บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 6 - เผลอน้อยใจ

กินข้าวเสร็จ ธีร์ก็ขับรถไปส่งพรีมที่มหาวิทยาลัยตามคำสั่งของผู้เป็นแม่ มีคู่หมั้นก็เหมือนมีเมีย จะขัดใจแม่ของเขาก็ไม่ได้อีก

“เลิกเรียนกี่โมง” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นก่อนที่คนที่นั่งข้างๆ จะเปิดประตูลงจากรถ

“ถามทำไมเหรอคะ จะมารับพรีมเหรอ”

“พี่เป็นคนมาส่ง เลิกเรียนก็ต้องมารับสิ หรือว่าเธอจะกลับกับใคร”

“เปล่าค่ะ นึกว่าพี่จะติดงาน พรีมว่าจะกลับพร้อมนิวเยียร์ แต่ถ้าพี่จะมารับก็ได้ค่ะ เลิกเรียนแล้วจะโทรไปบอกนะคะ”

พรีมเอ่ยพลางหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋าตีเนียนขอเบอร์คนตรงหน้า ธีร์ขมวดคิ้วเข้มเล็กน้อยแต่ก็ยินยอมบอกเบอร์ของตนไปแต่โดยดี

พรีมระบายยิ้มชอบใจรีบกดเบอร์โทรตามที่อีกฝ่ายบอกแล้วบันทึกลงในโทรศัพท์ และทันทีที่เบอร์ถูกบันทึกไลน์ของธีร์ก็เด้งขึ้นมา พรีมจึงรีบกดเพิ่มเพื่อนไปทันที

“แอดไลน์ไปแล้วนะคะ ในรูปกับตัวจริงนี่หล่อไม่ต่างกันเลย” เมื่อถือวิสาสะแอดไลน์เขาไป พรีมจึงเอ่ยปากชมคนข้างๆ ไปหนึ่งประโยคด้วยน้ำเสียงอ้อนๆ

ส่วนอีกคนเหมือนจะกระตุกยิ้มให้เห็นเล็กน้อยแล้วกลับไปทำหน้านิ่งไม่ได้ต่อว่าอะไร เธอก็จะถือว่าเขาเต็มใจให้ก็แล้วกัน

“ไปก่อนนะคะพี่ธีร์”

“อืม”

พรีมก้าวขาลงจากรถก็โบกมือลาคนที่มาส่ง ก่อนจะเดินเข้าไปหาเพื่อนรักที่มาถึงก่อนหน้า

“ไงจ๊ะแม่เพื่อนรัก คู่หมั้นสุดหล่อของแกมาส่งเหรอ”

“อื้ม”

“นอนด้วยกันแค่คืนเดียวกลายเป็นพ่อหนุ่มมีน้ำใจขนาดนี้เลย ว่าแต่แกไปทำอีท่าไหนถึงทำให้พี่ธีร์เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือแบบนี้ได้ล่ะ ไหนบอกฉันมาซิ”

นิวเยียร์เห็นว่าธีร์เปลี่ยนจากคนเย็นชาที่ไม่เห็นพรีมอยู่ในสายตา กลายเป็นคนเอาใจใส่มาส่งสาวคู่หมั้นถึงมหาวิทยาลัยได้แบบนี้ มันน่าสงสัย

“แล้วแกคิดว่าฉันทำยังไงล่ะ” พรีมถามกลับ

“อย่าบอกนะว่าเมื่อคืนแกกับพี่ธีร์…”

“...” พรีมกระตุกยิ้มชวนให้นิวเยียร์คิดไปไกล

“กรี๊ด… แรงมาก นี่แกกับพี่ธีร์มีอะไรกันแล้วเหรอ”

“นี่ยัยปีเก่า ในหัวของแกนี่มันมีแต่เรื่องสิบแปดบวกหรือไงกัน คิดได้นะว่าพวกเราจะมีอะไรกัน แค่พูดยังนับคำได้เลย” พรีมรีบตัดบทเพื่อนรัก ไม่รู้ว่าคิดได้ยังไงว่าเธอมีอะไรกับหนุ่มคู่หมั้นที่เพิ่งจะรู้จักกันและนอนด้วยกันแค่คืนเดียว

“ฉันชื่อนิวเยียร์ที่แปลว่าปีใหม่ยะ”

“จะปีเก่าปีใหม่ก็เหมือนกันนั่นแหละ แล้วเรื่องคลิปที่แกส่งมาให้ฉันเมื่อวานอีกนะ แกรู้ไหมว่าพี่ธีร์ว่าให้ฉันยังไง”

“แล้วฉันจะรู้ไหมล่ะจ๊ะ” นิวเยียร์ไม่ได้ไปนอนอยู่ในห้องเดียวกันกับสองคนนั้นเสียหน่อย จะรู้ได้อย่างไรว่าผู้ชายของเพื่อนจะพูดกับพรีมว่าอย่างไร

“พี่ธีร์หาว่าฉันเป็นเด็กแก่แดดก็เพราะคลิปบ้าๆ ของแกนั่นแหละ”

“นี่แกไม่ได้ลดเสียงโทรศัพท์เหรอ หรือว่าเปิดดูด้วยกัน” นิวเยียร์มีสีหน้าตกใจ แต่ก็หลุดขำออกมาเบาๆ เธอก็อุตส่าห์เตือนแล้วว่าห้ามเปิดเสียงดังแต่พรีมก็ไม่ทำตามที่บอกเอง

“ฉันเปิดดูคนเดียว แต่เสียงมันดังไปถึงโซฟาที่พี่ธีร์นั่งนู้น”

“แล้วทำไมแกไม่เปิดคลิปให้พี่ธีร์ของแกดูไปเลยล่ะ ว่ามันไม่ได้สิบแปดบวกอย่างที่เขาคิด แต่ถ้าจะเข้าใจผิดก็ช่วยไม่ได้นะ” นิวเยียร์ยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ แต่เสียงมันก็… อืม… น่าคิดอยู่นะสำหรับคนที่ไม่เห็นภาพ

“ช่างเถอะ โตจนป่านนี้แล้วใช่ว่าจะไม่เคยดู” พรีมก็ไม่แคร์เหมือนกัน อายุเลขสามแล้วมันก็ต้องเคยผ่านตามาบ้างล่ะกับคลิปอย่างว่า

หลังจากเลิกเรียนพรีมก็กดโทรออกไปหาหนุ่มคู่หมั้นสุดหล่อ แต่เขาก็ตัดสายทิ้งทั้งสองครั้งที่เธอโทรเข้าไป พรีมจึงพิมพ์ข้อความส่งไปแทน

……….

Noo’ Preme : พรีมเลิกเรียนแล้วนะคะพี่ธีร์

……….

ข้อความที่ถูกส่งออกไปมีการเปิดอ่านทันทีแต่ไม่มีการตอบกลับมา พรีมนึกในใจว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ ทำไมมีเวลาอ่าน แต่ไม่มีเวลาพิมพ์ตอบหรือรับสายของเธอเลย

……….

Noo’ Preme : พรีมรออยู่หน้ามหา’ ลัยนะคะ

……….

พรีมนั่งรออยู่ที่ป้ายรถเมล์เป็นเวลานานราวกับคนน้อยใจ นี่เขางานยุ่งจนไม่มีเวลา หรือว่าลืมไปแล้วกันแน่ว่ารับปากว่าจะมารับเธอที่มหาวิทยาลัย

เวลาผ่านไปสามสิบนาที รถหรูสีดำก็ขับมาจอดด้านหน้าที่พรีมนั่งอยู่ และชายหนุ่มที่สวมชุดสูตสีดำ เสื้อเชิ้ตข้างในสีขาวเปิดประตูลงจากรถแล้วก้าวมาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ

“คุณพรีมใช่ไหมครับ”

“ค่ะ คุณคือ…” พรีมเงยหน้าขึ้นมองคนตัวสูง เธอจำหน้าได้ว่าเขาคือคนที่เคยเจอในห้างสรรพสินค้า

“ผมพิรัชย์ เป็นเลขาของคุณธีร์ครับ” ชายคนดังกล่าวแนะนำตัวก่อนจะพูดต่อ “คุณธีร์ให้ผมมารับครับ”

“แล้วพี่ธีร์ไปไหนเหรอคะ”

“คุณธีร์ติดประชุมกับลูกค้าอยู่ครับ”

“แล้วทำไมคุณถึงไม่ได้เข้าประชุมด้วยล่ะคะ”

พอฉุกคิดขึ้นได้พรีมก็รีบยกมือขึ้นปิดปาก ไม่คิดว่าเธอจะกล้าถามอะไรที่มันละลาบละล้วงมากจนเกินไป คงเป็นเพราะนั่งรอนาน บวกกับความคิดที่ว่าธีร์คงจะลืมมารับ จึงทำให้เธอเผลอแสดงกิริยาที่ไม่ดีออกไป

“ขอโทษค่ะ”

“ไม่เป็นไรครับ ที่จริงก่อนหน้านี้ผมก็เข้าร่วมประชุมพร้อมกับคุณธีร์ แต่พอคุณส่งข้อความเข้าไปคุณธีร์ก็บอกให้ผมออกจากการประชุมแล้วให้รีบมารับคุณพรีมเพราะกลัวว่าจะรอนาน”

พอได้ฟังคำตอบจากปากของพิรัชย์ พรีมก็คลี่ยิ้มจนหุบไม่ลง ไม่คิดว่าอีตาคู่หมั้นสุดหล่อจะนึกเป็นห่วงเธอด้วย

“เราไปกันเถอะค่ะ”

“ครับ” พิรัชย์ตอบรับพร้อมกับเปิดประตูเพื่อให้นายหญิงเข้าไปนั่งในรถ

“พรีมขอนั่งหน้านะคะ” พรีมรู้สึกว่าเป็นการเอาเปรียบพิรัชย์มากเกินไป แค่เขามารับเธอก็เกรงใจมากแล้ว ถ้าไปนั่งเบาะหลังราวกับเป็นเจ้านายขนาดนั้น มันก็ยังไงๆ อยู่

“ก็ได้ครับ” พิรัชย์ตอบรับก็ปิดประตูด้านหลัง ส่วนพรีมก็เปิดประตูเข้าไปนั่งในรถเอง

“พรีมขอเรียกว่าพี่พิรัชย์ได้ไหมคะ” พรีมหันไปถามคนที่เพิ่งเข้ามานั่งประจำที่ฝั่งคนขับ

“จะดีเหรอครับ” พิรัชย์เกรงว่าถ้าเจ้านายของเขาได้ยินคู่หมั้นสาวเรียกเขาราวกับสนิทกันแบบนี้จะรู้สึกเคืองเอา

“ดีสิคะ ยังไงก็คนกันเองทั้งนั้น เรียกพี่จะได้ไม่รู้สึกอึดอัด”

“เอ่อ…”

พิรัชย์ยังคงอ้ำอึ้ง ก่อนจะเอ่ยตอบ “เอางั้นก็ได้ครับ”

“แล้วนี่พี่ธีร์ให้ไปส่งพรีมที่บ้านเลยไหมคะ” พรีมถามคนที่กำลังขับรถอยู่

“เปล่าครับ คุณธีร์ให้พาไปที่บริษัท” พิรัชย์ตอบตามคำสั่งที่ได้รับมา

รถหรูเคลื่อนเข้าไปจอดที่โรงจอดรถของ CEO ทั้งพรีมและพิรัชย์ก็เปิดประตูลงจากรถไปพร้อมกัน พรีมเดินตามเลขาหนุ่มเข้าไปในตึกเพื่อขึ้นไปหาคู่หมั้นหนุ่มสุดหล่อที่อยู่ด้านบน ไม่รู้ว่าตอนนี้จะประชุมเสร็จหรือยัง

“พี่ธีร์ทำงานห้องนี้เหรอคะ” พรีมหันไปถามเลขาหนุ่มขณะที่ทั้งสองเดินมาหยุดอยู่หน้าห้องทำงานที่ใหญ่ที่สุด และอยู่ชั้นบนสุดของตึกแห่งนี้

“ครับ คุณพรีมเข้าไปนั่งรอข้างในก่อนนะครับ ผมขอตัวไปหาคุณธีร์ที่ห้องประชุมก่อน”

“ค่ะ ขอบคุณที่ไปรับนะคะพี่พิรัชย์”

พิรัชย์ยกยิ้มพยักหน้าให้ก็เดินออกไป ส่วนเธอก็เข้าไปนั่งรอตรงโซฟาที่อยู่ภายในห้องทำงานของคู่หมั้นหนุ่ม

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel