ตอนที่ 2
เรือนกายใหญ่โตทรุดนั่งลงบนส้นเท้าของตนเอง และมองหน้าผู้ให้ชีวิตใหม่ด้วยสายตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความกตัญญู
“เดี๋ยวป่วยไปอีก ผมเป็นห่วงนะครับ”
“พ่อสบายดี ไม่ต้องเป็นห่วง หนูลิลลี่ ดูแลพ่อดีมาก”
จอร์จพูดถึงหล่อนด้วยน้ำเสียงพึงพอใจ แต่สายตาของดีแลนที่ตวัดมองมายังหล่อนกลับไม่ได้ให้ความรู้สึกนั้นเลยสักนิด ลัลลลินรีบก้มหน้ามองพื้น
“แต่คุณพ่อก็ไม่ควรออกมาตากลมตอนค่ำๆ แบบนี้นะครับ เอาเป็นว่าผมจะพาคุณพ่อเข้าบ้าน เย็นนี้ผมจะอยู่ดูแลคุณพ่อเองครับ”
จอร์จระบายยิ้ม มองหน้าลูกชายอย่างรู้ทัน
“ปกติผู้อำนวยการใหญ่ของ Carton Hospital ไม่เคยว่างไม่ใช่หรือ”
ดีแลนอมยิ้ม พลางลุกขึ้นยืน และเข็นรถเข็นของจอร์จผ่านหน้าพยาบาลสาวที่ยืนตัวสั่นระริกไปอย่างไม่ไยดี
“หรือว่าคืนนี้ แม่สาวๆ พวกนั้นไม่มีคิวให้กันล่ะ”
“ไม่ใช่หรอกครับคุณพ่อ ผมเบื่อมากกว่า”
“เบื่อผู้หญิง?”
“ผมเป็นผู้ชายทั้งแท่งคงไม่มีทางเบื่อที่จะทำกิจกรรมกับแม่พวกนั้นหรอกครับ เพียงแต่ว่าช่วงนี้ผมรู้สึกหน่ายๆ จริตของพวกหล่อน สักพักคงจะดีขึ้น”
จอร์จหัวเราะเบาๆ
“ถ้าเบื่อผู้หญิงมีจริตจะก้าน ลูกก็ลองหาผู้หญิงธรรมดาๆ คบดูสักคนสิ บางทีอาจจะรู้สึกดีขึ้นบ้างก็ได้นะ”
ริมฝีปากสวยจัดของดีแลนคลี่ยิ้มบางๆ ขณะพยุงร่างของบิดาให้ขึ้นไปนั่งพิงกับหัวเตียงด้วยความนุ่มนวล และเปลี่ยนเรื่องคุย
“ช่วงนี้คุณพ่อยังฝันถึงคุณอาไรอันอยู่ไหมครับ”
สีหน้าเปื้อนยิ้มของจอร์จเศร้าสลดลง จนดีแลนรู้สึกละอายใจ
“ผมขอโทษครับ”
“ไม่เป็นไร เพราะถึงลูกไม่พูดถึงไรอัน ในหัวของพ่อก็ไม่เคยลืมเขาอยู่ดี”
ดีแลนมองบิดาด้วยความสงสาร เขารับรู้มาตลอดในเรื่องรสนิยมทางเพศของบิดา และก็รู้มาตลอดว่าไรอันคือชายคนรักของท่าน
“แต่ผมก็ไม่ควรพูดให้คุณพ่อต้องคิดมาก ผมเป็นลูกที่แย่มาก”
จอร์จฝืนยิ้ม ตบบ่ากว้างของบุตรชายเบาๆ
“ดีแลนคือลูกที่ดีของพ่อ ลูกช่วยดูแลบรรดาน้องๆ และยังช่วยดูแลกิจการทุกอย่างของคาร์ตัน บริจค์ ถ้าไม่มีลูก พ่อก็คงแย่”
“ทุกอย่างที่ผมทำ เพราะผมรักคุณพ่อครับ รักต่อความเมตตาที่คุณพ่อมีต่อผมกับน้องๆ ถ้าคุณพ่อไม่รับผมและน้องๆ มาดูแลในวันนั้น ในวันนี้ก็คงไม่มีดีแลน คาร์ตัน”
“พ่อรักลูกมากนะดีแลน รักลูกๆ ทุกคนของพ่อมาก”
“ผมกับน้องๆ ก็รักคุณพ่อมากเช่นกันครับ พวกผมสัญญาว่าจะดูแลทุกอย่างของคาร์ตัน บริจค์ให้ดีที่สุด เหมือนที่คุณพ่อเคยทำเอาไว้”
สองพ่อลูกมองหน้ากันด้วยความรักและห่วงใย ก่อนที่จอร์จจะเอ่ยถามถึงลูกชายคนที่สอง
“เจ้าคิลเลียนมันเป็นยังไงบ้างล่ะตอนนี้ หายโศกเศร้าเรื่องการตายของเมียกับลูกหรือยัง”
ศีรษะทุยสวยที่ด้านในคือมันสมองระดับบิลเกตส์ส่ายน้อยๆ น้ำเสียงที่เคยราบเรียบนุ่มนวลยามนี้เข้มลึกเต็มไปด้วยความเป็นกังวล
“ยังไม่ดีขึ้นเลยครับ เจ้าคิลยังคงดื่มเหล้าหนักเหมือนเดิม”
สีหน้าของจอร์จเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก
“นี่มันก็ผ่านมาสองปีกว่าแล้วนะ ทำไมเจ้าคิลเลียนยังไม่ดีขึ้น พ่อกังวลใจจริงๆ”
ด้วยเกรงว่าบิดาจะคิดมากจนล้มป่วยลงไปอีก ดีแลนจึงต้องรีบแก้สถานการณ์
“แต่คุณพ่อไม่ต้องเป็นกังวลนะครับ ผมสัญญาว่าจะแก้ไขเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด เจ้าคิลมันจะต้องกลับมาเข้มแข็งเหมือนเดิมครับ เชื่อมือผม”
แม้จะเป็นห่วงคิลเลียนแค่ไหน แต่จอร์จก็เลือกที่จะเชื่อมั่นในฝีมือของบุตรชายบุญธรรมคนโต ดีแลนมีสมองดุจเทพเจ้าประทานให้ ซึ่งไม่เคยทำให้เขาผิดหวังเลยแม้แต่ครั้งเดียว
“พ่อเชื่อลูก ดีแลน”
ใบหน้าหล่อเข้มไม่ผิดจากเทพบุตรกรีกเปื้อนยิ้ม ดวงตาเรียวยาวที่เจ้าของสามารถทำให้มันหวานเชื่อมดุจน้ำผึ้งหรือทำให้มันดุดันเหี้ยมเกรียมได้ง่ายดายจับจ้องไปที่ใบหน้าของบิดาด้วยความรักและเคารพเทิดทูน
“ขอบคุณครับคุณพ่อ ผมสัญญาว่าทุกอย่างจะต้องดีขึ้น เอ่อ แล้วนี่คุณพ่อทานยาหลังอาหารค่ำหรือยังครับ”
จอร์จพยักหน้ารับน้อยๆ พลางอมยิ้ม
“หนูลิลลี่ให้พ่อทานยาแล้วล่ะ เธอไม่เคยพลาดเรื่องแบบนี้หรอก”
“แลดูคุณพ่อจะชื่นชมแม่พยาบาลคนนี้เหลือเกินนะครับ”
น้ำเสียงของดีแลนสั้นห้าวโดยไม่รู้ตัว จนจอร์จต้องหรี่ตาแคบมองหน้าบุตรชาย
“หนูลิลลี่คือลูกสาวของมิลล่า อดีตภรรยาของพ่อ ดีแลนก็รู้นี่ ดังนั้นลูกอย่าทำเหมือนกับว่าเธอเป็นคนอื่นอีกนะ พ่อไม่ชอบเลย”
กรามแกร่งของดีแลนขบแน่นจนนูนเป่ง นัยน์ตามืดดำลึกล้ำยากจะอ่านความรู้สึก ใช่ เขาไม่พอใจ แต่ก็จำต้องสะกดกลั้นเอาไว้
“แต่เธอก็เป็นแค่ลูกติดของสามีใหม่คุณแม่นะครับ”
“ถึงจะอย่างนั้น หนูลิลลี่ก็เท่ากับเป็นญาติของเราคนหนึ่ง พ่อไม่ชอบเลยเวลาเห็นดีแลนข่มจนหนูลิลลี่ตัวสั่น พ่อขอร้องนะ อย่าทำแบบนั้นอีก”
“ครับ”
ดีแลนรับคำสั้นๆ เอื้อมมือไปหยิบหนังสือพิมพ์จะมาอ่านให้บิดาฟัง แต่ท่านกลับยกมือขึ้นห้าม
“หน้าที่นี้เป็นของหนูลิลลี่”
“แต่คืนนี้ผมอยากอ่านให้คุณพ่อฟังนี่ครับ ผมอยากดูแลคุณพ่อบ้าง”
จอร์จระบายยิ้ม แต่ก็ยังยืนกรานคำเดิม
“พ่อชอบฟังเสียงหวานๆ ของหนูลิลลี่มากกว่าเสียงห้าวๆ ของลูกนะดีแลน เอาเป็นว่าลูกนั่งฟังหนูลิลลี่เป็นเพื่อนพ่อเฉยๆ ดีกว่านะ”
สิ่งที่บิดาพูดยิ่งทำให้เขารู้สึกอยากจะฉีกใครบางคนให้ละเอียดเป็นชิ้นๆ
“ครับ ผมยินดีทำตามความต้องการของคุณพ่อทุกอย่าง”
“ขอบใจมาก งั้นไปตามหนูลิลลี่ให้พ่อทีนะ”
“ครับ คุณพ่อ”
ร่างสูงใหญ่เกือบหนึ่งร้อยเก้าสิบเซนติเมตรของดีแลนลุกขึ้นยืน เขาก้มศีรษะให้บิดาเล็กน้อย ก่อนจะเดินผ่านประตูห้องออกไป ซึ่งที่ด้านนอกก็พบว่าลัลลลินยืนคอยเพื่อรอรับคำสั่งอยู่แล้ว
ดีแลนแค่นยิ้มหยัน เดินไปหยุดตรงหน้าของหญิงสาว
“ฉันถามจริงๆ เถอะ ทำเสน่ห์อะไรใส่พ่อฉันหรือ ท่านถึงได้ดูรักดูหลงเธอมากขนาดนี้”
ลัลลลินก้าวถอยหลังหนี มองเขาด้วยสายตาหวาดกลัว คำตอบที่เขาต้องการไม่อาจจะเค้นให้เล็ดลอดออกมาจากปากได้เลยแม้แต่คำเดียว
“และที่ท่าทางกลัวฉันเหมือนกลัวผีแบบนี้ เลิกสักทีนะ เห็นแล้วมันน่าทุเรศ”
มือหนาตะปบเข้ากับต้นแขนกลมกลึง แรงกดจากนิ้วเรียวยาวรุนแรงจนเนื้อนวลแดงช้ำ หญิงสาวตัวสั่นระริก น้ำตาคลอเบ้าตา
“ปละ ปล่อย... ปล่อยลิลลี่...”
“นึกว่าฉันอยากจะจับเธอนักหรือไง”
เขาผลักหล่อนออกห่างด้วยท่าทางชิงชัง พลางตวัดสายตามองกายสาวในชุดพยาบาลด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยาม
“ผู้หญิงสกปรก แพศยา อย่าคิดนะว่าฉันไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดจะทำอะไร คิดจะจับพ่อของฉันสินะ แต่ขอโทษ เธอไม่มีทางทำสำเร็จหรอก”
ลัลลลินที่ถูกผลักแรงๆ ร่างเซเกือบล้ม น้ำตานองหน้า กลีบปากอิ่มสีแดงสดสั่นระริก ความหวาดกลัวเต้นไหวในดวงตากลมโตมากมาย
“ลิลลี่ไม่ได้คิดแบบนั้น... ไม่เคย...”
“อย่ามาโกหก เธอมันก็เหมือนกับพ่อของเธอนั่นแหละ แย่งแม่ของฉันไป แล้วยังจะหน้าด้านจะมาแย่งพ่อของฉันอีกคน แต่ต่อให้เธอพยายามมากมายแค่ไหน พ่อของฉันก็ไม่มีทางแลผู้หญิงอย่างเธอ ไม่มีทางมอง จำเอาไว้ด้วย!”
หล่อนไม่เข้าใจ? ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมดีแลนถึงคิดแบบนี้ คิดว่าหล่อนจะจับบิดาของเขา ทั้งๆ ที่คนวงในแทบทุกคนก็รู้ว่าจอร์จไม่ชอบผู้หญิง
“หุบปาก และเข้าไปทำหน้าที่ของเธอซะ”
หญิงสาวยกมือขึ้นป้ายน้ำตาทิ้ง และกัดฟันเดินผ่านร่างสูงใหญ่ของดีแลน แต่จู่ๆ เขาก็คว้าแขนและดึงหล่อนเข้าไปกอดรัดแน่น ลัลลลินดิ้นรนด้วยความตกใจ
“คุณดีแลน... ปล่อยลิลลี่นะคะ ปล่อย...”
เขาไม่ปล่อย กลับดันร่างอรชรที่เล็กกว่าเรือนกายของเขามากมายไปชิดกับผนังห้อง มือใหญ่ข้างหนึ่งรวบสองมือของหล่อนเอาไว้แน่น ส่วนอีกข้างก็รัดที่รอบเอวเล็ก หล่อนไร้ทางหนี หมดทางต่อสู้ ทำได้แค่เพียงเบิกตากว้าง และมองเขาด้วยความหวาดกลัวเท่านั้น
“ได้โปรด... ปล่อยลิลลี่เถอะค่ะ”
“กลัวอะไร... ฉันไม่มีทางตาต่ำไปเกลือกกลั้วกับผู้หญิงอย่างเธอหรอก”
“ไม่มีทางตาต่ำ แล้วมากอดลิลลี่ทำไมคะ ปล่อยลิลลี่ไปสิคะ ปล่อย...”
ความน้อยใจทำให้หญิงสาวดิ้นรน และโต้เถียงทั้งน้ำตา หล่อนเห็นเขานิ่งอึ้งไปชั่วขณะ แต่วินาทีถัดมาก็เหี้ยมเกรียมเช่นเดิม
“ฉันก็แค่...”
ใบหน้าที่หล่อเหลาดุจเทพปั้นแต่งก้มต่ำลงมาหา นี่เป็นครั้งแรกที่ดีแลนพาตัวเองมาใกล้ชิดกับหล่อนแบบนี้ และมันก็ทำให้หล่อนรู้สึกประหม่าอย่างรุนแรง
“อยากจะแสดงให้เธอเห็นว่า หากเธอริอ่านจะทำเกินหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย เธอจะได้รับโทษทัณฑ์สาหัสสากรรจ์ที่สุดจากฉัน”
“ลิลลี่ไม่เคยทำเกินหน้าที่”
หล่อนหลบสายตาคมกริบมืดดำของเขา และตอบเสียงสั่น
“ไม่ว่าจะในตอนนี้หรือในอนาคต คุณ... คุณดีแลนสบายใจได้เลยค่ะ”
“ถ้าทำได้อย่างที่พูดก็ดี”
“ปล่อย... ลิลลี่เถอะค่ะ ในเมื่อลิลลี่ก็รับปากแล้ว”
มือใหญ่ที่ตรึงข้อมือเล็กเอาไว้คลายออกก็จริง แต่มันกลับเลื่อนมาตรึงปลายคางมนเอาไว้แน่น บังคับให้หญิงสาวต้องเงยหน้าประสานสายตาอย่างไม่มีทางเลี่ยง
ความหิวกระหาย...หล่อนเห็นมันอยู่ในดวงตาคมกริบของดีแลน แต่แค่เพียงพริบตาเดียวมันก็หายไปเหลือไว้แต่ความมืดดำ
“ยังหรอก... ยังปล่อยไม่ได้”
“ทะ ทำไม... ทำไมคะ”
ริมฝีปากสวยจัดจนน่าทึ่งของดีแลนคลี่เป็นรอยยิ้ม ก่อนที่รอยยิ้มนั้นมันจะใกล้เข้ามาหาเรื่อยๆ จนในที่สุด
“อ๊ะ... อื้อ...”
หล่อนเคยสงสัยเสมอว่าผู้ชายที่มีริมฝีปากสวยจัดอย่างดีแลนเวลาจูบจะให้รสชาติแบบไหน จะนุ่มนวลหรือว่าหยาบกระด้าง แต่ในยามนี้... หล่อนรับรู้ได้เต็มความรู้สึกว่าผู้ชายที่มีริมฝีปากสวยจนน่าทึ่งอย่างเขาเวลาจูบมันไม่ได้นุ่มนวลชวนฝันเลยแม้แต่น้อย มันกระด้าง หยาบคาย และเต็มไปด้วยการกดขี่ข่มเหง ประกาศศักดาของความเป็นผู้ชนะ
หยาดน้ำตาคลอหน่วยตา เมื่อจุมพิตแรกในชีวิตกับชายในฝันมันพังลงอย่างไม่เป็นท่า ความอ่อนหวานที่เคยคิดว่าจะได้รับในจูบแรกมันกลับตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง หล่อนมองผู้ชายใจร้ายที่ถอยออกห่างไปด้วยสายตาเจ็บปวด แต่เขาไม่สะท้าน
“เธอเป็นผู้หญิงที่จูบได้ห่วยมากลิลลี่”
น้ำเสียงดูถูกดูแคลน และท่าทางห่างเหินราวกับหล่อนคือก้อนกรวดตอกย้ำให้หล่อนจมลึกลงไปใต้พื้นแผ่นพสุธา หยาดน้ำตาหลั่งรินมากมายจนต้องรีบป้ายทิ้ง
“ลิลลี่ขอโทษที่ทำให้คุณดีแลนผิดหวัง ลิลลี่จะพยายามฝึกฝนให้มากกว่านี้”
“เธอหมายความว่ายังไง”
เขาที่ยืนอยู่ห่าง ตอนนี้พุ่งกระโจนเข้ามากระชากหล่อนเข้าไปเขย่าด้วยโทสะ
“อย่าบอกนะว่าจะไปฝึกฝนกับไอ้คู่รักหน้าจืดของเธอน่ะ”
ดีแลนคงหมายถึงโจเซฟ รุ่นพี่ที่ตอนนี้กำลังตามตื้อเพื่อขอความรักจากหล่อนอยู่นั่นเอง ลัลลลินกลืนก้อนความเจ็บปวดลงไปในอก แต่ฝืนใจตอบรับ
“มันก็ไม่แปลกไม่ใช่เหรอคะ เพราะเราสองคนเป็นแฟนกัน”
หล่อนเห็นคนตัวโตขบกรามแน่นจนมันขึ้นสันปูดเป่ง เขาจ้องมองหล่อนด้วยสายตาลุกเป็นไฟอยู่หลายอึดใจ ก่อนจะผลักหล่อนออก และเดินหนีหายเข้าไปในห้องของจอร์จ
ลัลลลินน้ำตาร่วงอาบแก้มอีกครั้ง ร่างอรชรทรุดลงนั่งกับพื้นอย่างหมดเรี่ยวแรง ไม่เคยเข้มแข็งเลยเวลาอยู่ต่อหน้าของดีแลน และก็ไม่เคยชนะเขาได้เลยสักครั้ง หายนะคงจะระเบิดใส่หัวใจในอีกไม่นาน หากหล่อนยังคงลุ่มหลงดีแลนมากมายแบบนี้ ทางเดียวที่จะรอดนั่นก็คือ...
รับรักโจเซฟซะ...
มือเล็กขาวสะอาดล้วงลึกเข้าไปในกระเป๋ากระโปรง หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดโทรหาใครบางคนที่หล่อนตัดสินใจแล้วว่าจะใช้เป็นทางเลือกในชีวิต
“พี่โจเหรอคะ พรุ่งนี้ว่างไหม ลิลลี่อยากไปดูหนังค่ะ”
เสียงตอบรับของโจเซฟเต็มไปด้วยความยินดีและตื่นเต้น ซึ่งมันช่างตรงข้ามกับความรู้สึกของหล่อนในยามนี้เสียเหลือเกิน หล่อนรักดีแลน แต่ก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะทำตามที่หัวใจเพรียกหา ทำได้แค่เพียงตัดใจและเดินจากไปหาคนที่รักหล่อนเพียงเท่านั้น
มันช่างเจ็บปวดสิ้นดี...