คำสั่งประกาศิต (100%)
“ไม่รู้ล่ะ ยังไงแกก็ต้องเอาหน้าเมียแกมาให้ฉันดูภายในสามเดือนนี้ให้ได้” คนแก่มากอุบายยื่นคำขาด โดยไม่นึกสงสารคนที่กำลังทำท่าคร่ำครวญเลยสักนิด แถมส่งค้อนให้พ่อคุณจนตาคว่ำ มีอย่างที่ไหน ไม่อยากมีเมียเพราะยังรักสนุก เหตุผลฟังไม่ขึ้นแบบนี้นางไม่สงสารหรอก มีแต่หมั่นไส้ล่ะสิไม่ว่า
“สามเดือน!” เจ้าพ่อหนุ่มอุทานเสียงดังจนคนที่นั่งข้างๆ สะดุ้งสุดตัว ดวงตาสีน้ำเงินเข้มจ้องใบหน้าของผู้เป็นย่าจนแทบถลนออกมานอกเบ้า
‘สามเดือนกับการหาเมีย แล้วเขาจะไปหาผู้หญิงที่ไหนมาทำเมียกันวะ ถ้าเมียมันหาตามร้านสะดวกซื้อได้ก็ดีน่ะสิ’ แอรอนบ่นอุบในใจพร้อมตีหน้ายุ่งเหยิง
“ใช่ หากแกยังหาผู้หญิงดีๆ มาร่วมทำเหลนให้ย่าไม่ได้ ย่าก็จะให้แกแต่งงานกับแม่หนูฮันนี่” ผู้เป็นย่าผงกหัวที่ถูกจัดแต่งทรงกระบังตามแบบฉบับคุณนายขึ้น แล้วพยักหน้าเบาๆ เป็นคำตอบ ก่อนจะยื่นคำขาดด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด บ่งบอกว่านางจะไม่ยอมลดราวาศอกให้อย่างแน่นอน
“ฮันนี่!” อุทานลั่นพร้อมหรี่ตามองหน้าอีกฝ่ายอย่างไม่อยากจะเชื่อ เขายังจำยายแว่นใส่เหล็กดัดฟันได้ไม่เคยลืมเลือน ผู้หญิงอะไรน่ากลัวเสียยิ่งกว่าไอ้ด่างที่ใส่กระจับครอบปากไว้ อ้าปากแต่ละทีก็แทบน้ำลายไหลเยิ้มเหมือนหมาบ้า ไม่สวยไม่พอ แม่คุณยังพกความสยองติดตัวมาเป็นกระบุง
“ใช่ แม่หนูฮันนี่ โดโนแวย์ ลูกสาวของท่านนายพลบิช็อฟ โดโนแวย์ ที่เคยอยู่ข้างบ้านเราอย่างไรล่ะ” นางอลิเซียพยักหน้าให้หลานชายตัวแสบเบาๆ พลางแอบกระหยิ่มในใจ เพราะรู้ดีว่าหากยกเรื่องนี้ขึ้นมากล่าวอ้าง ขี้คร้านพ่อตัวดีจะรีบวิ่งแจ้นไปหาเมียมาให้นางดูหน้า
“หัวเด็ดตีนขาดยังไงผมก็ไม่แต่งงานกับยายหมาบ้านั่น” แอรอนยืนกรานเสียงแข็ง
“ไม่แต่งก็ต้องแต่ง ในเมื่อแกไม่ยอมหาหลานสะใภ้ตามที่ย่าต้องการ ฉะนั้นแกก็ต้องแต่งงานกับคนที่ย่าหามาให้อย่างไม่มีข้อแม้” เห็นพ่อคุณเล่นแง่ดีนัก นางอลิเซียยิ่งอยากเอาชนะคนหัวดื้อเสียให้เข็ด จึงส่งเสียงแข็งไปออกคำสั่งเชิงบังคับหลานชาย
“อย่าทำอย่างนั้นนะครับ คุณย่า ถ้าคุณย่าไม่อยากเห็นหลานชายตัวเองลงหนังสือพิมพ์หน้าหนึ่ง เพราะโดนยายฮันนี่ขย้ำคอตายอย่างน่าอนาท” เสียงหลงเอ่ยห้ามปราม พร้อมทำท่าสยดสยองเมื่อนึกถึงใบหน้าของสาวเจ้า จนผู้เป็นย่าซัดเผียะเข้าที่ลำแขนแกร่งอย่างหมั่นไส้ในความห่ามของพ่อยอดชาย
“กลัวอะไรเขานักหนาฮึ พ่อตัวดี ฉันว่าหนูฮันนี่เหมาะกับแกจะตาย” นางอลิเซียไหวไหล่เบาๆ ท่าทางไม่ได้แยแสอาการจะเป็นจะตายของเจ้าหลานชายตัวแสบเลยสักนิด ส่วนคนฟังได้แต่แอบเบ้ปากไปกับประโยคแสนชื่นชมของคุณย่า ก่อนจะโต้ตอบอย่างอดใจไม่ไหว
“ฮึ่ย…แค่คิดถึงหน้าแม่นั่น ผมก็ทำเหลนให้คุณย่าไม่ลงแล้วครับ ขนาดดับไฟยังคิดสภาพการมีเซ็กส์กับหล่อนไม่ออกเลย ให้ตายเถอะ!” แอรอนว่าพลางทำท่าขนลุกขนชันได้อย่างน่าหยิกให้เนื้อเขียว
เผียะ!
ฝ่ามือเรียวของนางอลิเซียฟาดลงตรงแขนล่ำของหลานชายอีกครั้ง เป็นผู้ชายอกสามศอกแท้ๆ ยังมากระแนะกระแหนผู้หญิงได้อย่างน่าหมั่นไส้ หากเกิดเป็นหญิงนางไม่ต้องเทียวขึ้นโรงขึ้นศาลเพราะความปากเปราะของหลานหรืออย่างไร แต่ถ้าหากแอรอนเกิดเป็นหญิงเสียตั้งแต่แรกนางอาจจะไม่ต้องปวดหัว เพราะความเจ้าชู้ของเขาก็เป็นได้
“ดูถูกเขาเข้าไป หากได้ลองของแปลกสักครั้ง แล้วแกอาจจะติดใจก็ได้นะ” เปรยเบาๆ ทั้งที่รู้ดีแก่ใจว่าแม้จะชักเอาแม่น้ำทั้งห้ามากองตรงหน้า พ่อเจ้าประคุณคนกลัวของแปลกก็ไม่ยอมตกปากรับคำแต่งงานกับลูกสาวนายพลบิช็อฟอย่างแน่นอน
“ไม่เด็ดขาดครับ คุณย่า ของแปลกแบบนั้นผมไม่กล้ากระเดือกหรอก ประเดี๋ยวติดคอแล้วจะยุ่ง อย่าให้ผมแต่งงานกับแม่นั่นเลยนะครับ”
เสียงห้าวปฏิเสธหญิงสาวที่คุณย่ากำลังตั้งท่าจะยัดเยียดให้ ถ้าหล่อนสวยกว่านี้สักหน่อย เขาคงหลับหูหลับตาเอาทำเมียได้ หากหาเมียไม่ทันท่วงทีตามที่คุณย่ากำหนดไว้ แต่นี่แม่คุณน่ากลัวเสียยิ่งกว่าอะไรดี มองหน้าหล่อนแล้วเขาคงหมดอารมณ์ทางเพศไปโดยปริยาย
“ถ้าแกไม่อยากให้ฉันจับแต่งงานกับหนูฮันนี่ แกก็รีบหาเมียให้ได้ แล้วก็เอาทะเบียนสมรสมายืนยันว่าแกได้แต่งงานแล้วจริงๆ แต่ถ้าหากแกทำอย่างที่ฉันต้องการไม่ได้ แกก็ต้องชวดมรดก” น้ำเสียงราบเรียบของประมุขใหญ่แห่งตระกูลมอร์แกนกล่าวถึงความต้องการของตน พลางยกขาขึ้นไขว่ห้าง แล้วปรายตามองอีกฝ่ายอย่างสบายอารมณ์
“ทะเบียนสมรส!” เสียงสูงของแอรอนอุทานเป็นครั้งที่เท่าไรไม่แน่ใจ รู้แต่ว่าเขากำลังทำท่าตกใจสุดขีด แล้วนี่จะบ่ายหน้าไปให้ใครช่วยดีล่ะ
‘เมียมันสั่งตัดได้เหมือนเสื้อผ้าก็ดีน่ะสิ เขาจะได้ไปสั่งตัดมาให้คุณย่าดูวันนี้พรุ่งนี้เสียให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย’ ยิ่งคิดพ่อหนุ่มกะล่อนก็ยิ่งกลัดกลุ้ม
“ใช่ แกจะไม่เอาก็ได้นะมรดกในส่วนของฉัน เพราะมรดกที่พ่อแม่แกทิ้งไว้ให้ กินทิ้งกินขว้างทั้งปีทั้งชาติก็ไม่หมดอยู่แล้วนี่ แบ่งๆ ให้ริชาร์ดเอาไปใช้บ้างจะเป็นไรไป จริงไหมแอรอน?” นางอลิเซียจงใจกล่าววาจากระตุ้นให้อีกฝ่ายต้องคิดหนักกว่าเดิม
แม้ว่ามรดกในส่วนที่แอรอน มอร์แกน ถือครองอยู่จะมีมูลค่ามากมายมหาศาล ชนิดที่ว่าแจกจ่ายคนทั้งเมืองกินใช้ตลอดปีตลอดชาติก็ยังไม่หมด แต่เขาจะไม่ยอมให้ไอ้ริชาร์ดมันเชิดมรดกในส่วนของคุณย่าไปได้ อะไรที่มันสมควรเป็นของเขาตั้งแต่แรก มันย่อมต้องตกเป็นกรรมสิทธิ์ของเขาโดยชอบธรรมอยู่วันยังค่ำ แต่ในเมื่อคุณย่ายื่นคำขาดมาทำนองนี้ เขาก็ต้องเล่นตามน้ำไปก่อน
“โอเคครับ คุณย่า ภายในสามเดือนนี้ ผมรับรองว่าคุณย่าจะได้เห็นหน้าหลานสะใภ้อย่างแน่นอน” แอรอนเอ่ยปากรับคำอย่างแข็งขันเพื่อเป็นการตัดบท ก่อนที่คุณนายอลิเซียจะต่อความยาวสาวความยืดไปมากกว่านั้น รับคำส่งเดชไปก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง
หลังจากรับปากตกลงกับคุณย่าสุดที่รักเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เจ้าของร่างทรงพลังก็เดินกระแทกส้นเท้ามาตามทางเชื่อมเข้าสู่เพนต์เฮาส์หลังงาม ซึ่งตั้งโดดเด่นอยู่ภายในอาณาบริเวณเดียวกันกับคฤหาสน์มอร์แกน ก่อนจะสาวเท้ามั่นคงตรงดิ่งไปยังห้องทำงานที่อยู่ติดกับห้องนอนใหญ่บนชั้นสาม
แอรอนทรุดตัวลงนั่งที่โต๊ะทำงาน พร้อมพ่นลมหายใจร้อนๆ ออกมาอย่างยาวเหยียด ที่เขาต้องออกแบบและสร้างเพนต์เฮาส์หลังนี้ขึ้นมาตั้งแต่สมัยเรียนจบใหม่ๆ ก็เพราะว่าต้องการความเป็นส่วนตัว ซึ่งคุณย่าของเขาก็เคารพในการตัดสินใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องนี้หรือเรื่องไหนๆ ถ้าไม่นับรวมถึงเรื่องที่ท่านเคยเปรยเอาไว้ว่าอยากเห็นหน้าเหลนเมื่อสามปีก่อน นางอลิเซียก็ไม่เคยเข้ามายุ่งวุ่นวายกับชีวิตเขาเลยสักครั้ง จวบจนกระทั่งวันนี้อยู่ดีๆ ท่านก็ยกเอาเรื่องมรดกขึ้นมาพูด โดยพ่วงเข้ากับเรื่องการแต่งงาน ซึ่งนั่นก็หมายความว่าเขาจะต้องหาผู้หญิงสักคนมาทำเมีย และอาจหมายรวมไปถึงการทำเหลน เพื่อให้มรดกไม่ไปตกอยู่ในมือของลูกเมียน้อยอย่างไอ้ริชาร์ด และมันก็จะทำให้เขารอดพ้นจากการจับแต่งงานกับฮันนี่ โดโนแวย์ ไปโดยปริยาย แต่ผู้หญิงดีๆ สมัยนี้มันหาง่ายเสียเมื่อไรกันล่ะ คิดแล้วก็กลุ้มนักเชียว
“เฮ้อ…ฉันควรทำอย่างไรดีนะ แม่กวางน้อย” หยิบปิ่นปักผมในลิ้นชักขึ้นมามอง แล้วรำพันกับตัวเองเบาๆ ใบหน้าคร้ามคมมีร่องรอยของความหนักใจกับคำสั่งประกาศิตอยู่เต็มเปี่ยม
“ถ้าได้เจอเธออีกสักครั้งก็คงดีสินะ จะจับมาทำเมียเสียให้เข็ด” ชั่วพริบตาเขาก็พูดคนเดียวด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ไม่น่าเชื่อว่าเพียงแค่คิดถึงเธอ จะทำให้เพลย์บอยที่ไม่เคยขาดแคลนผู้หญิงอย่างแอรอน มอร์แกน สามารถสลัดความกลัดกลุ้ม แล้วแปรเปลี่ยนเป็นมีความสุขและกระชุ่มกระชวยได้อย่างน่าอัศจรรย์
“บ้าเอ๊ย อยู่ๆ ทำไมเราต้องคิดถึงแม่นั่นด้วยวะ” ร่างทรงพลังสะดุ้งเล็กน้อย เมื่อระลึกได้ว่าตัวเองกำลังรู้สึกหวั่นไหวกับผู้หญิงแปลกหน้าที่เคยช่วยชีวิตเธอกับลูกเอาไว้เมื่อสามปีก่อน เสียงห้าวก็สบถเตือนสติตัวเองทันที ชายหนุ่มสะบัดหัวขับไล่ความคิดฟุ้งซ่าน แล้วพยายามนึกถึงใบหน้าของสาวๆ ที่เคยควง
“ทำไมมันคิดหน้าใครไม่ออกเลยวะ” หนุ่มหล่อบ่นอุบพร้อมตีหน้ายุ่ง เพราะตอนนี้ในหัวสมองอันชาญฉลาดมีแต่หน้าแม่กวางน้อยลอยอยู่เต็มไปหมด
“แล้วเราจะไปหาใครมาเป็นเมียเฉพาะกิจล่ะเนี่ย” มือใหญ่ยกขึ้นขยี้กลุ่มผมที่จัดทรงเอาไว้อย่างดี พร้อมบ่นเบาๆด้วยความหนักใจ
หลังจากที่เริ่มคิดได้ว่าตัวเองจะต้องหาใครสักคนมารับบทเมียกำมะลอ ตามคำที่เพื่อนรักอย่างมาร์โบโล คอฟอร์ด เคยแนะนำเอาไว้เมื่อสามปีก่อน แอรอนก็โทร.ไปเรียกให้เลขาฯ ขึ้นมาพบที่ห้องทำงานทันที
ไม่ถึงสิบนาทีเสียงเคาะประตูของลูกน้องคนสนิทก็ดังขึ้น หลังน้ำเสียงทรงพลังเอ่ยอนุญาตออกไป ร่างสูงใหญ่ของร็อบก็ก้าวเข้ามาภายใน
“นายเรียกผม มีอะไรหรือเปล่าครับ” เมื่อมายืนกุมมือสงบนิ่งอยู่ที่หน้าโต๊ะทำงานของผู้เป็นเจ้านาย ร็อบก็เอ่ยถามไถ่ด้วยน้ำเสียงราบเรียบทันที
“เอารูปและประวัติของผู้หญิงในลิสต์มาให้ฉันดูหน่อย” ทั้งที่ผู้หญิงบางคนเขาเพิ่งนอนด้วยไปหมาดๆ แต่หัวสมองอันชาญฉลาดของพ่อยอดชายกลับจำหน้าหล่อนแทบไม่ได้เลย และแน่นอนว่าชื่อเสียงเรียงนามก็ไม่ต่างจากอากาศธาตุด้วยเช่นกัน
ในเมื่อยังคิดหาทางออกที่ดีกว่านี้ไม่ได้ แอรอนถึงต้องใช้วิธีนี้ไปก่อน ถ้าผู้หญิงคนใดคนหนึ่งมีคุณสมบัติเข้าข่าย บางทีเขาก็อาจจะจ้างให้หล่อนมาเล่นละครตบตาคุณย่า โดยการรับบทเมียตีทะเบียน เมื่อมรดกตกเป็นของเขาแล้วก็จัดการหย่าขาดจากหล่อนซะ แค่นี้เรื่องก็จบ
“ทั้งหมดเลยไหมครับนาย?” ร็อบทำหน้าแปลกใจ เพราะเจ้านายของเขาไม่เคยจะสนใจไยดีผู้หญิงที่เรียกใช้งานเลยสักครั้ง
“เฉพาะคนที่เคยขึ้นเตียงกับฉันก็พอ” เจ้าพ่อหนุ่มสั่งเสียงห้าวห้วน ก่อนจะกระแทกลมหายใจออกมาด้วยความหงุดหงิดระคนเบื่อหน่าย สาเหตุที่แอรอนต้องเลือกผู้หญิงที่ตัวเองเคยมีสัมพันธ์สวาทด้วย เพราะไม่ต้องการให้ผู้หญิงที่เหลือในรายชื่ออีกเป็นจำนวนมากเข้ามาพัวพันให้ชีวิตของเขามันอีนุงตุงนังหนักไปกว่าเดิม
“พรุ่งนี้เช้าทุกอย่างจะอยู่ที่โต๊ะทำงานของเจ้านายแน่นอนครับ” เลขาฯ มากประสิทธิภาพรับปากอย่างแข็งขัน งานแค่นี้ไม่คณามือของเขาอยู่แล้ว
“งั้นแกก็ไปพักผ่อนเถอะ ไม่มีอะไรแล้วล่ะ” โบกมือใหญ่ไล่ลูกน้อง พลางเก็บปิ่นปักผมของแม่กวางน้อยไว้ในลิ้นชักดังเดิม ก่อนที่แอรอนจะก้าวขาออกไปจากประตูบานเดียวกับที่ร็อบเพิ่งก้าวออกไปเมื่อสักครู่
ติ๊ด…ติ๊ด…ติ๊ด
เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นทำให้นายเจนภพ อริยโภคทรัพย์ หลุดออกจากภวังค์ความคิดหมกมุ่นของตัวเอง ก่อนจะคว้าโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานมากดรับสาย
“ว่าไง ได้เรื่องแล้วหรือยัง” ภาษาสวีเดนที่หลุดออกมาจากริมฝีปากบางเฉียบดูเครียดเขม็ง เพราะกำลังกลัดกลุ้มกับเรื่องที่ให้ลูกน้องจัดการมาตลอดระยะเวลาห้าปี งานง่ายๆ ก็แค่เก็บมัลลิกากับแดนไทย แต่พวกมันก็พลาดอยู่ร่ำไป ค่าจ้างเขาก็ทุ่มไม่อั้น ทว่าโชคดันเข้าข้างสองแม่ลูกเสียทุกครั้ง
“เรารู้ที่อยู่ของสองแม่ลูกแล้วครับ” เสียงเข้มรายงานมาตามสาย หลังจากตามสืบอยู่นานเขาถึงได้รู้ที่อยู่ของคนที่เจ้านายต้องการเอาชีวิต เพราะสองแม่ลูกย้ายบ้านบ่อยเสียจนคนที่เขาจ้างให้ไปสืบจับต้นชนปลายไม่ถูก
“ดี ให้คนจัดการมันซะ ฆ่านังมัลลิกาไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แต่ต้องฆ่าลูกมันให้ได้ ฉันต้องการให้ไอ้เด็กเวรนั่นตายให้เร็วที่สุด เข้าใจไหม” แสยะยิ้มเหี้ยมพร้อมสั่งด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด
“ครับนาย”
“บอกคนที่แกจ้างด้วยล่ะว่ามันมีโอกาสแค่สามครั้งเท่านั้น” ก่อนจะวางสายไม่ลืมกำชับอีกฝ่ายด้วยเสียงเข้ม เพราะเจนภพไม่ได้ให้คนของตัวเองลงมือ ด้วยเกรงว่าจะสาวมาถึงตัวหากพลาดพลั้งโดนตำรวจจับ จึงให้ลูกน้องจ้างคนที่สวีเดนเป็นผู้ลงมือ ซึ่งถ้างานพลาดพวกมันก็จะไม่มีเงาหัวด้วยฝีมือลูกน้องของเขาอีกที
“ถ้ารู้ว่าแกจะมีมารหัวขนมาเป็นตัวขัดขวางการได้ครอบครองมรดกของฉันล่ะก็ ฉันคงไม่ทำให้แกแค่โดนไอ้เจนสิทธิ์ไล่ออกจากบ้านหรอก นังมาลินี แต่ฉันจะฆ่าแกตั้งแต่ที่แกระเห็จออกจากบ้านแล้ว เรื่องมันจะได้จบๆ และฉันก็จะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปตามเก็บลูกชายของแกอยู่แบบนี้” หลังจากวางสาย เจนภพก็เข่นเขี้ยวอยู่คนเดียวด้วยความเจ็บใจที่ตัวเองตัดสินใจพลาดอย่างมหันต์
“พ่อก็เหมือนกัน ขนาดตายไปแล้วยังไม่วายสร้างความยุ่งยากให้กับฉัน เป็นไงล่ะรักมันมากนักไอ้เจนสิทธิ์ ฉันก็เลยส่งมันไปลงนรกรอพ่อ แต่ตอนนี้พ่อก็คงได้เจอกับมันแล้วสินะ” ยิ่งกล่าวถึงบิดา เจนภพก็ยิ่งเดือดดาล เพราะหากอีกฝ่ายไม่ระบุไว้ในพินัยกรรมว่าให้มรดกส่วนของเจนสิทธิ์ตกเป็นของทายาท ป่านนี้เขาก็คงจะได้มันมาครอบครอง และมรดกนับพันล้านก็อาจจะตกเป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียวหากเขาสามารถเกลี้ยกล่อมให้น้องสาวหัวอ่อนอย่างเจนสุดา อริยโภคทรัพย์ ยอมทำเรื่องสละมรดกได้
หลังจากที่เสียลูกชายคนเล็กไปอย่างกะทันหัน นายเจน อริยโภคทรัพย์ ประมุขใหญ่ของตระกูลอริยโภคทรัพย์ก็เกิดอาการล้มป่วยเพราะตรอมใจ ยิ่งรักษากลับยิ่งทรุดหนักอย่างน่าประหลาด ฉะนั้นก่อนที่เขาจะสิ้นลมหายใจจึงสั่งให้คนไปตามสืบเรื่องของมาลินี จนได้รู้ว่าเธอได้ให้กำเนิดทายาทของอริยโภคทรัพย์ นายเจนจึงเขียนพินัยกรรมขึ้นโดยยกทรัพย์สมบัติในส่วนที่ลูกชายคนเล็กควรจะได้รับให้ทายาทของเจนสิทธิ์กับมาลินีเป็นผู้รับแทน และระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ไม่ว่าเด็กน้อยจะใช้นามสกุลอริยโภคทรัพย์หรือไม่ก็ตาม ขอเพียงพิสูจน์ได้ว่าเขาเป็นลูกของเจนสิทธิ์กับมาลินีจริงๆ มรดกก็จะตกเป็นของเขาอย่างชอบธรรมโดยทันที