บทที่ 1
"คุณครับ ตื่นได้แล้วครับ เรามาถึงแล้ว"
เสียงพ่อบ้านวัยชราที่โดนสั่งให้ไปรับเธอที่สนามบินเอ่ยขึ้น หลังจากที่รถตู้สีดำคันใหญ่แล่นเข้ามาจอดอยู่เบื้องหน้าคฤหาสน์ของตระกูลอัลมารีน ตระกูลเศรษฐีลำดับต้นๆ ของประเทศ ที่ยิ่งใหญ่สมราคาคุย จนคฤหาสน์ของเธอที่เมืองไทยดูเล็กไปเลยเมื่อเทียบกับคฤหาสน์หลังนี้
"แล้วเขาอยู่หรือเปล่าคะ ?"
"เขาไหนครับ ?"
"คุณเจเคน่ะค่ะ ไม่อยู่หรอคะ ?" พลอยฝนถาม เมื่อเห็นว่าภายในบ้านเงียบสนิท ไม่มีคนใช้เดินไปมาเหมือนสมัยที่ครอบครัวของเธอมั่งมี
"คุณเจเคไปหาคุณย่าที่นอกเมืองครับ เย็นๆ คงจะกลับ" พ่อบ้านวัยกลางคนตอบ ก่อนจะคร่อมศีรษะเพื่อเชื้อเชิญให้เธอเข้าไปข้างใน
"แล้ว... ที่นี่มีคนใช้กี่คนคะ ทำไมถึงได้เงียบขนาดนี้"
"ห้าคนครับ ถ้ารวมผมด้วยก็หกคน"
คิ้วเรียวสวยของหญิงสาวขมวดมุ่นเข้าหากันเมื่อได้ยินคำตอบ
"คฤหาสน์หลังใหญ่ขนาดนี้ มีคนใช้หกคนไม่ทำงานกันเหนื่อยแย่หรอคะ ?" เธอถามขึ้น เพราะตอนที่สถานะของครอบครัวย่ำแย่ลง เธอต้องเป็นคนลงมือทำความสะอาดบ้านเอง จึงได้รับรู้ถึงความเหน็ดเหนื่อยนั่น
"ไม่หรอกครับ ปกติคุณเจเคจะจ้างคนมาทำความสะอาดบ้านอาทิตย์ละครั้ง ส่วนบรรดาคนใช้ก็แค่ปัดกวาดทั่วไป ซักผ้า แล้วก็ทำอาหารเท่านั้น"
"อ่อ... ถ้าแบบนั้นก็ดีสิคะ ขืนทำความสะอาดทั้งคฤหาสน์นี่คงได้เป็นลมกลางอากาศแหงๆ"
พลอยฝนบอกกลั้วหัวเราะ แล้วทำท่าจะลากกระเป๋าของเธอเข้าไปภายในบ้านด้วยตัวเอง แต่พ่อบ้านวัยกลางคนกลับร้องห้ามไว้ แล้วเรียกสาวใช้ให้เอากระเป๋าขึ้นไปเก็บให้เธอแทน
"คุณพลอยฝนยังไม่ได้ทานข้าวกลางวัน ผมว่าคุณควรทานอาหารก่อนดีกว่า เดี๋ยวจะเป็นลมเป็นแล้งไปซะก่อน"
"ขอบคุณค่ะ" หญิงสาวเอ่ยขอบคุณพ่อบ้านวัยชราด้วยความซาบซึ้ง ก่อนจะเดินตามเขาไปยังห้องอาหาร
แต่ทันทีที่เดินเข้ามาภายในห้องอาหารที่ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สุดหรู หญิงสาวก็ยิ่งงุนงงหนัก เมื่อเห็นว่ามีเก้าอี้เพียงตัวเดียวอยู่ที่หัวมุมโต๊ะ ทั้งที่โต๊ะนี้ออกจะกว้างขวาง จนสามารถนั่งรับประทานอาหารร่วมกันได้ถึงสิบสองคนด้วยซ้ำ
"ทำไมมีเก้าอี้ตัวเดียวล่ะคะ ?"
"อ่อ คุณเจเครับประทานอาหารคนเดียวน่ะครับ ไม่เคยพาแขกมาที่บ้าน ก็เลยสั่งให้เก็บเก้าอี้ตัวอื่นๆไป" พ่อบ้านอธิบาย ก่อนจะโบกมือคล้ายกับออกคำสั่งให้แม่บ้านนำเก้าอี้อีกตัวมาเพิ่ม
"แล้วแบบนี้เขาไม่หงุดหงิดหรอคะ ถ้าจะมีเก้าอี้อีกตัวมาวาง"
"พูดอะไรแบบนั้น คุณพลอยฝนคือว่าที่ภรรยาของคุณเจเคนะครับ" พ่อบ้านวัยชราพูดขึ้น แล้วฉีกยิ้มกว้าง ทว่าคนที่กำลังจะกลายเป็นเจ้าสาวกลับทำสีหน้าบอกบุญไม่รับสุดๆ
หึ! จะให้เธอยิ้มหน้าบานเป็นกระด้งหรือไง ไม่ได้อยากแต่งงานกับเขาเสียหน่อย
"อ้อ! ผมได้ข่าวว่าคุณพลอยฝนอยากเรียนต่อปริญญาโท แต่ที่บ้านมีปัญหาก็เลยต้องพับโครงการนั้นไป"
"เอ่อ... ค่ะ แม่หนูเล่าให้คุณฟังหรอคะ ?" หญิงสาวถามขึ้นอย่างสงสัย เพราะไม่คิดว่าแม่ของเธอจะเล่าเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ให้คนนอกฟัง
"เปล่าหรอกครับ คุณเจเคต่างหากที่สั่งผมไปติดต่อกับทางมหาวิทยาลัยให้คุณ" พ่อบ้านเฉลยพร้อมรอยยิ้ม แต่คนฟังกลับถามย้ำอย่างไม่เชื่อหู
"อะไรนะคะ !?"
"คุณเจเคน่ะครับ"
"ความจริงหนูไม่เรียนต่อแล้วก็ได้นะคะ หนูมาที่นี่เพราะต้องทำงานใช้หนี้ตามที่เขายื่นข้อเสนอให้แม่ หมดเมื่อไหร่จะได้กลับบ้านสักที ขืนเรียนต่อหนี้จะไม่ยิ่งเพิ่มหรอคะเนี่ย" คนรู้ค่าของเงินรีบบอกหน้าเครียด
"ไม่หรอกครับ คุณพลอยฝนเรียนต่อน่ะดีแล้ว จะได้ไปช่วยงานที่คุณเจเค"
"จริงด้วยค่ะ ถ้าหนูช่วยงานเขาได้หลายๆอย่างหนี้ก็ต้องหมดเร็วขึ้น แล้วหนูก็จะได้กลับบ้านสักที" พลอยฝนบอกอย่างอารมณ์ดี แต่ก็ต้องสลดลงเมื่อเสียงหนึ่งดังขัดขึ้น
"ใครอนุญาติให้เธอกลับ!"
"อ้าว... กลับมาแล้วหรอครับคุณเจเค" พ่อบ้านวัยชราหันไปทักชายหนุ่มร่างสูงที่พึ่งเดินเข้ามาภายในห้องอาหาร
"คิดว่าหนี้ร้อยล้านมันจะใช้หมดง่ายขนาดนั้นเลยหรือไง ?"
ร่างสูงถามหญิงสาวตรงหน้า โดยไม่ได้สนใจคำทักทายของพ่อบ้านวัยชรา จนคนแก่ที่เริ่มไม่มีบทบาทต้องเป็นฝ่ายหลบหลีกออกไปจากห้องอาหารแทน
"แต่คุณบอกว่าถ้าฉันยอมจดทะเบียน แล้วเข้าพิธีแต่งงานกับคุณ คุณจะยกหนี้ให้แม่ฉันยี่สิบล้าน" หญิงสาวรีบแย้ง เพราะเธออยากให้จำนวนหนี้ลดลง
"แล้วไง ? แม่คุณยืมเงินผมนะ ดอกเบี้ยมันต้องขึ้นเป็นธรรมดาอยู่แล้ว นอกจากคุณจะหาเงินแปดสิบล้านมาใช้ผมตอนนี้ มีปัญญาหาไหมล่ะ" เจเคเอ่ยขึ้นอย่างท้าทาย แล้วมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยสายตาเย้ยหยัน
ดวงตาคู่คมกวาดมองเรือนร่างบางระหงตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างชื่นชม แต่ไม่ได้มีความพิศสวาทเจือปนอยู่ในความรู้สึก เพราะเขาเคยเจอผู้หญิงหน้าตาสะสวยมามาก และทุกคนก็ล้วนเข้าหาเขาเพราะเงิน!
"ถ้าอย่างนั้นก็บอกมาสิคะ ว่าฉันต้องทำอะไรบ้าง ถึงจะใช้หนี้แปดสิบล้านนั่นหมดเร็วๆ" พลอยฝนถามขึ้นอย่างใจเย็น เพราะอย่างไรเขาก็เป็นเจ้าหนี้ เธอไม่ควรจะต่อปากต่อคำให้เสียเวลา
"หน้าที่เมียมีอะไรบ้างก็ทำๆไปสิ"
คำตอบของเขาทำเอาคนฟังชะงักค้าง เพราะในหัวเธอดันพาลไปนึกถึงเรื่องบนเตียง ที่มันถูกนับรวมเป็นหน้าที่เมียในความคิดของเธอด้วยนี่สิ
กรี๊ดด!