บทย่อ
หนี้สินที่รุมเร้าทำให้หญิงสาวตัดสินใจตอบรับข้อเสนอของท่านประธานหนุ่ม นลินเลือกที่จะยอมมีความสัมพันธ์ลับ ๆ กับภาคิน เพราะคิดว่าเขาอยากช่วยเธอจากใจจริง แต่สุดท้าย...เธอไม่เคยรู้เลยว่าทั้งหมดมันคือความตั้งใจของเขาที่อยากได้เธอมาไว้ข้างกายในฐานะของเล่น.....ที่เงินซื้อได้ก็เท่านั้น /*/*/*/ “เด็กเพิ่งเข้ามาทำงานได้แค่วันเดียวเองนะครับคุณภาคิน ผมว่ารอสักระยะไม่ดีกว่าเหรอ” พงศกรเตือนเพราะกลัวว่าจะดูไม่ดี อีกอย่างนลินก็อายุน้อยกว่าพวกเขาตั้งหลายปี ถ้าภาคินไม่อยากถูกตราหน้าว่าเป็นเฒ่าหัวงูก็ควรจะหยุดยั้งความคิด “แล้วนายคิดว่าเมื่อไหร่ล่ะที่เหมาะสม ถ้าฉันมีเงินแล้วฉันต้องรอ มันจะมีประโยชน์อะไร” ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นผู้นำ มีความเป็นผู้ใหญ่ แต่ก็มีมุมที่เอาแต่ใจ
หนี้สินของเเม่
ตอนที่ 1
หนี้สินของเเม่
นลินเดินขาลาก วันนี้ทั้งวันเธอตะเวนไปสัมภาษณ์งาน หญิงสาวรู้สึกเหนื่อยล้าไปทั่วทั้งร่างกาย
เธอเคยวาดฝันไว้ว่าหลังเรียนจบคงจะสามารถหางานได้ทันที แต่ทุกอย่างมันยากกว่าที่คิด การแข่งขันที่สูงบวกกับเด็กจบใหม่ที่มีมาก ทำให้เธอต้องยื่นใบสมัครงานมากกว่าสิบแห่ง โดยหวังว่าจะมีสักที่ตอบรับแต่สุดท้ายถึงเธอจะได้สัมภาษณ์งานมานานกว่าหนึ่งเดือนแล้ว ยังไม่มีที่ไหนรับเธอเข้าทำงานเลย
นลินอาศัยอยู่ในต่างจังหวัด สำหรับคนจบปริญญาตรีอย่างเธอ ไม่ได้มีตัวเลือกมากนัก นลินเคยคิดว่าหากหางานตามวุฒิไม่ได้ เธอคงจะเลือกทำงานอื่นไปก่อน แต่เธออุตส่าห์ตั้งหน้าตั้งตาเรียนจนจบ ถ้าไม่ได้รับเงินเดือนตามวุฒิการศึกษาแล้วเธอจะกัดฟันเรียนไปทำไม
นลินเรียกวินมอเตอร์ไซค์ให้ไปส่งที่บ้าน เมื่อมาถึงเธอก็เปิดกระเป๋าเงินดู ก่อนพบว่าเงินนั้นน้อยลงลงอย่างเห็นได้ชัด
ค่าใช้จ่ายหมดไปกับการเดินทาง แถมยังหมดแบบเปล่าประโยชน์เพราะไม่ได้อะไรกลับมาเลย
หญิงสาวได้แต่ถอนหายใจเมื่อเห็นว่าในกระเป๋าเหลือเงินไม่ถึงพันบาท เธอคงจะพอประทังชีวิตไปได้ถ้าหากไม่มีเรื่องหนี้สินของแม่มากวนใจ
นลินเดินเข้ามาในซอยเล็กๆ หมาเห่าเกรียวกราวตลอดทางแต่เธอชินแล้วและไม่ได้สนใจ
“ออกมา!”
เสียงตะโกนพร้อมกับเสียงเขย่าประตูดังขึ้น ทำให้หญิงสาวรีบวิ่งตรงไปข้างหน้า ผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ยืนอยู่หน้าประตูบ้านเธอ เขาเขย่าประตูตะโกนเรียกคนที่อยู่ข้างในให้ออกมา
“คุณมาหาใคร”
นลินตรงเข้าไปเผชิญหน้ากับผู้ชายร่างใหญ่โดยไม่เกรงกลัว
“ฉันมาหาคนที่อยู่บ้านนี้ ติดหนี้ก็ไม่ยอมใช้!”
นลินชินเเล้ว นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอเจอเหตุการณ์แบบนี้ และเป็นเรื่องปกติที่ชาวบ้านจะโผล่หน้าออกมาดูสถานการณ์ สมัยก่อนเธออายมากจนแทบ ไม่กล้าออกจากบ้าน แต่ตอนนี้จิตใจของนลินแข็งแกร่งกว่าที่คิด เธอไม่สนใจว่าใครจะติฉินนินทา
“แม่ฉันติดหนี้คุณเท่าไหร่”
ชายหนุ่มเมื่อเห็นใบหน้าหญิงสาวชัดๆแววตาที่ดุดันก็เปลี่ยนไป เขาลูบคางตัวเอง มองเธอด้วยสายตาแปลกๆ
“สองแสนรวมดอกเบี้ยแล้ว”
“เงินต้นเท่าไหร่”
หญิงสาวเอ่ยถามอย่างน้อยๆถ้าเงินต้นไม่มากเธออาจจะหามาคืนให้ได้
“เงินต้นเเปดหมื่น”
“เดี๋ยวนะ แสดงว่าดอกเบี้ยแสนสองเหรอ นี่มันไม่ขูดเลือดขูดเนื้อไปหน่อยเหรอคุณ”
หญิงสาวโวยวายทันที เธอยินดีชดใช้หนี้ให้แต่ไม่ยอมโดนเอาเปรียบเด็ดขาด
“ก็ถ้าเธอไม่อยากจ่ายดอกเป็นเงินก็จ่ายเป็นอย่างอื่นแทนก็ได้”
หญิงสาวรู้ดีว่าอีกฝ่ายหมายถึงอะไร นี่ไม่ใช่ ครั้งแรกที่เธอได้รับข้อเสนอแบบนี้ เจ้าหนี้แม่หลายคนก็มักจะเสนอให้เธอไปเป็นเมียเก็บ แต่เธอไม่มีทางยอมเด็ดขาด เธอไม่อยากยุ่งกับคนมีลูกมีเมียแล้ว
“ฉันจะหาเงินมาคืนให้ ขอเวลาหน่อยได้ไหม”
หญิงสาวเจรจาด้วยตัวเอง เธอรู้ว่าอย่างไรแม่ก็ไม่มีทางออกมา
“นี่มันก็หลายเดือนแล้วยังไม่ได้เงินคืนสักบาท เธอจะจ่ายคืนให้ได้เท่าไหร่”
ตอนนี้นลินยังไม่มีเงิน แต่อีกไม่กี่วันเงินที่เธอทำงานนอกเวลาก็จะออกแล้ว ถึงเวลานั้นเธอจะเอาไปจ่ายหนี้ให้เขา
“อีกสามวัน ฉันจะจ่ายให้ก่อนห้าพัน”
ชายหนุ่มหัวเราะเมื่อได้ยินจำนวนเงินที่น้อยนิด นี่มันยังไม่ถึงครึ่งของหนี้สินที่แม่เธอก่อเอาไว้
“มันไม่น้อยไปหน่อยเหรอ”
เขาพูดพร้อมกับมองสำรวจร่างกายหญิงสาวไปด้วย เขาไม่เคยรู้เลยว่าเจ้าหนี้คนนี้มีลูกสาวสวยราวกับนางฟ้า
“ถ้าเธอมาหาฉันฉันจะยกหนี้ให้ทั้งหมด”
นลินส่ายหน้า เธอรู้ว่าอีกฝ่ายมีลูกมีเมียแล้ว แล้วไม่ต้องการที่จะยุ่งกับสามีของคนอื่น ต่อให้ข้อเสนอจะล่อตาล่อใจมากแค่ไหนก็ตาม แต่ถ้าผู้ชายคนนั้นไม่โสด ไม่ไร้พันธะ เธอก็ไม่มีวันชายตามอง
“ไม่เป็นไร ฉันจะจ่ายหนี้ให้ แต่ฉันก็จ่ายเท่าที่ฉันมีปัญญาจ่าย จะเอาก็เอาถ้าไม่เอาก็ไปคุยกันที่โรงพัก”
เรื่องขึ้นโรงขึ้นศาลเป็นของแสลงสำหรับลูกชายเจ้าของบ่อน เขาไม่ต้องการไปคุยต่อหน้าตำรวจ จึงได้แต่กลับไปด้วยความเสียดาย
นลินถอนหายใจยาว รู้สึกเบื่อหน่ายกับปัญหาตรงหน้าเหลือเกิน ทำไมชีวิตของเธอต้องมาเจออะไรแบบนี้ไม่จบไม่สิ้นเสียที
“แม่”
หญิงสาวเดินเข้ามาในบ้านมองหาแม่ ก่อนเห็นว่าประตูห้องน้ำเเง้มอยู่
“มันไปหรือยัง”
หญิงวัยกลางคนผมเผ้ายุ่งเหยิง เธอเพิ่งตื่นนอนเพราะได้ยินเสียงเคาะประตู พอรู้ว่าเป็นเจ้าหนี้ก็รีบวิ่งเข้ามาแอบในห้องน้ำ
“ไปแล้ว แม่ไปติดหนี้เขาตั้งแปดหมื่นเลยเหรอ”
“มันบอกแกเหรอ”
หญิงสาวพยักหน้าวางกระเป๋าลงบนโต๊ะ บ้านช่องก็เละเทะ จานชามวางเกลื่อนกลาด นลินรู้สึกเหนื่อยจนแขนขาอ่อนแรง แต่เธอก็ยังต้องทำ ความสะอาดบ้าน
บ้านหลังเล็กกะทัดรัด เมื่อก่อนอยู่กันสามคนพ่อแม่ลูก แต่หลังจากที่พ่อจากไปเธอก็ต้องอยู่กับแม่เพียงลำพัง และกลายเป็นเสาหลักของครอบครัวทั้งที่ยังไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง
“นิดหน่อยเอง แล้วแกไปพูดอะไรมันถึงยอมไป”
“ก็บอกเขาว่าอีกสามวันจะหาเงินมาคืนให้”
เธอตาโตเมื่อรู้ว่าอีก 3 วันลูกสาวจะมีเงิน “แล้วแกจะให้แม่ด้วยหรือเปล่า”
“หนูต้องใช้หนี้ให้แม่นะ เงินออกมาก็ต้องเอาไปใช้หนี้หมด ไม่เหลือให้แม่หรอก”
หญิงสาวเอ่ยเสียงเรียบ เธอไม่อยากพูดอะไรมากเพราะไม่อยากทะเลาะกับแม่ หญิงวัยกลางคนมีท่าทางหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด เธอออกไปไหนไม่ได้เพราะเจ้าหนี้รุมล้อม ได้แต่หมกตัวอยู่แต่ในบ้าน ไม่กล้าโผล่หน้าออกไปไหน
“แล้วตอนนี้แกพอจะมีเงินให้ฉันบ้างไหม”
“มี แต่หนูไม่ให้”
“เอ๊ะ! นังลูกคนนี้”
หญิงสาววางมือจากงานที่ทำอยู่หันมาเผชิญหน้ากับแม่ ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่อีกฝ่ายจะคิดได้เสียที ว่าการกระทำนั้นส่งผลเสียยังไงกับครอบครัว จากเหตุการณ์ที่ผ่านมามันไม่ได้ให้บทเรียนแม่เลยใช่ไหม
“หนูจะซื้อกับข้าวไว้ให้ แม่ไม่ต้องกลัวว่าจะอด”
“แต่ฉันอยากได้เงิน”
“หนูจะไม่ให้แม่เอาเงินที่หนูหามาอย่างยากลำบากไปละลายในบ่อนหรอก”
เสียงด่าดังตามหลังแต่หญิงสาวก็ทำเป็นหูทวนลม เธอชินแล้วกับสถานการณ์แบบนี้ เวลาแม่ไม่ได้เงินก็มักจะโมโห