1 ชีวิตอีปิ่น
เพล้ง!!!
เสียงถ้วยกระเบื้องใบเก่ากระทบพื้นเสียงดัง ฝีมือของผู้เป็นแม่ เอะอะไม่พอใจก็ขว้างข้าวของในบ้าน จานชามแทบไม่เหลือใช้ ไม่ว่าอะไรอยู่ใกล้มือต้องพังพินาศคามือไปหมด
"อีปิ่น กูถามจริงๆ ชาตินี้ทั้งชาติมึงจะมีปัญหาหาผัวได้อย่างเสี่ยช้างมั้ยวะ "
"ไม่หา แล้วก็ไม่อยากได้ แม่เลิกเสนอไอ้เสี่ยบ้ากามนั่นให้ปิ่นสักที "
"กูหวังดี มึงว่ากูเสือกหรอ "
"ปิ่นไม่ได้หมายความแบบนั้น "
"กูเห็นแต่งตัวไปเรียนทุกวัน พ่อกับแม่ไม่มีจะกิน มึงยังมีหน้าไปเรียน มึงมันเห็นแก่ตัว! " แม่พูดแบบนี้เสมอ จนชิน จะให้หยุดเรียนแล้วเตรียมตัวเป็นเมียเสี่ยช้าง หึ! ขอกัดลิ้นตายดีกว่า นรกดีๆ นี่เอง!!
"ปิ่นจะเรียน เรียนจนกว่าจะจบ แม่เลิกพูดว่าปิ่นแบบนี้สักทีได้มั้ย กิ่งไปเรียนนะไม่ได้ไปฆ่าคนตาย " รีบหยิบกระเป๋าและรองเท้าผ้าใบเตรียมเดินออกจากบ้าน
ตั้งแต่เล็กจนโตไม่เคยมีความสุขเลย ไม่เคยเลยสักวัน!
"มีปัญญาก็เรื่องของมึง กูไม่มีเงินให้หรอกนะ กว่ามึงจะจบมอปลายก็ทำกูเป็นหนี้ไปทั่ว " ฉันมองหน้าแม่ด้วยความเหนื่อยใจ เงินไปโรงเรียนนับครั้งได้เลยที่ยอมควักให้ ส่วนพ่อก็เมาเละเทะทุกวันไม่รับรู้อะไรทั้งนั้น
"ปิ่นส่งตัวเองเรียนมาตลอด "
"อ่ออีปิ่น ใช่สิมึงโตแล้วนี่ "
"แม่ หยุดหาเรื่องปิ่นสักวันได้มั้ย "
" กูสอนมึงไม่ได้แล้วใช่มั้ย มึงมันลูกอกตัญญู มึงดูลูกป้าแมว ไปทำงานยังไม่ถึงเดือนส่งเงินกลับบ้านเป็นกอบเป็นกำ มึงดูบ้านเขา แล้วดูบ้านเรา ผิดกันมั้ย มึงควรดูตัวอย่างไม่ใช่ดักดานเอาแต่อยากเรียน " ฉันกำมือแน่นตัวสั่น ผ่อนลมหายใจเข้าออกลดการปะทะวาจา ก่อนที่ทุกอย่างจะแย่ไปกว่านี้
"งานอะไรล่ะแม่ครึ่งเดือนได้ขนาดนั้นถ้าไม่ใช่ ขายตัว "
เพี๊ยะ!
"อีปิ่น! " หน้าหันไปตามแรงตบ เจ็บและชาลงไปถึงกลางใจ แม่ชี้หน้าและเรียกชื่อฉันเสียงดัง คนแถวนี้คุ้นชินไม่กล้าเข้ามายุ่ง วันไหนไม่โดนสิแปลก
ชีวิตในวัยเด็กหม่นหมองแทบจะมืดสนิท ไม่สดใสและมีชีวิตชีวาเหมือนคนอื่นๆ ครั้งนี้เป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ที่โดนแม่ตบหน้าหันแบบนี้
"ปิ่นเจ็บนะแม่ "
"เจ็บแล้วจำ! อย่าคิดเถียงกู " ไม่เคยอยากเถียงแม่เลยสักครั้ง ฉันพูดความจริง มีอย่างที่ไหนไปทำงานไม่ถึงเดือนส่งเงินกลับมาเป็นแสน รู้หมดแหละ แต่ไม่อยากพูด คนอื่นดีกว่าลูกหมดทุกคน
"แม่ไม่เคยมองปิ่นดี แม่คอยดูนะ อีปิ่นคนนี้จะต้องได้ดี แล้วอีปิ่นคนนี้จะไม่กลับมาเหยียบที่บ้านหลังนี้อีก " บาปกรรมคืออะไรฉันไม่รู้ ไม่อยากอยู่แล้ว อยากไปให้ไกลแล้วไม่หันกลับมาที่นี่อีก
"เออ มึงไปเลยอีปิ่น มึงไปเลย "
ฉันเดินออกจากบ้านพร้อมกับน้ำตา ไม่อยากร้องไห้ให้ดูเหมือนคนอ่อนแอแต่มันก็อดไม่ไหวจริงๆ
หลังจากเดินออกมาจากบ้านสักพักป้าข้างบ้านก็โทรมาเล่าให้ฟังว่าแม่อาละวาดเสียงดังแถมยังโยนข้าวของที่เป็นของฉันออกมากองเต็มหน้าบ้านไปหมด
กลายเป็นคนไร้บ้าน หอพักในของมหาลัยก็จองไม่ทันเพราะมัวแต่หาเงิน จะไปขออาศัยอยู่กับเพื่อนก็เกรงใจเพราะไม่มีเงินช่วยหารค่าห้อง เอาไงดี?
" ปิ่น คืนนี้ไปเที่ยวกันมั้ย "
"ไม่อะ พวกแกไปเถอะ "
"เป็นอะไร ทำไม เฮ้ย! ไปโดนใครตบมาอะปิ่น "หยิบกระจกขึ้นมาส่องแล้วถอนหายใจ ตบแรงขนาดนั้นไม่แดงจนเป็นรอยคงเป็นไปไม่ได้ แก้มใส ขยับเข้ามานั่งใกล้ๆ และมองรอยที่หน้าของฉันชัดๆ
"แพรวมียาติดมามั้ย "
"ไม่มีอะ โหปิ่น เจ็บมากมั้ย อย่าบอกนะว่าขึ้นรถเมล์มาสภาพนี้ "
"อืม โอ๊ย! " ฉันร้องเจ็บเมื่อแก้มใสใช้มือแตะลงเบาๆ ตรงรอยช้ำ
"ขอโทษๆ แพรวเดินไปซื้อยามาให้หน่อยสิ อะนี่เงิน "
"ไม่เป็นไรแก้ม แค่นี้เอง "
"ต้องทานะปิ่น รอแพรวแป๊บนึง" ไม่ทันได้ห้ามแพรวก็รีบหยิบเงินจากแก้มใสแล้วเดินไปซื้อยาทันที ส่วนแก้มใสทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ เฮ้อ เพื่อนแต่ละคน
"เป็นอะไรแก้ม "
"ถูกแม่ตบมาอีกแล้วใช่มั้ย "
"อืม ครั้งนี้หนักกว่าเดิม ถูกไล่ออกจากบ้านด้วย "
"อะไรนะ!! "
ไลน์!!!
"แป๊บนึงนะ " แก้มใสขอตัวตอบข้อความ ส่วนฉันก็นั่งส่องกระจกดูรอยช้ำบนหน้าของตัวเอง
"แก้ม พอมีงานดีๆ เงินเยอะๆ แนะนำบ้างมั้ย " ระหว่างรอแก้มใสตอบข้อความฉันก็ถามเรื่องงานไปพลางๆ ถึงเวลาต้องจริงจังกับการทำงานหาเงินเพื่ออนาคตของตัวเองแล้วล่ะ
"มี แต่ปิ่นจะทำรึเปล่า "
"งานอะไร? " แก้มใสเงยหน้าแล้วตอบว่า..
"ของเล่นคนรวย "
"ขายตัวหรอ"
"อย่าพูดแบบนั้นสิ ถ้าปิ่นสนใจเราจะแนะนำให้เอง รับรองไม่แก่ ไม่อ้วน มีแต่งานดีๆ รับรองปิ่นต้องชอบ เผลอๆ อาจดวงดีได้เป็นตัวจริงสบายไปทั้งชาติ"
"แก้มรู้จักงานพวกนี้ได้ไง "
"เราก็เป็นของเล่นคนรวยอยู่เหมือนกัน "
-----------------------