[2] หนูเบื่อ
2| หนูเบื่อ
@ย้อนกลับไปเมื่อตอนวิเวียน6ขวบ
รถหรูจอดเทียบท่ากับคฤหาสน์หลังงามสีขาวสะอาดตา ร่างสูงสมาทของหนุ่มหล่อ มาติน ชาร์ล ก้าวขาลงจากรถ ถอดแว่นราคาแพงเหน็บเอาไว้ตรงกลางอก มือหนาไม่ลืมคว้าตุ๊กตาหมีแสนน่ารักในรถที่ให้ลูกน้องไปหาซื้อมาให้ เอาติดมือมาด้วย
เป็นจังหวะเดียวกันที่เห็นเด็กน้อยผมเปีย ลูกสาวของเพื่อนรักอยู่ตรงหน้าพอดี
“ลุงให้ครับ!”
“ชอบไหมครับหื้ม?”
เด็กน้อยรับตุ๊กตาหมีสีขาวขนปุยนุ่มนิ่มเอาไว้ในอ้อมกอดทันที พอรับมาไว้แล้วจึงยกมือน้อยๆไหว้ขอบคุณผู้ใหญ่ตรงหน้า
“ชอบค่ะ ขอบคุณค่ะ!!”
หนูน้อยวิเวียนยิ้มแก้มแทบปริ เธอชอบตุ๊กตาที่คุณลุงใจดีซื้อให้มาก ก่อนจะถูกมือหนาจูงมือเข้าไปในคฤหาสน์ด้วยความคุ้นเคย
หนูน้อยวิเวียนในวัย6ขวบ ไม่ประสีประสากระตุกแขนแกร่งของคุณลุง
“คุณลุงขา หนูขี้เกียจเดินค่ะ ขึ้นไปเองนะคะ ห้องทำงานคุณพ่ออยู่ขวามือ เดินไปเรื่อยๆก็เจอแล้วค่ะเป็นห้องกระจกใส!!”
ไม่ประสีประสาแต่ฉลาดเป็นกรด พูดจาฉะฉานน่าฟัง เด็กน้อยยิ้มหวานตอบคุณลุงที่ยืนส่งยิ้มให้ แล้วจึงหันมาสนใจตุ๊กตาหมีสีขาวแทน เดินไปห้องนั่งเล่นที่มีหมีตัวสีน้ำตาลอีกตัววางอยู่ก่อน จับให้หมีหันหน้าเข้าหากัน ให้คุยกัน ความน่ารักและไร้เดียงสาเรียกรอยยิ้มจากใบหน้าหล่อเหลาได้ดี
จากนั้นร่างหนาก็สาวเท้าเดินขึ้นบันไดคฤหาสน์อันสูงริ่ว ก็แหง๋แหล่ะ ขาเล็กๆของเด็กน้อยก็ต้องขี้เกียจหรือปวดขาเป็นธรรมดา
.
.
@ปัจจุบัน
ฉันกดจมูกลงบนขนนุ่มของตุ๊กตาหมีสีขาวที่ตอนนี้ถึงแม้มันจะไม่ค่อยนุ่มก็ตาม ขนของมันค่อนข้างเหี้ยนไปแล้ว แต่ยังคงขาวสะอาดสะอ้านเหมือนเดิม ฉันนึกถึงวันที่คุณลุงให้เจ้านี่มา ถึงแม้ตอนนั้นจะเฉยๆก็เถอะ แต่นี่ก็เป็นของขวัญชิ้นแรกที่ได้จากคนที่ฉันรัก เป็นความทรงจำดีๆในวัยเด็ก ที่ลุงตินใจดี มีเมตตาต่อฉัน
ฉันมักจะได้รับของขวัญจากเขา ไม่ว่าจะเป็นเค้กวันเกิด ขนมรสโปรด ตุ๊กตาต่างๆที่เป็นสีขาว เป็นสีที่ฉันเฟเวอร์ริทมาก อีกอย่างคุณลุงเองก็รู้ใจฉันด้วย
ฉันเอาหมีขาวไปไว้บนเตียงแล้วรีบสาวเท้าไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อที่จะไปดินเนอร์กับลุงติน แน่นอนว่าไม่ได้ไปกันสองต่อสอง มีคุณพ่อไปด้วย
เวลาต่อมา...
ร่างของฉันอยู่ในชุดเดรสกระโปรงสีขาวน่ารัก ยาวเหนือเข่า สายเดี่ยว ปล่อยผมให้สยายไปตามแผ่นหลังขาวเนียน ทาลิปสีชมพูระเรื่อ ฉันเม้มปากหลังจากนั้นแล้วมองกระจกยิ้มเยาะขึ้นมาอย่างมั่นใจ ตบท้ายด้วยการฉีดน้ำหอมราคาแพง หอมฟุ้ง โดยเฉพาะตรงต้นคอที่เน้นมากเป็นพิเศษ
พกกระเป๋าหรูแบรนด์เนม แบรนด์โปรดเหน็บมาด้วย ฉันเดินลงมาชั้นล่างของบ้านก็พบเข้ากับคนหล่อที่นั่งรออยู่ก่อน
“เสร็จแล้วค่าคุณพ่อขา รอนานไหมเอ่ย?”
ฉันยิ้มหวานส่งไปให้บิดาที่กำลังเลื่อนหน้าจอสมาทโฟนเล่นรอไปพลางๆ ใบหน้าหล่อเงยขึ้นมายิ้มหวาน
คุณพ่อฉันนะหล่อมากนะ นึกอยากจะหาสาวๆมาให้ แต่ก็ไม่รู้จะหาจากที่ไหนที่เอาคุณพ่ออยู่หมัดและมัดใจท่านได้
สองหนุ่มจะแข่งกันโสดหรือไงนะ หรือพวกเขาจะกินกันเอง เอ๊ะ!!น่าคิด
แต่ไม่นะคุณลุงเป็นของฉัน คุณพ่อควรต้องไปหาผู้หญิงสวยๆสิถึงจะถูก ฉันคิดในขณะที่เดินเข้าไปหาท่าน
“นานมาก เกือบหนีไปคนเดียวแล้ว แต่วันนี้ลูกสาวพ่อสวยมากให้อภัยครับ!!”
ท่านปากหวานและเอาใจมาก นี่แหล่ะฉันถึงมีนิสัย....ไม่อยากจะบรรยาย แต่ฉันไม่ได้เกินคนหรอก ยังบอกฟังอยู่
“ขอบคุณค่ะ ไปกันเถอะค่ะหนูหิวแล้ว!!”
ข้ออ้างละสิไม่ว่า อยากจะเจออีกคนจนตัวสั่นระริกไปหมด พอนึกถึงใบหน้าหล่อของเขา ก็ยิ่งทำให้ฉันยิ้มกริ่มในทันที ใบหน้าสากที่มีลักยิ้มเล็กๆ คิ้วดกดำ คือเป็นคนที่หล่อวัวตายควายล้มอะบอกก่อน ไม่อย่างนั้นคุณลุงคงไม่ทำให้เด็กอย่างฉันใจแตกหรอก
เมื่อมาถึงร้านอาหารสุดหรู พวกเราก็ไม่นั่งทานกันตรงนี้หรอก ต้องขึ้นลิฟท์ไปบนชั้นดาดฟ้า ฉันเกาะแขนคุณพ่อเอาไว้ภายในลิฟท์ ในใจคิดหาทางอ่อยเป้าหมาย
จนลิฟท์เปิดออก เราก็มุ่งตรงไปยังโต๊ะอาหาร ข้างบนลมโกรกพัดปรอยผมของฉันให้ปลิวไสว
แสงสีตามตึกสูงสง่าตระการตาไปหมด ถึงแม้จะค่อนข้างเบื่อความวุ่นวายในเมืองหลวง แต่พอได้มาอยู่บนที่สูงในเวลากลางคืน ก็ทำให้รู้สึกดีไปอีกแบบ อาจจะเป็นเพราะความมืดมิดเข้ามาปรกคลุมทุกสิ่งอย่าง ฉันเพลินสายตาให้กับภาพตรงหน้าก่อนจะหันไปมองยังโต๊ะอาหารมื้อค่ำ
ร่างของคนที่เฝ้าคนึงหาตลอด นั่งรออยู่ก่อนทว่ากำลังคุยโทรศัพท์ มีใบหน้าเคร่งเครียด นี่มาผ่อนคลายใต้แสงเทียนแล้วยังจะทำงานอีกหรอ
เอิ่ม...ไม่เข้าใจเลยว่าจะบ้างานกันไปถึงไหน และที่มาในวันนี้ก็ไม่พ้นคุยงาน แค่เปลี่ยนบรรยากาศก็เท่านั้น
.
.
“สวัสดีค่ะคุณลุง!!”
เมื่อหย่อนสะโพกลงนั่งที่เก้าอี้ตรงข้ามกัน ฉันจึงยกมือขึ้นไหว้คนตรงหน้า ใบหน้าหล่อเหลายิ้มให้ฉัน
จากนั้นก็ไม่ได้สนใจฉันหรอก เอาแต่คุยกับพ่อ ฉันได้แต่นั่งทานอาหารเงียบๆ เท้าคางมองสองหนุ่มฮอตบ้าง มองวิวทิวทัศน์ในยามเย็นบนตึงสูงบ้าง
พอปรายตามองไปยังหน้าหล่อๆเขาก็ไม่ได้สนใจฉันนี่
คุณลุงไม่เคยเห็นฉันอยู่ในสายตาหรอก สำหรับเขาแล้วฉันเป็นแค่เด็กคนหนึ่งก็เท่านั้น
“อาหารไม่อร่อยเหรอหนู?”
น้ำเสียงทุ้มเอ่ยถาม ฉันจึงหลุดจากภวังค์ความคิดแล้วหันมาสนใจคู่สนทนา ลุงตินมองฉันอยู่ก่อนด้วยสายตาเรียบเฉย
“ป่าวค่ะ หนูแค่เบื่อ!!”
แสดงใบหน้าเรียบเฉยไม่ได้ยิ้มแย้มหรอก ก็เบื่อจริงๆนี่รู้อย่างงี้ไม่มาหรอก ฉันเหมือนเป็น กขค ของพวกเขาเลยอะ
“งั้น หนูขอตัวกลับก่อนได้ไหมคะคุณพ่อ!!”
“ได้สิ พรุ่งนี้หนูก็มีเรียนด้วย ให้เดลไปส่งก่อนแล้วกัน พ่อขอคุยงานกับลุงตินต่ออีกสักพักนะครับ!!”
พ่อฉันก็อีกคน ไม่มีการยื้อใดๆ โอเคกลับก็กลับแล้วกัน
ฉันลุกขึ้นยืนแล้วสาวเท้าจ้ำอ้าวออกมาอย่างงอนๆ ไม่ได้เอ่ยคำลาต่อใคร เพราะไม่ได้มีใครสนใจฉัน ลงลิฟต์แล้วไปที่รถหรูในทันที แต่ฉันเบื่อมาก แต่งตัวสวยแล้วไม่ได้ทำอะไรเลย ยังไม่อยากกลับบ้านหรอก
“พี่เดล พาหนูไปที่คอนโดจูลี่ที หนูขอคุณพ่อแล้วค่ะ!!”
คนขับรถที่เป็นบอดี้การ์ดคนสนิทอีกคนของบิดา พยักหน้ารับคำ แล้วจึงเลี้ยวรถยูเทิร์นกลับไปที่ถนนอีกเส้น
ขอเที่ยวก่อนเถอะ ฉันเบื่อโลก....และรอฉันอายุ20ปีก่อนนะ จะชวนจูลี่เพื่อนรักเข้าผับให้ดู