1 อ้อนวอนมาเฟีย
ย้อนกลับไปเมื่ออาทิตย์ก่อน
(พี่ยูริ ตอนนี้พี่อย่าเพิ่งกลับบ้านนะ)
“ทำไม เกิดอะไรขึ้น!” เธอเอ่ยถามโรมัน น้องชายด้วยความร้อนใจ เพียงวินาทีแรกที่น้องชายบอกว่า ‘อย่าเพิ่งกลับบ้านตอนนี้’ นั่นทำให้เธอเริ่มรู้สึกเป็นห่วงคนทางบ้าน ตอนนี้เธอเลิกงานแล้ว และก็กำลังกลับบ้าน
(พวกมันมาอีกแล้ว พ่อบอกให้ผมโทรหาพี่ แล้วบอกให้พี่อย่าเพิ่งกลับบ้าน)
“ละ…แล้วตอนนี้พ่ออยู่ไหน?”
(พ่อกำลังคุยกับพวกมัน แต่วันนี้หัวหน้ามันมาด้วย น่าจะจบยากอยู่อะ)
“ตอนนี้ฉันถึงหน้าปากซอยทางเข้าบ้านแล้ว ฉันจะคุยกับพวกมันเอง”
(ห๊ะ? พี่อย่าเพิ่งเข้าบ้านนะ พ่อกลัวว่าพี่จะไม่ปลอดภัย เลยบอกให้ผมโทรหาพี่เนี่ย)
“เห็นฉันเป็นคนรักตัวกลัวตายมากรึไง ฉันก็เป็นห่วงพ่อ ห่วงแกนะโรมัน”
(แต่ว่า…)
“แค่นี้นะ ถึงบ้านแล้ว” เธอตัดสายจากน้องชาย ฝีเท้าชะลอความเร็วลงเมื่อเห็นรถหรูสีดำจอดอยู่หน้าบ้านสามคัน และมีชายชุดดำท่าทางน่ากลัวยืนมองเธออยู่นิ่งๆ แม้กลัว แต่ก็ต้องทำใจดีสู้เสือไว้ก่อน
เคร้ง!!
เสียงสิ่งของกระแทกพื้น ทำให้เธอรีบวิ่งเข้าไปในบ้านอย่างไม่คิดชีวิต ทันทีที่เข้าไปในตัวบ้าน ก็เห็นพ่อตัวเองกำลังถูกชายชุดดำรุมกระทืบ ส่วนโรมันที่พยายามเข้าไปช่วยพ่อก็โดนล็อกตัวเอาไว้
“หยุดนะ!!” เธอตะเบ็งเสียงสั่งให้พวกนั้นหยุดการกระทำป่าเถื่อน พวกเขาหยุดเมื่อได้ยินเสียงเธอ แต่ก็เริ่มตวัดเท้าเตะพ่อเธอใหม่เหมือนเดิม
นักเลงชัดๆ!
“บอกให้หยุดไง!!”
ผัวะ!
เธอจับไม้เบสบอลของน้องชายฟาดใส่กลางหลังชายชุดดำอย่างไม่กลัวตายสักนิด นาทีนี้เธอไม่สนใจอะไรแล้ว พ่อโดนรุมกระทืบต่อหน้าขนาดนี้ คงยืนมองดูอย่างเลือดเย็นไม่ได้
“ออกไปจากบ้านของฉัน!!” เธอเข้าไปยืนบังพ่อ และใช้ไม้เบสบอลเป็นอาวุธป้องกันตัว พอเหลือบมองวัตถุสีดำที่เหน็บตรงเองคนพวกนี้ หัวใจเธอก็พลอยกระตุกวูบขึ้นมา ถึงอย่างนั้นก็เถอะ พอคนเรามันจนตรอกมากๆ ก็ไม่กลัวอะไรทั้งนั้น!
“ต้องถึงขั้นทำแบบนั้นกันเลยเหรอ!” ตะโกนถามทั้งน้ำตา รับรู้ได้ทันทีว่ามือที่ถือไม้เบสบอลของตนกำลังสั่น กลัวก็จริง…แต่เธอไม่อาจทนเห็นใครมาทำร้ายพ่อเธอได้
แกร๊ก
“ถ้าไม่อยากตายยกครัว ก็วางไม้เบสบอลโง่ๆ ในมือเธอลงซะ”
น้ำเสียงเย็นเยียบจากชายคนหนึ่งดังขึ้นพร้อมกับวัตถุอันตรายที่จ่อขมับของหญิงสาวอยู่ หัวใจดวงน้อยกระตุกวูบ และพลอยเสียวสันหลังวาบกับน้ำเสียงเย็นเยียบที่ดังเข้าโสตประสาท สิ่งที่กำลังจ่อตนเองอยู่ ไม่บอกก็พอเดาได้ว่าคืออะไร
ปืน…
“ฉันจะไม่พูดพร่ำเพรื่อ ถ้าได้พูดอีกครั้ง…พ่อเธอได้ลงไปอยู่ในนรกแน่”
เธอยอมวางไม้เบสบอลในมือลง ก่อนจะค่อยๆ หันไปมองเจ้าของประโยคเลือดเย็นเมื่อกี้ และแน่นอนมันทำให้เธอช็อคมาก คาดไม่ถึงเลยว่าเจ้าหนี้ของพ่อจะเป็น…เจ้านายเธอ
“คุณมาร์ลิกซ์…”
มาเฟียหนุ่มลดปืนที่จ่อหน้ายูริลง สายตาเย็นชาปรายมองชนินทร์ ซึ่งเป็นลูกหนี้ ที่นอนไม่ได้สติอยู่พื้น เพราะโดนลูกน้องตัวเองรุมกระทืบจนมีสภาพยับเยิน จากนั้นดึงสายตากลับไปมองยูริ
“มันเป็นพ่อเธอเหรอ?”
“ใช่ค่ะ พ่อยูริเอง”
“พ่อเธอติดหนี้ฉันสองล้านเก้า แถมยังผลัดฉันมาแล้วหลายงวดไม่ยอมจ่ายสักที มีแต่อ้างนั่นอ้างนี่ ปกติฉันจะให้ลูกน้องมาทวง แต่เห็นว่ามันผลัดมาหลายงวด ฉันเลยมาทวงเอง”
“ต้องถึงขั้นทุบตีกันเลยเหรอคะ?”
“ฉันไม่ฆ่าให้ตายก็ดีแล้วเท่าไรแล้ว” มาร์ลิกซ์พูด ในขณะที่แววตาก็ไร้ความรู้สึกไปด้วย
“เงินมากมายขนาดนั้น หามาคืนคุณภายในวันเดียวไม่ได้หรอกนะคะ”
“ถ้าหามาจ่ายไม่ได้…”
แกร๊ก!
มาเฟียหนุ่มขึ้นนกและเล็งปลายกระบอกปืนใส่พ่อยูริ แววตาเย็นชาเลื่อนกลับมามองหญิงสาว ซึ่งใบหน้าสวยหวานนั้นกำลังถอดสีกับการกระทำของมาร์ลิกซ์
“รู้ใช่ไหมจะเกิดอะไรขึ้น?”
“ขอร้องนะคะคุณมาร์ลิกซ์ฮึก ยะ…อย่าทำอะไรพ่อ ยูริสัญญาว่าจะหาเงินมาจ่ายคุณให้หมดทุกบาททุกสตางค์ ตะ…แต่ขออย่างเดียว อย่าทำอะไรพ่อยูริเลยนะคะ” เธอคุกเข่าประนมมือขอร้องมาร์ลิกซ์พร้อมกับร้องไห้ออกมา ไม่ได้แสดงละครให้เขาสงสาร แต่ทุกอย่างมันแสดงออกมาเองตามสัญชาตญาณ
มาร์ลิกซ์มองยูริที่กำลังอ้อนวอนตนเองทั้งน้ำตา ภาพนี้เห็นบ่อยจนชินไปแล้ว และมันก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกสงสารหรือว่าเห็นใจแต่อย่างใด
“ขอร้อง…” เธอร้องไห้ออกมาอย่างหนัก หากในวันนี้เธอไม่อาจรักษาชีวิตพ่อไว้ได้ เธอก็ขอตายแทนพ่อดีกว่า
“ก็ได้! ฉันให้เวลาเธอแค่สองอาทิตย์ ถ้าภายในสองอาทิตย์นี้ฉันไม่ได้เงินคืน คงไม่ต้องบอกนะว่าจะเกิดอะไรขึ้น”
“สะ…สองอาทิตย์เหรอคะ? มันไม่เร็วไปเหรอ ยูริจะหาจากที่ไหนมาคืนคุณทัน”
“นั่นมันคือปัญหาของเธอ ไม่ใช่ปัญหาของฉัน”
เขามันเลือดเย็นจริงๆ ให้เวลาแค่สองอาทิตย์ ใครจะหาเงินจำนวนมหาศาลพวกนั้นมาได้ทัน
“สามอาทิตย์ไม่ได้เหรอคะ?” เธอเริ่มต่อรอง
“กล้าต่อรอง ฉันก็กล้าให้ ภายในสามอาทิตย์ฉันต้องได้เงินสองล้านเก้าคืน ไม่ต้องให้ฉันย้ำอีกรอบใช่ไหม ว่าถ้าไม่ได้เงินคืน…จะเกิดอะไรขึ้น?”
“ระ…รู้ค่ะ”
“หึ ดี!” เขาลดปืนที่จ่อชนินทร์ ใช้สายตาคมเข้มไล่มองยูริซึ่งนั่งก้มหน้าอยู่ต่อหน้า เสื้อยืดที่เธอสวมใส่คอมันค่อยข้างกว้าง จึงทำให้เขาสามารถมองเห็นเนินอกขาวเนียนที่โผล่พ้นออกมา
ยอมรับว่าในหัวกำลังมีความคิดที่ไม่ดี แต่ก็เลือกที่จะนิ่งไว้ก่อน หากภายในสามอาทิตย์เธอไม่สามารถหาเงินมาคืนเขาได้…ค่อยว่ากันอีกที
เขาไม่พูดอะไรต่อจากนั้น หมุนตัวแล้วเดินออกไปจากบ้านของยูริ