6. ไม่ได้ผิดคำพูด
ชั่วโมงต่อมา
"ตัวเอง.. เขาไม่ไหวแล้วอะ ไปนอนกันเถอะ" เป็นเสียงบอยที่บอกกับแฟนหนุ่มเพราะรู้สึกเมามายเสียเหลือเกิน ถ้าดื่มต่อไปคงได้ให้แฟนแบกกลับห้องแน่ ๆ
"ไปสิ" แฟนหนุ่มของบอยก็ตกลงอย่างว่าง่าย ลุกขึ้นแล้วดึงให้บอยลุกขึ้นตาม ด้วยที่ไม่ได้เมามายเท่าบอยเลยทำให้เขาเป็นหลักให้คนเมาได้เกาะได้
"งั้นเราก็ไปนอนกันเถอะ ดึกแล้ว.." เมื่อเห็นเพื่อนเกาะแขนแฟนไปแล้วแตงโมจึงหันไปพูดกับบอลด้วยน้ำเสียงยานคางบ้าง แสดงให้เห็นว่าเธอก็เมามายไม่น้อยเหมือนกัน
แต่ว่าไม่เมาเท่าน้องสาวเจ้าของวันเกิด ที่เมาจนนั่งแทบไม่อยู่บนเก้าอี้
"ว่าแต่วา แกกลับห้องไหวไหมเนี่ย ฉันไปส่งไหม?" แตงโมหันไปถามเพื่อนที่ตาเยิ้มหวานฉ่ำราวกับกินน้ำตาลเข้าไปทั้งโกดัง
"ไม่เปนราย.. ฉานกลับหวาย.." วาวีโบกมือปฏิเสธน้ำใจเพื่อนด้วยเข้าใจว่าตัวเองไม่ได้เมามากจนกลับห้องไม่ไหว ไม่ใช่ว่าไม่เคยดื่มเสียหน่อย ห้องอยู่แค่นี้กลับได้สบายอยู่แล้ว
"แกแน่ใจนะ ฉันไปส่งดีกว่า" แตงโมยังไม่เลิกเป็นห่วงเพื่อน
"ห้องฉานอยู่โตงนี้เอง.. แกไปนอนป๊าย.." วาวีปฏิเสธเพื่อนอีกครั้งพร้อมกับปัดมือแตงโมที่มาจับไหล่
"ตามใจแก งั้นพวกฉันไปแล้วนะ" แตงโมถอนหายใจกับความดื้อรั้นของเพื่อนก่อนจะคล้องแขนบอลเป็นที่ยึดเหนี่ยวเพื่อจะเดินไปห้องพักตัวเอง อย่างไรเสียที่นี่ก็เป็นรีสอร์ตของเพื่อน คงมีพนักงานเป็นหูเป็นตาให้บ้างแหละ เธอเองก็เมาจนปวดหัวไปหมดอยากจะกลับไปนอนเต็มทีแล้ว
วาวีจะพักอยู่ที่รีสอร์ตหากว่าพี่ชายและพี่สะใภ้มาที่นี่ เธอเลยเก็บรีสอร์ตที่ใกล้ห้องอาหารรวมของรีสอร์ตที่สุดไว้หลังหนึ่ง เพราะรีสอร์ตหลังนี้จะมีคนพลุกพล่านที่สุดเนื่องจากจะมีนักท่องเที่ยวเดินไปมาอยู่ตลอดเวลา และที่ผ่านมารีสอร์ตหลังนี้จะไม่ค่อยมีใครเลือกพัก เธอเลยคิดว่านักท่องเที่ยวคงต้องการความเป็นส่วนตัว ดังนั้นแล้วก็เลยเอาไว้ห้องพักสำรองตอนพี่ชายและพี่สะใภ้มาเยี่ยม หรือบางทีถ้าเธอทำงานเลิกดึกก็จะพักที่รีสอร์ตหลังนี้เลย
"ไอ้ยุเอ๊ย น้องมึงนี่เมาแล้วโคตรเรื้อนเลย ถ้าอยู่ในผับนี่โดนหิ้วไปแล้วมั้งกูว่า" แฟรงค์พึมพำขึ้นมาเมื่อเห็นอาการเมามายของน้องสาวเพื่อน หลังจากเขาโดนเพื่อน ๆ ทิ้งให้นั่งอยู่คนเดียวเขาก็นั่งดื่มมาเรื่อย ๆ จนเริ่มจะเมาจริง ๆ แล้ว แต่ก็ไม่เท่าสาวสวยโต๊ะนั้นที่แทบจะเดินไม่ไหวแต่ก็ไม่ยอมให้เพื่อนไปส่งที่ห้องพัก
แฟรงค์ยกแก้วในมือกระดกเครื่องดื่มเป็นครั้งสุดท้ายเมื่อเห็นร่างอรชรที่ยืนเกาะโต๊ะกำลังโอนเอน กระตุกยิ้มมุมปากเมื่อเธอนั่งลงที่เก้าอี้แล้วก้มลงไปถอดรองเท้าส้นเข็มทั้งสองข้างมาถือเอาไว้ก่อนจะพยุงตัวขึ้นยืนอีกครั้ง เธอคงคิดว่าที่ตัวเองทรงตัวยิืนไม่มั่นคงเป็นเพราะรองเท้าสินะ
'ยัยเด็กขี้เมาเอ๊ย'
"ทำมายทางมันคดเปนงูเลยล่า.." วาวีสลัดศีรษะเมื่อทางเดินตรงหน้าดูคดโค้ง หนำซ้ำยังเป็นหลุมเป็นบ่อจนเธอไม่แทบจะกล้าก้าวเดินไปข้างหน้า แต่ก็ต้องแข็งใจเดินไปเพราะห้องของเธอห่างจากลานจัดงานแค่ร้อยกว่าเมตรเท่านั้น
ด้วยความเป็นห่วงแฟรงค์เลยเดินตามหลังไปเงียบ ๆ กลัวว่าคนขี้เมาจะขาพันกันแล้วล้มลงกระแทกพื้นปากแตก เดี๋ยวได้หมดสวยกันพอดี
สายตาคมมองตามหลังเด็กขี้เมาเดินไปตามทางด้วยลักษณะคล้ายปูนาขาเกที่เซไปทางโน้นทีไปทางนี้ที แต่เธอก็ทรงตัวได้โดยไม่ล้มอย่างที่เขากลัว
"ถึงซ้าที.."
เสียงยานคางจากคนข้างหน้าทำให้แฟรงค์รู้ว่าที่นี่เป็นห้องพักของเจ้าของรีสอร์ต เขาหยุดยืนมองคนเมาพาตัวเองขึ้นบันไดไม้สามขั้นอย่างทุลักทุเล ด้วยตั้งใจว่าจะดูให้มั่นใจน้องสาวของเพื่อนเข้าห้องไปเรียบร้อยแล้วเขาถึงจะกลับห้องตัวเอง เพราะกลัวว่าถ้าปล่อยให้คนสวย ๆ แทบจะไร้สติสัมปชัญญะอยู่คนเดียว ก็อาจจะตกเป็นเหยื่อของผู้ชายหื่นกามคนอื่นได้
แต่แล้วแฟรงค์ก็ต้องใจหายวาบเมื่อเด็กขี้เมาที่กำลังก้าวขึ้นไปถึงบันไดขั้นสุดท้าย แต่เพราะความเมามายเลยทำให้เธอเหยียบพลาดจึงเสียหลักจะหงายหลังลงมา
"ว้าย!"
"ระวัง!"
ด้วยสัญชาตญาณความเป็นผู้ปกป้อง ทำให้แฟรงค์วิ่งเข้าไปรับเด็กขี้เมาไว้ก่อนที่เธอจะล้มหัวฟาดพื้นได้ทันท่วงที
"อือ.."
อยากจะตีก้นเด็กขี้เมาให้หายโมโห ดูสิเกือบจะเจ็บตัวอยู่แล้วยังมีหน้ามาครางเสียงหวาน หนำซ้ำยังมาส่งสายตาหวายหยดย้อยให้เขาอีก เมื่อวานยังทำท่าทีกระด้างกระเดื่องใส่เขาอยู่เลย
"ไหวไหมเนี่ย?" แฟรงค์เอ่ยถามพร้อมกับดันร่างอรชรให้ยืนตรง ๆ พยายามมองแต่ใบหน้าสวย ไม่หลุบตาไปมองร่องอกขาวเบื้องล่าง แต่เพราะใบหน้าเขาอยู่ในมุมที่สูงกว่า จะหักห้ามใจเพียงใดก็เห็นอยู่ดี
ตอนที่มองแค่ตาก็ว่าเธอสามารถปลุกความต้องการส่วนลึกได้ง่าย ๆ แล้ว ยิ่งมาได้สัมผัสโอบกอดแบบนี้ ทำให้เขารู้ว่าน้องสาวของเพื่อนนั้นเนื้อตัวเนียนนุ่มไปเสียทุกส่วน โดยเฉพาะสองก้อนอวบที่คลอนกระเพื่อมใต้ชุดเดรสนั่น มันกลมกลึงขาวเนียนน่าเอาหน้าไปคลุกเคล้า พลันลำที่นอนสงบอยู่ในร่มผ้าก็สะดุ้งตื่นรับความคิดหื่นกามขึ้นมาทันที
'ถ้าไม่อยากให้พ่อโดนกระทืบก็ใจเย็นไว้ไอ้ลูกชาย'
เสียงกล่อมดับอารมณ์กระสันดังขึ้นในหัวของแฟรงค์เมื่อคิดไพล่ไปถึงคำขู่ของเพื่อนที่มันเคยพูดห้ามไว้ก่อนหน้านี้
"หวาย ๆ "
แล้วเสียงยานคางของคนในอ้อมแขนก็ดึงสติของแฟรงค์ให้กลับมา เขาส่ายหน้าระอาให้กับเด็กขี้เมา มองเธอที่พยายามดันตัวเองออกไปจากการประคองของตัวเองด้วยความเสียดาย อยากจะสัมผัสกับผิวนุ่มต่อแต่ก็ต้องยอมปล่อยเธอไป ถ้าเป็นสาวอื่นเขาคงไม่พลาดการไปส่งเธอถึงเตียงหรอก
แฟรงค์มองน้องสาวเพื่อนที่พยายามดึงตัวเองขึ้นด้วยแขนเรียวทั้งสองข้าง แต่ดูเหมือนว่าแรงของเธอถูกน้ำเมาดึงไปจนแทบจะหมดสิ้น ร่างอรชรจึงค่อย ๆ ทรุดตัวลงนั่งที่ขั้นบันไดเสียอย่างนั้น ร้องเท้าส้นเข็มถูกปล่อยร่วงหล่นลงไปกลิ้งอยู่ที่พื้นดิ้นราวกับของไร้ค่า
"ยัยขี้เมาเอ๊ย พี่ชายเธอรู้จะเตะฉันไหมวะ" แฟรงค์บ่นออกมาก่อนจะก้มลงไปช้อนร่างนุ่มขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนแล้วพาขึ้นบันไดสามขั้นไป ถ้ารอให้เธอขึ้นไปเองมีหวังได้ยืนเฝ้ากันอยู่แบบนี้ยันเช้า
"เอ้า เข้าห้องไปได้แล้ว" แฟรงค์พูดในตอนที่วางเด็กขี้เมาลงให้เธอยืนอยู่ที่หน้าประตู
"เข้าม่ายด้าย.. ม่ายมีการ์ด.."
แล้วแฟรงค์ก็ต้องกระแทกลมหายใจระอาอีกครั้งเมื่อน้องสาวเพื่อนเอื้อมมือไปมือจับประตู ขยับกึกกักแต่ก็เปิดไม่ได้เมื่อยังไม่ได้ปลดล็อกด้วยการ์ดห้องพัก คนก็ยิ่งมึน ๆ เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์อยู่ยังจะต้องมาดูแลขี้เมาอีก
ความใจร้อนที่อยากจะพ้นหน้าที่ไปเร็ว ๆ แฟรงค์เลยถือวิสาสะเปิดกระเป๋าสะพายใบเล็กที่เธอสะพายอยู่ เปิดไปก็เห็นโทรศัพท์และการ์ดเข้าห้องจึงได้หยิบการ์ดออกมาและนำไปแตะที่เครื่องควบคุมการล็อกของประตู
ติ๊ง
"เปิดได้แล้ว เข้าไปสิ" แฟรงค์พูดพลางยื่นการ์ดส่งให้เจ้าของห้อง กรามสองข้างขบเข้าหากันแน่นเพราะต้องพยายามข่มเจ้าลูกชายกลางหว่างขาให้สงบ กลับเข้าห้องไปคงต้องเอาน้ำหัวมันออกสักน้ำสองน้ำเป็นการทำโทษเสียแล้วที่มันแข็งไม่ดูกาลเทศะ ก็บอกอยู่ว่าผู้หญิงคนนี้ห้ามยุ่งก็ไม่ฟัง แข็งเอา ๆ จนปวดไปหมดแล้ว
"คุณดูแลผู้หญิงดีจาง.."
"อย่ามัวพูด เข้าไปได้แล้วผมจะได้กลับไปนอน" แฟรงค์ดุให้เด็กขี้เมา เธอไม่ยอมรับการ์ดคืนไปแล้วยังมาพูดไปเรื่อย เมาแล้วเรื้อนจริง ๆ น้องมึงไอ้ยุ
"หนูไม่เคยมีครายดูแลมาก่อนเลย เรามาเป็นแฟนกันมะ.."
"เฮ้ย ไม่เอา พี่เธอก็กระทืบฉันตายคาตีนพอดี" แฟรงค์ปฏิเสธเสียงรอดไรฟัน เพราะยัยเด็กขี้เมาพูดไม่พูดเปล่า ยังมายั่วด้วยการเอานมใหญ่ ๆ เขามาเบียดอกอีก หนำซ้ำหน้าท้องแบนของเธอก็คลึงอยู่ที่ลำแข็งที่ใกล้จะระเบิดอยู่เต็มที จะทนได้สักแค่ไหนวะแฟรงค์เอ๊ย
"หนูโตแล้ว ม่ายมีครายว่าหรอก ไปนอนด้วยกานมา.."
"เฮ้ยเดี๋ยว!"
แต่ช้าไปแล้วเมื่อคนเมาน้อยถูกคนที่เมาเยอะลากเข้าห้อง ไม่รู้ว่าเธอไปเอาแรงมาจากไหนถึงได้กระชากทีเดียวให้เขาเข้าห้องมาได้ แถมเธอยังผลักประตูให้ปิดจนดังตึ้งอีกต่างหาก
"ร้อนเนอะ เปิดแอร์หน่อยสิ"
แฟรงค์จำใจต้องทำตามคำสั่งคนขี้เมาด้วยการหันไปหยิบรีโมตแอร์ที่อยู่ผนังมาเปิดให้ กะว่าเปิดเสร็จแล้วก็จะออกไปให้พ้นจากสถานการณ์อันตรายตรงนี้เสีย เขารู้ตัวดีว่าถ้าได้ดื่มแล้วเขามักจะคุมความต้องการทางเพศไม่ค่อยได้ ขืนอยู่ต่อได้ตบะแตกแน่ ๆ
"คนเป็นแฟนกันเขาจะทำยังงายกาน ทำแบบนี้หรือเปล่า.."
พอเปิดเครื่องปรับอากาศเสร็จหันกลับมาใจแกร่งก็แทบจะหลุดออกจากอก เมื่อคนขี้เมาเลื่อนผ้าเส้นเล็กให้หลุดออกจากบ่า แม้เธอจะยืนโอนเอนเลื่อนเส้นผ้าลงด้วยท่าทางเก้ ๆ กัง ๆ แต่เพราะอกอวบที่พ้นออกจากผ้ามาเกือบครึ่งเต้าทำให้เธอดูเซ็กซี่เร่าร้อนจนบอกไม่ถูก เลือดลมความกระสันของแฟรงค์วิ่งพล่านไปทั่วตัวอย่างคุมไม่ได้ หูพร่าตาลายไม่รับรู้ถึงสิ่งรอบตัว รู้แค่ว่ามีสิ่งเร้าอารมณ์อยู่ตรงหน้าเพียงอย่างเดียว รู้แล้วว่าอาการตบะแตกมันเป็นอย่างไรก็คราวนี้
"แม่งเอ๊ย! กูไม่รู้ด้วยแล้วนะไอ้ยุ! กูโดนน้องมึงยั่วก่อน กูไม่ได้ผิดคำพูดกับมึงนะ" พูดจบแฟรงค์ก็ก้าวเข้าไปประชิดกับแม่จอมยั่วทันที มือแกร่งจับที่ต้นคอเล็กบังคับให้เธอเงยหน้าขึ้นรับจูบกระหายอยากจากเขา
.......................
ก็เด็กมันยั่วน้อ ลุงแฟรงค์ไม่ผิดนะ 555555