"คือว่า..." ดาวเหนือขมวดคิ้วคิดหาคำตอบ ทว่าไม่ทันจะได้พูดอะไรต่อ

"ชะ... ชะ... ช่วยด้วย... ช่วย... ด้วยค่ะ"

เสียงร้องขอความช่วยเหลือของใครอีกคนดังขึ้น เรียกให้ดาวเหนือหันขวับไปมองเจ้าของมือเล็กๆ ซึ่งเล็บทั้งสิบเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเขียว ที่กำลังเอื้อมมาจับชายกางเกงขายาวของเขา

"หนู... อยากเจอ... แม่..." เด็กหญิงร่างผอมซูบ ผิวขาวซีดไร้เลือดฝาด พูดกับดาวเหนือ "ขอหนูเจอแม่... ก่อน... ดะ... ได้ไหมคะ" เธอส่งสายตาวิงวอน

"ขะ... ขะ... คือ..." ดาวเหนือตะกุกตะกักหนักขึ้น เพราะไม่รู้จะตอบคนทั้งคู่ว่ายังไงดี ไม่ทันไรมือปริศนามากมายก็เอื้อมมาฉุดดึงแขนขาของเขา พร้อมๆ กับเสียงตัดพ้อและอ้อนวอนที่ดังประสาน

"ขออยู่อีกวันนึง แค่วันเดียว"

"ฉันยังตายไม่ได้ ตายไม่ได้เด็ดขาด ถ้าฉันตายแล้วลูกจะอยู่กับใคร"

"ท่านยมทูต... มีแค่ท่านที่จะช่วยพวกเราได้"

มือขาวซีดเปรอะเปื้อนคราบเลือดแห้งกรังที่เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ จากหลักหน่วยเป็นหลักสิบ และหลักสิบเป็นหลักร้อย เอื้อมคว้าแขนขา ไล่ขึ้นมาฉุดรั้งตามตัว และลามขึ้นมาถึงใบหน้าของดาวเหนือ ทำเอาเขาแทบหยุดหายใจ

"มะ... มะ... ไม่ได้... พวกคุณตายไปแล้ว ยังไงก็ต้องลงไปให้ท่านยมตัดสินโทษ ไปขอร้องกับท่านยมเถอะ ผมไม่เกี่ยว!!" ดาวเหนือหลับตาละล่ำละลักคำตอบที่ทบทวนอยู่หลายตลบ และไม่อาจทนทบทวนได้อีกต่อไป หลังจากนั้น...

"หึ... ว่าแล้ว"

เสียงหัวเราะในลำคอของนับเงิน ปลุกดาวเหนือให้ตื่นจากภวังค์ความคิด เพื่อที่จะพบกับคนคุ้นตาคนหนึ่ง

"ขอทานคนนั้น..." เขาพึมพำระหว่างที่จ้องมองชายขาดีวัย 40 ปี หรือก็คืออดีตชายไร้ขาที่เคยพบเจอก่อนหน้านี้ ช่วงที่นับเงินมีคิวรับดวงวิญญาณนายเชี่ยวชาญกัญชงอะไรนั่น

"หรือว่าจะเป็นแฝดครับ ขอทานคนนั้นไม่มีขานี่" ดาวเหนือพยายามมองโลกในแง่ดี ตายังคงจับจ้องอยู่ที่ชายขอทานขาดี ระหว่างที่นึกย้อนพิจารณาถึงเสื้อผ้าขาดวิ่นรุ่งริ่งว่าใช่ตัวเดียวกันหรือไม่ เป็นเวลาเดียวกับที่...

โครมมม... ม!!

เสียงกึกก้องสั่นสะเทือนรูหู ดังมาจากฝาท่อปูนผุๆ พังๆ บริเวณเท้าของชายขอทาน ตามติดด้วยภาพร่างเคราะห์ร้ายที่หล่นลงไปในท่อระบายน้ำ ทั้งแขน ขา และใบหน้าล้วนกระแทกกับขอบปูนหักพังไม่ได้รูป จนผิวดำขะมุกขะมอมบังเกิดบาดแผลไปทั่ว รวมไปถึงแผลใหญ่ที่ทำให้เขาสูญเสียลมหายใจ ซึ่งมาจากเหล็กเส้นหนึ่งที่เสียบทะลุจุดสำคัญ ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วจนดาวเหนือซึ่งไม่ทันตั้งตัว ได้แต่ยืนอ้าปากค้างด้วยอาการช็อก

"นายบันลือ บรรพต ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ...คอนเฟิร์มเคส" นับเงินวาร์ปเข้าไปรอรับดวงวิญญาณตรงปากท่อ และแม้ว่าตัวเธอจะไม่มีทางตกท่อระบายน้ำตามเหยื่อเคราะห์ร้ายลงไปด้วยอีกคน แต่หญิงสาวก็เลือกที่จะลอยตัวอยู่เหนือพื้นฟุตบาทตรงนั้น เพื่อความสบายใจ

...เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ใน... ไทยแลนด์ แดนสนธยา

"เงินกู!! ตกท่อหมดเลย!! ...โธ่เว้ยยยยย!!" ชายขอทานคนนั้นยังคร่ำครวญไม่หยุด แม้จะถูกเจ้านิลพันธนาการข้อมือไว้อย่างแน่นหนา มิหนำซ้ำ...

"สึดดดด! อุตส่าห์นั่งทำเป็นคนขาพิการทั้งวัน"

คำสบถล่าสุดที่หลุดออกมาจากปากชายขอทานขาดี ไขข้อข้องใจให้กับดาวเหนือจนหมดสิ้น

"ที่แท้ก็แกล้งพิการเหรอเนี่ย... เฮ้อออออ!" ดาวเหนือส่ายหน้าเอือมระอาพลางถอนหายใจยาวๆ

"สาเหตุที่เราต้องทดสอบเธอในด่านที่ 2 นั่นไง เพราะต่อให้เขาจะอยู่ในสภาพน่าสงสารขนาดไหน พวกนี้ก็คือคนที่ต้องลงมารับโทษ" นับเงินบอกรุ่นน้องระหว่างที่พาเขาวาร์ปกลับมาส่งดวงวิญญาณชายบ้าเงินในนรก

"ผมพึ่งเข้าใจวันนี้เอง" ดาวเหนือนึกย้อนกลับไปถึงการทดสอบการเป็นยมทูตด่านที่ 2 อีกครั้ง

"เตรียมตัวเข้าทดสอบด่านที่ 3 ได้"

เสียงของผู้คุมฝึกดังขึ้น ขณะที่เจ้าของมือขาวซีดเปื้อนเลือดทั้งหมดอันตรธานหายไป ราวกับไม่เคยมีพวกเขาอยู่ตรงนั้น เอ่อ... คงเป็นเพราะคำตอบที่เขาตะโกนออกไปนั่นสินะ นี่ถ้าเขาเลือกตอบในทำนองที่ให้วิญญาณเหล่านั้นอยู่บนโลกต่อ ก็คงไม่ได้มาเป็นยมทูตแบบนี้

"แต่น่าตกใจมากๆ เลยนะครับ ปรากฏการณ์ตกท่อตายเนี่ย" ดาวเหนือพูดขึ้นระหว่างที่เขาและนับเงินกลับขึ้นมาบนโลกมนุษย์อีกครั้ง

"อ้าวๆ พูดแบบนี้แสดงว่าลืมการตายของตัวเอง"

คำพูดของนับเงินทำเอาดาวเหนือหันขวับไปจ้องหน้าเธอเขม็ง

"รุ่นพี่รู้ด้วยหรือครับว่าผมตายยังไง!?" เขาละล่ำละลักถาม เพราะเข้าใจว่ามีเพียงยมทูตผู้ไปรับดวงวิญญาณของเขาเท่านั้นที่รู้ว่าเขาตายอนาถขนาดไหน

"ก็ต้องรู้สิ พี่เป็นหัวหน้ายมทูตเชียวนะ... ไม่ต้องอายหรอกน่า ประเทศนี้น่ะ ใครก็ตายพิสดารได้ทั้งนั้น เรื่องธรรมดา" นับเงินตบบ่าให้กำลังใจรุ่นน้อง

"ถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะครับ อย่าไปเล่าให้ใครฟังล่ะ ผมขอ จะให้ผมทำอะไรก็ได้ แค่รุ่นพี่เก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับก็พอ"

ข้อเสนอของดาวเหนือทำเอานับเงินยิ้มกริ่ม นัยน์ตาเป็นประกาย

"จริงเหรอ?" เธอถามย้ำ

"ยกเว้นเรื่องที่มันขัดกับความเป็นผมละกันครับ อย่างให้ไปเป็นแฟนกับรุ่นพี่ไรงี้" ดาวเหนือปั้นหน้าระอาใจให้กับท่าทางของนับเงิน

"รู้แล้วล่ะน่า... งั้นวันนี้เราไปพักได้แล้วล่ะ เตรียมฟิตร่างกายให้พร้อม พรุ่งนี้มีเหยื่อชิ้นใหญ่ อาจจะเจอพวกมารมาแย่งกลางทาง"

คำตอบของนับเงิน ทำเอาดาวเหนือเลิกคิ้วจ้องหน้าเธอด้วยความประหลาดใจ

"ในไทย มีคนที่พวกมารต้องการตัวด้วยเหรอครับ ผมนึกว่าต้องระดับฮิตเลอร์ แจ็ค เดอะ ริปเปอร์ ไม่ก็สตาลินซะอีก" ดาวเหนือหัวเราะพลางไล่นึกรายชื่อบรรดาคนชั่วในไทยที่นรกต้องการตัว และเหล่ามารเองก็น่าจะต้องการแย่งชิงไปเป็นสมัครพรรคพวก ว่าควรจะเป็นใครบ้าง

"เราคิดว่าเป็นใครล่ะ?" นับเงินย้อนถามยิ้มๆ แน่นอน... นั่นก็เพราะเธอรู้คำตอบอยู่แล้วน่ะสิ

"ผมรอลุ้นดีกว่าครับ ไม่อยากให้ค่า"

คำตอบของดาวเหนือทำให้นับเงินถึงกับหลุดหัวเราะออกมา

"ความน่าจะเป็นมันมีเสมอนั่นแหละ ถึงจะแค่ศูนย์จุดศูนย์ศูนย์หนึ่งเปอร์เซ็นต์ อย่ามองข้าม จะได้ไม่พลาด... พี่ไปล่ะ พรุ่งนี้เจอกันที่เดิม" เธอพูดจบก็วาร์ปหายไป ทิ้งยมทูตฝึกหัดดาวเหนือให้ยืนร่างโปร่งแสงอยู่ท่ามกลางแสงแดดยามเที่ยง กับผู้คนที่เดินผ่านไปมาขวักไขว่บนฟุตบาทสภาพไม่สมประกอบใจกลางกรุงเทพมหานคร

"พึ่งเที่ยงเอง ถ้าเป็นมนุษย์ก็คงต้องไปหาอะไรกิน แต่ยมทูตไม่ต้องกินอะไร งั้นก็..." ดาวเหนือหยุดคิดนึงนึงก่อนจะเผลอยิ้มสนุกออกมา

"ไปดูหน้าคนที่เราต้องพาไปยมโลกหน่อยดีกว่า" เขาพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะวาร์ปหายไปจากฟุตบาทตรงนั้นอีกคน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel