5
5
เสียงหวานครางสะท้าน สะอื้นไห้ทุกครั้งที่เรือนกายแห่งบุรุษกระทั้นแนบชิด
รติภัทรถอนกายจนเกือบสุดแล้วกลับเข้ามาซ้ำแล้วซ้ำเล่าเหมือนเครื่องจักรประสิทธิภาพสูงควบคุมกลไกการทำงานดีเยี่ยม เธอต้อนรับโอบอุ้มและตอดรัดทุกครั้งที่เขาฝากฝัง ก่อนที่เยื่อดอกไม้จะสะบั้นลงด้วยแรงกายหนักแน่นที่โหมลงมาอย่างไม่ออมแรง
พิรวดีกรีดร้องสะท้านไหวแทบขาดใจ เรียวขาและแขนโอบรัดเขาเอาไว้แนบแน่น ฟันขาวซี่สวยกัดที่บ่าแกร่งเพื่อระบายอารมณ์เจ็บเสียวและกระสันซ่านที่ได้รับจากเรือนกายหนุ่ม
รติภัทรพ่นลมหายใจออกจากปากพร้อมคำรามแต่ไร้ซึ่งเสียงพูดใดๆ ให้อีกฝ่ายได้ยิน เสียงเนื้อกายกระทบกันประสานกับเสียงครวญครางของหญิงสาวท่ามกลางความมืดของราตรีกาล พิรวดีหัวหมุนติ้วเมื่อความเสียวสยิวกระตุกอยู่กลางกายสาวและเล่นงานเธออย่างหนัก
เธอได้ยินเสียงหญิงสาวคนหนึ่งหวีดร้องรุนแรง ก่อนจะตกใจว่าเสียงครางและเสียงทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเสียงของเธอเองที่ร่ำร้องอย่างบ้าคลั่ง เมื่อหลอมรวมเชื่อมประสานเรือนกายกับชายหนุ่มนิรนามที่พรากพรหมจรรย์ที่เก็บรักษามายี่สิบห้าปีเต็ม
รติภัทรขยับสะโพกตามติดร่างที่กระถดถอยหนีบีบรัดเขารุนแรงด้วยความสุขซ่าน เกร็งร่างสาวหวีดร้องเมื่อถูกส่งไปเยือนดินแดนวิมานฉิมพลี แก่นกายชายที่ยังแข็งขันกระชั้นถี่เข้าหาเรือนกายที่ถอยหนีไปติดพนักหัวเตียง เขากระแทกเข้าออกนับครั้งไม่ถ้วนเพื่อจะตามติดเธอไปด้วย
ลาวาร้อนระอุที่เก็บสั่งสมเอาไว้ถูกปลดปล่อยออกมาสู่กายสาวจนหมดสิ้น เขากระชากสะโพกผายขึ้นสุดแรงให้รับทุกสิ่งที่เขายัดเยียดให้เธอจนหยดสุดท้าย ก่อนจะทิ้งสะโพกเธอลงบนหมอนรอง ยกขาเพรียวให้รับธารร้อนของเขาอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น รติภัทรกดกายแช่นิ่งจนพอใจและแน่ใจว่าทุกอย่างที่เขาตั้งใจอยู่ในกายเธอหมดสิ้น จึงถอดถอนเรือนกายออกห่างเนิบนาบ แรงเสียดสีทำให้ทั้งคู่ร้องครางสะท้านในอก ผนังอ่อนละมุนตอดรัดเขาเป็นจังหวะขณะที่กายหนาเคลื่อนห่างจนเธอรู้สึกว่างเปล่าจากความอุ่นร้อนที่แข็งกร้าว
พิรวดีหลับลงทันที่เกมรักจบลง ทั้งข้าวที่ยังไม่ได้ตกถึงท้อง ทั้งความเหนื่อยจากกิจกรรมที่ชายหนุ่มยัดเยียดให้ ทำให้เธอไม่มีแรงแม้แต่จะขยับหนี
พิรวดีครวญครางอยู่ภายใต้ร่างหนาของรติภัทร ขณะที่อีกฝ่ายยังไม่ยอมผละห่างร่างหอมหวานนี้ไปไหน เขายังตักตวงความสุขอย่างไม่ยอมอิ่มเอมง่ายๆ
“อื้อ...”
หญิงสาวปรือตามองร่างสูงที่ขยับขึ้นลงบนเรือนร่างของเธอ หญิงสาวไม่รู้ว่าตนเผลอหลับไปตอนไหนแต่ที่รู้ก็คือ เธอเหนื่อยมาก เสียวซ่านแทบขาดใจเมื่อเขาฉุดรั้งกระชากเธอขึ้นไปบนสวรรค์ครั้งแล้วครั้งเล่า
รติภัทรกดกายเข้าหาร่างที่เพิ่งตื่นจากนิทรารมย์เพราะอดใจไม่ไหวเมื่อผละห่างเพียงไม่นาน และคงทนกอดรัดเรือนร่างหอมกรุ่นนี้โดยไม่สัมผัสและแนบชิดฝังกายในความอุ่นร้อนของกายสาวไม่ได้
เสียงหวานที่ครวญครางกระตุ้นให้เขาแนบกายเข้าหาครั้งแล้วครั้งเล่า จังหวะรักที่รุนแรงจากการสับสะโพกสอบขึ้นลงตามอารมณ์ที่งวดขึ้นทำให้ร่างน้อยเกร็งกระตุกหวีดร้องครวญคร่ำหอบกระเส่า
พิรวดีไม่มีเวลาทบทวนเรื่องราวอะไรทั้งสิ้นเมื่อรติภัทรจับร่างเธอให้คลานเข่าแล้วตามมาฝังแก่นกายชายเข้าในกายเธออย่างเร่าร้อน หน้าขาแกร่งกระทบกับสะโพกผายจนเกิดเสียงเป็นจังหวะรักร้อนระอุต่อเนื่อง
หญิงสาวซุกใบหน้ากับที่นอนอย่างอ่อนแรง มีเพียงสะโพกเท่านั้นที่ถูกช้อนขึ้นให้สูงเพื่อให้เขาฝากรักอย่างดุดันหนักหน่วงแต่เต็มไปด้วยความเสียวซ่านหฤหรรษ์จับจิตจับใจ
รติภัทรบีบคางสวยแล้วดึงขึ้นมาหาเพื่อประกบจุมพิตกลีบปากอิ่มหนักหน่วง ดันลิ้นร้อนเข้าพัวพันกระหวัดรัดเธออย่างเสน่หา พิรวดีหัวหมุนได้แต่ตอบรับเขาไปอย่างไร้เดียงสา กิริยาของเธอทำให้เขาคำรามในลำคอด้วยความต้องการที่มีมากล้น มือหนาโอบรัดหน้าอกนุ่มหยุ่นเต่งตึงให้เธอคุกเข่าหยัดกายขึ้นแนบชิดกับเขา สะโพกผายแนบชิดกับหน้าขาแกร่ง สองร่างสอดประสานแทบจมหายเป็นเนื้อเดียว สะโพกผายหยัดไปด้านหลังตามสัญชาตญาณ หน้าอกอิ่มแอ่นไปด้านหน้าเมื่อได้รับแรงกระแทกครั้งแล้วครั้งเล่าเหมือนพายุที่บ้าคลั่งของชายหนุ่มที่ไม่ยอมหยุดให้เธอได้นอนหลับสบายนาน
พิรวดีเงยหน้าขึ้นครวญครางด้วยความเสียวกระสันในจังหวะรักที่เริ่มถี่กระชั้น เธอพิงศีรษะกับบ่ากว้างของอีกฝ่ายอย่างอ่อนแรง ยินยอมให้เขาตักตวงความสุขอย่างเต็มที่ ก่อนทิ้งตัวลงนอนคว่ำในท่วงท่าคุกเข่าเมื่อเขาส่งเธอไปสู่ความสุขอีกครั้ง รติภัทรถอดถอนกายออกห่างแล้วนอนลงแนบชิด เกลี่ยปอยผมของหญิงสาวเบามือ
รติภัทรยังไม่เพียงพอ เขาพลิกร่างหญิงสาวให้นอนตะแคง ดึงมาแนบชิดก่อนจะสอดกายเข้าหาความชุ่มฉ่ำอีกครั้ง พิรวดีครางอืออาอ่อนแรงและเมื่อยล้า แต่ต้องยอมให้เขาแนบกายเข้าหา ชายหนุ่มโน้มกายขึ้นจุมพิตริมฝีปากสวยในขณะที่ช่วงล่างเคลื่อนไหวเป็นจังหวะเนิบช้าก่อนจะเร่งความเร็วเป็นกระชั้นถี่ มือหนาสอดเข้าใต้ร่างเธอ กอบกุมทรวงสาวเอาไว้ มืออีกข้างที่ยกขาเพรียวขึ้นสูงสอดมาทางใต้ขาเพื่อสะกิดยอดเกสรดอกรักให้เธอเสียวซ่าน บิดร่างบางให้กึ่งตะแคงกึ่งนอนหงาย แล้วก้มลงดูดกลืนปทุมถันหลังจากผละจากริมฝีปากที่ยังคงความหวานเอาไว้ไม่แปรเปลี่ยน
ชายหนุ่มเคลื่อนกายเปลี่ยนท่าเป็นคุกเข่านั่งทับขาคนอ่อนแรงเอาไว้แล้วแทรกลึกกลางร่าง จับขาเพรียวพาดที่บ่ากว้าง ขยับลำนำรักอีกไม่นานก็เปลี่ยนท่าให้หญิงสาวนอนหงาย เขาจบความสุขกับเธออีกครั้งในท่วงท่านี้ กกกอดร่างเธอเอาไว้เกือบรุ่งสาง
รติภัทรลืมตาตื่นในช่วงสายของอีกวัน เขาค่อยๆ ลุกจากที่นอนเบาๆ มองร่างที่หลับใหลไม่ได้สติ นี่เขากักเธอตั้งแต่เมื่อตอนบ่ายของเมื่อวานจนถึงเวลานี้เลยเหรอ
ชายหนุ่มไล้หลังมือไปตามโครงหน้าสวย ก่อนที่จะตัดใจผละออกห่าง กดจุมพิตที่หน้าผากมนด้วยสายตาที่เดาไม่ออกถึงอารมณ์ในขณะนี้
พิรวดีลืมตาตื่นด้วยร่างกายปวดร้าวเพียงไม่กี่นาทีหลังจากที่ชายหนุ่มซึ่งช่วงชิงพรหมจรรย์ของเธอผละห่าง หญิงสาวสะดุ้ง รู้สึกร่างกายปวดร้าว สมองงุนงงจับต้นชนปลายไม่ถูก ก้มมองเรือนร่างเปลือยเปล่าของตัวเอง เธอโตพอที่จะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ห้องกว้างไม่คุ้นเคยทำให้เธอเริ่มหวาดกลัว ตอนนี้เธอต้องรีบจัดการตัวเองให้เรียบร้อย คิดได้ดังนั้น จึงก้าวลงจากเตียงอย่างรวดเร็ว
“โอ๊ะ!” เพราะความเร่งรีบก้าวลงจากเตียง ทำให้หญิงสาวทรุดลงไปกองกับพื้น
หญิงสาวกุมหน้าท้องด้วยความเจ็บ เธอก้มมองขาตัวเองก็หน้าซีดเผือด ร่องรอยรักที่เขาฝากเอาไว้มันชัดเจนตอกย้ำให้เธอรู้ว่าเธอสกปรกและแปดเปื้อนรอยราคี
พิรวดีทุ้มตัวลงร้องไห้ระงม มองหยดเลือดบนผ้าปูที่นอน กำมือจิกแน่นสะท้อนในอก หัวใจบอบบางแตกสลายเหมือนมีมีดมากรีดใจเธอ จ้วงแทงซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“ฮือๆ ๆ”
หญิงสาวร้องไห้จนสาแก่ใจแล้วก็พยุงตัวเองให้ลุกขึ้น นิ่วหน้าด้วยความเจ็บ จึงคลานไปหยิบเสื้อผ้าที่ถูกถอดทิ้งมาสวมใส่ลวกๆ สายตาบวมแดงก่ำเหลือบไปเห็นกระเป๋าถือของเธอที่วางอยู่บนหัวเตียง ไม่รอช้าที่จะรีบคว้ามันมากอดเอาไว้ ด้านในมีกระเป๋าสตางค์และโทรศัพท์มือถือที่หน้าจอดับไป คงเป็นเพราะแบตฯ หมด
พิรวดีกอดกระเป๋าแน่น มองซ้ายมองขวาอย่างหวาดกลัว ในที่สุดเธอค้นหาประตูทางออกเจอ ห้องที่เธออยู่เป็นห้องนอนใหญ่ ด้านนอกมีห้องรับแขกหรูหรา และมีห้องอีกหลายห้อง พื้นที่กว้างขวาง ตกแต่งทันสมัย