ตอนที่ 5 เลขาคู่ใจ
“ทำไมครับคุณแม่ แต่เอ๊ะ! คงไม่ต้องกินปลาก็ฉลาดแล้วล่ะ แต่งงานแลกหนี้ แถมยังได้ค่าสินสอดให้พ่อแม่ไปตั้งตัว คุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม”
ได้ยินอย่างนั้นเขียนฟ้าจึงหันขวับมามองหน้าเขาด้วยแววตาที่ไม่พอใจ แต่คนพูดกลับทำหน้านิ่ง ทำเป็นทองไม่รู้ร้อน
“กล้าพูดอย่างนี้ได้ยังไงกัน ขอโทษน้องเดี๋ยวนี้เลย” กิ่งดาวลุกขึ้นจากเก้าอี้ ชี้หน้าลูกชายด้วยความโมโห หล่อนไม่เคยสอนให้ลูกชายพูดจาดูถูกคนอื่นอย่างนี้มาก่อน
“มะ...ไม่เป็นไรครับคุณแม่ สิ่งที่คุณรบพูดมามันคือเรื่องจริงทั้งนั้น ผมไม่ได้รู้สึกอะไรเลยครับ” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเคลือ ทว่าใบหน้าหวานยังคงฝืนยิ้มให้ทุกคนเห็น
“เห็นไหมล่ะเจ้าตัวยังไม่เดือดร้อนอะไรเลย ที่ผมไม่พูดเรื่องนี้ในงานแต่งก็บุญเท่าไหร่แล้ว คุณแม่ก็รู้ว่าผมยังไม่อยากแต่งงาน ผมยังสนุกกับชีวิตโสด แต่คุณแม่ก็บังคับ เอาผู้ชายหิวเงินมาประเคนให้ผม คิดเหรอว่าผมจะยอมแตะเนื้อต้องตัว ไม่มีวันซะหรอก” ธงรบพูดความในใจออกมาจนหมดเปลือก ลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินออกไปจากตรงนั้น
ตอนนี้บนโต๊ะอาหารมีแต่ความเงียบงัน เขียนฟ้านั่งก้มหน้าด้วยความรู้สึกผิดที่เป็นต้นเหตุให้คนในบ้านทะเลาะกัน หยาดน้ำตาแห่งความเสียใจไหลหลั่งลงมา ทำให้รู้สึกคิดถึงบิดามารดาที่เชียงใหม่จับใจ
กิ่งดาวเดินอ้อมไปนั่งลงข้างลูกสะใภ้ กุมมือเพื่อปลอบใจ “แม่ขอโทษแทนตารบด้วยนะลูก อย่าไปถือสาคนที่โตแต่ตัวอย่างนั้นเลยนะจ๊ะ”
“ไม่เป็นไรครับ ฮึก...ผมเข้าใจ”
“ไม่ร้องนะลูก แม่สัญญาว่าจะไม่ให้เรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นอีกแน่นอน” กิ่งดาวสวมกอดลูกสะใภ้เพื่อปลอบใจ หล่อนรู้สึกผิดที่บังคับลูกชายตัวเองไม่ได้ และรู้สึกผิดที่เป็นต้นเหตุให้เด็กที่แสนดีอย่างเขียนฟ้าต้องมาเจอเรื่องแบบนี้
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
บริษัทโชติไพศาล เป็นบริษัทผู้ผลิตและส่งออกจิวเวอรี่ชั้นนำของเมืองไทย ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าจากทั่วทุกมุมโลก นอกจากนั้นยังสร้างแบรนด์เพชรเป็นของตัวเองอีกด้วย ทำให้ตระกูลนี้ร่ำรวยเป็นอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย
ธงรบเดินเข้ามาในออฟฟิศด้วยอารมณ์ที่คุกรุ่น สีหน้าของท่านรองประธานในวันนี้ทำให้พนักงานต่างก็รู้สึกกลัว ไม่กล้าเข้ามาใกล้ เมื่อเขาเดินผ่านไปแล้ว ทุกคนต่างก็ส่งเสียงซุบซิบนินทา เพราะเมื่อวานเพิ่งจะแต่งงานมาหยก ๆ แต่ทำไมถึงดูเหมือนไม่มีความสุขเลย
มีเพียงคนเดียวที่เห็นอย่างนั้นแล้วยิ้มอย่างมีความสุข ‘ดาววดี’ เลขาหน้าห้องคู่ใจ เดินถือถ้วยกาแฟเข้าไปในห้องหลังจากนั้นไม่นาน
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
“ขออนุญาตค่ะบอส”
“เข้ามาได้”
ดาววดีเข้ามาแล้วก็ทำการล็อกประตูห้องทันที เดินถือถ้วยกาแฟตรงไปที่โต๊ะ วางลงตรงหน้าเขาก่อนจะเดินอ้อมไปด้านหลังเก้าอี้ ทำการนวดที่ไหล่ให้อย่างเบามือ
“ไปโมโหอะไรมาคะ”
“ก็เมียที่บ้านน่ะสิ”
“เพิ่งจะแต่งงานแท้ ๆ แต่ทำไมถึงได้เบื่อเร็วอย่างนี้ละคะ เดี๋ยวดาวนวดให้นะบอสจะได้รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น”
“เธอก็รู้ว่าฉันโดนบังคับให้แต่ง ฉันไม่ได้ชอบผู้ชาย โดยเฉพาะผู้ชายหิวเงินอย่างนายนั่น ที่น่าโมโหคือแม่ฉันเห็นดีเห็นงามไปด้วย ระวังเถอะจะโดนหลอกจนหมดตัวในสักวัน”
“ไม่เอานะคะ ไม่พูดถึงเรื่องนี้แล้วนะ เดี๋ยวก็สุขภาพจิตแย่หรอก”
“ก็มีแค่เธอนี่ล่ะที่เข้าใจฉัน”
“แน่นอนค่ะ ดาวรู้ใจบอสที่สุดในโลกแล้ว”
เจ้าหล่อนเดินอ้อมมาตรงหน้าอีกครั้ง ก่อนจะขึ้นไปนั่งบนตักท่านรองประธาน เลื้อยมือขึ้นไปกอดรัดต้นคอหนา ส่งสายตายั่วยวนจนธงรบเกิดความต้องการ เลื้อยมือไปวางหมับที่สะโพกงอนงาม บีบเคล้นแรง ๆ อย่างสะใจ
“ฉันอดใจไม่ไหวแล้วนะ” เขาดึงตัวหล่อนเข้ามาแนบชิด เอ่ยเสียงกระเส่าข้างใบหู
“ดาวจะทำให้บอสมีความสุขที่สุดเลยค่ะ” สายตาทั้งสองคู่สอดประสานกันอย่างหวานซึ้ง ดึงดูดให้ใบหน้าเคลื่อนเข้าใกล้กันเรื่อย ๆ
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
“ใครวะ!” กำลังจะจูบกันอยู่แท้ ๆ แต่มีใครมาเคาะประตูห้องเสียก่อน ดาววดีรีบลงมายืนจัดชุดให้เป็นปกติ
“ล็อกห้องทำไมวะไอ้รบ” เมื่อรู้ว่าเป็นใครดาววดีก็รีบเดินไปเปิดประตูให้ทันที
“อ้าว! นึกว่าอยู่คนเดียวซะอีก” ศิวะชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็นเลขาหน้าห้องของลูกพี่ลูกน้องยืนอยู่ข้างประตู