2
“คุณแม่ของน้องกิตล่ะคะ ไม่เห็นเลย” ประโยคของหญิงสาวทำให้กิตถึงกับหน้าม่อย นั่นจึงทำให้เธอกะพริบตาปริบๆ มองเด็กน้อยแล้วรู้สึกว่าตัวเองพูดอะไรผิดไปหรือเปล่า
“ผมอยู่กับน้องกิตสองคนครับ” ประโยคของภีมพัฒน์ทำให้หนึ่งฤทัยเริ่มเข้าใจ
“ขอโทษนะคะไม่ได้ตั้งใจจริงๆ”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ”
“ผมอยากได้พี่หนึ่งเป็นคุณแม่จัง” จู่ๆ เด็กน้อยก็พูดทะลุกลางป้องออกมา ทำเอาหนึ่งฤทัยที่ไม่ได้ตั้งตัวถึงกับอ้าปากค้าง
“ไม่เอาครับน้องกิต ไม่พูดแบบนั้นนะครับ”
“น้องกิตขอโทษครับ แต่น้องกิตอยากมีคุณแม่เหมือนคนอื่นบ้าง” คนพูดกอดคอหนาของบิดาอย่างออดอ้อน ทำหน้าม่อยเช่นเดิม นั่นทำให้หนึ่งฤทัยรู้สึกเอ็นดูและสงสารอยู่ไม่น้อย เธอไม่ได้รู้สึกโกรธเด็กน้อยเลยสักนิด
“คุณยายกำลังเตรียมอาหารน่ะค่ะ กลิ่นหอมเชียว หนึ่งออกมาเดินเล่นคงต้องไปช่วยคุณยายทำอาหารแล้วค่ะ” เธอพูดแล้วยิ้มให้เขา
“หอมจังเลยครับ” เด็กน้อยยังไม่อยากจากหนึ่งฤทัยไปเลยรีบพูดขึ้น
“วันนี้พี่หนึ่งทำอาหารเยอะแยะเลย มากินด้วยกันไหมคะ” ด้วยว่าสงสารสายตาเศร้าๆ ปนออดอ้อนนั้นทำให้เธอจำต้องเอ่ยปากชวน
“กินได้เหรอครับ” น้ำเสียงและท่าทีตื่นเต้นของเด็กน้อยทำให้หนึ่งฤทัยยิ้มเอ็นดูส่งไปให้
“กินได้สิครับ”
“ไม่รบกวนพี่หนึ่งสิครับ” ภีมรีบปรามเอาไว้
“รบกวนเหรอครับ” เด็กน้อยเอ่ยถามเสียงเศร้าอีกเช่นเคย
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณภีม เราเป็นเพื่อนบ้านกัน หนึ่งขอเชิญคุณภีมกับน้องกิตมารับประทานอาหารเย็นด้วยกันนะคะ จะได้ทำความรู้จักกับคุณยายด้วย คุณยายของหนึ่งใจดีค่ะ ท่านชอบทำอาหารด้วยค่ะ” เธอยิ้มกว้างให้เขา รอยยิ้มสดใสและจริงใจของเธอทำให้ภีมพัฒน์ต้องเดินตามเข้าไปในบ้าน
“คุณยายขา วันนี้หนึ่งชวนเพื่อนบ้านของเรามากินข้าวด้วยนะคะ” ประโยคของหนึ่งฤทัยทำให้คุณยายสูงวัยท่าทางใจดีเดินออกมาจากห้องครัว ท่านดูกระฉับกระเฉงและยิ้มง่ายเหมือนหลานสาวคนเดียว
“ยินดีมากจ้ะ” คุณยายพูดด้วยรอยยิ้ม
“สวัสดีครับ” สองพูดลูกพูดพร้อมกันก่อนจะยกมือไหว้หญิงชรา
“ไหว้พระเถอะจ้ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะ”
“นี่คุณภีมพัฒน์ค่ะคุณยาย ส่วนนี่น้องกิตลูกของคุณภีมพัฒน์น่ะค่ะ” หนึ่งฤทัยถือโอกาสแนะนำให้คุณยายได้รู้จักสองพ่อลูก
“ได้ทำความรู้จักกันแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน อยู่บ้านใกล้เรือนเคียงกันจะได้ช่วยเหลือกันและกัน บ้านของเรามีแต่ผู้หญิงน่ะจ้ะ”
“มีปัญหาอะไร หรืออยากให้ผมช่วยเหลืออะไรก็บอกผมได้เลยนะครับไม่ต้องเกรงใจ ถือว่าผมเหมือนญาติคนหนึ่งก็ได้” ภีมพัฒน์คิดว่าเขาคงต้องมาเป็นแขกประจำบ้านของสองยายหลานบ่อยๆ เสียแล้ว
“งั้นตามสบายเลยนะจ๊ะ”
“ผมขอตัวพาน้องกิตกลับไปอาบน้ำอาบท่าก่อนดีกว่าครับ เดี๋ยวค่อยมาใหม่อีกรอบ” เขาเห็นว่าคุณยายกำลังวุ่นกับการทำอาหาร และมีสาวใช้คนหนึ่งช่วยเหลืออยู่ เลยเอ่ยขอตัวกลับไปอาบน้ำอาบท่าเสียก่อน คุณยายและหลานสาวจะได้ทำอาหารได้อย่างเต็มที่
“ไปเถอะจ้ะ” คุณยายเอ่ยด้วยรอยยิ้ม ภีมพัฒน์จึงอุ้มลูกชายตัวน้อยกลับบ้านไปอาบน้ำอาบท่าให้ตัวเย็นสบาย กิตนั้นตื่นเต้นดีใจที่จะได้มารับประทานอาหารเย็นกับหนึ่งฤทัย จึงกระตือรือร้นในการอาบน้ำแต่งตัวจนภีมพัฒน์สังเกตได้
ภีมพัฒน์กลับมาที่บ้านของสองยายหลานอีกครั้ง พร้อมของฝากเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพอีกชนิด
อาหารค่ำวันนั้นทำให้สองครอบครัวได้กระชับสัมพันธไมตรีกันมากยิ่งขึ้น คุณยายเองนึกนิยมชมชอบความมีสัมมาคารวะและเป็นกันเองของภีมพัฒน์อยู่มาก
ส่วนหนึ่งฤทัยนั้นเธอสนิทกับกิตอย่างรวดเร็ว หญิงสาวตักอาหารให้กิตอย่างเอาใจ ในขณะที่เด็กน้อยเอ่ยชมว่าอาหารฝีมือของคุณยายอร่อยเป็นที่สุด
“คุณพ่อน้องกิตก็ทำอาหารอร่อยมากๆ เลยครับ” ประโยคของเด็กน้อยเรียกรอยยิ้มของทุกคน ในขณะที่ภีมพัฒน์หน้าแดงเล็กน้อย
“น้องกิตชอบยอผมให้คนอื่นฟังน่ะครับ จริงๆ ผมแค่ทำอาหารได้เท่านั้นเอง” ภีมพัฒน์ถ่อมตัว
“อร่อยจริงๆ นะครับ พี่หนึ่งต้องลองชิมดู”
“งั้นวันหลังพี่คงต้องลองไปชิมแล้วละค่ะ” ประโยคของหญิงสาวทำให้ภีมพัฒน์เผลอมองสบตากับเธอ นั่นทำให้ทั้งสองรู้สึกขัดเขินอย่างไม่ทันตั้งตัว
หลังรับประทานอาหารเสร็จสิ้นหนึ่งฤทัยก็เดินมาส่งสองพ่อลูกที่หน้าบ้าน ค่ำคืนนั้นสร้างความประทับใจให้สองครอบครัวเป็นอันมาก
“คุณพ่อครับ” กิตเรียกบิดาอย่างอ้อนๆ เมื่ออีกฝ่ายขึ้นมานอนกอดเขาบนเตียงกว้างเพื่อจะเล่านิทานให้ฟังเหมือนเช่นทุกคืน
“ว่าไงครับ”
“คุณพ่อว่าพี่หนึ่งสวยไหมครับ”
“หืม... ทำไมถามพ่อแบบนั้นล่ะ” เขาก้มมองบุตรชายตัวน้อยในอ้อมแขน
“คุณพ่อตอบก่อนสิครับ”
“สวยครับ”
“น้องกิตชอบพี่หนึ่งจังเลยครับ อยากได้มาเป็นคุณแม่”
“ไม่เอาครับ ไปพูดแบบนั้นเดี๋ยวพี่หนึ่งโกรธเอา”
“โกรธทำไมครับ”
“มันไม่สมควรไงครับ”
“คุณพ่อไม่ชอบพี่หนึ่งเหรอ” คำถามของเด็กน้อยไร้เดียงสาทำให้ภีมพัฒน์เงียบไป
“ว่าไงครับ” เด็กน้อยอยากได้คำตอบว่าชอบหรือไม่ชอบ เพราะตัวเองจะได้มีลุ้น
“ชอบครับ”
“เย้!”
“ทำไมเราต้องดีใจขนาดนั้นด้วย”
“ถ้าชอบคุณพ่อก็จีบเลยนะครับ”
“แก่แดดนะเรา”
“จีบเลยๆ” เด็กน้อยยุคุณพ่อไม่หยุด กระโดดขึ้นไปทาบทับก่อนจะใช้ตุ๊กตาตัวน้อยจี้บิดาคุณพ่อผู้แสนใจดีเป็นตัวประกัน จนภีมพัฒน์ต้องยอมลูกชาย
“เขาอาจจะไม่ชอบพ่อหม้ายลูกติดก็ได้นะครับ” รับปากว่าจะจีบแต่ก็พูดประเด็นที่คิดว่าอาจจะกินแห้วให้ลูกชายได้ทำใจเอาไว้เสียตั้งแต่เนิ่นๆ
“งั้นพรุ่งนี้ผมจะไปถามให้นะครับ”
“จะดีเหรอครับ ไปถามแบบนั้นเท่ากับไปรุกเขานะครับ” ภีมพัฒน์พูดอย่างตกใจ กลัวลูกชายจะไปถามจริงๆ