ตอนที่ 1 โดนหลอก
ตอนที่ 1 โดนหลอก
ในโกดังร้างแห่งหนึ่งอยู่ในเขตชานเมืองไทเป ประตูใหญ่ถูกล็อกไว้อย่างแน่นหนา แสงแดดจากด้านนอกเล็ดลอดผ่านช่องหน้าต่างสูง สาดส่องบนร่างของเหล่าหญิงสาว
จี๊ดจี๊ด...จี๊ดจี๊ด
“เสียงอะไรอ่ะ?” หญิงสาวคนหนึ่งถามขึ้นด้วยความระแวง
“เหมือน......เหมือนจะเป็นหนู!” หญิงสาวอีกคนตอบ
“กรี๊ด......” จากนั้นเสียงในโกดังยิ่งดังขึ้น
มีหญิงสาวคนหนึ่งหน้าตาสละสลวย เส้นผมยาวประบ่า อายุราวๆสิบแปดสิบเก้าปี นั่งยองๆอยู่ตรงกลางกลุ่มพวกเขา อาจเป็นเพราะกลัวหนู? เธอก้มหัวลงต่ำ สองมือกอดไหล่ตัวเองไว้ด้วยท่าทางที่ทำอะไรไม่ถูก
ปัง!
ตอนนี้ ประตูโกดังถูกคนเปิดออกจากด้านนอก ผู้ชายอายุราวสามสิบปีเข้ามาตะโกนว่า “ร้องอะไร? เงียบๆหน่อย! เถ้าแก่มาเลือกคนไปทำงานแล้ว พวกเธอแสดงท่าทางดีๆหน่อย!”
ต่อมา ได้ยินเพียงเสียงรองเท้าส้นสูง หญิงสาวคนหนึ่งใส่ชุดที่ทันสมัยมากเดินเข้ามา พร้อมกับชายหนุ่มใส่ชุดสูทสีดำอีกหลายคนตามหลังเธอ
“พี่หยูนครับ เด็กพวกนี้พึ่งมาถึง ทุกคนทั้งสาวทั้งสวยกันทั้งนั้น” ชายคนนั้นยิ้มพลางชี้ไปที่เด็กสาวหลายคน
ผู้หญิงที่ถูกเรียกว่าพี่หยูนนั้นไม่ได้สนใจเขาเลย แต่เดินไปข้างๆเด็กพวกนี้มองทีละคนอย่างละเอียด เมื่อเธอมาถึงข้างเสี่ยวซิง ดวงตาส่องประกายขึ้นมาทันที
เธอยื่นมือมาเชยคางเสี่ยวซิงขึ้น ดูไปดูมาแล้วเอ่ยปากถามขึ้นว่า “อายุเท่าไรแล้ว?”
เสี่ยวซิงถูกสายตาของผู้หญิงคนนี้จ้องจนรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย ไม่ใช่ว่าแค่ทำงาน ทนลำบากได้ก็พอหรอ! ทำไมเธอต้องจ้องเราแบบไม่กะพริบตา? ในใจเสี่ยวซิงไม่สบายใจขึ้นมา ทันใดนั้นไม่ทันได้จะตอบคำถามของเธอ
“พี่หยูนถามเธอนะ? รีบตอบสิ!” ชายคนนั้นตวาดสั่งสอนเสี่ยวซิง
“18ปีแล้ว!” ปากของเสี่ยวซิงพูดออกมาสี่คำ
“ดีมาก” ผู้หญิงคนนั้นปรากฏรอยยิ้มที่พอใจอย่างมากออกมา แล้วหันไปพูดกับผู้ชายคนนั้น “เธอคนนี้แหละ!” หลังจากพูดจบประโยคนี้ หันหลังเดินออกจากโกดังอย่างมีชีวิตชีวา
“ได้ยินมั้ย? พี่หยูนถูกใจเธอแล้ว! จากนี้ก็ตามพี่หยูนหาเงินก้อนใหญ่ซะ! ไป!ไป! รถของพี่หยูนรอเธออยู่” ชายคนนั้นหัวเราะแล้วดึงมือเสี่ยวซิง
“ฉันไปเองได้!” เสี่ยวซิงได้ยินเสียงหัวเราะกำเริบเสิบสานของเขา ในใจเธอรู้สึกขนลุก รีบดิ้นออกจากมือเขา และเดินออกจากประตูด้วยตัวเอง
หลังจากเดินออกจากโกดัง เสี่ยวซิงถูกพาไปรอในรถเก๋งหรูสีดำ เงยหน้าขึ้นมองทะลุผ่านกระจกหน้าต่าง เห็นหัวงู(ผู้ที่ดำเนินการและควบคุมกิจกรรมการเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย สร้างรายได้จากมัน)กับผู้หญิงที่ชื่อพี่หยูนคนนั้นกำลังพูดจาหัวเราะกันจากที่ไกลๆ แต่ไม่ได้ยินเสียงในรถแม้แต่คำเดียว เห็นแค่คนที่ชื่ออาสื้อคนนั้นปกติเป็นคนที่ไม่ธรรมดามาก อยู่ต่อหน้าพี่หยูนมักจะก้มหัวโค้งเอว ดูแล้วพี่หยูนไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป!
“พี่หยูนครับ! คุณพอใจนังหนูนั่นไหม?” อาสื้อหัวเราะแบบมีนัยยะ ยื่นบุหรี่ให้คุณผู้หญิงโจวหยูนหนึ่งมวน
โจวหยูนเอาบุหรี่นั้นเข้าปากสีแดงสด จากนั้นครู่หนึ่งก็มีควันบุหรี่พ่นออกมาจากปากเธอ คีบบุหรี่มวนยาวด้วยท่าทางที่งดงามไว้ระหว่างนิ้วมือที่เรียวยาว ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มที่พอใจออกมา “นังหนูนั่นพึ่งสิบแปดปี แต่ช่วงนี้มีเถ้าแก่มากมายชอบเด็กสาวแบบนี้ เอากลับไปแต่งตัวนิดหน่อย หาเงินได้ไม่น้อยแน่!”
“พี่หยูน! งั้นเงินนี้......”
โจวหยูนสีหน้าเย็นชา “อาสื้อ ไม่ใช่ว่านายไม่รู้กฎนะ? หากนายไม่หลอกฉัน นายเองก็ได้ประโยชน์ไม่น้อย แต่หากเธอไม่ใช่ผู้หญิงที่ดีเท่าไรล่ะก็ นายระวังหนังนายให้ดี! ”ใบหน้าโจวหยูนปรากฏรอยยิ้มที่เหยียดหยาม
“พี่หยูน นังหนูนั่น ไม่ต้องลองก็รู้แล้ว!” อาสื้อยิ้มเผยฟันที่เหลืองออกมาครึ่งปาก ดูแล้วทำให้คนรู้สึกรำคาญ
“ฉันยังเชื่อมั่นในฝีมือของฉันเองมากกว่า! ฮึ......” โจวหยูนเอาบุหรี่ที่สูบได้ไม่เท่าไรทิ้งลงไปอย่างสง่างาม เดินมาทางรถที่เสี่ยวซิงนั่ง
หลังจากโจวหยูนขึ้นรถ รถก็แล่นออกไปอย่างรวดเร็ว รถขับออกจากชานเมืองรกร้างไปยังเมืองไทเป
คืนวันที่สอง เสี่ยวซิงถูกบังคับให้สวมชุดเอี๊ยม และพาไปที่ตึกที่หรูหรามาก
เธอนั่งอยู่บนโซฟากว้างใหญ่มองไปรอบๆด้วยความตกใจกลัว เห็นเพียงห้องที่หรูหรา ในนี้มีเตียงใหญ่หนึ่งเตียง โทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ อย่างครบถ้วน แต่ผ้าปูที่นอนสีขาวนั้นที่ทำให้คนกลัวนิดหน่อย
ขณะที่เสี่ยวซิงนั่งอยู่ในห้องอย่างไม่สงบใจ ประตูห้องก็ถูกเปิดออก!
เสี่ยวซิงเงยหน้าขึ้น เห็นคนอายุห้าสิบกว่าๆ เป็นผู้ชายอ้วนที่หัวล้านครึ่งหัว สายตาของคนนั้นหลังจากที่มองเธอก็เผยรัศมีมุ่งร้าย เจตนาไม่ดีออกมา ร่างกายของเธอสั่นขึ้นเล็กน้อย!
เฮียหม่าเดินตรงมานั่งบนโซฟา สายตาเขาหรี่มองเสี่ยวซิงตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ผมดำเงาประบ่าทำให้ใบหน้าเล็กๆของเธอยิ่งดูน่ารักไร้เดียงสา ทั่วร่างกายมีกลิ่นอายวัยรุ่นของสาวน้อยโชยออกมา ทำให้คนอดไม่ไหวที่จะเข้าใกล้ เฮียหม่าเริ่มมีอาการอยากขึ้นมาแล้ว
“คุณ......คุณเป็นใคร?” สายตาของเขาทำให้เสี่ยวซิงลุกขึ้นมาอย่างหวาดกลัว
“เธอไม่ต้องกลัวนะ ฉันแซ่หม่า เธอเรียกฉันว่าเฮียหม่าแล้วกัน!” เฮียหม่ายิ้มตอบ
“หม่า......เฮียหม่า?” ใจของเสี่ยวซิงเริ่มเต้นรัว เธอกำลังคิดทำยังไงถึงหนีออกไปจากที่นี่ได้ เพราะเธอมั่นใจว่าที่นี่น่าจะเป็นขุมนรกที่หนึ่ง
“มา มาคุยกัน!” เฮียหม่าพูดพร้อมกับตบไปที่โซฟา
เสี่ยวซิงก้าวเท้าออกแล้วพูดว่า “ฉัน......ฉันจะไปแล้ว!”
“เธอกลับมานี่นะ!” เฮียหม่าลุกขึ้นไปดึงมือของเสี่ยวซิงไว้
“คุณ......ปล่อยฉันนะ!” ขณะที่มือใหญ่ๆของเขาจับที่ข้อมือเสี่ยวซิงอยู่ เสี่ยวซิงเริ่มดิ้นอย่างสุดชีวิต
แต่ เสี่ยวซิงก็เป็นแค่สาวน้อยตัวเล็กๆคนหนึ่ง ไหนจะไปเป็นคู่ต่อสู้ของเฮียหม่าอ้วนได้ล่ะ? เพียงแค่ครู่เดียว เฮียหม่าก็เผยรอยยิ้มออกมาอย่างพอใจ
ไม่รอเสี่ยวซิงตอบโต้มา เธอตาโตมองเขาอย่างตกใจกลัว วินาทีต่อมาก็ถูกเขาอุ้มขึ้นพาดบ่าไว้ เสี่ยวซิงตั้งใจอยากจะหลุดพ้นผู้ชายตรงหน้านี้ แต่เป็นเพราะแรงไม่พอ ยังคงถูกเขาอุ้มไว้ในอ้อมกอด
เสี่ยวซิงกัดที่หูเขาอย่างแรง ในช่วงที่ผู้ชายจับหูไว้ร้องออกมาอย่างเจ็บปวดจึงหาโอกาสหนีออกมาได้ทัน
อีกห้องถัดไปก็มีเสียงที่น่าอับอายไม่ขาดสาย ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน
ชายหนุ่มที่หล่อเหลาแต่สายตากลับเย็นชาราวกับแช่แข็งถึงจะหยุดลง หนุ่มหล่อเหลาคนนี้ไม่แสดงถึงความรู้สึกอบอุ่นต่อนางเอกโจวหยูนเลยสักนิด แม้แต่คำเดียวก็ยังไม่พูดกลับเดินตรงไปที่ห้องอาบน้ำ ท่าทางของเขาดูสุขุมงดงามมาก ถึงสภาพแวดล้อมไม่เหมือนเดิมแต่ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกไม่สบาย
โจวหยูนมองไปด้านหลังของผู้ชายที่เธอรักมานานเดินเข้าห้องน้ำไป เวลานี้ ในใจของเธอเต็มไปด้วยความทุกข์ที่ไม่มีใครเข้าใจ
ผู้ชายที่กำลังอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำคนนี้ก็คือประธานฉินจู้นของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป ปีนี้เขาอายุสามสิบ เป็นคนที่เย็นชา มั่นคง มีทั้งความสามารถและประสบการณ์ บ้างาน หกปีก่อนเรียนต่างประเทศกลับมารับช่วงต่อกลุ่มอิทธิพลมืดอันใหญ่โตของพ่อฉินเจี้ยนหาว ความพากเพียรของเขาช่วงหกปีที่ผ่านมานั้นในที่สุดทำให้ฉินซื่อกรุ๊ปดำเนินในแนวทางที่ถูกต้อง ตอนนี้ฉินซื่อกรุ๊ปก้าวกระโดดขึ้นมาเป็นหนึ่งในสิบกลุ่มการค้าชั้นนำไต้หวัน กลุ่มธุรกิจตั้งแต่ที่ดิน การจราจร อุปกรณ์ก่อสร้างจนถึงห้างสรรพสินค้า อุตสาหกรรมบริการ มีทั่วทุกแห่งหน แน่นอนว่าฉินจู้นก็กลายเป็นคนที่โด่งดังในไต้หวันที่อายุมากร่ำรวยแต่ยังไม่มีครอบครัว ตั้งแต่กุลสตรีงามที่มีฐานะจนมาถึงดารานักแสดง ตั้งแต่ตระกูลมหาเศรษฐีจนถึงโมเดลล้วนที่อยากสร้างมิตรภาพกับเขา โจวหยูนก็เป็นหนึ่งในนั้น เธอเป็นลูกบุญธรรมของฉินเจี้ยนหาว หลายปีมานี้ ไล่ตามฉินจู้นตลอด ลำบากใจเพราะเธอเป็นเพียงเพื่อนที่รู้ใจของเขาคนหนึ่งเท่านั้นเอง
หลายปีมานี้ ข่าวซุบซิบของฉินจู้นแต่ไหนแต่ไรก็มีไม่หยุดหย่อน พูดถึงคู่รักแล้ว ฉายาของเขาก็คือคนเจ้าชู้มากรัก ทุกครั้งแค่เล่นสนุกบ้างเป็นครั้งคราวเท่านั้น ความจริงใจเขาให้ไม่ได้ เพราะว่าใจของเขาถูกฝังไว้มานานหลายปีแล้ว!เสียงในห้องอาบน้ำหยุดลงแล้ว ฉินจู้นเดินออกมาโดยมีผ้าขนหนูพันร่างกายท่อนล่างไว้ เขาชินกับการใส่เสื้อเชิ้ต กางเกง สุดท้ายคลุมด้วยสูท เงยหน้ามองโจวหยูนแวบนึง “จำไว้ด้วยว่าต้องส่งบัญชีไนท์คลับเซี่ยปี่ฮุยหวังให้สำนักงานใหญ่ปลายเดือน” พูดจบก็เดินออกประตู
“คุณไม่มีคำพูดอื่นที่จะคุยกับฉันจริงๆหรอ?” ในแววตาของโจวหยูนแฝงไปด้วยความเจ็บปวดเล็กน้อย
ฉินจู้นหยุดเดิน แต่ไม่ได้หันกลับมา “ อาหยูน วันนั้นที่อยู่ด้วยกันผมก็บอกคุณแล้วไง! ความสัมพันธ์ระหว่างเราก็แค่เกมเท่านั้น!” พูดจบก็สาวเท้าไปเปิดประตูห้องข้างหน้า
ในช่วงที่ฉินจู้นย่างเท้าไปที่ประตูนั้น ก็มีร่างที่ผอมเล็ก เซมาชนอยู่ในอ้อมกอดของเขา ฉินจู้นยื่นมือประคองเด็กสาวที่สวมกระโปรงดำไว้ตามสัญชาตญาณ ผมที่ประบ่ายุ่งจนปกปิดไปครึ่งหน้า เขาเห็นเพียงแค่ดวงตาที่เย็นชาคู่หนึ่ง เขารู้สึกถึงอาการที่สั่นเทาไปทั้งตัวของเธอ